จากกระแสข่าวในโลกโซเชียลที่มีการแชร์การเปิดเมืองในยุโรปกันมากขึ้น และมองว่ายุโรปกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้วนั้น ล่าสุดจากเฟซบุ๊ก Pongprom Yamarat ของนายพงศ์พรหม ยามะรัต รองหัวหน้าพรรคกล้า ได้ให้มุมมองพร้อมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า…
จากกระแสข่าวในโลกโซเชียลที่มีการแชร์การเปิดเมืองในยุโรปกันมากขึ้น และมองว่ายุโรปกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้วนั้น ล่าสุดจากเฟซบุ๊ก Pongprom Yamarat ของนายพงศ์พรหม ยามะรัต รองหัวหน้าพรรคกล้า ได้ให้มุมมองพร้อมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า…
เห็นโซเชียลเริ่มเอาข่าวผิดๆ เรื่องการเปิดเมืองในยุโรปมาแชร์ รวมถึงบอกว่าสถานการณ์ในยุโรปกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว อยากหนีไปอยู่ยุโรป ส่วนประเทศไทยกลายเป็นไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้
เช้านี้ผมเลยจะเอา fact มาแชร์เป็นข้อๆ โดยใช้ตัวอย่าง 3 ประเทศที่มีขนาดใกล้เคียงกับไทย
อังกฤษมีประชากร 60 ล้านคน ติดเชื้อต่อวันล่าสุด 2,539 คน ยอดผู้ติดเชื้อสูงสุดต่อวันเคยขึ้นไปถึง 60,000 คน เสียชีวิตไปแล้ว 128,000 คน
เยอรมันมีประชากร 83 ล้านคน ติดเชื้อต่อวันล่าสุด 5,607 คน ยอดติดเชื้อสูงสุดต่อวันเคยขึ้นไปถึง 25,000 คน เสียชีวิตไปแล้ว 88,000 คน
อิตาลีมีประชากร 60 ล้านคน ติดเชื้อต่อวันล่าสุด 4,186 คน ยอดติดเชื้อสูงสุดต่อวันเคยขึ้นไปถึง 35,000 คน เสียชีวิตไปแล้ว 126,000 คน
ไทยมีประชากร 65 ล้านคน ติดเชื้อต่อวันล่าสุด 2,992 คน เสียชีวิตไปแล้ว 837 คน
สถานการณ์ในยุโรปยังไม่ได้เข้าสู่สภาวะปกตินะครับ!!
เพียงแต่จากการที่เคยมีการระบาดที่รุนแรง เจ็บ-ตายต่อวันสูงมาก สภาพบ้านเมืองจึงถูก Lockdown รุนแรงเป็นระลอก ทำให้คนเกิดความเครียด
พอเริ่มปล่อย ก็จึงออกมานอกบ้านกันเหมือนว่าเหตุการณ์ยุติแล้ว รวมถึงการถอดหน้ากากในที่สาธารณะเพราะอึดอัดมานาน ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้ถือว่าเป็นทัศนคติที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมเลย
ส่วนตัวผม 1 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา ถ้าให้เลือกอยู่ซักประเทศ ก็จะเลือกอยู่ไทยนี่แหละครับ
เวลาประเทศเจอปัญหา สังคมไทยต้องไม่ “งอแง” ไปซะทุกเรื่อง เหมือนเด็กไม่ได้กินอมยิ้มแล้วด่าพ่อล่อแม่ ตอนนี้เกิดการจัดการวัคซีนไม่ดี ก็ด่าว่าประเทศตัวเอง ซึ่งผมมองว่าไม่ใช่
ระบบสาธารณสุขที่เราทำมาดีมากในตลอด 100 ปี เป็นกำลังต่อสู้กับวิกฤตินี้ได้ดีมาเป็นปี ผมขอบคุณเจ้าฟ้ามหิดล สมเด็จย่า และบุคลากรทางสาธารณสุขเสมอ
อันนี้ต้องชื่นชมกัน
ส่วนที่ทำรั่วเข้ามาด้วยธุรกิจสีเทาข้าราชการ-นักการเมือง รวมถึงการจัดการวัคซีนที่ดูไม่มีฝีมือ อันนี้ก็ต้องช่วยกันหาทางออก และกดดันให้เกิดการลงโทษข้าราชการชั้นนักการเมือง
ใช้ปัญญาในการอยู่ด้วยกัน แล้วประเทศจะเจริญครับ
ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4327887633888008&id=100000004424101
แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32