กระทรวงสาธารณสุข ยืนยัน วัคซีนไฟเซอร์จากสหรัฐฯ จะจัดสรรให้บุคลากรด่านหน้าก่อน 5 แสนโดส ที่เหลือจัดสรรให้กลุ่มเสี่ยง
จากกรณีที่มีข่าวว่าวัคซีนไฟเซอร์ล็อตที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา จำนวน 1.5 ล้านโดส ที่จะเข้าไทยในเดือนกรกฎาคมนี้ ต่อมามีการประกาศว่าจะฉีดให้แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นลำดับแรก ประมาณกว่า 5 แสนโดส
ซึ่งระหว่างนั้น มีกระแสข่าวให้สับสนว่า การฉีดให้บุคลากรข้างต้นอาจจะเหลือ 2-3 แสนโดส และกล่าวหาว่ามีการขโมยวัคซีน กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมวิจารณ์
รวมทั้งล่าสุด ยังมีบางกลุ่มไปยื่นจดหมายเปิดผนึก ต่อสถานทูตสหรัฐอเมริกาเพื่อขอให้ตรวจสอบการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) จำนวน 1.5 ล้านโดส อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข โดย นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมายืนยันแล้วว่า...
วัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรก จำนวน 1.54 ล้านโดส จะเข้ามาภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เริ่มฉีดต้นเดือนสิงหาคม 2564 ในกลุ่มบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข บุคลากรด่านหน้า ไม่น้อยกว่า 5 แสนโดส ที่เหลือจัดสรรไปยังกลุ่มเสี่ยง พื้นที่เสี่ยงอื่น ๆ และเพื่อควบคุมการระบาดในพื้นที่
“ข่าวการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ด่านหน้าเหลือ 2 แสนโดสนั้น ขอย้ำไม่เป็นความจริง การจัดสรรวัคซีน กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญของบุคลากรด้านการแพทย์และด่านหน้า เพื่อธำรงรักษาระบบสาธารณสุขของประเทศรับมือกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 บุคลากรด่านหน้าทุกคนต้องได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน”
เท่ากับว่า ไม่มีการขโมยวัคซีนไฟเซอร์ เพราะวัคซีนที่นอกเหนือจากการจัดสรรให้แพทย์ พยาบาล บุคลากร สาธารณสุขด่านหน้าแล้ว อีกส่วนจะถูกจัดสรรไปให้กับ กลุ่มผู้สูงอายุ, ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง, หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป, ชาวต่างชาติ เน้นผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และ คนไทยที่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ คือ นักเรียน, นักศึกษา, นักกีฬา และนักการทูต ซึ่งเป็นไปตามการรายงานของ พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวไว้เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา
เท่ากับวัคซีนไฟเซอร์ ที่กำลังจะมาถึงนั้น ทีมสาธารณสุข เป็นกลุ่มที่ได้รับมากที่สุดกว่า 5 แสนโดส ก่อนจะกระจายให้กลุ่มอื่น ๆ ตามที่ระบุไว้ข้างต้น
ดังนั้น ขอย้ำว่า "ไม่มีการขโมยวัคซีนจากมือแพทย์ พยาบาล และบุคลากรด่านหน้าอย่างแน่นอน"
สำหรับเรื่องนี้ ทางด้าน ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้เคยโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Warat Karuchit แจกแจงไปเมื่อ 25 ก.ค. 64 ความว่า...
สธ.แถลง อย่างเป็นทางการแล้วครับ ก็ประมาณที่เราพูดกันไป สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส
1.) ยืนยันว่า ข่าวที่ว่าวัคซีนไฟเซอร์สำหรับบุคลากรการแพทย์ เหลือแค่ 2 แสนโดส เป็น "ข่าวปลอม"
2.) อย่างน้อย 5 แสนโดส จัดสรรให้กับบุคลากรทางการแพทย์ บวกด้วย จำนวนที่เกิน
3.) เป็นความสมัครใจ ไม่มีการบังคับฉีดยี่ห้ออะไรทั้งสิ้น
4.) ผลการทดสอบประสิทธิผล พบกว่า SV+SV+AZ สูงกว่าทุกแบบ รวมทั้ง PZ+PZ ด้วย
5.) ไม่มีการเรียกเก็บเงินใด ๆ ทั้งสิ้น
6.) นอกจากบุคลากรทางการแพทย์ วัคซีนไฟเซอร์ล็อตนี้จะจัดสรรไปยังกลุ่มเสี่ยง พื้นที่เสี่ยง (และกลุ่มอื่น ๆ เช่น ชาวต่างชาติ) ไม่มี VIP หรือ VVIP ใด ๆ
7.) ไม่มีวัคซีนหายใด ๆ ทั้งสิ้น (ยังไม่มา จะหายได้ไง?!)
ที่มา : https://mgronline.com/politics/detail/9640000073407
https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4802334673115467&id=100000169455098
โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9