กรมควบคุมโรค แจงกรณีผู้ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ฉีดเป็นเข็ม ที่ 4 เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ที่จะเดินทางไปปฏิบัติงานในต่างประเทศ ที่มีเงื่อนไข ให้ฉีดวัคซีนที่กำหนดไว้เพื่อเข้าประเทศ ปลายทางโดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม จากกรณีที่โลกออนไลน์แชร์ใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบอิเล็กทรอนิกส์ว่า มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น 2 เข็ม เป็นเข็มที่ 3 และ 4
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้รับแจ้งกรณีที่มีการโพสต์ในโซเชียลว่า มีผู้ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ฉีดเป็นเข็มที่ 4 นั้น จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบบริหารจัดการวัคซีน COVID-19 ของกระทรวงสาธารณสุข (MOPH IC : MOPH Immunization Center) พบว่า กรณีนี้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังจะเดินทางไปปฏิบัติงานที่ประเทศแคนาดา ซึ่งมีระเบียบว่าจะต้องได้รับวัคซีนที่ประเทศแคนาดากำหนดจึงสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน ได้แก่ แอสตร้าเซเนก้า ไฟเซอร์ โมเดอร์นา จอห์สันแอนด์จอห์นสัน และโควิดชิลด์ ร่วมกับแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเข้าประเทศเป็นลบ
ดังนั้น กรณีนี้จึงอยู่ในกณฑ์ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ภายหลังได้วัคซีนแอสตร้าเซเนก้า
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 หน่วยงานสาธารณสุขของแคนาดา (The Public Health Agency of Canada) แนะนำว่าผู้คนในประเทศแคนาดาที่รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า สามารถรับวัคซีนไขว้เป็นชนิด mRNA ได้แก่ ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา เพื่อประโยชน์ในการป้องกันโควิด ดังนั้น การรับวัคซีนไฟเซอร์ของบุคลากรทางการแพทย์รายนี้ ที่กำลังจะเดินทางไปปฏิบัติงานในประเทศแคนาดาเป็นไปตามเงื่อนไขของการเข้าประเทศที่ประเทศปลายทางระบุ
ทั้งนี้ ข้อมูลระบุว่าเป็นแพทย์ รพ.รามาธิบดี
โดย นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการ รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ทาง รพ.รามาธิบดี ได้ส่งรายชื่อแพทย์ที่จะไปศึกษาต่อต่างประเทศ ที่มีกำหนดเดินทางในเดือนก.ย.นี้ ให้กรมควบคุมโรคพิจารณาเรื่องการจัดสรรวัคซีนให้ ในสถานะผู้ที่ต้องการเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ จำนวน 2 คน ส่วนรายละเอียดไม่ทราบว่ามีการนัดหมายรับวัคซีน แต่ในการเดินทางไปต่างประเทศ บางประเทศไม่รับรองวัคซีนซิโนแวค และหากฉีดแค่แอสตร้าฯ เพียง 1 เข็ม บางประเทศก็ไม่นับว่า รับวัคซีนไปแล้ว
ขณะที่ นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้สัมภาษณ์กับ hfocus ว่า จากข้อมูลที่ทางโรงพยาบาล หรือหน่วยบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้คีย์ข้อมูลเข้ามาในระบบ MOPH IC ทำให้ทราบว่า ขณะนี้มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ไปแล้วรวม ๆ ประมาณ 200 ราย
นพ.โสภณ เผยว่า ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตรงนี้ตนยังไม่ทราบว่า มีข้อยกเว้นกรณีใดบ้าง แต่ที่กังวลคือ หากไม่มีความจำเป็นจริง ๆ ไม่สมควรให้วัคซีนเข็ม 4 เพราะแม้จะบอกว่ามีความจำเป็นอย่างไรก็ตาม แต่ตัวเลขดังกล่าวค่อนข้างมาก ซึ่งปัจจุบันยังมีคนจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เลยด้วยซ้ำ
“อยากกำชับโรงพยาบาล และหน่วยบริการทุกแห่งที่ให้บริการฉีดวัคซีนว่า ก่อนฉีดวัคซีนต้องมีการตรวจสอบในระบบว่า บุคคลนั้น ๆ ได้รับวัคซีนมาแล้วหรือไม่ อย่างไร หรือรับมากี่เข็ม ซึ่งหากรับมาแล้ว 3 เข็มหมายถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องบูสเตอร์โดส ในกรณีฉีดเข็มที่ 4 ก็ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะขณะนี้การฉีดวัคซีนป้องกันโควิดต้องเป็นไปตามกลุ่มเป้าหมาย ส่วนที่จะมีข้อยกเว้นหรือไม่ อย่างไร ก็ไม่ควรมีตัวเลขได้ถึง 200 รายเช่นนี้” นพ.โสภณ กล่าว
นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญคนที่ไปฉีดเข็มที่ 4 ก็ต้องระวัง เพราะปัจจุบันไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ออกมารองรับว่า สามารถฉีดได้หรือไม่ได้ หรือควรห่างจากเข็มก่อนหน้าที่ระยะเวลาเท่าไหร่
"ขอฝากให้หน่วยฉีดทั้งหมดก่อนฉีดให้ตรวจสอบในระบบว่า บุคคลนั้นฉีดไปแล้วกี่เข็ม หากฉีด 2 เข็ม การจะบูสเตอร์ก็ต้องเป็นไปตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเสี่ยงที่กำหนด แต่หากเป็นกรณีกลุ่มที่บูสเตอร์โดส หรือฉีดวัคซีนเข็ม 3 แล้ว การฉีดเข็มที่ 4 ยังไม่ควรเกิดขึ้น หากเป็นกรณียกเว้นก็ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน" ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
ที่มา : https://www.pptvhd36.com/news/สุขภาพ/154524
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_2895737
Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9