สถานการณ์บ้านเมืองในพม่ายังคงดำดิ่งไร้จุดสิ้นสุด และล่าสุดมีข่าวจากทางสื่อรัสเซียว่า รัฐบาลทหารพม่า เตรียมสานพันธมิตรร่วมกับรัสเซีย ในการยกระดับการติดอาวุธกองทัพ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเจรจาเปิดดีลสั่งอาวุธจากรัสเซียมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท
รายงานข่าวนี้ สืบเนื่องจากการนัดประชุมระดับสุดยอดระหว่าง อเล็กซานเดอร์ โฟมิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย กับ นายพล มิน อ่อง ลาย ผู้นำสูงสุดของรัฐบาลทหารพม่า เมื่อวันศุกร์ที่ 26 มีนาคม และนับเป็นการเยือนพม่าอย่างเป็นทางการครั้งแรกของรัสเซีย หลังจากเกิดการรัฐประหารในพม่าตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์
มีการเปิดเผยว่า การประชุมสุดยอดระหว่างพม่า และ รัสเซีย ครั้งนี้เป็นความตั้งใจของทางรัสเซีย ที่ต้องการแสวงหาพันธมิตรในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งพม่าก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความสำคัญในในเชิงยุทธศาสตร์ในย่านเอเชียแปซิฟิค อย่างมากที่รัสเซียไม่อาจปล่อยไปได้
และทั้งพม่า และ รัสเซีย ต่างมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ผ่านข้อตกลงซื้ออาวุธเข้ามาเสริมกองทัพพม่าเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องติดต่อกันนานหลายปี และเมื่อต้นปี 2021 พม่าเพิ่งตกลงสั่งซื้ออาวุธล็อตใหญ่จากรัสเซีย รวมถึง ระบบยิงขีปนาวุธพื้นดินสู่อากาศ Pansir - S1 โดรนสอดแนม Orlan-10E ระบบเรดาร์รุ่นล่าสุด และรถคอนวอยทหารอีกจำนวนหนึ่ง
จากข้อมูลของสถาบัน Stockholm International Peace Research Institute เปิดเผยว่า กองทัพพม่าได้สั่งซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากรัสเซีย ไม่น้อยกว่า 807 ล้านเหรียญสหรัฐ (25,000 ล้านบาท) ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และมากที่สุดในบรรดาประเทศคู่ค้าอาวุธที่กองทัพพม่าได้เลยจัดซื้อ
ดังนั้นการมาเยือนของฝ่ายกลาโหมรัสเซีย ที่พม่าในครั้งนี้ จึงเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย และ กองทัพพม่ายังคงเหมือนเดิม ตราบใดที่ข้อตกลงเรื่องอาวุธยังคงอยู่
หลังการเปิดหน้าของรัสเซียในพม่าอย่างชัดเจน ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่สถานการณ์หลังจากนี้อาจเลวร้ายลงถึงขีดสุด จนหลายคนเห็นภาพสถานการณ์ในพม่า ซ้อนทับกับสงครามกลางเมืองในซีเรีย ดินแดนที่ถูกใช้เป็นสงครามตัวแทนระหว่างชาติมหาอำนาจ จนประเทศล่มสลายเหลือเพียงซากปรักหักพัง
ความสุ่มเสี่ยงที่พม่าจะกลายเป็นซีเรียแห่งอาเซียน เป็นการคาดการณ์ในระดับที่เลวร้ายที่สุดที่ไม่มีใครอยากให้เกิด เพราะไม่เป็นผลดีต่อเสถียรภาพของอาเซียนทั้งภูมิภาค โดยเฉพาะผลกระทบกับไทย ที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุดของพม่า จึงเริ่มมีการคุยกันระหว่างชาติในอาเซียนแล้วว่า คงหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วที่จะต้องมีการแทรกแซงจากต่างประเทศ หากจำเป็น ซึ่งจะดีกว่าหากสามารถเจรจากันได้ในระดับอาเซียน
เพราะหากต้องถึงมือชาติมหาอำนาจตะวันตก ที่อาจไม่เข้าใจในปัญหา และสังคมพื้นถิ่นของชาวพม่าที่แท้จริง หรือเข้ามาเพื่อผลประโยชน์แอบแฝง ฉากจบคงไม่สวยงามดังในหนังฮอลลีวูดอย่างที่หลายคนคาดหวังไว้ก็เป็นได้
.
อ้างอิง:
สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ