“บิ๊กป้อม” ให้เปิดปฎิบัติการกวาดล้างยาเสพติดชั้นใน-ชุมชนเมือง ย้ำ ไม่ให้ไทยเป็นทางผ่านส่งออกยาเสพติด กระทบภาพลักษณ์ประเทศ สั่งสอบลึกฟันเชื่อมโยงทุกระดับที่เกี่ยวข้อง

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก ประจำ รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมและให้กำลังใจการปฎิบัติงานของฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และ ปปส. ทุกระดับที่ร่วมกันสกัดกั้นและกวาดล้างยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาลต่อเนื่องที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ที่ฝ่ายทหารและตำรวจได้ร่วมกันสนธิกำลังเข้าสกัดกั้น จับกุมการลักลอบขนย้ายและยึดยาเสพติดได้จำนวนมากในแต่ละครั้ง  

โดยภาพรวม ตั้งแต่ 1 ม.ค.- 31 พ.ค.64 ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 99,421 คน ยึดยาบ้าได้กว่า 210.42 ล้านเม็ด ยาไอซ์กว่า 11.4 ตัน และยึดสารเสพติดอื่นๆ ได้อีกจำนวนมาก ทั้งนี้พบความเคลื่อนไหว ของขบวนการค้ายาเสพติดผ่านการขนส่งพัสดุและการติดต่อผ่านสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้นในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำเป็นนโยบายและสั่งการกับฝ่ายความมั่นคง ต้องไม่ให้ขบวนการค้ายาเสพติดใช้ไทยเป็นเส้นทางผ่าน ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากไทยส่งออกไปยังประเทศที่ 3 โดยเด็ดขาด ซึ่งมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ต่อประเทศโดยตรง โดยเฉพาะกรณีการซุกซ่อนลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากไปในสินค้ารูปแบบต่างๆ ทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าและอาหารเสริม ซึ่งถูกตรวจพบในฮ่องกง ออสเตรเลียและเกาหลีใต้ เมื่อ พ.ค.ที่ผ่านมา 

โดยขอให้ ตร.ประสานกับ ปปส.และศุลกากร ให้ความสำคัญคุมเข้มกวดขันสินค้าผ่านระบบศุลกากรอย่างจริงจัง และให้ร่วมกันเร่งสืบสวนขยายผลทางลึกเชื่อมโยงขบวนการตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางและบังคับใช้กฎหมายยึดทรัพย์เอาผิดทั้งหมดไม่มียกเว้น และหากมีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจหรือมีส่วนเกี่ยวข้องให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดในทุกระดับ โดยให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว

“พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ ขอให้ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง คุมเข้มสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนและคงความต่อเนื่อง พร้อมให้เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด ในพื้นที่ชั้นใน ชุมชนเขตเมืองอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ประสานการทำงานร่วมกับ ป.ป.ส. ติดตามความเคลื่อนไหวของเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดผ่านสื่อสังคมออนไลน์และส่งผ่านทางพัสดุไปรษณีย์  เพื่อลดปัญหาภัยคุกคามบั่นทอนสังคมและเหตุของอาชญกรรม ลูกโซ่ที่กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่เกิดขึ้น ซ้ำเติมปัญหาโรคระบาดที่กำลังเกิดขึ้น” พล.ท.คงชีพ กล่าว