เจ้าของผับย่านบางพลี หันขายทุเรียนเลี้ยงลูกน้อง-จ่ายค่าเช่า

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารร่วมไปถึงผับต่าง ๆ ต้องพากันปิดตัวตามนโยบายป้องการแพร่ระบาดของรัฐบาล ต่างพากันได้รับผลกระทบอย่างหนัก พนักงานต่างพากันตกงานกันเป็นจำนวนมาก และเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง

ผู้ประกอบการบางร้านยังคงตั้งความหวังว่ารัฐบาลจะหาวิธีการหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้โดยเร็ว เพื่อจะได้กลับมาเปิดกิจการได้อีกครั้ง จึงได้หันมาหากิจกรรมอย่างอื่นมาทำ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนหาเงินเลี้ยงลูกน้องและค่าเช่าร้านให้ประคองตัวอยู่ได้

ล่าสุด ‘ร้านโซดา’ ซึ่งเปิดกิจการประเภทผับ ตั้งอยู่กลางตลาดนัดเรือบิน ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งรอบแรกและรอบที่สอง ทำให้ต้องหยุดการดำเนินงาน ซึ่งครั้งแรกที่ว่าสาหัสแล้ว แต่พอมาครั้งที่สองสาหัสยิ่งกว่า จึงต้องหันไปรับทุเรียนหมอนทองจากจังหวัดจันทบุรีมาขาย ส่วนในโซนที่เปิดเป็นผับต้องติดป้ายเซ้งกิจการ เนื่องจากประคองเอาไว้ไม่ไหว

นายสุเทพ รุ่งเรื่อง อายุ 49 ปี หุ้นส่วนใหญ่ ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางผับเราต้องปิดตัวลงทำให้ขาดรายได้และเงินที่จะต้องมาจ่ายให้พนักงานในร้านและจ่ายค่าเช่าที่ซึ่งตกแล้วเดือนละกว่า 1 แสนบาท ตนจึงได้หาทางออกโดยการไปรับทุเรียนมาจากสวนของเพื่อนที่อยู่ในจังหวัดจันทบุรี ประกอบช่วงนี้เป็นช่วงที่สถานการณ์โควิดกำลังระบาดอย่างรุนแรง ทำให้ธุรกิจใหญ่ของตนต้องปิดตัวลง จึงได้หันไปรับทุเรียนมาขายเพื่อหารายได้เลี้ยงลูกน้องและจ่ายค่าเช่าที่ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว จังหวะเป็นช่วงเข้าหน้าทุเรียนพอดี

สำหรับ ราคาขายเริ่มตั้งแต่ 100 บาทไปจนถึง 140 บาท ต่อกิโลกรัม คิดเป็นกำไรแค่กิโลกรัม 5-10 บาทเท่านั้น แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่อีกอย่างหนึ่งคือหน้าทุเรียนจันทบุรี จะมีแค่ 4 เดือน และถ้าหมดหน้าทุเรียนแล้วสถานการณ์โควิดยังระบาดอยู่หรือเปล่า ถ้ามันยังอยู่เราก็ต้องคิดหาผลไม้อย่างอื่น อาจจะมีเงาะ มังคุดหรือลองกองมาขายแทน และเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ทุเรียนพึ่งมาส่งให้ 5 ตัน จากที่โควิดระบาดช่วงแรกเราลงครั้งละ 10 ตัน เราก็จะขายประมาณ 2-3 วันก็หมด เพราะเราขายถูก มีทั้งมารับไปขายมีทั้งคนมาซื้อกินเอง และของเรายังมีปลอกเนื้อขายด้วย แต่ถ้าชาวบ้านมาซื้อเอาไปกินเองเราก็จะคิดค่าบริการปลอกแค่ 20 บาท ส่วนที่เราปลอกแล้วเหลือแต่เนื้อล้วน ๆ เราขายกิโลกรัมละ 550 บาท

โดยเฉลี่ยในแต่ละวันจะมีคนมาสั่งเนื้อทุเรียนที่แกะไว้วันละไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม และตนยืนยันว่าทุเรียนหมอนทองที่รับมานั้น เป็นทุเรียนจากจังหวัดจันทบุรี 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ทุเรียนจากที่อื่นมาย้อมแมวขาย และถ้าซื้อทุเรียนจากเราไปลูกไม่สุกหรือเป็นทุเรียนอ่อนสามารถนำกลับมาเคลมที่ร้านได้

ส่วนรายได้จากการขายทุเรียน ก็พอได้ค่าข้าวค่าลูกน้องจะได้ไม่ตกงานและค่าเช่าที่ บางครั้งก็ขาดบ้างเราก็ต้องเติมเอา แต่ก็ยังดีกว่าขาดทั้งหมด โดยเราจะเปิดขายตั้งแต่ 08.00 น.ไปจนถึง 20.00 น.ทุกวัน หรือเข้ามาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเพจ เจ๊นก ทุเรียนจันทบุรี หรือโทรสอบถามได้ที่หมายเลข 096-395-4626


ภาพ - ข่าว ก๊วก สมุทรปราการ