ส่อง 9 อันดับผู้นำ วันที่รับตำแหน่ง อายุน้อยที่สุดในโลก
โฉมหน้า 9 ผู้นำในประเทศต่างๆ ที่มีอายุน้อยที่สุด นับตั้งแต่วันที่รับตำแหน่ง
โฉมหน้า 9 ผู้นำในประเทศต่างๆ ที่มีอายุน้อยที่สุด นับตั้งแต่วันที่รับตำแหน่ง
วันนี้ 16 ส.ค. 67 นับเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ทางการเมืองของประเทศไทย เพราะที่ประชุมรัฐสภา มีมติเห็นชอบให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ด้วยเสียงเห็นชอบ 319 เสียง ไม่เห็นชอบ 145 เสียง และงดออกเสียง 27 เสียง
ถือว่า ‘นายกฯ อิ๊งค์’ เป็นนายกฯ หญิงคนที่ 2 และยังครองตำแหน่งนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุดของไทยอีกด้วย ซึ่งอีกเพียง 5 วันก็จะถึงวันคล้ายวันเกิด (21 ส.ค.) ของนายกฯ อิ๊งค์แล้วด้วย ✨❤
(16 ส.ค. 67) ที่ประชุมรัฐสภา มีมติเห็นชอบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ด้วยเสียงเห็นชอบ 319 เสียง ไม่เห็นชอบ 145 เสียง งดออกเสียง 27 เสียง
สำหรับประวัติส่วนตัว เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2529 สัญชาติไทย เป็นบุตรของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร กับ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์
สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ระดับปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษย์วิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระดับปริญญาโทจาก MSc International Hotel Management, University of Surrey, Weybridge, United Kingdom
ในด้านประวัติการทำงาน ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริษัท เรนด์ เพลินจิต โอเต็ล จำกัด (2554 - 2567) / กรรมการบริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจโรงแรม และสนามกอล์ฟ บ. เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (2555 - 2567)
กรรมการบริษัท เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ โฮเต็ล จำกัด (2556 - 2567) / กรรมการบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟแอนด์สปอร์ตคลับ จำกัด (2559 - 2567) / กรรมการบริษัท อัลไพน์ การ์เด็น ดีไซน์ จำกัด (2559 - 2567) / กรรมการบริษัท โอเอไอ คอนซัลแต้นท์แอนด์แมนเนจเม้นท์ จำกัด (2559 - 2567)
ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วม และนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย, หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (2565-ปัจจุบัน) / รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, รองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ (2566 - 2567) และ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (2566 - ปัจจุบัน)
พลันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 : 4 เสียง มีคำสั่งให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกฯ จากกรณีการเสนอชื่อนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ
หลังนายเศรษฐา ทำงานในตำแหน่งนายกฯ ได้ 358 วัน หรือเกือบ 1 ปี ผลงานภายใต้การบริหารงานของ ‘นายกฯ นิด’ มีหลายนโยบายที่ผลักดันสำเร็จ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ที่ถือว่าเป็นมาตรการเร่งด่วนของรัฐบาล ได้แก่…
1.นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ด้วยการให้วีซ่าฟรีนักท่องเที่ยวทั้งจีน , คาซัคสถาน, อินเดีย, ไต้หวัน, และรัสเซีย
2.การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ วุฒิปริญญาตรี เงินเดือน 18,150 บ.โดยจะปรับขึ้นในอัตรา 10% เป็นระยะเวลา 2 ปี ในปีงบประมาณ 2567 - 2568 การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ ทยอยปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุตามคุณวุฒิเพิ่มขึ้น (ทุกคุณวุฒิ) ในอัตราร้อยละ 10 ภายใน 2 ปี
3.การขยายเวลาให้สถานบริการใน 5 จังหวัด/พื้นที่ ประกอบด้วย สถานบริการในท้องที่ กรุงเทพมหานคร, จ.ภูเก็ต, จ.ชลบุรี, จ.เชียงใหม่ และ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รวมถึงสถานบริการที่ตั้งที่อยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมทั่วประเทศ ให้เปิดบริการได้ถึงเวลา 4.00 น. ของวันรุ่งขึ้นได้
4.การประกาศแก้ปัญหาหนี้เป็นวาระแห่งชาติ โดยเดินหน้านโยบายพักหนี้เกษตรกรเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2566 และการเดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ
5.การปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย โดยเริ่มต้นจากรถไฟฟ้า 2 สาย คือ รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (ตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต) และรถไฟฟ้าสายสีม่วง (คลองบางไผ่-เตาปูน) และเตรียมขยายต่อในเส้นทางอื่น ๆ
6.เปิดการเดินทางระหว่าง 2 ประเทศ คือ ไทยและลาว ด้วยการโดยให้บริการรถไฟจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ไปยังสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ประเทศลาว
7.การลดภาระค่าครองชีพ ด้วยการปรับลดราคาค่าไฟฟ้า ปรับลดราคาน้ำมัน และตรึงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม LPG เพื่อช่วยเหลือประชาชน
8.ปรับแก้กฎหมายให้ชาวต่างชาติเช่าที่ดินได้นานขึ้นจาก 50 ปีเป็น 99 ปี และการถือกรรมสิทธิ์ห้องชุด เพิ่มสัดส่วนจาก 49% เป็น 75%
9.ขายข้าวเก่า 10 ปี จากโครงการรับจำนำข้าวล็อตสุดท้าย ปริมาณ 15,000 ตัน ถือเป็นการปิดฉากมหากาพย์โครงการรับจำนำข้าว โดยสามารถนำเงินส่งเข้าคลังได้กว่า 270 ล้านบาท
10.การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร เป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา
11.แก้ไขกฎกระทรวง สธ.กำหนดให้ครอบครองยาบ้า 1 เม็ด และ ยาไอซ์ 100 มก.โดยยึดหลักการผู้เสพเป็นผู้ป่วย โดยแก้ไขกฎกระทรวงใหม่จากครอบครองยาบ้า 5 เม็ด และยาไอซ์ 500 มก.
12.การผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แพ่งและพาณิชย์ หรือ กฎหมายสมรสเท่าเทียม ผ่านการพิจารณาของ สส.และ สว.ซึ่งจะทำให้มีผลในช่วงปลายปีนี้
13.ยกระดับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โดยปรับเป็น ‘30 บาทรักษาทุกที่’ ซึ่งเป็นการยกระดับบริการของ สปสช. ตามนโยบายรัฐบาล ไม่ต้องขอใบส่งตัวอีกแล้ว โดยประชาชนที่มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท หรือสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สามารถเข้ารักษาในสถานพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ทุกแห่ง
14.การช่วยเหลือแรงงานที่ทำงานในประเทศอิสราเอล ที่เผชิญวิกฤตสงครามสู้รบระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ กลับสู่ประเทศไทยได้เกือบ 15,000 คน และนำร่างแรงงานผู้เสียชีวิตกลับสู่มาตุภูมิได้สำเร็จ
ขณะที่ โครงการเรือธงของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยทั้ง ‘โครงการดิจิทัลวอลเล็ต’ วงเงิน 10,000 บ.ที่เริ่มต้นเปิดให้ลงทะเบียนแล้ว ซึ่งแต่เดิมคาดหมายว่าจะเริ่มได้ช่วงปลายปีนี้หรือในช่วงปีหน้า หรือ ‘โครงการแลนด์บริดจ์’ และ ‘นโยบายซอฟต์พาวเวอร์’ จะมีอนาคตเป็นอย่างไร โดยนายเศรษฐาตอบคำถามสื่อมวลชน ว่าขึ้นอยู่กับ ‘นายกฯ คนใหม่’
🔍 ชวนส่อง!! ประเทศที่มี ‘ทองคำ’ สำรองมากที่สุดในโลก
รายงานล่าสุด!! จาก World Gold Council เผย!! ไทยมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอันดับ 9 ของโลก และมีทองคำสำรองอันดับ 18 ของโลก
(13 ส.ค. 67) รู้หรือไม่ว่าคนไทยกว่า 1 ใน 3 หรือกว่า 25.5 ล้านคนของคนทั้งประเทศคือคนที่มีหนี้ จากข้อมูลของเครดิตบูโรได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลแสดงให้เห็นว่าคนไทยมีหนี้ครัวเรือนรวมกันมากถึง 91% ของ GDP ซึ่งเทียบเท่ากับประเทศที่พัฒนาแล้วเเละประชากรมีรายได้ต่อหัวที่สูงอย่างเนเธอร์แลนด์เลยทีเดียว และหนี้กว่า 67% นั้นเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และที่แย่ไปกว่านั่นคือ 23% เป็นหนี้เสีย
โดยสาเหตุหลักๆของปัญหาหนี้สินคนไทยประกอบไปด้วย
-การเป็นหนี้เร็ว โดย 1 ใน 2 คนของคนที่เริ่มทำงานมีหนี้
-การเป็นหนี้เกินตัว โดย 40% ของลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลและบัครเครดิต จ่ายขั้นต่ำ ทำให้หนี้ยิ่งพอกพูน
-การเป็นหนี้เพราะเหตุจำเป็น กว่า 50% ของคนไทยไม่มีเงินสำรองไว้ในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
-การเป็นหนี้นาน กว่า 25.7% ของคนที่เกษียณแล้วแต่ยังใช้หนี้ไม่หมด
-การเป็นหนี้นอกระบบ ที่ผ่านมามีคนมาลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบของกระทรวงมหาดไทยมากถึง 1.46 แสนราย คิดเป็นเงินกว่า10,475 ล้านบาท
และถ้าถามว่าเราควรกังวลกับเรื่องนี้ได้หรือยัง? คำตอบคือใช่ค่ะ เพราะจากงานวิจัยของธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (Bank for International Settlements: BIS) ชี้ให้เห็นว่า หนี้ครัวเรือนที่สูงเกิน 80% ต่อ GDP มีแนวโน้มจะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวลดลง และทุกๆ หนี้ที่เพิ่มขึ่น 1% จะส่งผลให้ GDP ลดลงมากถึง 0.1% อีกทั้งไทยเองยังมีปัญหาที่รออยู่ทั้งการเติบโตของเศรษฐกิจที่ต่ำจากปัญหาเชิงโครงสร้างทั้งสังคมผู้สูงอายุ คุณภาพแรงงานและคุณภาพและการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวต่อหัวที่ลดลง นี่จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องการการแก้ไขเพื่อให้เศรษฐกิจของเราสามารถไปต่อและโตเท่าเทียมประเทศอื่นๆ ได้ค่ะ
บทสรุปเหรียญรางวัล มหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ความสำเร็จของ 11 ประเทศอาเซียน!!
ในน้ำมันแต่ละลิตรที่เราใช้กันในทุกวันนี้ ประกอบด้วยราคาทั้งหมด 4 ส่วนดังนี้
>>40 - 60% ต้นทุนเนื้อน้ำมัน คือ ต้นทุนน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงกลั่น ซึ่งอ้างอิงราคาตามตลาดกลางภูมิภาคเอเชีย
>>30 - 40% ภาษีต่าง ๆ ได้แก่ ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล และภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อนำมาใช้เป็นงบประมาณในการพัฒนาประเทศ และบำรุงท้องถิ่น
>>5 - 20% กองทุนต่าง ๆ เช่น กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง: เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศไม่ให้เกิดความผันผวน และ กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน: เพื่อส่งเสริมสนับสนุนพลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน เพื่อประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน
>>10 - 18% ค่าการตลาด คือ ส่วนที่เป็นต้นทุน ค่าใช้จ่าย และกำไรของธุรกิจค้าปลีกน้ำนั้นทั้งระบบ
ในส่วนของ ‘ราคาขายปลีก’ ในปัจจุบัน ก็จะประกอบด้วย ราคา ณ โรงกลั่น / ภาษีสรรพสามิต / ภาษ / เทศบาล / กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง / กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน / ค่าการตลาด / ภาษีมูลค่าเพิ่ม
สำหรับแนวทางการแก้ไขภายใต้การนำของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นั้น นายพีระพันธุ์ ได้เปิดเผยผ่านรายการ ‘คนดังนั่งเคลียร์’ ว่า…
“ที่บอกว่าราคาต้นทุนหน้าโรงกลั่นคือ 20 บาท ไม่รู้มาจากไหน ราคาจริงเท่าไหร่ไม่อาจรู้ได้ ซึ่งผมว่าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้ระบบ Cost Plus คือ ต้นทุนจริงบวกค่าใช้จ่ายจริง จะได้เป็นราคาขายจริง…
“อีกเรื่องที่ต้องแก้ไขคือ ‘เงินสมทบเข้ากองทุน’ กฎหมายกำหนดให้ผู้ค้าน้ำมันเป็นคนจ่าย เปรียบเหมือนภาษี และเมื่อจ่ายไปแล้ว ก็เป็นต้นทุนที่ต้องไปหักในส่วนของค่าดำเนินงาน ไม่ใช่นำมาบวกในค่าน้ำมัน แต่หากนำมาบวกในค่าน้ำมัน หมายความว่าเป็นการผลักภาระให้ประชาชนต้องจ่าย ซึ่งไม่ถูกต้อง นี่คือสิ่งที่ผมต้องทำเป็นกฎหมายใหม่หมดเลย”