4 เมษายน ตรงกับเทศกาลอีสเตอร์ของชาวคริสต์ ที่เชื่อว่าเป็นวันที่พระเยซูคริสต์ ฟื้นคืนชีพจากความตาย หลังสิ้นพระชมน์จากทัณฑ์ทรมานบนไม้กางเขน จึงเป็นวันที่ชาวคริสต์ทั่วโลกจะจัดงานเฉลิมฉลอง รื่นเริง ในโบสถ์ และจะมีกิจกรรมที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลนี้
และกลุ่มผู้ประท้วงชาวพม่า ก็ไม่พลาดกับเทศกาลนี้ ด้วยการนัดกันเอาไข่ไก่มาระบายสี เขียนข้อความ และสัญลักษณ์ต่อต้านการรัฐประหาร พร้อมผูกข้อมือด้วยด้ายดิบสีขาว ออกมาชูไข่อีสเตอร์ ประท้วงรัฐบาลทหารพม่ากันอย่างคึกคัก
โดยเฉพาะในเมืองย่างกุ้ง ที่มีกิจกรรมระบายสีไข่ไก่แจกจ่ายให้แก่ผู้ประท้วง รวมกลุ่มเดินขบวนประท้วง ชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว ที่มีไข่อีสเตอร์ในอุ้งมือ และจัดพิธีจุดเทียนไว้อาลัยผู้ชุมนุมที่เสียชีวิต ในค่ำคืนที่ชาวคริสต์ทั่วโลกฉลองเทศกาลอีสเตอร์
และในทวิตเตอร์ ก็ได้เปิดแฮชแท็ก #EasterEggStrike และแชร์ภาพกิจกรรมการประท้วงด้วยไข่อีสเตอร์ให้แพร่หลาย
ทางด้าน โป๊บ ฟรานซิส แห่งวาติกัน ก็ได้ออกมาชื่นชมเยาวชน หนุ่มสาวชาวพม่าที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ในงานพิธีกล่าวประทานพรชาวคริสต์ในเทศกาลอีสเตอร์ หน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร ในนครวาติกัน และกล่าวย้ำว่า ความรักเท่านั้นที่จะขจัดความเกลียดชังของมนุษย์ได้
สำหรับพม่าจัดว่าเป็นประเทศของชาวพุทธ โดยมีชาวคาทอลิก เพียง 1% ของประชากรพม่าเท่านั้น แต่หลังจากที่เกิดการรัฐประหารในพม่าในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และเริ่มมีการปะทะกันอย่างรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิต ก็เกิดภาพข่าวที่สะเทือนใจชาวคริสต์ทั่วโลก เมื่อมีแม่ชีพม่า คุกเข่าต่อหน้ากองกำลังทหารติดอาวุธ เพื่อร้องขอชีวิตให้กับผู้ชุมนุม
และในวันอีสเตอร์ ม็อบชาวหม่อง จึงหยิบไอเดียการใช้ไข่อีสเตอร์ เขียนข้อความ ระบายสัญลักษณ์ของการประท้วง เพื่อดึงความสนใจชาวคริสต์ทั่วโลกอีกครั้ง
สำหรับไข่อีสเตอร์ ถือเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่ และการฟื้นคืนชีพ ที่ผู้ประท้วงชาวพม่าเชื่อว่า แม้พวกเขาจะถูกปราบปรามหนัก ล้มตายสักแค่ไหน แต่พวกเขาจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน
อ้างอิง:
https://www.ucanews.com/news/pope-lauds-myanmar-youths-commitment-to-democracy/91984#