“ประวิตร” เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ย้ำ ให้คุ้มครองเหยื่อ-อย่าเกียร์ว่าง ช่วงโควิดระบาด สั่งฟัน จนท.เอี่ยวค้ามนุษย์
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ครั้งที่2/2564 และการประชุมคณะกรรมการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมีให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ครั้งที่1/ 2564 มีนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมประชุม เพื่อขับเคลื่อนแผนและการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่รัฐบาลกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ
โดยที่ประชุมเห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 เน้นให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาและป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางอินเตอร์เน็ตที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน การป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงานและการคุ้มครองแรงงานต่างด้าว รวมทั้งเน้นการยกระดับการแก้ปัญหาให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล ในประเด็นการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ และการคุ้มครองผู้เสียหาย
นอกจากนั้นรับทราบผลการดำเนินงานทางวินัยและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ตั้งแต่ปี 2555ถึงปัจจุบัน รวม 77 ราย และได้ปรับปรุงขั้นตอนการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ โดยให้เพิ่มช่องทางการรับแจ้งเหตุให้สามารถดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง และกำหนดความหมายของการค้ามนุษย์ให้ครอบคลุมถึงการนำพาบุคคลเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าทีทุกระดับที่มุ่งมั่นปฏิบัติงาน พร้อมย้ำเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นของรัฐบาลเพื่อขจัดการค้ามนุษย์ให้เป็นวาระแห่งชาติ ต้องให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนร่วมกันอย่างจริงจังและมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้น ต้องไม่ให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19เป็นช่องว่างหรือข้อจำกัดของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกระดับในทุกหน่วยงาน พร้อมทั้งย้ำให้เร่งรัดดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเร่งด่วน นอกจากนั้นให้นำผลงานวิจัยและรายงานข้อคิดเห็นที่ตรงกับข้อเท็จจริงไปขับเคลื่อนแก้ปัญหา หากเรื่องใดไม่ตรงกับข้อเท็จจริงให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทำข้อมูลเสนอผ่าน กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อทำความเข้าใจกับองค์กรระหว่างประเทศที่เข้าใจคลาดเคลื่อนภายใน 7 วัน ขณะที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ทำงานร่วมกับตำรวจ เพื่อปกป้องและคุ้มครองเหยื่อจากการค้ามนุษย์ทั้งคนไทยและต่างประเทศทันที และแยกระหว่างคดีบังคับใช้แรงงานกับคดีค้ามนุษย์ ให้สืบต้นตอความเชื่อมโยงการค้ามนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำพาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทุกกรณี ส่วนกระทรวงแรงงานต้องผลักดันให้นายจ้างเร่งลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้เข้าในระบบโดยเร็ว โดยต้องไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐหรือการทุจริตโดยเด็ดขาด