ผบ.ฉก.นราธิวาส รุดลงเรือลาดตระเวนทางน้ำ สั่งคุมเข้มตามแนวชายแดน เพิ่มมาตรการควบคุมพื้นที่ เน้นย้ำ ชป.จรยุทธ์ ต้องตื่นตัวอยู่เสมอ ป้องกันผู้หลบหนีเข้าเมือง ในห้วงมาเลเซียสั่งล็อกดาวน์ประเทศ

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศมาเลเซีย ที่ยังคงมีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับที่ 43 ของโลก และอันดับที่ 3 ของอาเซียน ผู้ติดเชื้อสะสม จำนวน 565,533 ราย และมีผู้เสียชีวิต 2,729 ราย ส่วนรัฐที่ติดกับชายแดนไทย ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส คือ รัฐกลันตัน มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 27,093 ราย โดยมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดฯ ทั้งการล็อกดาวน์ประเทศ (ระลอกแรก) ซึ่งที่ผ่านมาหลังนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย ออกประกาศ Total Lockdown ตั้งแต่ 1 – 14 มิถุนายน 2564 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดหนักของโควิด-19 หลังผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุ 9,700 คนต่อวัน

วันนี้  6 มิถุนายน 2564 พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส  พร้อมด้วยพันโท กฤตณ์พัทธ์ กรกัน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 และ รองผู้บังคับชุดควบคุมป้องกันชายแดน รุดลงเรือลาดตระเวนทางน้ำ ตลอดแนวลำน้ำสุไหงโกลก โดยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในประเทศมาเลเซีย ที่ยังคงมีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจากกรณี มีผู้ลักลอบหลบหนีเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย นำโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกามาแพร่ระบาดในพื้นที่ตำบลเกาะสะท้อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาสของประเทศไทย  จึงคาดว่าจะมีแรงงานต่างด้าวและคนไทยบางส่วน มีความพยายามจะหลบหนีข้ามแดนเข้ามาฝั่งประเทศไทยได้อีก หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส  จึงได้จัดตั้งที่บังคับการทางยุทธวิธี ณ หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 หมู่8 ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส เพื่ออำนวย การปฎิบัติงานในการควบคุมในพื้นที่รับผิดชอบ และเขตพื้นที่รอยต่อ พร้อมจัดชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ ลาดตระเวนทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ใช้กำลัง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และ อาสาสมัครประจำพื้นที่  รวมถึงใช้เครื่องมือพิเศษในการสกัดกั้นการลักลอบข้ามแดน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 สกัดกั้นไม่ให้มีการลักลอบข้ามแดนมาได้โดยเด็ดขาด

ทั้งนี้ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้ตรวจเยี่ยมการปฎิบัติงานของชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ ชุดป้องกันชายแดน  พร้อมมอบนโยบายการปฏิบัติงานและสั่งการ เพิ่มมาตรการสกัดกั้นเข้มงวดควบคุมพื้นที่ชั้นนอก ชั้นใน เสริมเครื่องมือและยุทโธปกรณ์พิเศษ รับมือสถานการณ์ หลังประเทศมาเลเซียออกประกาศ ล็อกดาวน์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนครบ 14 วัน ย้ำต้องตื่นตัวอยู่เสมอ พร้อมทั้งได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญ เพื่อเป็นกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่ ตลอดจนสั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ เพิ่มมาตรการคุมเข้มตลอดแนวชายแดน สกัดกั้นพื้นที่รับผิดชอบ อำเภอตากใบ อำเภอสุไหงโก-ลก และ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส เพิ่มมาตรการในการลาดตระเวน

โดยให้หน่วยได้บูรณาการ การปฏิบัติงานร่วมกันกับทุกภาคส่วนในการบังคับใช้กฎหมายตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด การเสริมกำลังตามแนวชายแดน โดยเฉพาะช่องทางที่มีชุมชนหรือหมู่บ้านอาศัยอยู่ใกล้แนวชายแดน การจัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด และการจัดตั้งแหล่งข่าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นการลักลอบการหลบหนีเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย พร้อมทั้งจัดชุดลงพื้นที่ ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องถิ่น พบปะประชาชนในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ สร้างความตระหนักรู้ให้กับชุมชน โดยให้ทุกคนทำเพื่อส่วนรวม  พร้อมทั้งขอความร่วมมือ จากเจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านให้ความร่วมมือ ช่วยเป็นหูเป็นตา มีการตั้งจุดตรวจ จุดคัดกรอง คอยแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ที่กำลังระบาดอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านกลับเข้ามาในประเทศไทยได้อีก


ภาพ/ข่าว  ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาสรายงาน