กองเรือยุทธการ จัดพิธีประดับเครื่องหมายแก่ผู้สำเร็จหลักสูตรยุทธวิธีเรือผิวน้ำ (surface warfare officer course) ประจำปีงบประมาณ 2564 สร้างขีดความสามารถให้นายทหารสัญญาบัตรในการปฏิบัติการรบ 3 มิติ

พล.ร.อ.สุทธินันท์  สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธีประดับเครื่องหมายแสดงความสามารถ “สงครามเรือผิวน้ำ” แก่ผู้สำเร็จหลักสูตรยุทธวิธีเรือผิวน้ำ (surface warfare officer course) ประจำปีงบประมาณ 2564 จำนวนทั้งสิ้น 45 นาย พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชา และผู้บัญชาการกองเรือทุกกองเรือร่วมในพิธี ณ ห้องประชุมกองบัญชาการกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี  

 หลักสูตรยุทธวิธีเรือผิวน้ำ เป็นหลักสูตรของกองเรือยุทธการที่มีความสำคัญอย่างสูง โดยมีกองการฝึกกองเรือยุทธการเป็นหน่วยรับผิดชอบ ทำการรับสมัครนายทหารพรรคนาวินที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือ ชั้นยศ นาวาเอก (น.อ.) ถึง เรือโท (ร.ท.) ที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ที่กำหนด เข้ารับการฝึกอบรมให้มีความรู้ ความสามารถ ในสาขาวิชาความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติการทางเรือ และ ยุทธวิธีเรือผิวน้ำ ทำการอบรมทั้งในภาคทฤษฎี , การฝึกด้วยเครื่องฝึกจำลองยุทธ และการฝึกภาคปฏิบัติในทะเล รวมระยะเวลาการฝึกอบรมทั้งสิ้น 10 สัปดาห์

 นอกจากการฝึกอบรมภาคทฤษฎีและทำการฝึกกับเครื่องฝึกจำลองยุทธอย่างเข้มข้นแล้ว กองเรือยุทธการได้จัดเรือและอากาศยานสนับสนุนการฝึกภาคปฏิบัติในทะเลให้นายทหารนักเรียนหลักสูตรยุทธวิธีเรือผิวน้ำ โดยมีเรือและอากาศยานร่วมการฝึก ได้แก่ 

- ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช 
- ร.ล.นเรศวร 
- ร.ล.ตากสิน 
- ร.ล.สายบุรี 
- ร.ล.รัตนโกสินทร์ 
- ร.ล.สุโขทัย 
- เครื่องบินลาดตระเวนแบบที่ 1 (Do-228)
- เครื่องบินต่อต้านเรือผิวน้ำแบบที่ 1 (F27 MK200)
- เฮลิคอปเตอร์ต่อต้านเรือผิวน้ำแบบที่ 1 (Super Lynx)
- เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำแบบที่ 1 (S-70B)

ซึ่งผู้ที่สำเร็จหลักสูตรจะได้ประดับเครื่องหมายแสดงความสามารถ “สงครามเรือผิวน้ำ” อันแสดงถึงได้ผ่านศึกษาอบรมการฝึกปฏิบัติตามสาขาต่างๆ ในสาขาปฏิบัติการรบทั้ง 3 มิติ ทั้งการป้องกันภัยทางอากาศ , การปฏิบัติการรบผิวน้ำ และการป้องกันภัยใต้น้ำ รวมถึงการฝึกปฏิบัติการร่วมกับอากาศยาน จนผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนด สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็น นายยามยุทธการ , นายทหารปฏิบัติการรบ , นายยามปฏิบัติการสงครามทางเรือในระดับหมวดเรือได้ตามความมุ่งหมายของหลักสูตร เพื่อสร้างความรู้ และประสบการณ์ให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถนำไปใช้ปฏิบัติราชการในเรือ เพื่อให้เรือมีความพร้อม และเป็นกำลังหลักในการป้องกันอธิปไตยของชาติทางทะเลต่อไป