เสียง (เพรียก) แห่งสายน้ำปัตตานี... ตอนที่ 4

‘อัยเยอร์เวงและฆุนังซีลีปัต’ น่าจะเป็นชื่อคุ้นหูใครหลายคน คำที่โด่งดังจากทะเลหมอกและสกายวอร์คซึ่งเป็นจุดชมวิวเลื่องชื่อระดับประเทศ คนแห่กันไปถ่ายรูปและเช็คอินกันล้นหลาม ส่วนหนึ่งเพราะโดยตัวสถานที่เองที่มีความโดดเด่นและเป็นจุดขายในตัวมันเอง อีกส่วนหนึ่งคงเพราะมีการแชร์ข้อมูลต่อ ๆ กันไปผ่านโลกโซเชี่ยล โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นอินฟลูเอ็นเซอร์และเน็ตไอดอลทั้งหลายนั่นเอง 

แต่ละแวกนี้ไม่ได้มีเฉพาะจุดชมวิวทะเลหมอกเท่านั้น ยังมีทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ อย่างเช่นสายน้ำปัตตานี รวมถึงขนบประเพณีของคนเชื้อสายมลายูให้ได้ซึมซับชื่นชมยามไปเยือนพื้นที่นี้ อย่างที่บังบิ๊บกับผมกำลังทำกันอยู่คือกิจกรรมพายเรือล่องแก่งก็เป็นสีสันอีกอย่างหนึ่ง บังบิ๊บเองนอกจากเป็นนักเดินทางท่องโลกแล้ว เขายังจัดกิจกรรมทัวร์ผจญภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนพื้นที่สามจังหวัดอีกด้วย กิจกรรมพายเรือคายักได้ดำเนินการอยู่แล้วในพื้นที่ ให้ทั้งความสนุกและมีความปลอดภัยสูง แถมยังสามารถทำได้แม้ในช่วงหน้าร้อนซึ่งแตกต่างจากการล่องแก่งในภาคเหนือซึ่งมักจะจัดกันเฉพาะฤดูน้ำหลากเท่านั้น แต่ล่องแก่งของที่นี่ยังไม่เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง สาเหตุอาจเพราะขาดการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องและด้วยวิธีการจัดการภายในท้องถิ่นเองก็เป็นได้

สำหรับผม การได้หนีหมอกควันที่เชียงใหม่มาพื้นที่สามจังหวัดแบบนี้ถือว่าเป็นรางวัลโดยตัวมันเองอยู่แล้ว อากาศบริสุทธิ์กว่าโดยประการทั้งปวง มองไปทางไหนก็ยังคงเขียวขจี (แม้จะเป็นสวนยางเสียเยอะก็ตาม) ที่ผิดคาดกว่าก็คือช่วงค่ำและกลางคืนอากาศเย็นกว่าที่คิดด้วยสิ ยิ่งได้มาพายเรือแล้วเจอแก่งน้ำเชี่ยวให้ได้ตื่นเต้นยิ่งเกินคุ้ม หากถามว่าปลอดภัยไหม สุ่มเสี่ยงในเรื่องการก่อการร้ายหรือไม่ ต้องบอกว่าตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในพื้นที่นี้ไม่ได้รู้สึกไม่ปลอดภัยแต่อย่างใด ตรงกันข้าม ชาวบ้านที่ผ่านไปพบต้อนรับขับสู้ด้วยน้ำใจไมตรี ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงจากสิ่งที่ประโคมเขียนกันตามสื่อต่าง ๆ แน่นอน ยังคงมีความขัดแย้งและผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวระหว่างหน่วยงานรัฐกับคนในพื้นที่ แต่นักท่องเที่ยวก็ยังไปเที่ยวได้ตามปกติ ชาวบ้านที่นั่นเขาก็ยังคงดำเนินชีวิตกันเป็นปกติ ต่างทำมาหากิน จับจ่ายใช้สอย ท่องเที่ยวพักผ่อนไม่ต่างจากที่ไหนในประเทศไทยเช่นกัน


จากจุดพักแรมคืนที่ผ่านมา ยังคงต้องล่องแก่งกันต่ออีกหลายกิโลเมตร สนุกสนานตื่นเต้นกันไป พ้นจากช่วงนั้นน้ำจึงเริ่มนิ่งมากขึ้น สาเหตุเพราะข้างหน้ามีเขื่อนบางลางขวางลำน้ำ เขื่อนนี้สร้างมาได้หลายสิบปีแล้ว หน้าที่หลักคือผลิตกระแสไฟฟ้าและปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์เหนือเขื่อนรองรับการท่องเที่ยวบ้าง พวกเราต้องพายจ้ำกันมากขึ้น ยิ่งพายภูมิทัศน์ยิ่งเปลี่ยน พื้นน้ำกว้างออก กลายเป็นทะเลสาบ

ในขณะที่มองเห็นภูเขาล้อมรอบในระยะห่างออกไป ความท้าทายประจำวันนี้ คือลมปะทะแรง ยิ่งบ่ายคล้อยลมยิ่งทวีความรุนแรง เหมือนต้องพายเรือทวนน้ำยังไงยังงั้น เรียกว่าหยุดพายก็เท่ากับโดนลมตีให้ถอยหลัง เป็นความทรมานบันเทิงชนิดหนึ่งของคนประเภทไม่ชอบอยู่บ้านทำงานออฟฟิศ แต่ชอบหาเรื่องทำกิจกรรมโลดโผนโจนทะยานข้างนอกเช่นนี้แล แน่นอน การอยู่กับที่กับทางสบายกายกว่าอยู่แล้ว ไม่เถียง แต่กับคนบางจำพวก สบายกายไม่ได้สอดคล้องกับสบายใจ และลำบากกายอาจจะนำพาสู่ความสบายใจและความสุขของชีวิตมากกว่า

พายกันจนย่ำค่ำจนถึงท่าเรือตาพระเยา เพื่อนบางส่วนมารับไปพักบ้านพวกเขา ต้อนรับขับสู้ด้วยสำรับกับข้าว นอกจากพิซซ่าโฮมเมดแล้ว เมนูเชื่อมสัมพันธ์พิเศษของคนที่นี่คือซุปเป็ด เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่มิตรผู้ชายทั้งหลาย เวลาจะสังสรรค์กันใครมีอะไรก็นำมาเพื่อต้มซุปด้วยกัน เครื่องปรุงหลัก ๆ ก็มีข่า กระเทียม หัวหอม มะนาว ตะไคร้ มะเขือเทศ ลักษณะคล้ายต้มยำน้ำใส รสชาติจัดจ้านคละเคล้าบทสนทนาออกรส ทำให้มื้ออาหารอร่อยมากขึ้นอีกหลายเท่า

อิ่มหมีพีมันและเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการเดินทางมาทั้งวันแล้ว ก็อาบน้ำท่าแล้วเข้านอน เพื่อเรียกเรี่ยวแรงกลับคืนมาสำหรับออกลุยล่องแม้น้ำปัตตานีกันต่อในวันรุ่งขึ้น