ฝรั่งเศสประกาศยอมรับวัคซีนแอตร้าฯ ที่ผลิตในไทย ฉีดครบแล้วเข้าประเทศได้ไม่ต้องกักตัว

สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย แจ้งว่า ตามที่ได้มีประกาศจากรัฐบาลฝรั่งเศส ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2564 ได้มีการ ทบทวนการจัดกลุ่มประเทศตามตัวชี้วัดทางสาธารณสุข โดยที่ ประเทศไทย ยังคงถูกจัดให้อยู่ใน กลุ่มประเทศสีส้ม (Amber list countries) กล่าวคือประเทศที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่องของเชื้อไวรัส แต่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และไม่มีการระบาดของสายพันธุ์ที่น่ากังวล

ทั้งนี้ ผู้เดินทางจากประเทศสีส้ม ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ได้รับการรับรองจาก องค์การยาสหภาพยุโรป (European Medicines Agency : EMA) ครบจำนวนครั้งที่กำหนด และมีหลักฐานยืนยัน ได้รับยกเว้นจากการบังคับใช้ข้อจำกัดการเดินทางเข้าประเทศฝรั่งเศส กล่าวคือ ไม่ต้องแสดงเหตุจำเป็นในการเดินทางเข้าประเทศฝรั่งเศส (เว้นแต่ประเทศต้นทางจะกำหนดมาตรการเพิ่มเติมที่เข้มงวดมากกว่า) ไม่ต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนออกเดินทาง และเมื่อเดินทางถึงประเทศฝรั่งเศสแล้ว ไม่ต้องตรวจหาเชื้ออีกครั้ง และไม่ต้องแยกกักตัวเป็นเวลา 7 วัน

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของผู้เดินทางจากประเทศสีส้ม ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนที่ได้รับการรับรองจาก EMA ยังคงต้องแสดงเหตุจำเป็นในการเดินทางเข้าประเทศฝรั่งเศส ตามรายการเหตุจำเป็นสำหรับกลุ่มประเทศสีส้ม รวมทั้งต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR เป็นลบ ที่มีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทาง (เที่ยวบินแรกจากประเทศต้นทางในกรณีที่ต้องแวะต่อเครื่องบิน) หรือผลการตรวจหาเชื้อโควิด- 19 โดยวิธี antigen test เป็นลบ ที่มีอายุไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี (children aged below twelve years) ได้รับยกเว้นไม่ต้องแสดงผลการตรวจ

สำหรับผู้เดินทางที่มีอายุมากกว่า 11 ปี (traveler aged above 11 years) เมื่อเดินทางถึงประเทศฝรั่งเศสแล้ว อาจถูกสุ่มตรวจหาเชื้อโดยวิธี antigen test หรือตรวจทางชีวภาพ ต้องแยกตัวเป็นเวลา 7 วัน ในกรณีจำเป็น อาจต้องแยกตัวในสถานที่ ที่ทางการฝรั่งเศสกำหนด และเมื่อครบกำหนดแยกตัว 7 วันแล้ว จะต้องตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT-PCR อีกครั้ง

วัคซีนที่ประเทศฝรั่งเศสรับรอง และเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตาม เว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ระบุว่า วัคซีนที่ได้รับการรับรองจาก องค์การยาสหภาพยุโรป (European Medicines Agency :EMA) นั้นได้แก่

1.) วัคซีน Comirnaty (ของบริษัท Pfizer & BioNTech)
2.) วัคซีน Spikevax (ของบริษัท Moderna) 
3.) วัคซีน COVID-19 Vaccine Janssen (ของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน)
4.) วัคซีน Vaxzevria (ของบริษัท AstraZeneca) รวมทั้งวัคซีนเทียบเท่า อาทิ วัคซีน Covid-19 vaccine Astra-Zeneca ที่ผลิตในประเทศไทย

ผู้เดินทาง จะต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนต่อเจ้าหน้าที่ก่อนขึ้นเครื่องบิน และต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง หลักฐานการฉีดวัคซีนที่ใช้ได้ ต้องรับรองว่าได้รับวัคซีนครบจำนวนครั้งที่กำหนดดังนี้

1.) หลังจากได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ไปแล้วอย่างน้อย 7 วัน สำหรับวัคซีนที่ต้องฉีด 2 ครั้ง ได้แก่ Pfizer, Moderna และ AstraZeneca
2.) หลังจากได้รับวัคซีนไปแล้วอย่างน้อย 28 วัน สำหรับวัคซีนที่ฉีดเพียงครั้งเดียว ได้แก่ Johnson & Johnson
3.) หลังจากได้รับวัคซีนไปแล้วอย่างน้อย 7 วัน สำหรับผู้ที่มีประวัติเคยติดเชื้อโควิด-19 มาก่อน โดยฉีดวัคซีนเพียงครั้งเดียว


ที่มา : https://www.thansettakij.com/world/493402


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9