‘หมอเหรียญทอง’ โพสต์ประจาน สปสช. เบี้ยวหนี้ผู้ป่วยคลินิกคู่สัญญาอ่วม 13 ล้าน ซ้ำร้ายเจอสรรพากรคิดภาษีตรงนี้อีก 2 ล้าน รวมความเสียหายมูลค่ากว่า 15 ล้าน ลั่นจากนับจากวันที่ 1 ต.ค. 64 ยกเลิกรับผู้ป่วยส่งต่อจากคลินิกแล้ว

วันที่ 25 มีนาคม 2564 นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เหรียญทอง แน่นหนา โดยระบุว่า

ประจาน

ตั้งแต่ 1 ต.ค.64 เป็นต้นไป รพ.มงกฎวัฒนะ ไม่รับส่งต่อผู้ป่วยจากคลินิกคู่สัญญาสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) เพราะสาเหตุ สปสช.เบี้ยวหนี้ครับ...

เบี้ยวหนี้อย่างไร ผมสรุปให้เข้าใจกันง่ายๆว่า เมื่อเดือนก.ค.-ก.ย.63 สปสช.ยกเลิกคลินิกคู่สัญญา เพราะมีการทุจริตกัน แล้วสปสช.ก็ให้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองจำนวนมากจากคลินิกที่สปสช. เลิกสัญญามารับการรักษาที่ รพ.มงกฎวัฒนะโดยตรง โดยสปสช.จะทำหน้าที่เคลียร์ค่าใช้จ่ายแก่รพ.มงกุฎวัฒนะ...

แต่พอถึงเดือน ต.ค.63 สปสช. ก็เป็นซามูไรชักดาบเบี้ยวหนี้หน้าตาเฉย โดยแจ้งให้รพ.มงกุฎวัฒนะ ทราบว่าไม่มีเงินเคลียร์ให้รพ.มงกุฎวัฒนะ...

ค่ารักษาพยาบาลจำนวนมากเป็นเงิน 13,207,774.42 บาท ที่สปสช.เบี้ยวหนี้นั้น รพ.มงกุฎวัฒนะได้รับรู้เป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลแก่สรรพากรที่จะถึงในปีนี้ในอัตรา 20% คิดเป็นเงินมากกว่า 2,600,000 บาทครับ...

หมายความว่า นอกจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ จะไม่ได้เงินจากการรักษาผู้ป่วยของคลินิกคู่สัญญาสปสช. ที่ทุจริตจำนวนมากกว่า 13.2 ล้านบาทจากสปสช.แล้ว รพ.มงกุฎวัฒนะ ยังจะต้องเสียภาษีให้สรรพากรอีกกว่า 2.6 ล้านบาทครับ...

เบ็ดเสร็จ รพ.มงกุฎวัฒนะ เสียหายมากกว่า 15.8 ล้านบาทครับ

สปสช. มันซี้ซั๊วอย่างนี้ รพ.มงกุฎวัฒนะจะไปรับส่งต่อผู้ป่วยจากคลินิกคู่สัญญาสปสช.ได้อย่างไรกันล่ะครับ...

แถมคลินิกทั้งหลายมันก็ ‘เหล้าเก่าในขวดใหม่’ ทั้งนั้น (ไม่เชื่อตรวจสอบดูก็ได้ครับ)...นี่หรือธรรมาภิบาล


ที่มา : https://www.facebook.com/100000491468200/posts/5952669601426030/?_rdc=1&_rdr