'ไบเดน-ปูติน' เปิดอกคุยที่เจนีวา ส่อ!! ไม่เป็นมิตร แต่ไม่เป็นศัตรู

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของการไปเยือนยุโรปในฐานะประธานาธิบดีครั้งแรกของ โจ ไบเดน นอกเหนือจากการประชุมสุดยอดผู้นำ G7 ก็คือ การมาพบกันตัวต่อตัวกับผู้นำรัสเซีย 2 ทศวรรษ วลาดิมีร์ ปูติน

ซึ่งตั้งแต่ที่ โจ ไบเดน เข้ามารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ก็เปิดหน้าชนกับปูตินแทบจะทันที แม้กระทั่งเคยสัมภาษณ์ผ่านสื่อใหญ่อเมริกัน กล่าวหาว่าปูตินคือ ฆาตกร และเขาต้องชดใช้มาแล้ว

ดังนั้น การได้มาเจอกันของผู้นำชาติมหาอำนาจตะวันตกทั้งคู่ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จึงมีหลายเรื่องที่ต้องคุยกัน

และตลอดระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมงที่คุยกัน ก็ดูเหมือนจะราบรื่นดี แต่ถึงแม้จะไม่มีการโต้เถียงหักล้างกันรุนแรง แต่ก็ไม่ได้แสดงออกถึงมิตรภาพและความสนิทสนม

ดังนั้น การมาเจอกันของทั้งคู่ในครั้งนี้ ไม่ได้มาเพื่อหาเพื่อน แต่คุยกันเพื่อหาจุดสมดุลในผลประโยชน์ร่วมของทั้ง 2 ฝ่าย

สรุปผลจากการพูดคุยในวันนี้ ในเรื่องดีก่อนก็คือ ทั้งสหรัฐฯ และรัสเซียจะยอมกลับมารื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตกันใหม่ ด้วยการส่งทูตกลับไปประจำในสถานทูตของแต่ละประเทศตามเดิม หลังจากที่มีการขับทูตรัสเซีย และสหรัฐฯ ออก เนื่องจากข้อกล่าวหารัสเซียเรื่องการโจมตีทางไซเบอร์ ในช่วงเดือนเมษายน 2021

และทั้งสหรัฐฯ กับ รัสเซียยินดีที่จะเปิดการเจรจาเรื่องการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์กันใหม่ หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกือบทำคว่ำมาแล้ว ด้วยการตั้งเงื่อนไขให้จีนต้องเข้าร่วมวงเจรจาด้วย มิเช่นนั้น สหรัฐฯ จะถอนตัว

ซึ่งถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีของการจัดการข้อตกลงด้านอาวุธนิวเคลียร์ของ 2 ชาติ ที่มีหัวรบนิวเคลียร์สะสมอยู่มากที่สุดในโลก

ส่วนเรื่องข้อกล่าวหาว่ารัสเซียเป็นผู้โจมตีทางไซเบอร์ และปล่อยไวรัสเรียกค่าไถ่ ที่สร้างความเสียหายให้กับระบบขนส่งท่อก๊าซธรรมชาติในเขตชายฝั่งตะวันออก และบริษัทจัดจำหน่ายเนื้อรายใหญ่ของสหรัฐฯ นั้น ปูตินปฏิเสธเด็ดขาดว่ารัฐบาลรัสเซียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องนี้ แม้ว่าโจ ไบเดนจะยืนยันว่ามีหลักฐานร่องรอยการโจมตีมาจากรัสเซียก็ตาม

เรื่องสิทธิมนุษยชน ก็เป็นประเด็นร้อนๆ อีกเรื่องในการเจอหน้ากันครั้งนี้ ซึ่งโจ ไบเดน ก็ได้เอ่ยถึงแกนนำผู้ต่อต้านปูตินคนดัง อเล็กเซ นาลวานี ที่ยังถูกจำคุกอยู่ในรัสเซีย และกำลังอดอาหารประท้วง ให้รู้ว่าสหรัฐฯ จับตาดูอยู่ หากเกิดอะไรขึ้นกับอเล็กเซ นาลวานี ที่ทำให้เขาต้องจบชีวิตในคุก รับรองว่ารัสเซียต้องเจอปัญหาใหญ่แน่นอน

แต่โจ ไบเดน ปัดประเด็นที่ปูตินอ้างถึง กระแส Black Lives Matter ในสหรัฐฯ และการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงที่บุกเข้าไปในตึก The Capital อย่างรุนแรงว่าไม่เกี่ยวกัน และเป็นการเปรียบเทียบที่ไร้สาระ

นอกเหนือจากนี้ ยังมีการหยิบยกประเด็นข้อพิพาทระหว่างรัสเซีย-ยูเครน แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องการพิจารณายูเครนในการเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO รวมถึงประเด็นเรื่องซีเรีย และอิทธิพลของจีน ซึ่งรัสเซียถือเป็นพันธมิตรคนสำคัญของจีนในขณะนี้

และท้ายสุด โจ ไบเดน ย้ำเตือนปูตินว่าอย่าล้ำเส้น โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีทางไซเบอร์ และสหรัฐฯ พร้อมที่จะตอบโต้คืนทุกทาง

แม้จะดูเหมือนว่าสหรัฐฯ เป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอ เรียกร้องจากรัสเซียมากกว่า แต่ท่าทีของโจ ไบเดน ก็ไม่ได้มีปัญหากับการที่ปูตินจะทำประชามติ แก้รัฐธรรมนูญยืดอายุตำแหน่งของตัวเอง ตราบใดที่ไม่ล้ำเส้นของสหรัฐฯ

ซึ่งแตกต่างจากท่าทีของโจ ไบเดนที่มีต่อจีน ที่ถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นหลักในการประชุม G7 เพื่อเรียกร้องให้ชาติพันธมิตรสกัดอิทธิพลของจีนที่จะมากับโครงการ Belt and Road Initiative

จึงพอสรุปความสัมพันธ์บทใหม่ ระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซีย ในยุคของโจ ไบเดน ว่า ไม่เป็นมิตร ไม่เป็นศัตรู ต่างคนต่างอยู่ แค่นั้นพอ

 

อ้างอิง: https://edition.cnn.com/2021/06/16/europe/vladimir-putin-met-joe-biden-and-got-what-he-wanted-intl-cmd/index.html

https://apnews.com/article/biden-putin-summit-23e73d69f1a7ca338850736a9cf032f5

https://www.bbc.com/news/world-europe-57504755


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9