ศบค. เผย ไทยพบติดเชื้อ 13,798 ราย วัคซีนเข็มแรกฉีดได้แล้ว 38.5 เปอร์เซ็นต์ เตือนประชาชน คนติดเชื้อยังมาก วอน การ์ดอย่าตก กราฟกำลังหักหัวลง ชี้ งานศพ-อีเว้นท์ ยังเป็นพื้นที่เสี่ยง
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 15 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13,798 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 13,325 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 12,117 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 1,208 ราย จากเรือนจำ และที่ต้องขัง 451 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 22 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 1,420,340 ราย ผู้หายป่วยเพิ่ม 14,133 ราย ยอดรวมหายป่วยสะสม 1,277,029 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 128,546 ราย อาการหนัก 3,994 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 806 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 144 ราย เป็นชาย 77 ราย หญิง 76 ราย อายุ 60 ปีขึ้นไป 106 ราย มีโรคเรื้อรัง 30 ราย หญิงตั้งครรภ์ 1 ราย ที่ จ.นราธิวาส เสียชีวิตที่บ้าน 2 ราย ที่กทม.และสตูล
โดยจังหวัดที่เสียชีวิตมากที่สุด คือกทม. 43 ราย ทำให้ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตสะสม 14,756 ราย ขณะที่การฉีดวัคซีนวันที่ 14 ก.ย. 694,076 โดส ฉีดวัคซีนสะสม 41,647,101 โดส โดยเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 27,769,059 ราย คิดเป็น 38.5 ของจำนวนประชากร เข็มที่ 2 จำนวน 13,260,456 ราย คิดเป็น 18.4 ของประชากร ส่วนสถานการณ์โลกมีผู้ป่วยสะสม 226,661,161 ราย เสียชีวิตสะสม 4,662,880 ราย สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพฯ 2,772 ราย สมุทรปราการ 1,351 ราย ชลบุรี 835 ราย ระยอง 680 ราย ราชบุรี 487 ราย สมุทรสาคร 404 ราย นนทบุรี 359 ราย นราธิวาส 354 ราย ปราจีนบุรี 345 ราย และสงขลา 327 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า และถ้าไปดูจากกราฟการติดเชื้อโดยรวมของประเทศจะเห็นภาพภูเขาสูงกำลังลดลง แต่ก็มีบางพื้นที่ที่กราฟยังขึ้นอยู่ เช่น ในเรือนจำและสถานที่ต้องขัง รวมถึงจังหวัดอื่น ๆ 48 จังหวัดนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ดังนั้น จึงขอว่าทุกคนการ์ดต้องไม่ตก เพื่อจะได้ลงมากกว่านี้ และถ้าดูข้อมูลฉากทัศน์การประเมินแนวโน้มการติดเชื้อในประเทศ พบว่าสถานการณ์จริงยังสูงกว่าการคาดการณ์ จำนวนผู้ติดเชื้อที่เป็นผลจากมาตรการล็อกดาวน์ เราต้องการให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อต่ำกว่าการคาดการณ์
ดังนั้นการล็อกดาวน์อย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องรวมหลายมาตรการ เช่น การป้องกันส่วนบุคคลแบบครอบจักรวาล เมื่อออกจากบ้านต้องคิดอยู่เสมอว่าคนรอบข้างมีโอกาสติดเชื้อ อย่างวันเดียวกันนี้ตนเดินทางด้วยทางด่วนเห็นว่ารถเริ่มติด จึงขอให้คนที่ไม่จำเป็นลดการเดินทางให้มากที่สุด มีการตั้งคำถามว่าที่เราทำเพียงพอหรือยัง ก็ขอให้ทุกคนอย่าชะล่าใจ แต่ถ้าดูฉากทัศน์สำหรับผู้เสียชีวิตจะเห็นว่าสถานการณ์จริงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ จึงต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ร่วมมือกันในการช่วยเหลือ เราต้องให้คนที่จำเป็นต้องรักษา เข้าถึงการรักษาโดยเร็วเพื่อลดการเสียชีวิต
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) มีการสรุปว่าในปัจจุบันยังคงมีพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อคืองานศพ งานอีเวนต์ ตลาด ร้านอาหาร โรงงาน สถานประกอบการ แคมป์ก่อสร้าง บางทีมีการเลี้ยงสังสรรค์ที่ละเมิดกฎหมายเป็นกลุ่มก้อน ตรงนี้ทุกฝ่ายต้องทำงานร่วมกัน เช่น ถ้าอยากให้แคมป์ก่อสร้างทำงานต่อไปได้ก็ต้องชัดเจนเรื่องมาตรการบับเบิ้ลแอนด์ซีล เพราะปัจจุบันในพื้นที่กทม.การติดเชื้อในกลุ่มนี้มีตัวเลขเพิ่มขึ้นจากหลักหน่วยเป็นหลักสิบ ดังนั้นทั้งภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกัน และถ้าเราไปดูการติดเชื้อเฉพาะพื้นที่กทม.ที่มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 2,772 ราย พบว่าทั้ง 50 เขตในกทม.ไม่มีเขตใดที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 100 ราย เขตที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดคือบางกอกน้อย ผู้ติดเชื้อ 91 ราย รองลงมาคือมีนบุรี 90 ราย หนองจอก 79 ราย ลาดกระบัง 76 ราย ดุสิต 73 ราย ที่เหลือก็ลดหลั่นลงมา โดยเขตที่มีผู้ติดเชื้อน้อยที่สุดคือเขตสัมพันธวงศ์ มีผู้ติดเชื้อ 5 ราย