ทบ. สนับสนุนรัฐบาลในการส่งกลับผู้ป่วยโควิด-19 ใน กทม. และปริมณฑล ไปรักษายังภูมิลำเนาตามความประสงค์ และตามมาตรการที่ สธ. กำหนด 

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก (ศบค.19 ทบ.) เปิดเผยว่าตามที่พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้หน่วยทหารทั่วประเทศดำรงการใช้ศักยภาพของทรัพยากรที่มีอยู่ สนับสนุนรัฐบาลดูแลช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมอบให้ ศบค.19 ทบ.หารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข, สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สนับสนุนรัฐบาลดำเนินการส่งกลับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย (ผู้ป่วยสีเขียว) ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ที่มีความประสงค์ไปรักษายังภูมิลำเนา ตามระบบของ สธ. จังหวัดนั้นๆ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความคับคั่งของระบบ สธ.ส่วนกลาง กระจายไปยังส่วนภูมิภาค และเพื่อดูแลอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางให้มีความปลอดภัย

สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้ ได้ใช้ศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิดกองทัพบก (กทม.) โทร. 02-270-5685-9 และ 02-615-0269 เป็นศูนย์กลางติดต่อประสานงานเชื่อมโยงข้อมูลและวางแผนบริหารจัดการอย่างเป็นระบบร่วมกับศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิดกองทัพภาค ในการยืนยันความพร้อมรับผู้ติดเชื้อเข้าสู่กระบวนการรักษาของ สธ. ในพื้นที่ และดำเนินการเคลื่อนย้ายโดยใช้กลไกศูนย์สนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อโควิด-19 กองทัพบก และกองทัพภาค สนับสนุนกำลังพลพร้อมยานพาหนะที่เหมาะสมต่อจำนวนผู้ป่วย, ระยะเวลาการเดินทาง และลักษณะเส้นทาง พร้อมจัดบุคลากรสายแพทย์ร่วมขบวน เพื่อประเมินสถานการณ์ กำกับดูแลผู้ป่วยตามมาตรฐานทางการแพทย์และแนวทางการป้องกันควบคุมโรคตามหลัก สธ. ซึ่งกองทัพบกได้กำหนดพื้นที่รวมการ รองรับผู้ป่วยใน กทม. และปริมณฑล ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เพื่อประเมินสภาพร่างกายและอาการให้สามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย ก่อนเคลื่อนย้ายไปยังจุดรับ-ส่งผู้ป่วยที่แต่ละกองทัพภาคจัดเตรียมไว้ ประกอบด้วย กองทัพภาคที่ 2 รพ.ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา, กองทัพภาคที่ 3 รพ.ค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ และกองทัพภาคที่ 4 รพ.ค่ายเขตอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร 

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับให้กำลังพลทุกนายที่เกี่ยวข้องในภารกิจครั้งนี้ ปฏิบัติตามแนวทาง ศบค. ควบคู่ไปกับมาตรการพิทักษ์พลอย่างเคร่งครัด พร้อมสวมใส่เครื่องป้องกันอย่างเหมาะสม เพื่อให้มีความปลอดภัยในภารกิจ ส่งกลับผู้ป่วยไปรักษายังภูมิลำเนาได้ตรงตามความต้องการ