คุมเข้มสกัดโควิด ชายแดนไทย-มาเลเซีย หวั่นแรงงานลอบเข้าเมืองทะลัก หลังมาเลเซียปิดประเทศ

นายอำเภอเบตงกำชับ หน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ตชด. ฝ่ายปกครอง  "เบตง" บูรณาการร่วม ออกลาดตระเวนตามแนวกำแพงชายแดนไทย-มาเลเซีย ป้องกันกลุ่มแรงงานไทย และต่างด้าวในมาเลเซียลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย หลังมาเลย์ประกาศคำสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศ 1 -14 มิ.ย.64 เพื่อป้องกันผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 

วันที่ 31 พ.ค.64 ที่ด่านพรมแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย ตรงข้ามกับด่านเปิงกาลันฮูลู รัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย  นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง ทั้งทหาร ชุดป้องกันชายแดนที่ 4 ตำรวจ สภ.เบตง ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเบตง  ตชด. ชุดเฝ้าตรวจชายแดน  อส.อำเภอเบตง  ออกลาดตระเวนตามแนวกำแพงตลอดแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าเขาและช่องทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ผ่านขั้นตอนการตรวจคัดกรองโควิด-19 และกักตัว 14 วัน ของกลุ่มแรงงานไทยและต่างด้าวในมาเลเซีย ซึ่งอาจเป็นกลุ่มเสี่ยงที่นำพาโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาใต้เข้ามาแพร่ระบาดในพื้นที่ชายแดนไทย หลังจากประเทศมาเลเซียกำลังเผชิญกับการระบาดที่มีความรุนแรง จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงพุ่งสูงขึ้น อีกทั้งยังพบการระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์แอฟริกา สายพันธุ์อินเดียและในประเทศมาเลเซียอีกด้วย

นายอำเภอเบตง กล่าวด้วยว่า พรุ่งนี้เป็นวันแรกของการปิดประเทศมาเลเซีย และอาจจะมีชาวไทยมุสลิมในมาเลเซียที่เข้าเมืองมาผิดกฏหมายลักลอบกลับเข้ามาโดยไม่ผ่านการตรวจโควิด-19 ส่วนบรรยากาศที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง จังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่กองอำนวยการร่วมประสานงานประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง ได้ร่วมกันคัดกรองแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาจากมาเลเซีย โดยต้องผ่านการฉีดยาฆ่าเชื้อ ตรวจสัมภาระ ซักประวัติ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมกักตัว 14 วัน ที่ศูนย์ Local Quarantine ในพื้นที่จังหวัดยะลา

ล่าสุดทางการมาเลเซียประกาศออกคำสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 -14 มิ.ย.64  เพื่อพยายามควบคุมสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ที่ยังคงมีความรุนแรง จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงพุ่งสูงขึ้น อีกทั้งยังพบการระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์แอฟริกาและอินเดีย ในประเทศมาเลเซียด้วย โดยมีคำสั่งห้ามประชาชนเดินทางระหว่างรัฐ รวมทั้งการเดินทางข้ามพื้นที่ภายในรัฐ ตลอดจนยังห้ามประชาชนมีกิจกรรมที่ต้องรวมกลุ่มกัน โดยมาตรการใหม่นี้เริ่มใช้ในวันที่ 1 -14 มิ.ย.64

นอกจากนี้มีคำสั่งปิดสถานศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนของธุรกิจ ผู้ประกอบการค้าต่าง ๆ ยังคงอนุญาตให้เปิดทำการได้ต่อไปแต่ต้องมีหนังสือรับรองของบริษัทหรือองค์กรที่สังกัดอยู่จึงสามารถเดินทางได้ขณะที่ธุรกิจ ผู้ประกอบการค้าต่าง ๆ ได้ให้ความร่วมมือกับทางการโดย พนักงาน เจ้าหน้าที่ ของบริษัท ห้างร้าน  ต้องใส่แมส ตลอดเวลาในการทำงาน และต้องตรวจอุณหภูมิ ร่างกาย ก่อนเข้าบริษัท


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ / ปื๊ด เบตง