จีน-รัสเซีย ประสานพลังผลักดัน "การฑูตวัคซีน" เร่งผลิตวัคซีน 260 ล้านโดสให้ประเทศกำลังพัฒนา หวังสร้างมิตรประเทศทั่วโลก
สุภาษิตว่าไว้ คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย ถ้างานใดทำคนเดียวแล้วไม่ประสบความสำเร็จ แต่ถ้าได้สองคนช่วยกันทำ ก็อาจถึงเป้าหมายได้ไวขึ้น
เหมือนดังเช่น พันธมิตรเฉพาะกิจ 'จีน-รัสเซีย' ที่ต่างฝ่าย ต่างต้องการที่จะเดินหน้าโครงการ Vaccine Diplomacy หรือ 'การฑูตวัคซีน' เพื่อพิชิตใจชาวโลก แต่ดูเหมือนทั้งสองประเทศยังไปไม่ถึงไหนด้วยข้อจำกัดที่แตกต่างกัน
โดยรัสเซีย ซึ่งพัฒนาวัคซีน Covid-19 ได้เป็นชาติแรก ๆ ในโลก และมีรายงานประสิทธิภาพในการป้องกันป่วยหนักจาก Covid-19 สูงถึง 91.7% ซึ่งตั้งเป้าว่าจะผลิตวัคซีน Sputnik V ให้ได้มากถึง 630 ล้านโดส ส่งออกไป 100 ประเทศ แต่จนถึงตอนนี้ยังผลิตส่งออกได้ไม่ถึง 12 ล้านโดส แม้คาดว่ารัสเซียน่าจะมียอดสั่งจองสูงถึง 2 พันล้านโดสแล้วในตอนนี้แล้วก็ตาม
แต่ในทางตรงกันข้าม จีนมีกำลังผลิตและกระจายวัคซีนออกไปได้กว้างขวางกว่า โดยเฉพาะประเทศในย่านอาเซียน ที่จีนส่งวัคซีนไปแล้วมากกว่า 100 ล้านโดส ทั้ง Sinovac และ Sinopharm และสามารถผลิตได้ถึงพันล้านโดส ภายในปีนี้ เสียแต่ว่าด้วยค่าตัวเลขประสิทธิภาพวัคซีนที่น้อยกว่าวัคซีนของชาติตะวันตก จึงทำให้หลายชาติลังเลที่จะสั่งซื้อวัคซีนจากจีน
เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเกิดการประสานพลังพันธมิตรวัคซีน จีน-รัสเซีย ด้วยการนำจุดเด่นของแต่ละฝ่ายมาเติมเต็มซึ่งกันและกัน โดยรัสเซียได้เซ็นสัญญา ให้บริษัทยาของจีนถึง 3 แห่ง ผลิตวัคซีน Sputnik V เพื่อช่วยผลิตวัคซีนให้ก่อน 260 ล้านโดส เป้าหมายเพื่อส่งให้กับประเทศยากจนอีกหลายสิบประเทศที่ยังเข้าไม่ถึงวัคซีน และประเทศที่กำลังเดือดร้อนจากการระบาดของ Covid-19 เช่น อินเดีย เม็กซิโก และ อาร์เจนตินา
อย่างไรด็ตาม แม้วัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทยาในสหรัฐอเมริกา อย่าง Pfizer และ Moderna จะมีรายงานประสิทธิภาพสูงกว่า และเป็นที่ต้องการอย่างมากทั่วโลก
แต่จากการศึกษาข้อมูลของ Duke University มหาวิทยาลัยชั้นนำในรัฐนอร์ธ แคโรไลน่า พบว่า ตอนนี้ชาติตะวันตกอย่าง อังกฤษ แคนาดา และ นิวซีแลนด์ ได้สั่งจองวัคซีนไปหมดทุกแห่งแล้ว และบางประเทศได้ยอดสั่งซื้อมากกว่าจำนวนประชากรถึง 3 เท่า แต่ในขณะที่บางประเทศอย่างอาร์เจนติน่า ยังสั่งซื้อวัคซีน Pfizer ไม่ได้เลย จึงจำเป็นต้องสั่งวัคซีน Sputnik V และ Sinopharm มาใช้ ทำให้ยอดการสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อทั่วโลกเริ่มตระหนักว่า วัคซีนที่ดีคือวัคซีนที่มีให้ฉีด และการรออาจไม่ทันเวลา ทั้งจีน และ รัสเซีย จึงผนึกกำลังกันผลิตวัคซีน Sputnik V ที่ Made in China เพื่อส่งไปยังประเทศกำลังพัฒนาที่ยังรอวัคซีนอยู่ ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศกำลังเดือดร้อนจากการระบาดรอบใหม่อยู่ในขณะนี้
สำหรับการร่วมมือกันในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสให้ทั้งจีน และ รัสเซียสามารถขยายแผน "การฑูตวัคซีน" ไปยังประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะกับประเทศที่เป็นพันธมิตรกับอเมริกามาช้านานอย่าง เม็กซิโก อาร์เจนตินา และอินเดีย
นับเป็นอีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจในเชิงการตลาด แถมยังช่วยโลกฝ่าวิกฤติไวรัส Covid-19 ได้ในวงกว้างด้วย และหากสหรัฐอเมริกาเห็นท่าไม่ดี จะเร่งปล่อยวัคซีนสู่ตลาดโลกออกมาแข่งกัน ก็จะช่วยให้เรามีวัคซีนในท้องตลาดมากขึ้นเช่นกัน
เรียกได้ว่าจุดดีของการประกาศเปิดศึก "การฑูตวัคซีน" ของชาติมหาอำนาจ จีน-รัสเซีย ที่ทั่วโลกอาจได้อานิสงค์กันอย่างถ้วนหน้าก็เป็นได้
อ้างอิง:
https://edition.cnn.com/2021/05/11/china/china-russia-covid-vaccine-dst-intl-hnk/index.html