Thursday, 9 May 2024
INFO & TOON

10 เมืองแห่งโอกาสในประเทศจีน เหมาะสำหรับศึกษาเรียนรู้-ใช้ชีวิต

การไปเรียนต่อต่างประเทศ อาจจะเป็นฝันของเด็กไทยจำนวนไม่น้อย และประเทศที่เป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ ก็คือ ‘ประเทศจีน’ ด้วยเหตุผลหลายปัจจัย เช่น ชื่นชอบวัฒนธรรม ประเพณี ภาษา ค่าใช้จ่ายอยู่ในระดับที่เอื้อมถึง มีการสอบชิงทุน หรือแม้แต่ได้เรียนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง 

วันนี้จะพามาดู 10 เมืองแห่งโอกาสในประเทศจีน ที่เหมาะสำหรับการศึกษาเรียนรู้ และใช้ชีวิต หากใครมีแผนไปเรียนต่อที่จีน แต่ยังไม่รู้จะไปที่เมืองไหนดี ก็ลองมาเลือกดูกันได้นะ

States TOON EP.155

ท่านเป่า!!

***สงวนลิขสิทธิ์ภาพดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียนแบบ ดัดแปลง หรือนำส่วนใดส่วนหนึ่งไปใช้ แต่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่ต่อได้ ตามต้นฉบับนี้ โดยไม่ต้องขออนุญาต 

พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เจ้าของฉายา มือปราบขุนดง และมือปราบศยามล ได้แชร์ทริกสำคัญของ ‘ชีวิตคู่’ ต้องยึดหลักดังนี้!!

>> ฝ่ายหญิง ‘5 ย.’
1. ยิ้มแย้ม = จะโกรธยังไงก็ยิ้มแย้มไว้ก่อน
2. หยิบยื่น = ต้องรู้จักหยิบยื่นแก่ครอบครัวและคนรอบข้างอีกฝ่าย
3. ยกย่อง = ยกย่องคู่ชีวิต ประเสริฐสุุด หล่อสุด ไม่มีใครหล่อเท่าได้
4. ยินยอม = ต้องรู้จักยินยอม
5. อย่าเยอะ = ทะเลาะกัน ขุ่นข้องหมองใจกัน ตื่นเช้ามาต้องจบ ห้ามรื้อฟื้นคดีความคืนนั้น

>> ฝ่ายชาย ‘4 น.’
1. นิ่ง = ฝ่ายหญิงจะพูดจะถามอะไร ควรนิ่งอย่างเดียว
2. หนี = ถ้าเรื่องไม่จบ อย่าออกนอกบ้าน
3. นอน = แกล้งนอนหลับ 
4. นาบ = (ตามนั้น)

10 จังหวัดในไทย 'พี่จอง-คัลแลน' เคยเยือน ทำคนไทยอยากไปท่องเที่ยว 'ตามรอย'

เชื่อว่านาทีนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘พี่จองและคัลแลน’ 🧏🧏‍♂️🇰🇷 2 หนุ่มชาวเกาหลีใต้ที่ถ่ายวิดีโอเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยตลอดทริปจะพูดภาษาไทย กินอาหารไทย และสนุกไปกับสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทย จนมีแฮชแท็ก #พี่จองคัลแลน ติดเทรนด์บน X อยู่บ่อยๆ 

โดยก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่า ทั้ง 2 หนุ่มพร้อมเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้อุทยานแห่งชาติแบบไม่รับค่าตัว เพียงขอแค่ ‘อย่าบังคับ’ และขอทำคลิปอย่างอิสระเหมือนเดิม และนอกจากนี้ เหล่าแฟนๆ ที่ติดตามพี่จองและคัลแลน ยังได้แห่ซื้อพาสปอร์ตอุทยานฯ จนหมดเกลี้ยง เร่งพิมพ์แทบไม่ทันกันเลยทีเดียว!!

วันนี้ THE STATES TIMES ขอพามาดู 10 จังหวัดในไทยที่ ‘พี่จอง-คัลแลน’ เคยไปเช็กอิน มีจังหวัดไหนบ้างมาดูกันเลย ✨🇹🇭

1.บึงกาฬ 
EP.1 https://youtu.be/zwUT0Pmm1EY
EP.2 https://youtu.be/5B_P_HwusP4
EP.3 https://youtu.be/ICAO1OFwE7c
EP.4 https://youtu.be/02exG8eJ4Qs

2.เลย 
EP.1 https://youtu.be/kRmqqUqDYOk
EP.2 https://youtu.be/qrUUWQBctH0
EP.3 https://youtu.be/WZxZMPjAoUo

3.ภูเก็ต
EP.1 https://youtu.be/_gG_JFHU46o
EP.2 https://youtu.be/Z6DDMuBTh8w
EP.3 https://youtu.be/MLu-fnhCet4?

4.สุรินทร์ 
EP.1 https://youtu.be/wn6JA9C6LN8 
EP.2 https://youtu.be/Pfhhimfj-VU  
EP.3 https://www.youtube.com/k1vqAe26vq4 

5.เพชรบุรี
EP.1 https://youtu.be/OmhZqJdjBoY
EP.2 https://youtu.be/bW2raZtuf7s
EP.3 https://youtu.be/WYgPGMGT7rU

6.สุพรรณบุรี
EP.1 https://youtu.be/ng8YM-RFcKY

7.เชียงใหม่ 
EP.1 https://youtu.be/uaUj4CywbgA
EP.2 https://youtu.be/kxOJ6SdS504
EP.3 https://youtu.be/YNr5k-N3T2k

8.จันทบุรี
EP.1 https://youtu.be/Z9bcZA6_fVQ
EP.2 https://youtu.be/l0oiu1BqKKY
EP.3 https://youtu.be/6h0Ns9x8YKY

9.เชียงราย
EP.1 https://youtu.be/kNWcyUKwbUk
EP.2 https://youtu.be/8bybd5QBcA4

10.สตูล
EP.1 https://youtu.be/UBP-Zs0nP5k
EP.2 https://youtu.be/ufGlmS8ZSrI

เปิดชื่อ 9 ยี่ห้อลูกชิ้น ผลิตจากโรงงานเถื่อนย่านปทุมฯ

(22 ม.ค. 67) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์  ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สำเริง  อำพรรทอง, พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์, พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ พ.ต.อ.ชัฎฐ นากแก้ว, พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภะมาศ, พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4  บก.ปคบ., และเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปคบ. และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดย นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมปฏิบัติการเข้าตรวจค้นทลายโรงงานลูกชิ้นเถื่อนย่านปทุมธานี ตรวจค้น 2 จุด ยึดของกลางกว่า 31 รายการ มูลค่ากว่า 210,000 บาท

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคได้จับกุมโรงงานลูกชิ้นเถื่อนย่านปทุมธานี ซึ่งโรงงานดังกล่าวมีการส่งลูกชิ้นขายทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 10 แห่ง และได้ประชาสัมพันธ์จนเป็นกระแส ‘ลูกชิ้นสกปรก’ ในสื่อออนไลน์แล้วนั้น

ต่อมาได้รับเรื่องร้องเรียนจากสื่อมวลชน สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม ให้ตรวจสอบการผลิตและจำหน่ายลูกชิ้นเถื่อนในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เนื่องจากสมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม ได้จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ โดยร่วมเปิดซุ้มแจกเมนูลูกชิ้นให้เด็ก ๆ รับประทาน ตามสถานที่ ต่าง ๆ ทั้งหน่วยงานของรัฐ และเอกชน ที่มีการจัดงาน ซึ่งได้รับความสนใจ จากเด็กและประชาชนจำนวนมาก แต่ปรากฎว่า มีผู้ปกครองเข้ามาสอบถามทีมงานผู้สื่อข่าวถึงที่มาของแหล่งลูกชิ้นกลัวจะเป็นลูกชิ้นสกปรกที่ถูกจับกุมและเป็นข่าวย่านปทุมธานี

ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. จึงสืบสวนหาข่าว พบว่าในพื้นที่ จ.ปทุมธานี มีโรงงานลักลอบผลิตลูกชิ้นเถื่อนอีก 2 แห่ง ย่าน จ.ปทุมธานี โดยลักลอบผลิตลูกชิ้นจำนวนมากในสถานที่ไม่ถูกสุขลักษณะ แพ็กบรรจุส่งขายตามตลาดในพื้นที่ จ.ปทุมธานี, กรุงเทพฯ และปริมณฑลหลายแห่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการลงพื้นที่สืบสวนจนทราบถึงแหล่งผลิตลูกชิ้นดังกล่าว

ต่อมาวันที่ 18 มกราคม 2567 เจ้าหน้าที่ได้ทำการขอหมายค้นใน ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จำนวน 2 จุด ได้แก่

1.บ้านพักอาศัยหลังหนึ่ง ที่ดัดแปลงเป็นโรงงานผลิตลูกชิ้น หมู่ 4 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบนายสุนทร (ขอสงวนนามสกุล) แสดงตนเป็นเจ้าของกิจการผลิตภัณฑ์ และรับว่าทำมาแล้วเป็นเวลา 1 เดือน ตรวจยึด 

1.ลูกชิ้นบรรจุถุงไม่มียี่ห้อ และลูกชิ้นยี่ห้อต่างๆ รวม 7 ยี่ห้อ จำนวนหว่า 2,000 ถุง ได้แก่ ลูกชิ้นหมูตราตี๋ใหญ่ฯ, ลูกชิ้นหมูเมืองทอง ตราโกดี KODEE, ลูกชิ้นหมูเมืองทองตราที.เค, ลูกชิ้นหมูตราตี๋เล็ก, ลูกชิ้นเนื้อตราตี๋ใหญ่, ลูกชิ้นเนื้อ ตรา เฮง, ลูกชิ้นเนื้อตราเมืองเอก

2.ถุงบรรจุภัณฑ์สำหรับใส่ลูกชิ้น จำนวน 1,800 ใบ
3.เนื้อไก่ 10 กิโลกรัม จำนวน 20 ถุง
4.มันหมู 3 กิโลกรัม จำนวน 50 ถุง
5.เครื่องบด จำนวน 1 เครื่อง
6.เครื่องตีผสม จำนวน 1 เครื่อง
7.เครื่องปั้นลูกชิ้น จำนวน 2 เครื่อง
8.หม้อต้มลูกชิ้น จำนวน 2 ใบ 
และ 9.อุปกรณ์ในการผลิตลูกชิ้นพร้อมส่วนผสมต่าง ๆ ที่เป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 รวมกว่า 22 รายการ

2.บ้านพักอาศัยหลังหนึ่ง ที่ดัดแปลงเป็นโรงงานผลิตลูกชิ้น ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบนางสาวเพชรนภา (ขอสงวนนามสกุล) แสดงตนเป็นเจ้าของกิจการผลิตภัณฑ์ และรับว่าทำมาแล้วเป็นเวลา 5-6 เดือน ตรวจยึด 

1.ลูกชิ้นบรรจุถุงไม่มียี่ห้อ และลูกชิ้นยี่ห้อต่างๆ รวม 2 ยี่ห้อ จำนวนกว่า 400 ถุง ได้แก่ ลูกชิ้นหมู AR, ชาย 2 ลูกชิ้นหมู, 2.ลูกชิ้นเนื้อบรรจุถุงไม่ติดฉลาก 5 กิโลกรัม จำนวน 1 ถุง

3.ถุงบรรจุภัณฑ์สำหรับใส่ลูกชิ้น จำนวน 90 ใบ
4.เครื่องบด จำนวน 1 เครื่อง
5.เครื่องผสม จำนวน 1 เครื่อง
6.เครื่องปั่นลูกชิ้น จำนวน 2 เครื่อง
7.เครื่องผสม จำนวน 1 เครื่อง 
และ 8.อุปกรณ์ในการผลิตลูกชิ้นพร้อมส่วนผสมต่างๆ ที่เป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 รวมกว่า 9 รายการ

รวมตรวจค้น 2 จุด ตรวจยึดลูกชิ้นยี่ห้อต่างๆ กว่า 2,400 ถุง, เครื่องจักร, บรรจุภัณฑ์ และส่วนผสมต่าง ๆ ที่ใช้ในการผลิตลูกชิ้น รวมกว่า 31 รายการ โดยในครั้งนี้ตรวจพบลูกชิ้นไม่มียี่ห้อและมียี่ห้อรวม 9 ยี่ห้อ ดังนี้ 

1.ลูกชิ้นหมูตราตี๋ใหญ่ฯ 
2.ลูกชิ้นหมูเมืองทอง ตราโกดี KODEE
3. ลูกชิ้นหมูเมืองทองตราที.เค
4.ลูกชิ้นหมูตราตี๋เล็ก
5.ลูกชิ้นเนื้อตราตี๋ใหญ่
6.ลูกชิ้นเนื้อ ตรา เฮง
7.ลูกชิ้นเนื้อตราเมืองเอก 
8.ลูกชิ้นหมูAR 
9.ชาย 2 ลูกชิ้นหมู

ในการตรวจค้นครั้งนี้พบว่า โรงงานดังกล่าวใช้แรงงานมนุษย์ในการผลิต ตวง และผสมส่วนผสมต่าง ๆ ซึ่งนายสุนทร และนางสาวเพชรนภา รับสารภาพว่า ได้ทำการผลิตลูกชิ้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากจาก อย.และ สสจ.ปทุมธานี แต่อย่างใด โดยลูกชิ้นหมูยี่ห้อดังกล่าวไม่แสดงเลขสารบบอาหาร (ไม่ผ่าน อย.) ซึ่งเนื้อหมูและเนื้อไก่ที่ใช้เป็นวัตถุดิบซื้อมาจากตลาดแล้วนำมาผลิตเป็นลูกชิ้นที่ไม่ได้มาตรฐานส่งขายให้ลูกค้าตามตลาดสดในพื้นที่ปทุมธานี, กรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ตลาดรังสิต ตลาดคลองเตย ตลาดไทย เป็นต้น จากนั้นจะมีผู้ค้ารายย่อยมารับสินค้าไปกระจายต่ออีกทอดหนึ่ง ซึ่งทั้ง 2 จุดมีกำลังการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลูกชิ้นวันละประมาณ 500 กิโลกรัม เฉลี่ยเดือนละ 15,000 กิโลกรัม

ทั้งนี้ ได้เก็บตัวอย่างอาหารเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ หาสารบอแรกซ์ ชนิดและปริมาณวัตถุกันเสีย และจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค ณ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หากพบสารต้องห้ามในอาหารเพิ่มเติม จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 ฐาน ‘ผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์’ ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ฐาน ‘จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง’ ระวางโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท

พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. กล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นผลมาจากการจับกุมโรงงานผลิตลูกชิ้นเถื่อนย่านปทุมธานี และประชาสัมพันธ์ผลการจับกุมให้ประชาชนรับทราบจนนำมาสู่การแจ้งเบาะแสให้ตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการผลิตอาหารในครั้งนี้ ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่าอย่าซื้อผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่ทราบที่มาของแหล่งผลิต ไม่ว่าจะเป็นการซื้อจากร้านค้าทั่วไป หรือแหล่งขายทางออนไลน์ เพราะอาจเกิดอันตรายจากการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่ปลอดภัยต่อการบริโภค และขอเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบผลิตหรือจำหน่ายอาหารที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิตหรือตัวแทนจำหน่าย ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที หากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด และหากพี่น้องประชาชนพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน บก.ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภคได้ตลอดเวลา

📌 เปิดไทม์ไลน์ภารกิจนายกฯ ครม.สัญจร ระนอง 22-23 ม.ค. 67

นายกฯ เศราฐา ทวีสิน หอบคณะลงพื้นที่ จ.ระนอง ตรวจราชการ-ประชุม ครม.นอกสถานที่ พร้อมติดตามประเด็นการค้าผ่านแดน แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากร และประมง รวมถึงโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเล อ่าวไทย-อันดามัน (Land Bridge ชุมพร-ระนอง)

States TOON EP.154

ชิ่วๆๆ!!

***สงวนลิขสิทธิ์ภาพดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียนแบบ ดัดแปลง หรือนำส่วนใดส่วนหนึ่งไปใช้ แต่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่ต่อได้ ตามต้นฉบับนี้ โดยไม่ต้องขออนุญาต 

เปิด 5 อันดับ นักท่องเที่ยวเข้าไทยสูงสุด (วันที่ 8-14 มกราคม 2567)

กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เผยข้อมูลจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ช่วง 8-14 ม.ค. 67 นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวสูงกว่าที่คาดการณ์เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวในทุกภูมิภาค 

โดยมีนักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางเข้าไทยมากที่สุดจำนวน 104,570 คน (เพิ่มขึ้น 27.75) รองลงมา ได้แก่ มาเลเซีย 81,315 คน (เพิ่มขึ้น 26.95), เกาหลีใต้ 54,023 คน (เพิ่มขึ้น 23.08), รัสเซีย 50,705 คน (ลดลง 1.48) และอินเดีย 35,237 คน (เพิ่มขึ้น 16.67)

นอกจากนี้ยังพบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1-14 ม.ค.2567 ทั้งสิ้น 1,300,363 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 63,205 ล้านบาท

2 วัฒนธรรมการกินที่แตกต่างกันระหว่าง ‘คนไทย-คนยุโรป’

เป็นเรื่องธรรมดาที่วัฒนธรรมด้านต่าง ๆ ของแต่ละประเทศจะแตกต่างกัน และทำให้คนที่เดินทางข้ามประเทศเกิดภาวะ ‘Culture Shock’ หรือ ‘ภาวะตื่นตระหนกทางวัฒนธรรม’ ซึ่งเป็นอาการที่จะเกิดขึ้นเมื่อสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมเปลี่ยนไปจากวัฒนธรรมเดิมที่คุ้นชิน 

วันนี้ THE STATES TIMES ชวนมาดู 2 วัฒนธรรมเกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่แตกต่างกันระหว่างคนไทยและคนยุโรป จะต่างกันอย่างไร มาดูกัน!!

ไทยเจ๋ง!! ติดท็อป 10 สถานที่ที่ควรไปเที่ยวในปี 2024

’ไทย‘ ติดอันดับ 6 ของโลก ‘สถานที่ที่ควรไปเที่ยวในปี 2024‘ แถมเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียที่ติด TOP 10 หลัง The Telegraph สื่อใหญ่จากอังกฤษได้จัดอันดับขึ้น!! 🇹🇭✨👏🏻👍🏻

ส่องชุดแข่ง 24 ชาติ 'เอเชียน คัพ 2023' ประเทศไหน? ใช้แบรนด์ใดกันบ้าง?

ฝีเท้าพร้อมไม่พอ ต้องมีชุดแข่งดี ๆ ช่วยให้เคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างดีเยี่ยมด้วย 

‘เอเชียน คัพ 2023’ หนนี้ แบรนด์ไหนไปเสริมศักยภาพสร้างความยืดหยุ่นแก่นักเตะชาติใดกันบ้างลองไปดูกัน

ส่วนของทีมชาติไทย ยังคงไว้ซึ่งแบรนด์นักรบ ‘Warrix’ ที่เคียงข้างไปลุยศึกเอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 12 มกราคม-10 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นที่เรียบร้อย

เปิดประวัติ 3 ผู้สมัคร ชิง 'ประธานาธิบดี' ไต้หวัน

‘ไต้หวัน’ จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีและการเลือกตั้งสมาชิกสภาในวันที่ 13 ม.ค.นี้ และจะได้ผู้นำคนใหม่ต่อจากประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินที่ดำรงตำแหน่งมา 2 สมัยติดต่อกันตั้งแต่ปี 2559 จึงไม่สามารถลงเลือกตั้งได้อีกตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

การเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันโดยตรงครั้งที่ 8 ในวันเสาร์นี้ (13 ม.ค.) มีผู้สมัคร 3 คนจาก 3 พรรคการเมือง คนแรกคือนายไล่ ชิงเต๋อ วัย 64 ปี รองประธานาธิบดีไต้หวันและประธานพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าหรือดีพีพี (DPP) ที่เป็นพรรครัฐบาล เขาชูนโยบายคงสถานภาพปัจจุบันในช่องแคบไต้หวัน ไม่เปลี่ยนชื่อสาธารณรัฐจีน ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของไต้หวัน ไม่ยั่วยุหรือทำเรื่องเสี่ยง แต่ไม่ยอมรับการที่จีนอ้างอธิปไตยเหนือไต้หวัน และพร้อมเจรจากับจีน นายไล่มีประสบการณ์การทำงานราชการมานาน เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภา นายกเทศมนตรีเมืองไถหนาน และนายกรัฐมนตรี ผู้สมัครคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของเขาคือ นางเซียว เหม่ยฉิน วัย 52 ปี อดีตผู้แทนไต้หวันประจำสหรัฐปี 2563-2566

ผู้สมัครคนที่ 2 คือ นายโหว โหย่วอี๋ วัย 66 ปี จากพรรคก๊กมินตั๋งที่เป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนิวไทเปคนที่ 2 มาตั้งแต่ปี 2561 และเคยเป็นอธิบดีสำนักงานตำรวจแห่งชาติปี 2549-2551 เขาชูนโยบายฟื้นการเจรจากับจีน เริ่มด้วยการเจรจาในระดับล่าง เช่น การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม แต่ไม่ยอมรับรูปแบบการปกครอง 1 ประเทศ 2 ระบบของจีน และคัดค้านอย่างแข็งขันเรื่องการแยกไต้หวันเป็นเอกราช ขณะเดียวกันจะส่งเสริมการปกป้องไต้หวันและคงความสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐ ผู้สมัครคู่ของเขาคือ นายจ้าว เส้าคัง วัย 73 ปี อดีตผู้ดำเนินรายการวิทยุและโทรทัศน์ที่ตนเองเป็นเจ้าของ

ผู้สมัครคนที่ 3 คือ นายเคอ เหวินเจ๋อ วัย 64 ปี อดีตนายกเทศมนตรีกรุงไทเปปี 2557-2565 และประธานพรรคประชาชนไต้หวันหรือทีพีพี (TPP) ที่เขาตั้งขึ้นในปี 2562 เป็นศัลยแพทย์ที่ชูนโยบายเรื่องปากท้อง เช่น ราคาบ้านสูง จึงมีฐานเสียงเป็นกลุ่มคนหนุ่มสาว เขาอ้างตัวว่าเป็นผู้สมัครคนเดียวที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง และจะเจรจากับจีนต่อเมื่อจีนเคารพประชาธิปไตยและวิถีชีวิตของชาวไต้หวัน ผู้สมัครคู่ของเขาคือ นางซินเธีย อู๋ หรืออู๋ซินหยิง วัย 45 ปี อยู่ในตระกูลที่เป็นเจ้าของซินกวงกรุ๊ป ซึ่งทำธุรกิจหลากหลายอย่างในไต้หวัน 

ส่อง 5 อันดับต่างชาติเที่ยวไทย ‘มากที่สุด’ ตั้งแต่ 1-7 ม.ค. 67

เมื่อวานนี้ (10 ม.ค. 67) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยตามที่สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้อัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 1-7 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยทั้งสิ้น 605,537 คน โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่เปิดศักราชใหม่มาได้เพียง 7 วัน ประเทศไทยมีสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติสนใจมาท่องเที่ยวกว่า 6 แสนคน และนักท่องเที่ยวจีนเข้ามามากที่สุดเป็นอันดับ 1 ถือเป็นข่าวดีของการท่องเที่ยวไทย พร้อมย้ำเดินหน้ากระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยตลอดปีด้วยมาตรการวีซ่าฟรีแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ มั่นใจจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวไทยในปี 2567  

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงรายงานของสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยทั้งสิ้น 605,537 คน นั้น จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 

อันดับ 1 จีน 81,854 คน 
อันดับ 2 มาเลเซีย 64,053 คน 
อันดับ 3 รัสเซีย 51,467 คน 
อันดับ 4 เกาหลีใต้ 43,894 คน 
อันดับ 5 อินเดีย 30,203 คน 

ด้านภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาลดลง 184,106 คน หรือลดลง 23.32 % จากสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงของนักท่องเที่ยวเกือบทุกตลาด เนื่องจากเสร็จสิ้นการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ในสัปดาห์ก่อนหน้า รวมถึงนักท่องเที่ยวตลาดหลักที่ลดลงด้วยเช่นกัน สำหรับสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือวีซ่าฟรี ให้แก่นักท่องเที่ยวจีน และคาซัคสถาน การขยายเวลาพำนักแก่นักท่องเที่ยวรัสเซีย และการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลในกลุ่มที่เดินทางหลังเทศกาลปีใหม่

“รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะผลักดันและขับเคลื่อนให้เกิดการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักและเป็นความหวังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยนายกรัฐมนตรีได้ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2567 ให้ได้ 3.5 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศ 1.2 ล้านล้านบาท จากเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทย 205 ล้านคน-ครั้ง และรายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.3 ล้านล้านบาท จากเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 35 ล้านคน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และประชาชนชาวไทย ร่วมกันผลักดันให้เป้าหมายดังกล่าวบรรลุผลสำเร็จ 

โดยในส่วนเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น รัฐบาลจะเดินหน้ากระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ด้วยมาตรการวีซ่าฟรีแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง จากปี 2566 ที่รัฐบาลออกมาตรการวีซ่าฟรีให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจาก 60 ประเทศ/ดินแดน และในปี 2567 คาดว่าจำนวนประเทศ/ดินแดนที่ได้รับวีซ่าฟรีจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการอำนวยความสะดวกการเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทย และดึงดูดใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว โดยเชื่อมั่นว่ามาตรการวีซ่าฟรีจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยตลอดปี 2567” นายชัย กล่าวทิ้งท้าย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top