ค้าปลีกยักษ์มะกัน ยกเลิกนโยบายใส่หน้ากาก 'พนักงาน-ลูกค้า' แต่มีเงื่อนไข ต้องฉีดวัคซีนให้ครบถ้วนเสียก่อน

ไม่นานมานี้ บรรดาธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ของอเมริกา ต่างทยอยยกเลิกนโยบายใส่หน้ากากอนามัยตามคำแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ ซีดีซี มากขึ้นเรื่อย ๆ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม วอลกรีน, โฮลฟู้ดส์ และโครเกอร์ ซึ่งมีซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือมากมาย เช่น ฟู้ด 4 เลสส์, ราล์ฟส์, แฮร์รี่ ทีเตอร์, คิง ซูปเปอร์, โครเกอร์, มาเรียโน่’ส และอื่น ๆ ได้ประกาศยกเลิกนโยบายใส่หน้ากากอนามัยขณะใช้บริการแล้ว

อย่างไรก็ดี วอลกรีน ซึ่งเป็นเชนร้านขายยาขนาดใหญ่ ระบุว่าจะยกเลิกนโยบายใส่หน้ากากเฉพาะลูกค้าที่ฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วเท่านั้น ส่วนพนักงานของร้านยังจะต้องใส่หน้ากากอนามัยขณะทำงานต่อไป ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วก็ตาม

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ห้างทาร์เก็ต, โฮมดีโพ และเบสท์บาย ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในร้านของตัวเองอีกต่อไป หลังจากที่ธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา อย่างวอลมาร์ท รวมถึง เทรดเดอร์โจส์ และคอสท์โก รวมถึงเชนร้านกาแฟอย่างสตาร์บัคส์ ก็ได้ประกาศยกเลิกนโยบายใส่หน้ากากอนามัยไปก่อนแล้ว

โดยทาร์เก็ต แถลงว่าธุรกิจของตนได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของ ซีดีซี อย่างใกล้ชิดเสมอมา และจะปฏิบัติตามคำแนะนำฉบับปรับปรุง เรื่องการใส่หน้ากากอนามัย ที่ซีดีซี เสนอเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วไม่จำเป็นจะต้องใส่หน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทาร์เก็ตระบุชัดว่ายังคงแนะนำอย่างจริงจังสำหรับพนักงานและลูกค้าที่ยังไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่าให้ใส่หน้ากากอนามัยขณะอยู่ในธุรกิจของตัวเองต่อไป และว่าทาร์เก็ตทุกสาขา จะยังคงเข้มงวดในมาตรการรักษาความปลอดภัย และการทำความสะอาด-ฆ่าเชื้อโรค เหมือนเดิม

ที่ผ่านมา ทาร์เก็ต พยายามสนับสนุนให้พนักงานเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นอกจากจะจัดให้มีการฉีดที่ร้าน ซีวีเอส ทุกสาขาที่ตั้งอยู่ในทาร์เก็ตแล้ว ยังจ่ายค่าแรงตามปกติในช่วงที่พนักงานลาไปฉีดวัคซีน อีกทั้งยังให้เบิกค่ารถ (Lyft) ไปฉีดวัคซีนได้สูงสุดถึงเที่ยวละ 15 ดอลลาร์ด้วย

ส่วนห้างเบสท์บาย แถลงเมื่อวันอังคารที่ 18 พฤษภาคมว่า ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบถ้วนแล้ว ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยเข้ามาใช้บริการในร้านอีกต่อไป หากไม่ขัดกับกฎหมายหรือระเบียบของแต่ละท้องที่ ส่วนพนักงานของเบท์บายนั้น หน้ากากจะเป็นเพียงทางเลือกเท่านั้น ยกเว้นพนักงานที่จะต้องออกไปทำงานที่บ้านของลูกค้า จำเป็นจะต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาไม่ว่าจะฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ก็ตาม

ทั้งนี้ การปฏิบัติตามคำแนะนำฉบับปรับปรุงของ ซีดีซี ของธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งหลายนี้ กำลังสร้างความสับสนให้กับประชาชนในรัฐแคลิฟอร์เนียพอสมควร เพราะเมื่อวันอังคารที่ 18 พฤษภาคม รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ประกาศคำแนะนำประชาชนฉบับล่าสุด สวนทางกับคำแนะนำของ ซีดีซี ว่า จะยังไม่ยกเลิกคำสั่งเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะ จนกว่าจะถึงวันที่ 15 มิถุนายน ซึ่งรัฐตั้งเป้าว่าจะยกเลิกคำสั่งทุกชนิดที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยจะให้เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนในการใช้ “คอมมอนเซนส์” หรือสามัญสำนึกในการดูแลและป้องกันตัวเองและสังคม ไม่ให้มีการระบาดของโควิด-19 ขึ้นมาอีก

ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4678677292149577&id=214201575263860


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32