ไม่มีไม่ใช่หว่อง...5 เอกลักษณ์หนังแบบฉบับหว่องกาไว

จะบอกว่าช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาล ‘หนังหว่อง’ ก็ไม่ผิดนัก เรากำลังพูดถึง หว่อง กาไว ผู้กำกับชาวเอเชียที่ประสบความสำเร็จระดับโลก ซึ่งถ้าเป็นนักดูหนังสายแข็ง หรือนักศึกษาที่เรียนด้านภาพยนตร์ ชื่อผู้กำกับคนนี้ถือว่าขึ้นหิ้งในระดับยอดเซียน 

 

ด้วยสไตล์หนังที่มีแนวของตัวเองชัดเจน จึงเป็นที่มาของวลีคลาสสิก นั่นคือ “กระทำความหว่อง” วลีนี้ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ แต่เกิดจากสิ่งที่ผู้กำกับฯ ชาวฮ่องกงคนนี้ ถ่ายทอดเทคนิคและมุมมองการเล่าเรื่องออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของภาพยนตร์สไตล์หว่อง ซึ่งแฟนๆ มักให้คำนิยามว่า “รู้สึกเหงาเงียบงันราวกับปลูกป่าช้าไว้ในใจ”

 

ศิลปะแห่งความเดียวดายและบรรยากาศชวนหลงใหลที่ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ของหว่อง กาไว ยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ดึงดูดให้นักดูหนังรุ่นใหม่ๆ ให้เข้าไปสัมผัสโลกของหว่องอยู่เสมอ ล่าสุดโรงภาพยนตร์เมืองไทยได้มีการนำภาพยนตร์ระดับขึ้นหิ้งของผู้กำกับคนนี้มาจัดฉายไปจนปลายปี The States Times Lite จึงขอยกเอา 5 เอกลักษณ์ในภาพยนตร์ของหว่องกาไวที่ครองใจแฟนๆ มานานกว่า 2 ทศวรรษ มาบอกเล่า ถือว่าเป็นออเดิร์ฟก่อนไปดูหนังของเขากัน...

 

1) มีความวุ่นวายของฮ่องกงเป็นฉากหลัง

หว่องมักเลือกใช้ฮ่องกงในยุค ‘60s เป็นฉากหลัง เนื่องจากเป็นช่วงวัยเด็กที่เขาใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางห้วงเวลาสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะนับตั้งแต่เหมาเจ๋อตงได้เปลี่ยนการปกครองของจีนเข้าสู่ระบอบสังคมนิยม ส่งผลให้ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่มาอาศัยอยู่ในฮ่องกงยังคงผูกพันกับบ้านเกิดเมืองนอน พวกเขาสร้างชุมชนของตนเองที่พูดภาษาถิ่น มีวัฒนธรรม พิธีกรรม มีการดูหนังฟังเพลงที่แตกต่างจากชาวฮ่องกง ซึ่งหว่องเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบนั้น ซึ่งความทรงจำมีผลให้เขาอยากทำหนังที่เต็มไปด้วยบรรยากาศและห่วงอารมณ์แห่งการระลึกถึงบางสิ่งบางอย่าง  

 

2) ว่าด้วยเรื่องความเหงาและสัมพันธภาพที่ไม่มั่นคง

“แม้เวลาจะเยียวยาหลายสิ่งหลายอย่างได้ แต่หัวใจที่แตกสลายก็เป็นข้อยกเว้น” ประโยคเด็ดของหว่องที่แฟนหนังรู้จักกันดี เชื่อมโยงกับลักษณะการเล่าเรื่องราวของความรักความสัมพันธ์ที่ไม่สมหวัง การเก็บซ่อนความรู้สึก นำไปสู่อารมณ์เหงาเดียวดายที่แฟนๆ เรียกกันว่า “กระทำความหว่อง” แน่นอนว่าเป็นความรู้สึกสากลที่มนุษย์เชื่อมโยงเข้ากับความรู้สึกของตนเองได้ แต่เรื่องธรรมดาเช่นนี้เมื่อไปปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ของหว่อง เขากลับถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ น่าค้นหา เป็นเรื่องเล่าที่มีทั้งความบันเทิงและความงดงามทางศิลปะ โดยเฉพาะฉากควันบุหรี่และแสงสลัวที่สื่อถึงความไม่ชัดเจนและความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคงของแต่ละตัวละคร

 

3) ตัวละครมีความทรงจำที่เชื่อมเข้าหากัน

ปกติภาพยนตร์ทั่วไปจะมีการแนะนำตัวละครเมื่อเริ่มเรื่อง แต่สำหรับผลงานสไตล์หว่อง ตัวละครส่วนใหญ่มักไม่มีที่มาที่ไป ดำเนินเรื่องด้วยการกระทำและบทสนทนาเลย ไม่ตัดสินว่าตัวละครใดคือตัวดี-ตัวร้าย มีความเป็นสีเทา มีความเป็นมนุษย์สูงมาก ผู้ชมจะได้รู้จักพื้นเพตัวละครจากการฟังบทสนทนาและติดตามดูการกระทำ ซึ่งแต่ละตัวละครมักจะมีปมบางอย่างซ่อนอยู่ มักเป็นเรื่องราวทางครอบครัว โดยมีค่านิยมบางอย่างของสังคมเป็นกรอบกำกับตัวละครไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ จารีต อาชีพ วัฒนธรรม ฯลฯ แต่เมื่อเรื่องดำเนินมาถึงจุดหนึ่งผู้ชมจะพาว่าเรื่องราวของตัวละครมักเชื่อมเข้าหากันอย่างกลมกลืน

 

4) เหลียง เฉาเหว่ย นักแสดงขาประจำ

นักแสดงนำชายชาวฮ่องกงที่แจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่อง Days of Being Wild ของหว่องในปี 1991 นับตั้งแต่นั้นเขากลายเป็นชื่อนักแสดงขาประจำที่ต้องคู่กับภาพยนตร์ของผู้กำกับฯ คนนี้ สำหรับเรื่องที่สร้างชื่อเสียงที่สุดคือ In The Mood For Love ที่ทำให้เขาเป็นชาวฮ่องกงคนแรกที่ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ สำหรับภาพยนตร์ของหว่องที่เหลียง เฉาเหว่ย ร่วมแสดงและโด่งดังเป็นที่รู้จักมีดังนี้ Days Of Being Wild, Chungking Express, Happy Together, In The Mood For Love และ 2046

 

5) คริสโตเฟอร์ ดอยล์ ช่างภาพคู่บุญ

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังภาพสวยๆ บรรยากาศเหงาๆ ก็คือ ‘คริสโตเฟอร์ ดอยล์’ เรียกได้ว่าเป็นผู้กำกับฯ ภาพคู่บุญที่หว่องไว้วางใจ ให้อิสระเต็มที่ในการควบคุมโทนภาพของภาพยนตร์แทบทุกเรื่อง จนหว่องเคยให้สัมภาษณ์ว่าเอกลักษณ์นี้ได้กลายเป็นเครื่องหมายการค้าไปแล้ว แต่อาจจะมีบางครั้งที่คิวของคริสโตเฟอร์ ดอยล์ ไม่ว่าง หว่องก็ได้หันไปใช้บริการตากล้องคนใหม่อย่าง หลี่ผิงปิง ซึ่งทำให้ภาพที่ออกมามีเนื้อหาอารมณ์ของภาพยนตร์ที่นำเสนอให้เห็นมุมมองใหม่ๆ แต่ยังไม่ทิ้งลายเซ็นเดิมไปเสียทีเดียว

 

หมายเหตุ: มงคลซีนีม่าจัดเทศกาล The World of Wong kar-Wai’s Retrospective นำภาพยนตร์เรื่องดังมาจัดฉายใหม่ในฉบับรีมาสเตอร์ 4K เริ่มมาตั้งแต่ 29 ตุลาคม จนถึงธันวาคมเดือนหน้า โดยเลือกเฟ้น 5 ภาพยนตร์ของผู้กำกับระดับตำนานมาฉายในโรงภาพยนตร์ House Samyan รวมถึงเครือ SF Cinema และ Major Cineplex มีกำหนดฉายดังนี้

 

IN THE MOOD FOR LOVE

กำหนดฉาย 29 ตุลาคม 2563

HAPPY TOGETHER

กำหนดฉาย 12 พฤศจิกายน 2563

FALLEN ANGELS

กำหนดฉาย 26 พฤศจิกายน 2563

2046

กำหนดฉาย 10 ธันวาคม 2563

CHUNGKING EXPRESS

กำหนดฉาย 24 ธันวาคม 2563