‘หมอเฉลิมชัย’ ตั้ง 3 ข้อสังกตุ ‘โรคประจำตัว-สายพันธุ์อินเดียร้ายแรง-ภูมิต้านทานไม่ขึ้น’ เป็นเหตุ แม้ฉีดวัคซีน Pfizer ครบสองเข็มแล้ว ยังติดเชื้อเสียชีวิต

นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กส่วนตัว Chalermchai Boonyaleepun ระบุว่า...

ต้องค้นหาความจริง !! พบผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฉีดวัคซีน Pfizer ครบสองเข็ม ติดโควิดและเสียชีวิตในอินเดีย ต้องเร่งหาสาเหตุว่า ทำไมถึงติดโควิดได้ แล้วเสียชีวิตจากโควิดจริงหรือไม่

รายงานข่าวจากหลายสำนักข่าว พบว่าผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อของสหรัฐอเมริกาคือ Dr.Rajendra Kapila ซึ่งทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัย Rutgers รัฐ New Jersey

ได้เดินทางไปยังกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย โดยก่อนเดินทาง เขาและภรรยาได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดของ Pfizer ครบสองเข็ม การเดินทางเข้าสู่อินเดียนั้น เกิดขึ้นในปลายเดือนมีนาคม 2564 และได้ติดโควิดในวันที่ 8 เมษายน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงนิวเดลี และในที่สุดวันที่ 28 เมษายนก็เสียชีวิต

โดยไม่ได้มีการเปิดเผยสาเหตุที่ชัดเจน นอกจากมีการระบุว่าเขาได้มีผลตรวจโควิดเป็นบวก

โดยผู้เชี่ยวชาญท่านนี้ มีโรคประจำตัว เป็นเบาหวาน หลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ แล้วก็มีอายุมากถึง 81 ปี ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เสียชีวิตจากโควิดได้ทั้งสิ้น

นอกจากนั้นในอินเดีย มีการเก็บตัวอย่างพบว่า ไวรัสสายพันธุ์อินเดีย B.1.617 มีความครอบคลุมถึง 61% จาก 220 ตัวอย่างใน 361 ตัวอย่าง

ในกรณีนี้ ก็คงจะเป็นเรื่องที่ถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์กันระหว่างสื่อตะวันตก และสื่อตะวันออกต่อไป

อย่างไรก็ตาม กล่าวเฉพาะเคสนี้ คิดว่าสาเหตุของการเสียชีวิตมีโอกาสเกิดได้หลายประการดังนี้

1.) เสียชีวิตจากโรคประจำตัวอื่น เช่น หัวใจ หรือเบาหวาน โดยไม่ได้เกี่ยวกับโควิดโดยตรง หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งเป็นเหตุบังเอิญพ้องกันพอดี

2.) กรณีที่เสียชีวิตจากโควิดจริง อาจจะเป็นเพราะฉีดวัคซีนแล้ว มีภูมิต้านทานขึ้นได้ดี แต่ไม่สามารถป้องกันไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อินเดียได้

3.) เสียชีวิตจากโควิดจริง โดยที่ฉีดวัคซีนแล้วภูมิต้านทานไม่ขึ้น ทำให้ไม่มีภูมิต้านทานที่จะต่อสู้กับเชื้อโรค

ส่วนจะเป็นจากกรณีใด คงจะมีรายละเอียดของการวินิจฉัยหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป

ก็เป็นข้อเตือนใจ ไม่ว่าผลจะออกมาว่าเป็นอย่างไร

การฉีดวัคซีนไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อได้ 100%

การฉีดวัคซีน ภูมิต้านทานไม่ได้ขึ้นครบทุกคน

และการฉีดวัคซีน ควรจะต้องป้องกันตัวเองต่อไปอีกระยะหนึ่งอย่างน้อย จนกว่าจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่หรือจนกว่าโรคจะสงบ


ที่มา : https://www.facebook.com/237959479586026/posts/3823765717672033/