Wednesday, 8 May 2024
เซาท์ไทม์

‘บิ๊กป้อม’ บินด่วน!! ลุยน้ำท่วมนราธิวาส พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ - ประชาชน 3 จังหวัดชายแดนใต้

ณ ศาลากลาง จ.นราธิวาส พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.นราธิวาส พร้อมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ โดยมี นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวต้อนรับ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รายงานสถานการณ์น้ำและการคาดการณ์ในพื้นที่ภาคใต้

โดยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ ได้รายงานการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ ส่วนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รายงานการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ ขณะที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้รายงานสรุปแผนการดำเนินการโครงการพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำโก-ลก และกรมชลประทาน ได้รายงานสรุปแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ แผนการระบายน้ำและโครงการซ่อมแซมและก่อสร้างพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำโก-ลก บริเวณตำบลมูโนะ รวมถึงผู้ว่าราชการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จ.นราธิวาส, ยะลา และปัตตานี รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่และการช่วยเหลือ และรับมอบถุงยังชีพจากรองนายกรัฐมนตรี เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนผู้ประสบภัยในแต่ละพื้นที่ต่อไป

ทั้งนี้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายแก่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องพร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ในการช่วยเหลือประชาชนและเร่งลดผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย โดยได้สั่งการให้กรมชลประทาน วางแผนการบริหารจัดการน้ำร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อเร่งระบายน้ำให้คลี่คลายโดยเร็ว พร้อมทั้งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) บูรณาการสำรวจและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย รวมถึงมอบหมายให้กรมชลประทาน กรมโยธาธิการและผังเมือง เร่งรัดและวางแผนการก่อสร้างพนังกั้นน้ำในจุดเสี่ยงอุทกภัยทั้ง 3 จังหวัด ให้สามารถป้องกันอุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมอบหมายให้ สทนช. และ ศอ.บต. ประสานและบูรณาการ แก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง ให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปีที่วางไว้ โดยให้ จังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างการรับรู้ เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีความเข้าใจและยอมรับในการดำเนินการก่อสร้างโครงการต่างๆ ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม

จากนั้นในช่วงบ่าย รองนายกฯ พร้อมคณะได้เดินทางต่อไปยังห้องประชุมเทศบาลสวนรื่นอรุณ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อพบปะให้กำลังใจประชาชน พร้อมแจกถุงยังชีพให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ ต.มูโนะ พร้อมเน้นย้ำว่ารัฐบาลจะเร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างสุดกำลัง และกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปรับปรุงพนังกั้นน้ำมูโนะในส่วนที่ชำรุดและเสริมความมั่นคง แข็งแรงของพนังกั้นน้ำมูโนะ เพื่อป้องกันอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ได้แก่ กรมโยธาธิการและผังเมือง, กรมชลประทาน เร่งรัดดำเนินการสำรวจ ออกแบบ และก่อสร้างระบบพนังกั้นน้ำที่ยังไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนงานจังหวัดนราธิวาส ประสานและสร้างการรับรู้ให้ภาคประชาชนในการก่อสร้างพนังกั้นน้ำในเเนวเขตแม่น้ำโก-ลก ให้สามารถก่อสร้างได้ตามแผนงาน และมอบหมายให้ สทนช.กำกับติดตามเร่งรัดกับหน่วยงานให้การก่อสร้างพนังกั้นน้ำที่ชำรุด เสียหายแล้วเสร็จตามแผนงาน เพื่อสามารถป้องกันอุทกภัยหากเกิดขึ้นในปีหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส เร่งช่วยเหลือ “เปิดครัว” ช่วยผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่

นราธิวาส-จากสถานการณ์คลื่นลมแรง และฝนตกหนัก เมื่อวันที่ 24 – 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทำให้ในหลายพื้นที่จังหวัดนราธิวาส มีน้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนในหลายอำเภอของ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งได้ส่งผลกระทบให้ประชาชน ได้รับความเดือดร้อนและเสียชีวิต ตลอดจนบ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอสุไหงปาดีอำเภอระแงะ อำเภอสุคิริน อำเภอสุไหงโก-ลก

มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จึงได้เตรียมความพร้อมในการสนับสนุนศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยได้ดำเนินการเปิดครัวมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ประกอบอาหาร ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในที่พื้นอย่างเร่งด่วน ซึ่งภารกิจครั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้จัดทำอาหารกล่องเพื่อแจกจ่ายวันละ 500 กล่อง พร้อมทั้งจัดคาราวานนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค อาหาร น้ำดื่มราชนครินทร์ จึงได้เตรียมความพร้อมในการสนับสนุนศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยได้ดำเนินการเปิดครัวมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ประกอบอาหาร ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในที่พื้นอย่างเร่งด่วน ซึ่งภารกิจครั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้จัดทำอาหารกล่องเพื่อแจกจ่ายวันละ 500 กล่อง พร้อมทั้งจัดคาราวานนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค อาหาร น้ำดื่ม ออกช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครั้งนี้ โดยมุ่งช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนพร้อมทั้งให้กำลังใจแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสอีกด้วย

ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จงรัก พลาศัย นายกสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ครั้งนี้ถือว่าสร้างความเสียหายแก่พี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่เป็นอย่างมาก มีผู้ประสบภัยและเดือดร้อนหลายครัวเรือน ในฐานะมหาวิทยาลัยแห่งความเดือดร้อนพร้อมทั้งให้กำลังใจแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสอีกด้วย

‘ผกก.สภ.เมืองนราฯ’ นำเจ้าหน้าที่ รุดเยี่ยมช่วยเหลือเร่งด่วน ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

นราธิวาส-...เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ข้าราชการตำรวจจิตอาสาหลายนาย รุดลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อเข้าไปเยี่ยมเยียน และช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชนใน หมู่ 1 หมู่ 10 และหมู่ 11 .ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังอย่างหนักหลายพันครัวเรือน

ร่วมกันจัดกิจกรรมจิตอาสาภัยพิบัติ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ได้นำถุงยังชีพมอบให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ดังกล่าว มอบข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม และขนมปัง จำนวน 80 ชุด เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และบรรเทาทุกข์เบื้องต้น

‘มรภ.สฎ – มรภ.ภูเก็ต’ จับมือพัฒนานวัตกรรมสปาและการท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ ดันอัตลักษณ์อันดามัน – อ่าวไทย ยกระดับ ECO SPA สู่สากล

มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต (มรภ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาการวิจัยและนวัตกรรมสปาและการท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ นำองค์ความรู้บูรณาการศาสตร์สุขภาพควบคู่สิ่งแวดล้อม ดึงวัฒนธรรมพื้นถิ่นชาวเกาะอันดามัน-อ่าวไทย ยกระดับอัตลักษณ์ภาคใต้สู่สากล โดยมี ผศ.ดร.วัฒนา รัตนพรหม รักษาราชการแทนอธิการบดี และ ดร.นรา พงษ์พานิช ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มรส. เป็นผู้ร่วมลงนามความร่วมมือกับ ผศ.ดร.หิรัญ ประสารการ อธิการบดี พร้อมด้วย ผศ.ดร.ดวงรัตน์ โกยกิจเจริญ รองอธิการบดีฝ่ายแผนและการวิจัย มรภ. และ ดร.พุทธพร บุญณะ ประธานกรรมการศูนย์นวัตกรรมสปาและการท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 ณ ห้องราชพฤกษ์ 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี

ผศ.ดร.วัฒนา รัตนพรหม รักษาราชการแทนอธิการบดี มรส. กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือการพัฒนาการวิจัยและนวัตกรรมสปาและการท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ เพื่อส่งเสริมการสร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรม การพัฒนาองค์ความรู้ และผลักดันการใช้ประโยชน์ในการเพิ่มขีดความสามารถด้านสปาและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเกาะสมุย ซึ่งมีลักษณะทางกายภาพและทรัพยากรที่มีความคล้ายคลึงกับเกาะภูเก็ต จึงร่วมกันนำองค์ความรู้มาบูรณาการศาสตร์ด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาพัฒนา ส่งเสริม และถ่ายทอดสู่ผู้เรียนหรือประชาชนในท้องถิ่น ผลักดันให้เกิดการมีส่วนร่วมโดยนำเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ทรัพยากรในท้องถิ่น ที่ก่อให้เกิดการกระจายรายได้ และส่งเสริมการสร้างภาพลักษณ์ธุรกิจสปาเพื่อสุขภาพในพื้นที่ภาคใต้ให้มีความสำคัญกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม

ตำรวจท่องเที่ยว ‘เกาะพะงัน’ ช่วยนักท่องเที่ยวชาวเยอรมนี 5 คน หลังหลงป่าอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ

(1 มี..65) สายตรวจ TPB (เกาะพะงัน)ได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติธารเสด็จเกาะพะงัน ประสานมายังเจ้าหน้าที่สายตรวจตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน ว่ามีนักท่องเที่ยวชาวเยอรมนี จำนวน 5 คน หลงป่า ทราบชื่อ 1. Mr.Meinhardt Tom Yannickอายุ 26 ปี สัญชาติ เยอรมนี 2. Mrs.Konig Laura Louiseอายุ 24 ปี สัญชาติ เยอรมนี 3. Mrs.Sapani Vivien Deniece อายุ 25 ปี สัญชาติ เยอรมนี / 4. Mrs.Scheub Lena สัญชาติ เยอรมนี และ 5. Mrs.Fuchs Tani Katharina สัญชาติ เยอรมนี ซึ่งทั้งหมดเดินหลงป่าอยู่บนเขาหรา

หลังจากได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่สายตรวจตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ โดยมี พล...กฤษณ์ วาฤทธิ์ ผบก.ทท.3, ...เอกกฤต วิริยะภาพ รอง ผบก.ทท.3, ...พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.2 บก.ทท.3 จากนั้นผู้บังคับบัญชา ได้สั่งการให้ พ...อธิวัฒน์ มารุดเกล้า สว..ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 ได้มอบหมาย สั่งการให้ ด..สายัณห์ สุทธิมาศ หัวหน้าชุด ตำรวจท่องเที่ยวประจำเกาะพะงัน เพื่อจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และเตรียมอุปกรณ์ ทำการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเกาะพะงัน, ร่วมบูรณาการทำงานร่วมกันวางแผนการเดินทางขึ้นไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยว

จากนั้นได้เดินทางไปยังทางขึ้นจุดชมวิวเขาหรา บ้านมะเดื่อหวาน ม.3 .เกาะพะงัน และเริ่มต้นเดินทางขึ้นเขาหราไปค้นหานักท่องเที่ยวตามโลเคชั่นที่นักท่องเที่ยวส่งมา ในขณะเดินค้นหาอยู่ในป่าเจ้าหน้าที่ได้ร้องตะโกนเรียกนักทั้งเที่ยวทั้ง 5 คนในป่า จนได้ยินเสียงนักท่องเที่ยวทั้ง 5 คน ตะโกนกลับมาและเดินทางไปตามเสียงของนักท่องเที่ยวใช้เวลาค้นหาอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง จนพบตัวนักท่องเที่ยวทั้ง 5 คน ติดอยู่ตรงทางใกล้ธารน้ำตก ทั้ง 5 คนปลอดภัย

'บิณฑ์์'​ นำเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูลุยน้ำแจกถุงยังชีพและเงินซับน้ำตาชาวมูโนะ

สำหรับความช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยอยู่ที่ตลาดมูโนะ ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งเผชิญกับสภาวะน้ำท่วมขังในขณะนี้มีอยู่อย่างต่อเนื่องนั้น​ ล่าสุด นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ หรือ ท็อป นักสังคมสงเคราะห์และดาราภาพยนตร์ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู จำนวนกว่า 50 ชีวิต นำถุงยังชีพข้าวสารอาหารแห้ง ข้าวกล่อง และน้ำดื่ม จำนวน 1,000 ชุด ลงเรือยนต์จำนวน 3 ลำ นั่งเรือและเดินลุยน้ำที่มีความสูงเกือบ 1 เมตร ตระเวนแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตลาดมูโนะ

พร้อมทั้งได้มีการมอบเงินจากมูลนิธิร่วมกตัญญูครอบครัวละ 500 บาท เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมทั้งได้มีการพูดคุยสอบถามถึงความเป็นอยู่หลังเกิดสภาวะน้ำท่วมขัง ที่ไม่เคยปรากฏการณ์หนักขนาดนี้มาก่อน

ปัตตานี - "นิพนธ์" รุดลงปัตตานี นำความห่วงใยรัฐบาล เร่งช่วยเหลือ ปชช. ประสบอุทกภัยในพื้นที่ สั่งระดมทุกหน่วยผนึกกำลัง พร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด!!

วันนี้ 28 กุมภาพันธ์ 2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังผู้ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี และอ.แม่ลาน จ.ปัตตานี พร้อมมอบถุงยังชีพและสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น บรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบภัย บริเวณ 2 จุด จำนวนกว่า 500 ชุด โดยมีนายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้นำท้องที่ ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย

ภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.ปัตตานี ได้รับผลกระทบจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงใกล้เกาะบอร์เนียว เคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง ทำให้พื้นที่จังหวัดปัตตานีมีฝนตกหนักสะสม ตั้งแต่ช่วงวันที่ 23 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา 

จนกระทั่งวานนี้ (วันที่ 27 ก.พ. 65) หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณช่องแคบมะละกา ก็ยังคงเคลื่อนตัวทางตะวันตกเข้าปกคลุมเกาะสุมาตราตอนบน ในขณะที่ลมตะวันออกกำลังแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง จนเกิดฝนตกหนักสะสมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 6 อำเภอ 27 ตำบล 81 หมู่บ้าน 3 ชุมชน1,730 ครัวเรือน 5,598 คน ในส่วนของอำเภอเมืองปัตตานี ได้รับผลกระทบ จำนวน 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน 2 ชุมชน 162 ครัวเรือน 810 คน และอำเภอแม่ลาน ได้รับผลกระทบ จำนวน 3 ตำบล 10 หมู่บ้าน 219 ครัวเรือน 913 คน ส่วนผลกระทบด้านอื่นๆ อาทิ ด้านการเกษตรมีพื้นที่เสียหาย จำนวน 3,167 ไร่ ด้านประมงและปศุสัตว์ มีความเสียหายเล็กน้อยนอกจากนี้ในส่วนของสิ่งสาธารณูปโภค ถนนได้รับความเสียหาย 5 สาย และมัสยิด 1 แห่ง ทั้งนี้ อปท. ในพื้นที่ ได้ให้ความช่วยเหลือโดยการแจกถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นแล้ว

นายนิพนธ์ กล่าวว่า สภาพภูมิอากาศในปีนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เกิดฝนนอกฤดูกาลอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมจำนวนมาก ตนมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้ติดตาม/ประเมินสถานการณ์ พร้อมแจ้งเตือน/สร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารไปสู่พี่น้องประชาชนผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด ปัจจุบัน กรมอุตุมนิยมวิทยา กับ ปภ. ได้ทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น การคาดการณ์สถานการณ์ต่างๆ ของกรมอุตุนิยมวิทยามีความแม่นยำ ทำให้มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าและรับมือกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยเองก็ได้ติดตามและเน้นย้ำแนวทางในการปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัยและวาตภัย เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์ บูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และมีการสั่งเตรียมความพร้อมในพื้นที่มาโดยตลอดตั้งแต่ระดับจังหวัดลงไปจนถึง อปท. ซึ่งได้ประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงทีทั้งเรื่องของบุคลากร ลงไปจนถึงอุปกรณ์เครื่องจักรกลต่าง ๆ อาทิ เรือท้องแบน รถราต่าง ๆ ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เบื้องต้น อปท. ในพื้นที่ กับ ปภ. ได้ดำเนินการตามแผนอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัย และดูแลเรื่องอาหารการกินต่าง ๆ อย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นายนิพนธ์ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับแนวโน้มคาดการณ์ว่า จ.ปัตตานี สถานการณ์ในวันนี้ได้คลี่คลายลงแล้ว จนเกือบจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนปริมาณน้ำฝนที่ยังคั่งค้างอยู่ตามแนวเทือกเขาต่างๆ นั้น ก็จะไหลลงแม่น้ำหลัก อยากจะฝากไปถึงพี่น้องประชาชนให้ติดตามสถานการณ์และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และฝากเตือนถึงเรื่องการสัญจรไปมา ให้ใช้ความระมัดระวังมากขึ้น งดลงเล่นน้ำ เพราะหากมีเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากเกิดขึ้นอีก อาจได้รับอันตรายจนถึงชีวิตได้ ซึ่งหลังจากนี้ หากสถานการณ์ทุกอย่างได้คลี่คลายลงแล้ว ตนก็สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้สำรวจ ตรวจตราความปลอดภัยของบ้านเรือน และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน เพื่อบรรเทาความวิตกกังวล พร้อมสั่งดำเนินการสำรวจและประเมินความเสียหายอย่างเร่งด่วน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ตามระเบียบของทางทางราชการกันต่อไปราชการ และนอกจากนี้ ตนยังมีความห่วงใยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ยังคงมีการระบาด และมีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนทุกคนให้ปฏิบัติตนตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เราทุกคนผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน

นราธิวาส - ทหารพราน 45 นำกำลังพลลุยน้ำ! แจกจ่ายอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ อ.ระแงะ ขณะที่ภาพรวมมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 7 ตำบล 59 หมู่บ้าน

พันเอก ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพลและผู้แทนอำเภอระแงะ ที่ร่วมกันประกอบอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน ที่วัดชัยรัตนาราม หรือวัดบ้านไท อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส  เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการดำรงชีวิตเบื้องต้น หลังประสบอุทกภัยน้ำเข้าท่วมบ้านเรือน ประชาชนได้รับความยากลำบากอยู่ในขณะนี้ โดยเมนูเป็นข้าวผัดพริกแกงไก่ ไข่ดาว จำนวน 1,000 กล่อง ทั้งไข่เป็ดและไข่ไก่ ส่วนหนึ่งเป็นวัตถุดิบที่ได้มาจากโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ ภายในบริเวณหน่วยฯ พร้อมน้ำดื่มของหน่วยฯ ที่ผลิตเอง

จากนั้น พันเอก ทวีรัตน์  เบญจาทิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 พร้อมด้วยนายกิตติพงษ์  อำพันธ์ นายอำเภอระแงะ พันตำรวจเอก ปิยภัทร  ทองพันเลิศกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรระแงะ และผู้เกี่ยวข้อง ได้เดินลุยน้ำในพื้นที่บ้านปลักเข้ บ้านไท ตำบลตันหยงมัส  นำข้าวกล่องไปแจกจ่ายให้กับประชาชนถึงบ้าน โดยภาพพื้นที่บ้านไท รวมระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 50-60 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ 

 

สตูล - จัดโครงการปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง’ เนื่องในโอกาสมหา มงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงกาคม 2565

วันนี้ 28 ก.พ. 2565 ที่ชุมชนบ้านหัวทาง หมู่ที่ 3 ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนารถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหา มงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565” 

โดยมีนาวาตรีหญิงโนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูลโดยนายถาวรศักดิ์ รัตนชูศรี สหกรณ์จังหวัดสตูลกล่าวรายงาน พร้อมทั้งมีหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และผู้นำในท้องถิ่น ร่วมกิจกรรม ต้นไม้ที่ปลูกมีต้นโกงกางจำนวน 900 ต้น บนพื้นที่บ่อกุ้งร้างเพื่อคืนสภาพป่าให้กับธรรมชาติ ยังมีการปล่อยกุ้งกุลาดำ 200,000 ตัว ให้น้ำมีชีวิตให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีอาหาร โดยได้รับความอนุเคราะห์จากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลสตูล   

สืบเนื่องจากในปีนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จะทรงมายุครบ 90 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 และด้วยปณิธานของพระองค์ที่ว่า “ในหลวงเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า” 

นราธิวาส - ‘จิตอาสาพระราชทาน’ กว่า 200 คน พร้อมใจกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ พัฒนาภูมิทัศน์ โดยรอบบริเวณน้ำตกฉัตรวาริน อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี สถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดนราธิวาส!!

นายอนิรุทร บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงปาดี  เป็นประธานเปิดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์จิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ "เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" กิจกรรมพัฒนาภูมิทัศน์ ทำความสะอาดโดยรอบบริเวณน้ำตกฉัตรวาริน อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี หมู่ 5 บ.โผลง ตำบลโตะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี  จังหวัดนราธิวาส โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนคณะเจ้าหน้าที่ และคณะจิตอาสาพระราชทาน ในพื้นที่อำเภอสุไหงปาดี  ร่วมกิจกรรมกว่า 200 คน

นายอนิรุทร บัวอ่อนนายอำเภอสุไหงปาดีกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโครงการจิตอาสาพระราชทาน ขึ้นเพื่อเป็นการรวมความสมัครสมานสามัคคีของคนไทยทุกคน ในการทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อพัฒนาพื้นที่ในชุมชนต่าง ๆ ให้มีความเจริญ เกิดประโยชน์ต่อชุมชนอย่างถาวร และเพื่อเป็นการพัฒนาท้องถิ่นของแต่ละชุมชนให้มีคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

เนื่องในวันสำคัญของชาติ ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยอำเภอสุไหงปาดีได้กำหนดจัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์จิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ "เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" ในวันนี้ขึ้น เพื่อเป็นการรวมพลังความสามัคคีของคนอำเภอสุไหงปาดี


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top