Friday, 10 May 2024
INFO & TOON

6 เดือน 6 งานเด่น 'รมว.สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ' แห่งคมนาคม ครบทุกมิติ 'บก - น้ำ - อากาศ'

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินหน้าพัฒนาคมนาคมของไทย ครอบคลุมทุกมิติ ทั้ง 'บก - น้ำ - อากาศ' โดยมี 6 ผลงานเด่นที่เห็นเป็นรูปธรรมดังนี้

📌มาตรการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาท หรือนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา นำร่อง 2 โครงการ คือ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - คลองบางไผ่ และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต และช่วงบางซื่อ - ตลิ่งชัน และต่อมาได้ขยายใช้ในการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างสายสีแดงและสายสีม่วงได้ด้วย ซึ่งถือเป็นนโยบาย Quick Win นโยบายแรกของรัฐบาล เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนและจูงใจให้เปลี่ยนมาใช้ระบบรางในการเดินทาง

ทั้งนี้จะเร่งขยายมาตรการค่าโดยสาร 20 บาท ในรถไฟฟ้าเส้นทางอื่น ๆ ภายใน 2 ปี โดยขณะนี้ กระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างการหารือและพิจารณาร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประเมินทั้งโครงข่ายทุกสาย กรณีลดค่าโดยสารเหลือไม่เกิน 20 บาท รายได้ของผู้ให้บริการจะลดลง ซึ่งจะต้องมีเงินอุดหนุนประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท/ปี

📌การเปิดใช้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ 24 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบินในปัจจุบัน และกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้โดยสารของสนามบินเชียงใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากปัจจุบันที่มีผู้โดยสารระหว่างประเทศเฉลี่ย 4,800 คน/วัน จำนวน 20 เส้นทาง ปริมาณเที่ยวบิน 36 เที่ยวบิน/วัน วันที่ 29 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 27 ธันวาคม รวมถึงรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังเปิดอาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1 (SAT-1) พร้อมทั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติเชื่อมต่อระหว่างอาคาร SAT-1 กับอาคารผู้โดยสารหลัก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 โดยทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจาก 45 ล้านคน/ปี เป็น 60 ล้านคน/ปี รองรับเที่ยวบินจาก 68 เที่ยวบิน/ชั่วโมงเป็น 94 เที่ยวบิน/ชั่วโมง เพื่อรองรับการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว และนโยบายวีซ่าฟรี ตามนโยบายรัฐบาล

📌เร่งรัดการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน - นครราชสีมา (M6) และ สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี (M81) รวมถึงการเปิดให้ใช้ฟรี 2 เส้นทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 โดย M6 ช่วงปากช่อง - ทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ระยะทาง 77 กม. M81 ช่วงนครปฐม ฝั่งตะวันตก - กาญจนบุรี ระยะทาง 51 กม. เปิดทดลองใช้ฟรีปีใหม่ ตั้งแต่ 28 ธ.ค.66 - 3 ม.ค. 67 ซึ่งจะเปิดให้บริการใช้งานฟรีตั้งแต่ 28 ธ.ค.66 ต่อเนื่องจนกว่าด่านเก็บค่าผ่านทางจะแล้วเสร็จ ส่วน เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง

ขณะเดียวกัน ยังได้เร่งรัดโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ เส้นทางนครปฐม - ชุมพร และได้เปิดให้บริการช่วงสถานีบ้านคูบัว จ.ราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนถึงจุดหมายได้เร็วขึ้นถึง 1 ชั่วโมง 30 นาที เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเดินทางของประชาชน รวมทั้งการขนส่งสินค้า โดยไม่ต้องเสียเวลาในการรอหลีกขบวนรถอีกต่อไป

📌การพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะ โดยการยกมาตรฐานและปลอดภัยท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาให้สามารถเชื่อมโยงกับระบบขนส่งรูปแบบอื่นโดยการให้บริการด้วยระบบตั๋วร่วม พร้อมทั้งออกแบบรองรับผู้ใช้บริการทุกประเภท โดยมีแผนพัฒนาท่าเรือเป็นสถานีเรือ (ระบบปิด) ทั้งหมด 29 ท่า ซึ่งขณะนี้ปรับปรุงเสร็จแล้ว จำนวน 9 ท่า อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงและก่อสร้าง จำนวน 5 ท่า และในส่วนที่เหลืออีกจำนวน 15 ท่า จะมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อลดความคับคั่งในการเดินทางขนส่งทางบก รวมถึงพัฒนาท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ในอ่าวไทยและอันดามัน สร้างรายได้ท่องเที่ยวทางน้ำ

📌เดินหน้าโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย - อันดามัน (Landbridge) ผลักดันการพัฒนาท่าเรือชุมพรและระนอง รวมถึงรถไฟทางคู่ และมอเตอร์เวย์ เพื่อเชื่อมขนส่งระหว่าง 2 ท่าเรือ ให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อพลิกโฉมพื้นที่ภาคใต้เป็นศูนย์กล่างโลจิสติกส์ระดับโลก ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้เริ่มดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนต่างประเทศ (Road Show) โดยล่าสุดได้ร่วมประชาสัมพันธ์โครงการ Landbridge ในการประชุมเอเปค ครั้งที่ 30 ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน - ญี่ปุ่น ซึ่ง มีนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นสนใจเป็นจำนวนมากกว่า 30 บริษัท จากเดิมที่คาดว่าจะมีประมาณ 20 บริษัท และหลังจากนี้ จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามารับฟังข้อมูลจากกระทรวงคมนาคมอย่างต่อเนื่อง

6 เดือน ‘รมช.กฤษฏา’ ปลดแอกหนี้ครัวเรือนไทย

‘กฤษฎา จีนะวิจารณะ’ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จากพรรครวมไทยสร้างชาติ สางหนี้ครัวเรือนไทย - กลุ่มเปราะบาง - ล้างหนี้เสีย - แก้กฎหมายเครดิตบูโร

📌สำหรับกลุ่มลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก Covid 19 (รหัส 21)
🟢ช่วยเหลือให้หลุดจากการเป็นหนี้เสีย พักชำระหนี้เพื่อผ่อนปรนภาระชั่วคราว และลูกหนี้ SMEs ที่เข้าเงื่อนไขปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างน้อย 3 เดือน จะได้รับการพักชำระหนี้ไม่เกิน 1 ปี และได้ลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 1 ต่อปี

📌กลุ่มมีรายได้ประจำ แต่มีภาระหนี้จำนวนมาก
🟢ช่วยลดดอกเบี้ยให้สมความเสี่ยง ถ่ายโอนหนี้ไว้ที่เดียว และผ่อนปรนการชำระ ทางด้าน ธปท. และเจ้าหนี้บัตรเครดิตรายใหญ่ ร่วมปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยนำเงินต้นคงค้างมาคำนวณตารางผ่อนใหม่ ยาว 10 ปี พร้อมลดดอกเบี้ย 75% ส่วน ธ.ออมสิน เข้าสนับสนุนสภาพคล่องแเก่สหกรณ์ เพื่อปล่อยสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และการ Re-Finance

📌กลุ่มมีรายได้ไม่แน่นอน ทำให้การชำระคืนหนี้ไม่ต่อเนื่อง
🟢พักชำระหนี้ชั่วคราว ลดเงินงวดให้สอดคล้องกับรายได้ที่ผันผวน กำหนดหลักเกณฑ์ควบคุม กำกับดูแลการให้สินเชื่อ มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เกษตรกรได้เริ่มดำเนินการ โดยลูกหนี้เกษตรกรที่มีเงิน (Principle) รวมหนี้คงเหลือทุกสัญญาไม่เกิน 300,000 บาท พักชำระตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 ถึง 30 กันยายน 2567

📌กลุ่มเป็นหนี้เสียคงค้างกับสถาบันทางการเงินมาเป็นเวลานาน
🟢ช่วยให้หลุดพ้นจากหนี้เสีย พักชำระหนี้เพื่อผ่อนปรนภาระเป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ บริษัทร่วมทุนระหว่าง SFIs และ บริษัท บริหารสินทรัพย์ (บบส.) โดย ธปท. อยู่ระหว่างหารือกับ ก.การคลัง และ SFIs เพื่อช่วยเหลือปิดจบหนี้ของลูกหนี้ได้คล่องตัวมากขึ้น

นอกจากนี้ 'พรรครวมไทยสร้างชาติ' ยื่นเสนอกฎหมายฉบับแรกต่อสภาฯ แก้ไข 'พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตแห่งชาติ พ.ศ. 2545' หรือ 'เครดิตบูโร' ซึ่งส่งผลเดือดร้อนแก่ประชาชน เพราะหลังสถานการณ์โควิด เกิดวิกฤตเกี่ยวกับบัตรเครดิต และหนี้สินภาคธุรกิจ ทำให้คนจำนวนมากมีปัญหาด้านการเงิน จนต้องหนีไปสู่วงจรหนี้นอกระบบ

2 เดือนแรกปี 67 นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 6.7 ล้านคน อานิสงส์ ‘ฟรีวีซ่า-เพิ่มเที่ยวบิน’ โกยรายได้ 3.2 แสนล้านบาท

เมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวล่าสุด พบขณะนี้ตั้งแต่วันที่ วันที่ 1 มกราคม - 3 มีนาคม 2567 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเที่ยวไทย ทั้งสิ้น 6,730,914 คน สร้างรายได้ 326,034 ล้านบาท

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

-จีน 1,238,353 คน
-มาเลเซีย 889,948 คน
-รัสเซีย 444,837 คน
-เกาหลีใต้ 430,701 คน
-อินเดีย 327,768 คน

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ได้อัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงสัปดาห์ล่าสุด (วันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2567) พบว่า ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 749,680 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 14,175 คน หรือ 1.86 % คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 107,098 คน

โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวมาเลเซีย แซงนักท่องเที่ยวจีน ขยับขึ้นมาเป็นกลุ่มที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอันดับที่ 1 ซึ่งเป็นผลมาจากการการปิดภาคเรียนภายในประเทศ และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ โดยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นกว่า 11,897 คน จากสัปดาห์ก่อนหน้า

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาด 5 อันดับแรกที่เที่ยวไทยมากที่สุด พบว่านักท่องเที่ยวมาเลเซีย 130,120 คน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 10.06 % นักท่องเที่ยวจีน 124,037 คน นักท่องเที่ยวรัสเซีย 47,831 คน นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ 42,956 คน และนักท่องเที่ยวอินเดีย 34,639 คน โดยนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ รัสเซีย จีน และอินเดีย ปรับตัวลดลงเล็กน้อย

สำหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การลงนามยกเว้นวีซ่าระหว่างไทย-จีน ที่มีผลช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว เพิ่มการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และกระตุ้นให้สายการบิน เพิ่มจำนวนเที่ยวบิน รวมทั้งการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือวีซ่าฟรี ให้แก่นักท่องเที่ยวอินเดีย ไต้หวัน และคาซัคสถาน

สรุป 15 ทิศทางของจีนประจำปี 2024 ผ่านเวทีการประชุม 'เหลี่ยงฮุ่ย' (两会)

‘จีน’ เริ่มการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (National People’s Congress : NPC) และสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติ (Chinese People’s Political Consultative Conference : CPPCC) ที่เรียกว่า ‘ประชุมสองสภา’ (Two Sessions) หรือ ‘เหลี่ยงฮุ่ย’ ประจำปี 2024 ไปเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา

THE STATES TIMES ได้รวบรวม 15 ทิศทางที่จีนจะใช้เดินหน้าประเทศในปี 2024 ทั้งในด้าน การเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม จะมีอะไรบ้าง มาดูกัน!!

ส่องจำนวนนักกีฬา 'อาเซียน' สู้ศึก 'โอลิมปิก' ที่ปารีส

ชวนส่องจำนวนนักกีฬาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่ละประเทศ ที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมการแข่งขัน​กีฬาโอลิมปิก​ 2024 ที่ปารีส ซึ่ง ‘ประเทศไทย’ ของเรา ​มีจำนวนนักกีฬา​มากเป็นอันดับ 1 ✨🇹🇭

สำหรับชาวกัมพูชา​ คงจริงดังที่ชาวเน็ตกัมพูชาพูดเอาไว้ว่า "โอลิมปิกไม่สำคัญ​เท่าซีเกมส์” เพราะยังไงกัมพูชาก็ไม่มีโอกาสได้ไปโอลิมปิกแน่นอน…

5 นักมวยไทย ที่มียอดผู้ติดตามทางโซเชียลมากที่สุด

สำหรับนักมวยไทยในปัจจุบัน ถือได้ว่าเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง มีแฟนคลับหลากหลายกลุ่ม โดยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่คนที่ชื่นชอบกีฬามวยไทยเท่านั้น ยิ่งปัจจุบันเมื่อมีโลกโซเชียลมีเดียเข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยนักกีฬาแต่ละคนสามารถติดต่อสื่อสารกับเหล่าแฟนคลับได้ง่ายขึ้น รวดเร็วทันที และไปไกลยังต่างประเทศได้อีกด้วย

ขณะที่คอนเทนต์ที่นักมวยไทยต่างนำเสนอต่อแฟน ๆ บนโซเชียลส่วนใหญ่จะเป็นการให้ความรู้ด้านมวยไทยและเทคนิคต่าง ๆ ที่น่าสนใจ รวมถึงคอนเทนต์แนวตลก เฮฮา เรียกรอยยิ้ม

และต่อไปนี้…คือ ‘5 อันดับนักมวยไทย’ ที่มียอดผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียยอดฮิต ทั้งเฟซบุ๊ก ไอจี และติ๊กต็อกมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ จะมีใครบ้างไปดูกันเล้ย!! ✨🇹🇭

ส่อง 10 เมืองเก่าแก่แห่ง 'อาเซียน' ที่ยังมีคนอาศัยอยู่อย่างต่อเนื่อง

ในอาเซียนหรือประเทศในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นโซนที่มีอารยธรรมโบราณเกิดขึ้นมากมายหลายพันปี ซึ่งมีทั้งที่ผ่านยุครุ่งเรืองถึงขีดสุด และล่มสลายไปนานแล้ว 

แต่ก็ยังมีหลายแห่งที่ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน และยังมีผู้คนอาศัยใช้ชีวิตอยู่ยังที่แห่งนั้นดังเดิม แม้ผู้ที่อยู่อาจไม่ใช่ลูกหลานของผู้ก่อตั้งเมืองนั้นมาก็ตาม 

และต่อไปนี้คือ 10 เมืองโบราณที่เก่าแก่ที่สุดในอาเซียน ที่ยังมีคนอาศัยอยู่ถึงปัจจุบัน 

States TOON EP.158

กับดักความกตัญญู

***สงวนลิขสิทธิ์ภาพดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียนแบบ ดัดแปลง หรือนำส่วนใดส่วนหนึ่งไปใช้ แต่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่ต่อได้ ตามต้นฉบับนี้ โดยไม่ต้องขออนุญาต
 

‘ถึงลูกถึงคน’ สไตล์ ‘พีระพันธุ์’

‘รมว.พีระพันธุ์’ ข้ามน้ำข้ามทะเลกว่า 400 กม. ตรวจงานแท่นขุดเจาะก๊าซแหล่งเอราวัณกลางอ่าวไทย

ส่อง 20 อันดับ ยอดขายรถยนต์ในจีน แบรนด์จีนติดโผเพียบ!! BYD ผงาด!! เบอร์ 1

ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการจัดอันดับแบรนด์รถยนต์จีนในปี 2023 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษที่ Volkswagen ไม่ใช่แบรนด์ที่มียอดขายสูงสุด และสูญเสียตำแหน่งสำคัญนี้ให้กับ BYD ซึ่งสร้างผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าขนานใหญ่

โดยผู้บริโภคในจีนเริ่มเปลี่ยนจากความรักในแบรนด์ต่างประเทศมาสู่แบรนด์ท้องถิ่นมากขึ้น เพราะพวกเขาเชื่อว่าแบรนด์จีนมีศักยภาพและตีโจทย์ความต้องการของพวกเขามากขึ้น ทั้งตัวซอฟต์แวร์ไปจนถึงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ส่งผลให้แบรนด์ต่าง ๆ เช่น BYD, Geely, Changan มีความสามารถที่ขึ้นมาท้าทายมากกว่าแบรนด์เจ้าตลาดอย่าง Volkswagen, Toyota, Honda ได้อย่างน่าสนใจ

ในขณะเดียวกัน Tesla ก็ยังคงไต่อันดับต่อไปเนื่องจากความนิยมของ Model Y อย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน

📝 จดเลย!! รวม ‘พิกัดวัน-สถานที่’📌 สักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ

📝 จดเลย!! รวม ‘พิกัดวัน-สถานที่’📌 สักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ศาสนวัตถุอันมีความสำคัญต่อพุทธศาสนิกชน ซึ่งเดินทางมากจากสาธารณรัฐอินเดีย 🇮🇳 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 

โดยเปิดให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.- 3 มี.ค. 67 หลังจากนั้นจะอัญเชิญไปประดิษฐานในส่วนภูมิภาค เพื่อให้พุทธศาสนิกชนท่านอื่นๆ ได้ร่วมสักการะอย่างทั่วกันต่อไป โดยวันและสถานที่มีดังนี้…

🗓️ 23 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2567
ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

🗓️ 4-8 มีนาคม 2567
ณ หอคำหลวง อุทยานราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่

🗓️ 9-13 มีนาคม 2567
ณ วัดมหาวนาราม จังหวัดอุบลราชธานี

🗓️ 14-18 มีนาคม 2567
ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่

จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมเข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ได้ตามวัน เวลา และสถานที่ที่ได้แจ้งไว้ตามความสะดวก ✨🙏🏻🇹🇭

‘ฟิลิปปินส์’ ได้กลายเป็นผู้นำเข้า ‘ข้าว’ รายใหญ่ที่สุดของโลกประจำปี 2023/2024

รายงานจาก Satista เผย ‘ฟิลิปปินส์’ ได้กลายเป็นผู้นำเข้า ‘ข้าว’ รายใหญ่ที่สุดของโลกประจำปี 2023/2024 โดยวัดจาก 20 ประเทศชั้นนำของโลก 🌾🌍

ทั้งนี้ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มี 4 ประเทศที่นำเข้ามากที่สุด ได้แก่…

1.) ฟิลิปปินส์ 🇵🇭 นำเข้าข้าว 3.8 ล้านตัน 
2.) อินโดนีเซีย 🇮🇩 นำเข้าข้าว 2.5 ล้านตัน 
3.) เวียดนาม 🇻🇳 นำเข้าข้าว 1.4 ล้านตัน 
และ 4.) มาเลเซีย 🇲🇾 นำเข้าข้าว 1.2 ล้านตัน

'ผัดกะเพรา' ครองสุดยอด 'อาหารประเภทผัด' อันดับ 1 ของโลก (2023)

เว็บไซต์อาหาร เทสต์แอตลาส (TasteAtlas) จัดอันดับอาหารจานผัดที่ดีที่สุดในโลก 50 อันดับ จากการรีวิวของผู้ใช้ ปรากฏว่า ‘ผัดกะเพรา’ คว้าอันดับ 1 ไปครอง

ทั้งนี้ ทางเว็บไซต์ดังกล่าวได้อธิบายถึงผัดกะเพราว่า เป็นเมนูผัดดั้งเดิมของไทยที่นำเนื้อสัตว์ที่สับแล้ว หรืออาหารทะเล มาผัดกับใบกะเพราและวัตถุดิบอื่น ๆ กระเทียม พริก และปรุงรสด้วยซีอิ๊ว น้ำตาล และน้ำปลา มักจะเสิร์ฟพร้อมข้าว ไข่ดาว และพริกน้ำปลา

แน่นอนว่านอกจากผัดกะเพราแล้ว ยังมีอาหารจานผัดของไทยอีกอย่างที่ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกด้วย ก็คือ ‘ผัดไทย’ โดยอยู่ที่อันดับ 8 ขณะที่ใน 50 อันดับ มีอาหารไทยติดอันดับอีก 3 อย่าง คือ ผัดซีอิ๊ว (อันดับ 19) คั่วกลิ้ง (อันดับ 23) และไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ (อันดับ 44)

5 ประเทศที่ ‘คนเวียดนาม’ ไปเรียนต่อมากที่สุด

จากข้อมูลของ องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ในปี 2021 เวียดนามเป็นประเทศอาเซียนที่มีประชากรออกไปเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาในต่างประเทศ จำนวนทั้งหมด 137,022 คน

โดยจุดหมายยอดฮิต 5 อันดับแรก คือ ญี่ปุ่น (44,128 คน) เกาหลีใต้ (24,928 คน) สหรัฐอเมริกา (23,155 คน) ออสเตรเลีย (14,111 คน) แคนาดา (8,943 คน) นอกจากนี้ ตัวเลขนักเรียนนอกของเวียดนามเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียนยังเรียกได้ว่านำแบบไม่เห็นฝุ่น เพราะอันดับ 2 อย่าง ‘อินโดนีเซีย’ นั้นมีจำนวนนักเรียนที่ไปเรียนต่างประเทศเพียง 59,224 คน อันดับ 3 อย่าง ‘มาเลเซีย’ มี 48,810 คน ขณะที่ ‘ไทย’ ที่มาเป็นอันดับที่ 4 มีทั้งหมด 28,609 คน

ปัจจัยที่ทำให้เวียดนามมีนักเรียนออกไปเรียนต่างประเทศได้มาก มีทั้ง ‘ค่านิยมในการออกไปเรียนต่างประเทศของชาวเวียดนาม’ เอง ในกรณีที่เป็นครอบครัวมีฐานะและมีกำลังส่งลูกหลานไปเรียน และ ‘ทุนการศึกษาจากต่างประเทศ’ 

โดยในหมู่ทุนการศึกษาทั้งหมด ทุนที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ คือ ทุนจากมูลนิธิ Vietnam Education Foundation (VEF) ที่ ‘สหรัฐอเมริกา’ ตั้งขึ้นในปี 2003 เพื่อให้ทุนการศึกษาเด็กเวียดนามไปศึกษาต่อในสหรัฐฯ โดยใช้เงินจำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เวียดนามส่งเป็นเงินใช้หนี้สงครามให้สหรัฐฯ ทุกปี โดยส่วนมากจะได้เข้าศึกษาในคณะและสาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีในมหาวิทยาลัยดังระดับโลกต่าง ๆ ทั้ง Harvard และ Stanford

ความสำคัญของทุนนี้เห็นได้ชัดจากผลงานของผู้ได้รับทุนเก่าที่ส่วนมากกลับมาทำงาน และประสบความสำเร็จในการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ในประเทศ โดยเฉพาะสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยี โดยผลงานที่โดดเด่นของผู้ได้รับทุน VEF ก็อย่างเช่น Palexy บริษัทสตาร์ตอัปด้านแมชชีนเลิร์นนิ่ง และ VNG บริษัทยูนิคอร์นเจ้าของแอปแชท Zalo ที่ในปัจจุบันเป็นที่นิยมในเวียดนามมากกว่า Facebook

นี่ทำให้นอกจากเวียดนามจะมีเด็กไปเรียนต่างประเทศเป็นจำนวนมากแล้ว จำนวนหนึ่งยังเป็นผู้ที่กำลังศึกษาด้านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นแรงงานที่เป็นที่ต้องการมากในหลาย ๆ ประเทศที่กำลังแข่งขันกันสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล รวมทั้ง เวียดนามที่มีการเติบโตรวดเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีศักยภาพในการดึงแรงงานกลับประเทศ ไม่เกิดปรากฏการณ์ ‘สมองไหล’ อย่างที่ผ่านมา

ปัจจุบัน เวียดนามมีตลาดงานที่พร้อมรองรับบัณฑิตศักยภาพสูงจากต่างประเทศ เพราะเป็นประเทศที่มีบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ สนใจเข้าไปลงทุนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น LG และ Alibaba และมีศักยภาพในการผลิตสินค้าเทคโนโลยีระดับสูงต่าง ๆ โดยในปี 2020 มีการส่งออกสินค้าในประเภทนี้คิดเป็นสัดส่วนถึง 42% เพิ่มจากเพียง 13% ในปี 2010

จากการศึกษาของ Google, Temasek, และ Bain เวียดนามจะเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตมากที่สุดในภูมิภาคภายอาเซียนภายในปี 2025 และดึงดูดเงินลงทุนได้มากที่สุดในระหว่างปี 2025-2030


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top