ประเทศที่ปราศจากกองทัพ

เข้าสู่อากาศร้อนจัดของเดือนเมษายน จึงขอลดความร้อนแรงของความร้อนด้วยเรื่องของประเทศที่ไม่มีกองทัพ ซึ่งในโลกของเรามีร่วมสามสิบประเทศที่ไม่มีกองทัพ คำว่าประเทศในที่นี้หมายถึงรัฐที่มีอธิปไตย โดยการป้องกันประเทศของตนกลายเป็นความรับผิดชอบของประเทศอื่นไป หรือมีกองทัพที่มีลักษณะเป็นทางเลือกเป็นกองกำลังติดอาวุธสำหรับการป้องกันประเทศตามแต่จะใช้เพื่อสนับสนุนนโยบายภายในประเทศและนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลนั้น ๆ บางประเทศที่มีการระบุไว้เช่น Iceland (ซึ่งเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือเพียงประเทศเดียวที่ไม่มีกองกำลังทหารประจำการ) และ Monaco ไม่มีกองทัพหลัก แต่ยังคงมีกองกำลังทหารที่ไม่ใช่ตำรวจ ด้วยกองทัพมีค่าใช้จ่ายสูงในโลกปัจจุบัน และสำหรับหลายประเทศเหล่านี้การยกเลิกหรือไม่มีกองกำลังทหารจะสามารถจัดหาเงินทุนสำหรับบริการสาธารณะอื่น ๆ ได้อีกมาก

ตามข้อมูลของ CIA World Factbook (เอกสารข้อมูลรายปีของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งสำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ (CIA) จัดทำขึ้น โดยเอกสารชุดนี้จะสรุปข้อมูลประมาณ 2-3 หน้าเกี่ยวกับ ประชากรศาสตร์ ภูมิศาสตร์ การสื่อสาร การปกครอง เศรษฐกิจ และการทหารของประเทศ และรัฐที่มีการปกครองตนเอง 267 แห่งทั่วโลก) ได้ระบุว่า มี 32 ประเทศที่ไม่มีกองกำลังทหารประจำการในขณะนี้

Cos de Policia d'Andorra ของราชรัฐ Andorra

1.) ราชรัฐ Andorra หนึ่งในรัฐที่เล็กที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ระหว่างฝรั่งเศสและสเปน มีประชากรประมาณ 85,000 คนเท่านั้น เป็นประเทศซึ่งอยู่ในเทือกเขา Pyrenees โดยมีกองตำรวจที่เรียกว่า Cos de Policia d'Andorra แต่ไม่มีกำลังทหารประจำการ ซึ่งการป้องกันอธิปไตยของรัฐนี้เป็นความรับผิดชอบของสเปนและฝรั่งเศสด้วยเป็นประเทศที่อยู่ใกล้กัน

2.) Aruba ประเทศในเครือของราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ เกาะ Aruba ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน และนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 เป็นรัฐที่มีสถานะเป็นรัฐอิสระปกครองตนเองที่แยกจากกันของราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว โดยการป้องกันประเทศซึ่งมีประชากร 116,000 คน ถือเป็นความรับผิดชอบของเนเธอร์แลนด์ หน่วยงานด้านความมั่นคงแห่งชาติของ Aruba เน้นไปที่การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมและการก่อการร้าย

3.) หมู่เกาะ Cayman เป็นหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียนซึ่งอยู่ในดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษ (เหมือนฮ่องกงในอดีต ก่อน ปี ค.ศ. 1997) อันหมายความว่า สหราชอาณาจักรยังคงรับผิดชอบในการป้องกันหมู่เกาะที่อยู่ห่างจากประเทศคิวบาไปทางใต้ประมาณ 150 ไมล์ อย่างไรก็ตามหมู่เกาะ Cayman ยังคงมีกองกำลังตำรวจแห่งชาติที่เรียกว่า กองกำลังตำรวจหมู่เกาะ Cayman ประชากรส่วนใหญ่ของหมู่เกาะ Cayman อาศัยอยู่บนเกาะ Grand Cayman ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในสามเกาะ

4.) หมู่เกาะ Cook มีประชากรราวหนึ่งหมื่นคน ตั้งชื่อตามกัปตัน James Cook เป็นเกาะทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิกที่เป็นอิสระ แต่มีความสัมพันธ์และการติดต่อกับนิวซีแลนด์ โดยถือว่า หมู่เกาะ Cook เป็นเขตปกครองตนเองของนิวซีแลนด์ ดังนั้นนิวซีแลนด์จึงต้องรับผิดชอบในการป้องกันประเทศของหมู่เกาะ Cook แต่เป็นไปตามที่หมู่เกาะ Cook ร้องขอเท่านั้น

Public Force of Costa Rica ทำหน้าที่เป็นตำรวจ และ พิทักษ์ชายแดน และมีวัตถุประสงค์ในการป้องกันประเทศอีกด้วย

5.) สาธารณรัฐ Costa Rica ไม่มีกองกำลังติดอาวุธในคอสตาริกาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1949 ประเทศซึ่งมักเรียกกันว่า "สวิตเซอร์แลนด์แห่งอเมริกากลาง" ได้ประกาศความเป็นกลางอย่างถาวรและปราศจากอาวุธในปี ค.ศ. 1983 โดยมีกองกำลังกึ่งทหารขนาดเล็ก (Public Force of Costa Rica) ทำหน้าที่เป็นตำรวจ และ พิทักษ์ชายแดน และมีวัตถุประสงค์ในการป้องกันประเทศอีกด้วย แต่ในทางปฏิบัติแล้วความเป็นจริงก็คือ Costa Rica ได้รับความคุ้มครองในทางอธิปไตยโดยกองทัพสหรัฐฯ

6.) Curacao เป็นหนึ่งในสี่ประเทศที่เป็นรัฐที่มีสถานะเป็นรัฐอิสระปกครองตนเองในเครือของราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ เป็นเกาะในทะเลแคริบเบียนที่ไม่มีกองกำลังทหาร อย่างไรก็ตามรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยังคงดูแลกิจการต่างประเทศและการป้องกันประเทศ เกาะมีขนาด 171 ตารางไมล์ ซึ่งมีประชากรราว 150,000 คน 0kdการลงประชามติในปี ค.ศ. 2009 ชาว Curacao ลงคะแนนเสียงให้ Curacao เป็นประเทศที่ปกครองตนเองภายใต้ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ดังนั้นหน่วยยามฝั่งแคริบเบียนแห่งเนเธอร์แลนด์ (DCCG) ยังคงทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยทางทะเลให้อยู่จนปัจจุบัน

7.) เครือรัฐ Dominica หมู่เกาะสุดท้ายของหมู่เกาะแคริบเบียนที่เคยเป็นอาณานิคม ของยุโรป เป็นรัฐหมู่เกาะใน Lesser Antilles และเป็นสมาชิกของเครือจักรภพ โดยมีกองกำลังตำรวจที่เรียกว่า Commonwealth of Dominica Police Force ซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยป้องกันชายฝั่งด้วย การป้องกันประเทศเป็นไปตาม ข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อการป้องกันและความมั่นคงของภูมิภาคแคริบเบียนตะวันออก (The Regional Security System (RSS)) ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศภูมิภาคแคริบเบียนตะวันออก (Antigua and Barbuda (ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1982) Barbados (ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1982) Dominica (ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1982) Grenada (ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985) Saint Kitts และ Nevis (ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1983) Saint Lucia (ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1982) Saint Vincent และ the Grenadines (ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1982) กับสหรัฐฯ และแคนาดา

8.) หมู่เกาะ Faroe หมู่เกาะนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป ถือเป็นเขตการปกครองตนเองของราชอาณาจักรเดนมาร์ก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือระหว่างเกาะอังกฤษ นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ มีประชากรราว 51,000 คน ไม่มีกองกำลังติดอาวุธประจำ โดยรัฐบาลเดนมาร์กรับผิดชอบในการป้องกันอธิปไตยให้ ด้วยกองกำลังอาร์กติกของกองทัพเดนมาร์กทำหน้าที่รับผิดชอบในการป้องกันดินแดนของหมู่เกาะ Faroe


9.) French Polynesia ประเทศโพ้นทะเลในเครือของสาธารณรัฐฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก และประกอบด้วยเกาะขนาดเล็กและขนาดใหญ่จำนวนมาก เกาะที่มีชื่อเสียงที่สุดของดินแดนคือ Tahiti มีประชากรราว 290,000 คน แต่ไม่มีกองกำลังติดอาวุธเป็นของตัวเอง โดยรัฐบาลฝรั่งเศสรับผิดชอบทำหน้าที่ในป้องกันอธิปไตยของ French Polynesia

10.) Greenland ถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปในปี ค.ศ. 1985 เนื่องจากข้อพิพาทเกี่ยวกับโควตาในการทำประมงที่เข้มงวด เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในทางภูมิศาสตร์เป็นของส่วนหนึ่งของทวีปอเมริกาเหนือ แต่ถือเป็นเขตการปกครองตนเองของราชอาณาจักรเดนมาร์ก ดินแดน ในปี ค.ศ. 2008 ได้รับการลงคะแนนให้มีการปกครองตนเอง และรับผิดชอบในกิจการภายในประเทศเอง ในปี ค.ศ. 2009 Greenland ได้ผ่านร่างพระราชบัญญัติการปกครองตนเอง โดยตระหนักว่าพลเมืองของตนมีสิทธิในการตัดสินใจด้วยตนเองภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตามรัฐบาลเดนมาร์กยังคงมีอำนาจควบคุมในด้านนโยบายหลายประการ รวมถึงนโยบายด้านการต่างประเทศ ความมั่นคง และการเงินการคลัง ทำให้รัฐบาลเดนมาร์กต้องรับผิดชอบในการป้องกันอธิปไตยของ Greenland ด้วย

11.) Grenada หนึ่งในประเทศเครือจักรภพของสหราชอาณาจักร เป็นเกาะทางตอนเหนือของ Lesser Antilles ในทะเลแคริบเบียน นับตั้งแต่การบุก Grenada ของกองทัพสหรัฐฯในปี พ.ศ. 1989 ประเทศนี้ก็ไม่มีกำลังทหารของตนเองอีกต่อไป อย่างไรก็ตามมีกองกำลังตำรวจที่เรียกว่า กองกำลังตำรวจ Grenada ซึ่งทำหน้าที่เป็นยามชายฝั่งด้วย การป้องกันประเทศเป็นไปตาม ข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อการป้องกันและความมั่นคงของภูมิภาคแคริบเบียนตะวันออก (The Regional Security System (RSS)) เช่นกัน

Viking Squad หน่วยปฏิบัติการพิเศษสังกัดหน่วยยามฝั่งของสาธารณรัฐ Iceland

12.) สาธารณรัฐ Iceland แม้ว่าจะเป็นสมาชิกของ NATO แต่ก็ไม่มีกองกำลังทหารประจำการ NATO จึงทำหน้าที่ในการป้องกันประเทศให้ Iceland ด้วย และตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006 กองกำลังทั้งหมดของสหรัฐฯได้ถอนกำลังออกจาก Iceland มีกองกำลังยามฝั่งประกอบด้วยเรือและอากาศยานจำนวนหนึ่ง

13.) สาธารณรัฐ Kiribati เข้าร่วมองค์การสหประชาชาติในปี ค.ศ. 1999 มีบทบาทอย่างมากในความพยายามระหว่างประเทศเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รัฐคิริบาสเป็นเอกราชตั้งแต่ปี ค.ศ. 1979 ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก และมีประชากร 109,000 คน เคยเรียกว่า หมู่เกาะGilbert ไม่มีกองกำลังประจำการและการจัดตั้งกองทัพเป็นเรื่องต้องห้ามตามนรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามยังคงมีกองกำลังตำรวจ โดยออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ทำหน้าที่ในการป้องกันอธิปไตยของประเทศให้ด้วย

สมาชิกของกองกำลังตำรวจแห่งชาติ ราชรัฐ Liechtenstein

14.) ราชรัฐ Liechtenstein เป็นรัฐที่เล็กที่สุดเป็นอันดับหกของโลก แม้ว่าประเทศนี้จะไม่มีกองกำลังทหารประจำการ แต่กองกำลังตำรวจแห่งชาติก็มีร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกองทัพของประเทศเพื่อนบ้านทั้ง ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์

15.) สาธารณรัฐหมู่เกาะ Marshall หลังจากเกือบสี่ทศวรรษภายใต้การบริหารของสหรัฐฯ ในที่สุดหมู่เกาะ Marshall ก็ได้รับเอกราชในปี ค.ศ. 1986 แต่ไม่มีกองกำลังติดอาวุธเป็นของตนเองดังนั้น สหรัฐฯจึงยังคงต้องทำหน้าที่ในการป้องกันอธิปไตยของประเทศให้ด้วย

16.) สาธารณรัฐ Mauritius เป็นเกาะในมหาสมุทรอินเดีย และมีประชากร 1.3 ล้านคน ประเทศได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรในปี ค.ศ. 1968 แม้ว่าจะไม่มีกองกำลังติดอาวุธประจำ แต่ก็มีกองกำลังตำรวจ (The Mauritius Police Force (MPF)) ซึ่งมีกำลังราว 12,500 นาย และหน่วยทหารที่เรียกว่า Special Mobile Force 1,500 นาย และยามฝั่งอีก 500 นาย (ทั้งสองหน่วยนี้อยู่ในสังกัดของ MPF ด้วย) เป็นหลักประกันความมั่นคงทั้งภายในและภายนอกประเทศ

17.) สหพันธรัฐ Micronesia อดีตดินแดนภายใต้การดูแลของสหประชาชาติในแปซิฟิกตะวันตก ภายใต้การบริหารของสหรัฐฯ ซึ่งได้รวมเข้าด้วยกันในปี พ.ศ.1979 โดยมีและใช้รัฐธรรมนูญของตนเอง เป็นสหพันธรัฐ Micronesia ไม่มีกำลังทหารเป็นของตัวเอง ดังนั้นการป้องกันจึงต้องอาศัยกองกำลังของกองทัพสหรัฐฯ

ทหารรักษาพระองศ์ ราชรัฐ Monaco

18.) ราชรัฐ Monaco รัฐที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสองของโลก ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของฝรั่งเศส นครรัฐซึ่งครอบคลุมพื้นที่เพียง 0.78 ตารางไมล์มี ประชากรทั้งหมด 31,000 คน ฝรั่งเศสเป็นผู้รับผิดชอบในการป้องกันประเทศ แต่ยังคงมีกองทหารประจำการเป็นกองทหารรักษาพระองศ์ 255 นาย และกองกำลังตำรวจแห่งชาติอีก 515 นาย

19.) Montserrat อยู่ในทะเลแคริบเบียน ถือเป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี พ.ศ. 2326 เนื่องจากการปะทุของภูเขาไฟซ้ำหลายครั้งผู้อยู่อาศัยในเกาะจำนวนมากจึงอพยพไปต่างประเทศในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา แม้ว่า Montserrat จะมีกองกำลังตำรวจเป็นของตัวเอง แต่ก็ไม่มีทหารประจำการ และการป้องกันอธิปไตยอยู่ภายใต้การดูแลของสหราชอาณาจักร

20.) สาธารณรัฐ Nauru ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของหมู่เกาะ Marshall เป็นสาธารณรัฐที่เล็กที่สุดในโลก หลังจากถูกยึดครองโดยหลายประเทศ ในช่วงศตวรรษที่ 19 และ 20 ประเทศนี้ได้รับการประกาศให้เป็นดินแดนภายใต้การดูแลของสหประชาชาติภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง ในปี ค.ศ. 1968 เกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ได้รับเอกราช ประชากรราว 10,000 คน แต่ตามข้อตกลงอย่างไม่เป็นทางการ ความรับผิดชอบในการป้องกันอธิปไตยของประเทศอยู่ภายใต้ออสเตรเลีย

21.) Niue ตั้งอยู่ในแปซิฟิกใต้ มีประชากรเพียง 1,600 คน และเป็นดินแดนที่ปกครองตนเองโดยมีความสัมพันธ์เสรี (Free association) กับประเทศนิวซีแลนด์ด้วย นั่นหมายความว่าประมุขโดยชอบธรรมของนิวซีแลนด์เป็นประมุขรัฐของ Niue ด้วย แม้ว่าเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้จะไม่มีกองทหารประจำการ แต่ก็มีกองกำลังตำรวจเป็นของตัวเอง การป้องกันอธิปไตยของประเทศเกาะที่โดดเดี่ยวแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของนิวซีแลนด์

22.) สาธารณรัฐ Palau มีประชากรประมาณ 21,516 คน ตั้งอยู่ทางตะวันตกของหมู่เกาะแคโรไลน์ ในอดีตมีประชามติไม่เห็นด้วยกับการรวมกลุ่มเข้ากับสหพันธรัฐ Micronesia ที่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1978 และได้ประกาศเอกราชเป็นสาธารณรัฐปาเลา ยังคงมีข้อตกลงเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯและปาเลา ดังนั้นกองทัพสหรัฐฯจึงได้รับอนุญาตให้ส่งทหารประจำการในพื้นที่ของ Palau ได้ โดย Palau ยังมีกองกำลังตำรวจแห่งชาติอยู่ และการป้องกันอธิปไตยต้องอาศัยกองกำลังของกองทัพสหรัฐฯ

23.) สาธารณรัฐ Panama เป็นประเทศในอเมริกากลาง ยกเลิกกองทัพประจำการในปี ค.ศ. 1990 เป็นประเทศที่สองต่อจาก Costa Rica โดยจัดตั้ง The Panamanian Public Forces มาแทนที่ ซึ่งประกอบด้วย กองกำลังตำรวจแห่งชาติ กองกำลังรักษาความมั่นคงภายใน หน่วยบินและหน่วยลาดตระเวนทางน้ำชาติขนาดเล็กทำหน้าที่ตรวจตราตามพรมแดน มีกำลังประจำการราวสามหมื่นนาย และกองกำลังอาสาสมัครอีกห้าหมื่นนาย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 รัฐธรรมนูญของปานามาได้ห้ามการจัดตั้งกองทัพที่มีทหารประจำการ

24.) Saint Lucia รัฐหมู่เกาะอยู่ในหมู่เกาะอินเดียตะวันตก และเป็นสมาชิกของเครือจักรภพของสหราชอาณาจักร เป็นรัฐไม่มีกองทหารประจำการ แต่มีกองกำลังตำรวจ รวมทั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษและหน่วยยามฝั่ง ทั้งหมด 116 นาย และการป้องกันอธิปไตยอยู่ภายใต้การดูแลของสหรัฐฯในฐานะชาติพันธมิตร

25.) Saint Vincent และ the Grenadines มีขนาดเป็นสองเท่าของกรุงวอชิงตัน ดี ซี ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน ได้รับเอกราชในปี ค.ศ. 1979 หลังจากตกเป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักรเป็นเวลานาน ชาวเกาะมีจำนวน 102,000 คนไม่มีกองทหารประจำการ แต่มีกองกำลังตำรวจเป็นของตัวเองซึ่งมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษและยามฝั่ง โดยการป้องกันอธิปไตยอยู่ภายใต้การดูแลของสหรัฐฯในฐานะชาติพันธมิตรเช่นเดียวกับ Saint Lucia

26.) รัฐเอกราช Samoa เป็นรัฐเกาะของชาวโพลีนีเซียชาติแรกที่ได้รับเอกราชในปี ค.ศ. 1962 ไม่มีโครงสร้างการป้องกันประเทศอย่างเป็นทางการ หรือกองกำลังติดอาวุธทั่วไป แต่มีกองกำลังตำรวจ นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์ด้านการป้องกันประเทศอย่างไม่เป็นทางการกับนิวซีแลนด์ ภายใต้สนธิสัญญามิตรภาพ ค.ศ. 1962


กองทหารสมัครใจที่ทำหน้าที่กองเกียรติยศในพิธีการต่าง ๆ สาธารณรัฐ San Marino

27.) สาธารณรัฐ San Marino นโยบายต่างประเทศของ San Marino สอดคล้องกับสหภาพยุโรป แม้ว่าจะไม่ได้เป็นสมาชิกก็ตาม San Marino ไม่เพียง แต่เป็นสาธารณรัฐที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นรัฐในยุโรปที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสามอีกด้วย ล้อมรอบไปด้วยดินแดนอิตาลี ไม่มีกองกำลังติดอาวุธประจำการ แต่มีกองทหารสมัครใจที่ทำหน้าที่กองเกียรติยศในพิธีการต่าง ๆ และสามารถใช้เพื่อสนับสนุนภารกิจของตำรวจได้ ในกรณีฉุกเฉินรัฐสงวนสิทธิ์ในการเรียกพลเมืองซานมาริโนทุกคนที่มีอายุระหว่าง 16 ถึง 60 ปีเพื่อเป็นทหาร อย่างไรก็ตามความรับผิดชอบในการป้องกันประเทศขึ้นอยู่กับอิตาลี

28.) Sint Maarten เกาะ Sint Maarten อยู่ในทะเลแคริบเบียน เป็นเขตปกครองตนเองในเครือของราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะ Saint-Martin ซึ่งเป็นดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส Sint Maarten ไม่มีกองกำลังติดอาวุธประจำการ และการป้องกันดินแดนของเกาะนี้อยู่ในความรับผิดชอบของเนเธอร์แลนด์

29.) หมู่เกาะ Solomon เป็นสมาชิกเครือจักรภพของสหราชอาณาจักร นับตั้งแต่การประกาศเอกราชของหมู่เกาะโซโลมอนในปี พ.ศ. 2521 มีการจลาจลรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำอีก และอัตราการก่ออาชญากรรมบนหมู่เกาะนี้ก็อยู่ในระดับสูง ระหว่างปี พ.ศ. 2546 ถึง 2560 ภารกิจช่วยเหลือซึ่งประกอบด้วย ตำรวจ ทหาร และที่ปรึกษาพลเรือนจากทั้งหมด 15 ประเทศได้เข้าประจำการในหมู่เกาะโซโลมอน เป้าหมายของภารกิจเหล่านี้คือการฟื้นฟูระเบียบ ทางแพ่ง และทางการเมือง หมู่เกาะโซโลมอนไม่มีกองทัพที่ยืนอยู่ แต่คงมีกองกำลังตำรวจ 1,153 นาย และสถานีตำรวจอีก 43 แห่ง

30.) Tuvalu เป็นสมาชิกเครือจักรภพของสหราชอาณาจักร ประชากรประมาณ 11,000 คน ได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2521 เกาะตูวาลูในมหาสมุทรแปซิฟิกได้รับการขนานนามว่าเป็นหมู่เกาะเอลลิซ (อาณานิคมของอังกฤษ) โดยเป็นรัฐที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสี่ของโลกมีประชากรประมาณ 11,000 คนและไม่มีทหารประจำการเป็นของตัวเอง อย่างไรก็ตาม Tuvalu มีกองกำลังตำรวจของตัวเอง

31.) สาธารณรัฐ Vanuatu ได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2523 อยู่ในกลุ่มนิวเฮบริดส์ซึ่งเป็นดินแดนของหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกหลายแห่งที่อยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส ประกอบด้วยเกาะกว่า 80 เกาะ และไม่มีทหารประจำการ แต่มีกองกำลังตำรวจ Vanuatu องกำลังเคลื่อนที่เร็ว Vanuatu และ The Vanuatu Mobile Force (VMF)


สวิสการ์ด (Pontifical Swiss Guard) นครรัฐ Vatican

32.) นครรัฐ Vatican มีสวิสการ์ด (Pontifical Swiss Guard) เป็นหน่วยติดอาวุธที่มีหน้าที่ถวายอารักขาองค์พระสันตะปาปา แม้ว่าจะไม่มีสนธิสัญญาป้องกันกับอิตาลี เนื่องจากจะละเมิดความเป็นกลางของนครรัฐ Vaticanแต่กองทัพอิตาลีมีหน้าที่ปกป้องนครรัฐ Vatican อย่างไม่เป็นทางการ

เหล่านี้คือ รายชื่อประเทศที่ไม่มีกองกำลังติดอาวุธ โดยทั่วไปแล้วสามสิบเอ็ดประเทศที่ระบุไว้ในที่นี้มักจะมีข้อตกลงอันยาวนานกับประเทศที่เคยยึดครองในอดีต ตัวอย่างหนึ่งคือข้อตกลงระหว่าง Monaco และฝรั่งเศสซึ่งมีมาแล้ว 300 ปี เป็นอย่างน้อย หมู่เกาะ Marshall สหพันธรัฐ Micronesia และ Palau ต่างต้องพึ่งพาสหรัฐอเมริกาในการป้องกันประเทศ ด้วยมั่นใจว่า ข้อกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติของประเทศเหล่านี้จะได้รับการแก้ไขผ่านการประชุมคณะกรรมการร่วมประจำปีเพื่อหารือเรื่องการป้องกันร่วมกันกับกองบัญชาการภาคพื้นแปซิฟิกของสหรัฐฯ Andorra มีกองทัพขนาดเล็ก และสามารถขอความช่วยเหลือจากฝรั่งเศสในการป้องกันได้หากมีความจำเป็น ในขณะที่ Iceland มีข้อตกลงเฉพาะกับสหรัฐอเมริกาซึ่งดำเนินมาจนถึงปี พ.ศ. 2549 ซึ่งกำหนดให้พวกเขาต้องให้การป้องกัน Iceland เมื่อจำเป็น ประเทศที่เหลือต้องรับผิดชอบในการป้องกันของตนเอง และดำเนินการโดยไม่มีกองกำลังติดอาวุธใด ๆ หรือด้วยกองกำลังทหารที่จำกัด บางประเทศเช่น สาธารณรัฐ Costa Rica และ Grenada เข้าสู่กระบวนการปลอดทหาร ประเทศอื่น ๆ ถูกจัดตั้งขึ้นโดยไม่มีกองกำลังติดอาวุธเช่น รัฐเอกราช Samoa เมื่อ 60 ปีที่แล้ว เหตุผลหลักคือ พวกเขายังคงอยู่ภายใต้การคุ้มครองจากชาติอื่น ณ จุดที่ได้รับเอกราช ประเทศเหล่านี้มีขนาดประวัติศาสตร์ และเหตุผลที่แตกต่างกันไปในการเลือกที่จะไม่มีกองทัพประจำการ บางแห่งแยกตัวออกจากประเทศใหญ่ เพราะมีขนาดเล็ก และมีทรัพยากรน้อยมากจนเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดตั้งกองกำลังทหารขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ ประเทศอื่น ๆ มีข้อตกลงร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อขอรับการสนับสนุนกำลังทหารตามความจำเป็น

แม้ว่าหลายรัฐเหล่านี้จะไม่มี “กองกำลังทหารประจำการ” ตามคำจำกัดความของ CIA World Factbook แต่กองกำลังตำรวจแห่งชาติของรัฐเหล่านี้ก็ทำหน้าที่เป็นกองกำลังทหารโดยพฤตินัย ตัวอย่างเช่น Vanuatu’s Mobile Force หรือ Public Forces of Costa Rica มีหน้าที่ในการปกป้องพรมแดนของประเทศของตน ถึงแม้ค่าใช้จ่ายในด้านการทหารจะสูงมาก แต่ประเทศส่วนใหญ่ในโลกล้วนแล้วแต่มีกองทัพประจำการ เพราะไม่อาจให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติด้วยการฝากอธิปไตยไว้กับประเทศอื่น สำหรับภูมิภาค ASEAN แม้ว่าจะดูมีความสงบมานานพอสมควร แต่ประเทศในภูมิภาคนี้กลับมีการสะสมอาวุธยุทโธปกรณ์สูงมาก ส่วนหนึ่งด้วยหลายประเทศเกรงภัยคุกคามจากมหาอำนาจ สำหรับบ้านเราอาจจะมีเหตุกระทบกระทั่งกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่บ้าง แต่ได้พยายามหลบเลี่ยงการใช้กำลังทหารโดยไม่จำเป็น โดยอาศัยการเจรจาพูดคุยผ่านคณะกรรมการชายแดนร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านต่าง ๆ ที่มีพรมแดนติดกัน 

“แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ์ ศัตรูกล้ามาประจัน จะอาจสู้ริปูสลาย” พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6