Friday, 10 May 2024
ม112

‘โบว์ ณัฏฐา’ เดือด!! ฉะพวกตีหน้าซื่อเล่าความจริงครึ่งเดียวทุกเวที แนะ หากอยากแปะป้าย ‘ตรงไปตรงมา’ ให้ตัวเอง ก็อย่าหมกเม็ดบิดเบือน

(4 พ.ค. 66) น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ ‘โบว์’ นักกิจกรรมทางการเมือง โพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊กและทวีตเตอร์ ระบุว่า…

ที่บางพรรคชอบพูดว่า ไม่มียุคสมัยใดมีคนโดนคดี 112 เท่าสมัยนี้ ก็อยากชวนไปดูรายละเอียดว่าคดีส่วนใหญ่มาจากที่ไหน มันมาจากกลุ่มล้มเจ้าขนาดใหญ่ที่ถูกเปิดโดยคนจากต่างประเทศ ที่คุณและกลุ่มเคลื่อนไหวที่สนับสนุนก็มีท่าทีเห็นดีเห็นงาม ทำตัวเป็นเนื้อเดียวกันตลอดเวลา แล้วไปดูข้อความในนั้นว่าเป็นยังไงกันบ้าง.. ทุกครั้งที่พูดว่าจะแก้ 112 (และเสนอแก้แบบแทบไม่เหลือโทษ) เพราะหวังดีต่อสถาบันฯ มันจึงไม่เคยฟังขึ้น ก็เท่านั้นเอง

พรรคการเมืองอื่นๆ ที่ไปพูดตามๆ กันก็ต้องรอบคอบด้วย ปัญหาการบังคับใช้เป็นส่วนหนึ่ง แต่มันมีปัญหาที่คุณก็ไม่เคยพูดถึง เพราะไม่เคยไปดูให้รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น มือหนึ่งให้ท้ายคนยั่วยุให้เกิดการละเมิดอย่างรุนแรงมากมาย อีกมือหนึ่งออกมาโวยวายถึงคดีส่วนน้อยที่ดูเหมือนมีปัญหา

‘สกลธี’ ย้ำ!! พปชร. ไม่จับมือพรรคแก้ ม.112 เตือน!! ต่างชาติหยุดแทรกแซงเลือกตั้ง

‘สกลธี’ ลงพื้นที่เขตบางกอกใหญ่ ช่วยหาเสียง ‘ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์’ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เบอร์ 6 ย้ำจุดยืนก้าวข้ามความขัดแย้ง วอน กกต.ลดความผิดพลาด อย่าให้เป็นเงื่อนไข เตือนต่างชาติหยุดแทรกแซงการเลือกตั้ง

(9 พ.ค. 66) นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ของพรรคฯ ลงพื้นที่ลานออกกำลังกาย คลองบางกอกใหญ่ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ร่วมกับ ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 32 เขตบางกอกน้อย (เฉพาะแขวงศิริราช), เขตบางกอกใหญ่, เขตภาษีเจริญ (ยกเว้นแขวงบางหว้า แขวงบางด้วน และแขวงคลองขวาง), เขตตลิ่งชัน (เฉพาะแขวงบางเชือกหนัง), เขตธนบุรี (เฉพาะแขวงวัดกัลยาณ์ แขวงหิรัญรูจี และแขวงบางยี่เรือ) หมายเลข 6 เพื่อพบปะประชาชน

นายสกลธีกล่าวว่า ในย่านนี้จะเป็นหมุดหมายการท่องเที่ยวแห่งใหม่ เพราะมีความน่าสนใจที่เป็นชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีเรื่องราวในชุมชนมากมายที่สามารถนำมาสร้าง Story ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้ แต่ยังขาดการสนับสนุนจากรัฐและท้องถิ่นอย่างยั่งยืน เพราะงบประมาณไม่เพียงพอ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐจะนำกองทุนประชารัฐ 3 แสนล้านมาช่วยพัฒนาจุดนี้เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่นี้ต่อไป

เมื่อถามถึงกรณีที่มีผู้ไปยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ว่ามีทหารและผู้อยู่เบื้องหลังการเลือกตั้ง และใช้อำนาจกดดันไม่ให้พรรคฝ่ายค้านหาเสียงนั้น นายสกลธีกล่าวว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสร้างวาทกรรมแบบนี้ เพราะประเทศกำลังเดินหน้าตามแนวทางประชาธิปไตย ทุกคนลงเลือกตั้งด้วยกติกาเดียวกัน ตนก็เห็นข่าวฝ่ายค้านหาเสียงอยู่ตลอด หรือเวลาตนลงพื้นที่ก็เจอพรรคฝ่ายค้านเดินอยู่ใกล้ๆ กัน ไม่มีใครได้เปรียบ อยู่ที่ใครจะตั้งใจหาเสียงหรือตั้งใจจะสร้างประเด็นการเมืองมากกว่า และขอเรียกร้องไปยัง กกต.ให้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งอย่างระมัดระวัง อย่าให้เกิดความผิดพลาดเหมือนการเลือกตั้งล่วงหน้า เพราะอาจถูกยกมาเป็นเงื่อนไขต่อไป

ส่วนกรณีที่มีสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐฯ เสนอมติเรียกร้องให้รัฐบาลไทยปกป้องประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และสิทธิในการชุมนุมนั้น นายสกลธีกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยอย่างชัดเจน มารยาททางการทูตเป็นสิ่งที่ทุกประเทศต้องมี และกฎหมายที่คุ้มครองประมุขของรัฐฯ และการกำหนดสิทธิขอบเขตการชุมนุมก็มีอยู่ในทุกประเทศ ดังนั้น ประเทศอื่นๆ ต้องระวังไม่ให้มีการแทรกแซงการเลือกตั้งจากต่างประเทศ

“พรรคพลังประชารัฐย้ำมาตลอด ว่าเรามีจุดยืนที่จะไม่ร่วมกับพรรคการเมืองที่จะแก้ไข ม.112 เพราะเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ประชาชนรวยขึ้นหรือจนลง ควรมองไปที่นโยบายที่จะทำให้ความเป็นอยู่ของทุกคนดีขึ้น ดังนั้น ถ้ามีเงื่อนไขว่าถ้าจะร่วมตั้งรัฐบาลกับเขาแล้วต้องเอาอันนี้ด้วย แล้วทำให้ประเทศลุกเป็นไฟ เราไม่เอาแน่นอน รวมถึงเรื่องนโยบายที่เอาไปใช้แล้วประเทศล่มจมทางเศรษฐกิจ เราก็ไม่เอาเหมือนกัน” นายสกลธี กล่าว

ด้าน ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรมีจุดยืนที่ชัดเจนเรื่องการก้าวข้ามความขัดแย้ง และสามารถนำพาประเทศให้เดินไปข้างหน้าได้ โดยไม่ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน แม้ลุงป้อมจะโดนบูลลี่ล้อเลียนอย่างไรก็ไม่เคยตอบโต้ เพราะท่านเห็นคนรุ่นใหม่เป็นเหมือนลูกหลาน สิ่งที่ลุงป้อมคิดมีเพียงจะทำให้ลูกหลานทำให้ประเทศชาติเท่านั้น จึงอยากขอฝากทุกคนในเขตเลือกตั้งที่ 32 บัตรสีม่วงกาเบอร์ 6 บัตรสีเขียวทั่วประเทศกาเบอร์ 37 ด้วย

‘ศูนย์ทนายฯ’ เผย ศาลเยาวชนฯ ยกคำร้อง คดี ม.112 เตรียมปล่อยตัว ‘หยก’ วันนี้ หลังถูกคุมขังมา 51 วัน

(18 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เปิดเผยว่า มีรายงานว่า วันนี้หลังจากตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ ยื่นขอผัดฟ้องและควบคุมตัว ‘หยก ธนลภย์’ เยาวชนวัย 15 ปี ในคดี ม.112 ต่ออีกครั้ง แต่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางได้ยกคำร้องดังกล่าว ทำให้หยกจะได้รับการปล่อยตัวจากบ้านปรานีในช่วงเย็นวันนี้ รวมหยกถูกคุมขังมาแล้ว 51 วัน

ทั้งนี้ กลุ่มทะลุวังระบุว่า ได้รับแจ้งว่ามีการปล่อยหยกในวันนี้ (18 พ.ค.) โดยกลุ่มเพื่อนของหยกจะเดินทางไปรับตัวหยกที่บ้านปรานี เวลา 15.30 น.

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ยืนยันสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ย้ำจุดยืนในประเด็นการแก้ไข-ยกเลิก มาตรา 112

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ได้กล่าวยืนยันสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี และย้ำจุดยืนในประเด็นการแก้ไข-ยกเลิก มาตรา 112 ในงานแถลงข่าว การลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) จัดตั้งรัฐบาล ที่ห้องบอลรูม โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 66 ว่า…

“การสนับสนุนพรรคที่ได้อันดับ 1 เป็นผู้ก่อตั้งรัฐบาล และสนับสนุนคุณพิธาเป็นนายกฯ เป็นหลักการที่เรายืนยัน และในส่วนของมาตรา 112 เราได้พูดหลายครั้งแล้ว ว่าเราไม่แก้ เราไม่ยกเลิก”

‘เกลือ เป็นต่อ’ ระบายความรู้สึก ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ลั่น!! ไม่เชื่อว่าคนที่วิจารณ์สถาบันฯ จะหันมาปกป้องอย่างบริสุทธิ์ใจ

(24 พ.ค. 66) นายกิตติ เชี่ยววงศ์กุล หรือ ‘เกลือ เป็นต่อ’ นักเขียนบท และผู้กำกับละครชื่อดัง ได้โพสต์คลิปลงใน TikTok ระบายความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจ เกี่ยวกับความเคารพรัก ความภักดี และความรู้สึกที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่เทิดทูนไว้อยู่เหนือสิ่งอื่นใด โดยมีใจความว่า…

“เอาคนที่ด่าในหลวง มาแก้กฎหมายปกป้องในหลวงงั้นเหรอ? คุณเชื่อก็ได้คุณมีสิทธิ์จะเชื่อ แต่ผมไม่เชื่อ ผมไม่เชื่อว่าคนที่โพสต์ Social ด่าในหลวง จะมาเขียนกฎหมายปกป้องในหลวง ก็แล้วแต่ เพราะอย่างไร สุดท้ายประเทศนี้ก็เป็นประชาธิปไตย แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกคุณก็คือ คุณอย่าหลอกตัวเอง ว่าเขาพยายามจะปกป้อง คุณดูประวัติ ส.ส. บางคนก็ได้ ผมไม่ได้ใส่ร้าย คุณไปดูเอาเอง ว่าสิ่งที่คุณทำเขาเรียกว่าหลับตาข้างเดียวอยู่หรือเปล่า คุณทำไปแล้วคุณโหวตไปแล้วด้วย ผมเป็นคนนึงที่ผมไม่ได้โหวต และผมก็ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร”

เกลือ เป็นต่อ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การปกป้องท่านด้วยการลดทอนอำนาจของท่าน จะเรียกว่า ‘เทิดทูน’ ได้อย่างไร ทำอย่างนี้แล้วท่านดีขึ้นอย่างไร ตนไม่ได้เป็นคนที่สุดโต่ง แบบที่ว่าจะวิจารณ์สถาบันกษัตริย์ไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ควรจะต้องแยกให้ชัดเจนก่อน คือ คำว่า ‘วิจารณ์’ หรือ ‘ใส่ร้ายป้ายสี’ หรือ ‘อาฆาตมาดร้าย’ ต้องบอกตรงนี้เลยว่า หลายคนกำลังเข้าใจผิด เขาคิดว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่คือการวิจารณ์ แต่เปล่าเลย มันคือการใส่ร้ายป้ายสี และแสดงอาการอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งตนในฐานะพสกนิกรคนหนึ่งที่รักพระองค์ท่าน ตนไม่มีสิทธิ์ไปแจ้งความว่าเขาทำผิดมาตรา 112 เหรอ? แล้วตนทำผิดอะไร ในเมื่อตนเห็นคนทำผิดกฎหมายแล้วแจ้งความบอกตำรวจ เพราะตนเห็นว่าเขาเหล่านั้นทำผิดกฎหมาย หลักฐานก็มี หากไม่มีหลักฐานเขาก็รอดไป แต่ถ้ามีหลักฐานจริง เขาก็ผิด ก็ติดคุก

“ทำไมต้องลดทอนอำนาจของประชาชนที่จะทำสิ่งเหล่านี้ให้กับพระมหากษัตริย์ ผมไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อย ถ้ามีการแก้ไขกฎหมายเกิดขึ้น แล้วส่งผลทำให้เสื่อมเกียรติของพระองค์ท่าน ผมจะเป็นคนหนึ่งที่บอกว่า ผมไม่เคยเห็นด้วยเลยกับเรื่องนี้ และผมก็ไม่เคยรู้สึกผิดที่จะพูดอย่างนี้ ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง” เกลือ เป็นต่อ กล่าวทิ้งท้าย

‘หยก ธนลภย์’ โวย โรงเรียน นักเรียนจ่ายค่าเทอม แต่ขึ้นลิฟท์ไม่ได้  ชี้ สิ่งอำนวยความสะดวก ควรเข้าถึงทุกคน

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 นางสาวธนลภย์ (สงวนนามสกุล) หรือ หยก เยาวชนที่ถูกดำเนินคดี ม.112 นักเรียนโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่ายพัฒนาการ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กประกอบภาพข้อความลิฟท์โดยสารของโรงเรียน ที่มีป้ายข้อความกำกับไว้ว่า “ลิฟท์สำหรับครู นักเรียนกรุณาใช้บันได”

ด้านนางสาวธนลภย์ หรือ หยก กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า  นักเรียนจ่ายค่าเทอมแต่ทำไมถึงใช้ไม่ได้?

สิ่งอำนวยความสะดวกควรเข้าถึงทุกคน แต่ทำไมถึงมีแค่คนกลุ่มนึงที่ใช้ได้? ครูเหนื่อยนักเรียนก็เหนื่อยเป็นนะ อยากให้ทุกคนได้เข้าถึงสิ่งอำนายความสะดวก 

‘ธนกร’ ยัน ‘รทสช.’ ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ พร้อมเป็นฝ่ายค้าน ลั่น!! จุดยืนพรรคฯ ไม่หนุน ว่าที่นายกฯ ‘พิธา’ ปมแก้ ม.112

(27 พ.ค. 66) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงการเดินหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติหลังการเลือกตั้ง ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติยืนยันเดินหน้าสู่การเป็นสถาบันทางการเมือง และไม่ได้เป็นพรรคเฉพาะกิจ แม้จะเป็นพรรคใหม่ แต่จากผลการเลือกตั้งเราถือว่าเป็นความสำเร็จในการเริ่มต้นครั้งแรกของการเลือกตั้ง คะแนนเสียงที่ได้ เป็นสิ่งที่พรรคต้องนำความหวังของพี่น้องประชาชนมาเดินหน้าขับเคลื่อน แม้พรรคไม่ได้เป็นอันดับ 1 แต่ให้คำมั่นไม่ว่าจะบทบาทไหน พรรคจะขับเคลื่อนการทำงานให้กับพี่น้องประชาชนให้ได้ ส่วนการทำงานในพรรคจะมีการปรับกลยุทธ์ โดยนำเสียงสะท้อนพี่น้องมาเป็นการบ้านทำให้พรรคเข้มแข็งต่อไป โดยดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมขับเคลื่อนพรรค

นายธนกร กล่าวว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ยังอยู่นำพรรคต่อไป บนอุดมการณ์จุดยืนแน่วแน่ที่ไม่มีเปลี่ยนแปลง ปกป้องสถาบันหลักของชาติ และในสิ่งที่หาเสียงไว้กับประชาชน รวมถึงสานต่อการทำงานรัฐบาล ตลอด 8 ปี ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์

นายธนกร กล่าวว่า ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล อย่างที่ตนบอกมาตลอด เป็นหน้าที่ของพรรคที่ได้คะแนนเสียงลำดับต้นๆ ที่เขาจะไปพูดกันเอง อย่างที่บอกเราให้เกียรติ สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมทุกอย่างจะเป็นอะไรก็ได้ เป็นฝ่ายค้านก็ได้ จะอยู่ฝั่งไหนพวกเราก็สามารถทำงานได้ เพราะเราเคารพกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตย หากมีพรรคอื่นมาชวนไปร่วมรัฐบาล ตนขอยืนยันว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่เอาพรรคที่แก้มาตรา 112 หากพรรคที่มาชวนเราไปร่วมรัฐบาลมีเรื่องนี้ เรายอมไม่ได้ เพราะเรายึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และจะไม่ยกมือสนับสนุนนายกฯ ที่ชูแก้มาตรา 112

‘ป๋าเทพ’ ตลกอาวุโสชื่อดัง ลั่น!! ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลชุดใหม่จะมาแตะต้อง ม.112

เมื่อไม่นานมานี้ นายสุเทพ โพธิ์งาม นักแสดงตลกชาวไทย กล่าวถึงเรื่องการเมืองในขณะนี้ว่า ตนเองเป็นไทยคนหนึ่งไม่อยากให้เกิดเรื่องเกิดราวขึ้นมาหากรัฐบาลใหม่จะไปแก้ ม.112 บางทีเราฟังแล้วเป็นห่วง ทั้งที่ท่านไม่ได้มายุ่งมาเกี่ยวอะไรกับพวกเรา หากว่าปล่อยไป ใครทำอะไรขึ้นมา เช่น อยู่ๆ ก็ไปเผารูปบ้าง เวลาท่านเสด็จไปไหนก็ไปขวางรถ ไปสร้างความรำคาญให้ท่านบ้าง แล้วเอาผิดอะไรไม่ได้ กฎหมายมฝมีทั้งนั้นท่านเป็นประมุขนะ คนธรรมดายังมีกฎหมายคุ้มครองเลย ม.112 นั้น หากมีใครไปยุ่งกับท่านมันถึงจะผิด ถ้าเราไม่ยุ่ง มันก็ไม่ผิดอะไร เราต้องมีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อยู่แล้ว ประเทศอื่นที่เขามีประธานาธิบดีมีปัญหา มีการล้มล้าง มีการฆ่ากัน บ้านเราไม่ค่อยมีอะไร เพราะมีระบบกษัตริย์ ซึ่งเป็นระบบที่ไว้วางใจได้

“เป็นห่วงแค่นี้แหละ เรื่องอื่นจะทำอะไรก็ทำไป เรื่องนี้ไม่ควรไปยุ่ง เราเป็นห่วงบ้านเมือง ไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้น ถ้าเรารักคนที่เขาไม่ชอบ เขาก็จะด่า เสียผู้เสียคน แค่ความคิดไม่ตรงกันเท่านั้น เหมือนโกรธกันมา 10 ชาติ อยากให้เขาดูด้วยว่าป๋าพูดเรื่องอะไร เพื่ออะไร เพื่อบ้านเมืองเท่านั้น ถ้าหากไม่มีกฎหมายก็ทำกันตามอำเภอใจเท่านั้น มันไม่ถูกต้อง ม.112 ไม่อยากให้ไปยุ่ง ประเทศเรา เราก็รักประเทศของเรา รักพระมหากษัตริย์ของเรา ไม่อยากให้ใครมายุ่ง มีคนมาด่าตนว่าแก่แก่กะโหลกกะลา ก็เฉพาะเรื่องนี้ ขอร้องเถอะครับ” ป๋าเทพ กล่าวทิ้งท้าย

‘วันนอร์’ ชี้ แก้ ม.112 ต้องเป็นไปตามขั้นตอน-กฎหมาย 

เมื่อวานนี้ (4 ก.ค.66) ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ ได้ตอบคำถามถึงประเด็นการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่เป็นประเด็นจับตา ว่า ประเด็นแก้ไขมาตรา 112 ไม่อยู่ในข้อตกลงของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะสนับสนุน แต่พรรคก้าวไกล ฐานะพรรคการเมืองในสภาฯ อยากเสนอเข้ามาต้องเป็นไปตามขั้นตอน ต้องว่าไปตามกฎหมาย และบทบาท ทั้งนี้กฎหมายต่าง ๆ นั้น ทุกพรรคมีสิทธิเสนอรวมถึงประชาชนด้วย เพราะสภาฯ ยุคนี้ต้องโปร่งใส เพื่อประชาชน ทั้งนี้ส่วนตัวยินดีให้ทุกฝ่าย รวมถึงสื่อมวลชนตรวจสอบการทำงานของสภาฯ ได้

‘ก้าวไกล’ ยืนยันเจตนารมณ์!! ไม่ลดเพดานแก้ ม.112 เชื่อ ส.ว.หนุน ‘พิธา’ นั่งนายกฯ ให้โอกาสประเทศเดินหน้า

‘ชัยธวัช’ ชี้แค่ ส.ว.บางราย ไม่เอา ‘พิธา’ ลั่นสิ่งที่เป็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เห็น มองบวก ‘สภาสูง’ ส่วนใหญ่ให้โอกาสเดินหน้าประเทศ เมินลดเพดานแก้ 112 ไม่ห้ามม็อบเคลื่อนไหว

(7 ก.ค. 66) ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีเสียงของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เริ่มชัดเจนไม่สนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะเงื่อนไขการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า ยังเป็นแค่ความเห็นของ ส.ว.เพียงบางราย ส.ว.ส่วนใหญ่ยังไม่ได้แสดงออกอะไร คิดว่าจะแสดงออกทีเดียวในวันโหวตนายกฯ 13 ก.ค.นี้ ดังนั้น อย่าเพิ่งประเมินสถานการณ์จากที่เห็น สิ่งที่เป็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เห็นก็ได้ ยังมั่นใจว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี และมั่นใจในวิจารณญาณของ ส.ว.ว่าอยากจะเห็นประเทศชาติเดินหน้าอย่างไร การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนได้แสดงออกต้องการคืนความเป็นปกติของระบอบประชาธิปไตยไทย ยังเชื่อมั่นใน ส.ว.จำนวนมากว่าจะให้โอกาสนี้กับประเทศไทย

เมื่อถามว่า แสดงว่าอีก 60 กว่าเสียง ที่เหลือจะมาจาก ส.ว. ทั้งหมด หรือจะมีการเจรจากับฝ่าย ส.ส. ด้วย นายชัยธวัช กล่าวว่า ทาง ส.ส. โดยเฉพาะพรรคที่เราไม่ได้ชวนมาร่วมรัฐบาลก็คงเป็นสิทธิของแต่ละคน แต่เชื่อว่าจะมี ส.ส.หลาย ๆ คน ใช้จุดยืนตัวเอง หรือใช้สถานะความเป็น ส.ส. ปกป้องรักษาระบบไว้ให้ได้ในสถานการณ์ช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญ ส่วนจะมีการเจรจาถอยบางเรื่องเพื่อให้ ส.ว. เห็นใจมาสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ นั้น คงเป็นการเน้นพูดคุยทำความเข้าใจมากกว่า ส.ว.ส่วนใหญ่อาจรับรู้ข้อมูลจากสื่อมวลชนซึ่งบางครั้งอาจไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไม่ลดเพดานมาตรา 112 ตามที่ ส.ว.ให้คำแนะนำมาหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าลดเพดานหมายถึงอะไร ที่ผ่านมาเราพยายามอธิบายว่าเจตนารมณ์ของเราเป็นอย่างไร เรามองเห็นปัญหาอย่างไร เราคิดว่าแนวทางแบบนี้ดีต่อระบอบประชาธิปไตย และสถาบันพระมหากษัตริย์มากกว่า

เมื่อถามย้ำว่า ยังยืนยันที่จะแก้ไขมาตรา 112 แม้จะมีคำทักท้วงจาก ส.ว.เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ยังมั่นใจว่าถ้าได้อธิบายเหตุผล จะมีความเข้าใจมากขึ้น เราต้องอธิบายเหตุผลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเวลาที่เหลือ เวทีสำหรับสื่อมวลชนในสัปดาห์หน้าจะมีความสำคัญกับประชาชน และสังคมในการสะท้อนไปยัง ส.ว. ซึ่งในวันนี้จะมีการหารือกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฏร เกี่ยวกับกระบวนการแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายกฯ ที่ถูกเสนอก่อนโหวต จะมีเวลาแสดงวิสัยทัศน์อย่างไร เป็นไปได้หรือไม่นอกจากการแสดงวิสัยทัศน์แล้ว จะมีการเปิดให้ ส.ส.-ส.ว.อภิปรายซักถามแคนดิเดตนายกฯ ที่ถูกเสนอชื่ออย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนที่สุดก่อนลงมติ แต่คงรอต้องหารือกับประธานสภาฯ ก่อนว่าจะได้ข้อสรุปอย่างไร

ส่วนที่มีการวิเคราะห์กันว่าถ้าฟังจากเสียง ส.ว.การโหวตเลือกนายพิธาครั้งแรกอาจจะไม่ผ่านนั้น นายชัยธวัช กล่าวย้ำว่า อย่างที่บอกไป สิ่งที่เป็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เห็น ยืนยันว่าหากโหวตนายพิธาไม่ผ่านในวันที่ 13 ก.ค. จะเสนอชื่อนายพิธาเพื่อโหวตอีกในวันที่ 19 ก.ค. แน่นอน แต่ยังเชื่อว่าจะโหวตจบในครั้งเดียว และไม่กังวลหากมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ มาแข่ง เพราะเป็นปกติในระบบรัฐสภา ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เชื่อว่า ส.ว.จะไม่สนับสนุนการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ส่วนจะต้องโหวตกี่ครั้งนั้น อย่าเพิ่งไปสรุปเป็นตัวเลข ต้องดูสถานการณ์ที่เป็นจริง และอย่าเพิ่งตัดว่าจะต้องโหวตจบในครั้งเดียวออกไป

“ยังบอกไม่ได้ว่าจะมีเสียง ส.ว.สนับสนุนเท่าไร ส.ว.ส่วนใหญ่จะไม่ได้ออกมาบอกว่าคิดเห็นอย่างไรกันแน่ มีเพียง ส.ว.เพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ออกมาให้ความเห็น ผมยังเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ยังเงียบอยู่จะเป็นสิ่งที่เปิดโอกาสให้ประเทศได้คืนความเป็นประชาธิปไตยให้ระบบการเมืองไทย และเดินหน้าไปตามกระบวนการ” นายชัยธวัช ระบุ

เมื่อถามว่าเสียงที่เงียบอย่าง ส.ว.สายทหาร ที่มีแนวโน้มแน่นอนว่าจะไม่สนับสนุนนายพิธา นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งดูถูกอาชีพทหาร ตนคิดว่าทหารจำนวนมาก มีความหวังดีกับประเทศชาติ ซึ่งก็ได้มีโอกาสพูดคุยทำความเข้าใจกับ ส.ว.สายทหาร เราทำทุกวันทั้ง ส.ว.สายทหาร ตำรวจ พลเรือน ข้าราชการ ทำเต็มที่ที่สุดจนถึงวันสุดท้าย เชื่อว่ามีสิทธิ์ที่จะได้เห็นแสงสว่าง ชีวิตต้องมีความหวัง

ส่วนกังวลหรือไม่ หากมีการเสนอแคนดิเดตนายกฯ จากฝ่ายประชาธิปไตย อย่างพรรคเพื่อไทยขึ้นมาแข่งนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ขณะนี้มีแคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียว อย่าเพิ่งพูดไปขนาดนั้น

เมื่อถามถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลเตรียมออกมาเคลื่อนไหว จะมีการส่งสัญญาณใดหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งบอกว่ามาสนับสนุนพรรคก้าวไกล ตนก็เห็นว่าทางกลุ่มผู้ชุมนุมเปิดให้มีการโหวตแสดงเจตจำนงของประชาชนที่ลงคะแนนเสียงว่าให้เคารพผลการเลือกตั้งเป็นสำคัญ ประเด็นคือต้องการให้ทุกฝ่ายปกป้องระบบ ไม่ใช่ตัวบุคคลหรือพรรคการเมืองใด ส่วนจะแสดงออกอย่างไร ตนไม่ทราบ หวังว่าจะแสดงออกอย่างสงบไม่ว่าจะฝ่ายไหน เพราะเราไม่ต้องการเห็นความรุนแรง ทางประธานสภาฯ ก็ได้กำชับเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

“แน่นอนว่าหากกระบวนการเลือกนายกฯ ล่าช้า การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการประจำปีในช่วงเดือน ต.ค. การพิจารณางบประมาณประจำปี และนโยบายเร่งด่วนต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ การลงทุนจะชะลอ และเกิดผลกระทบไปหมด ดังนั้นจบเร็วมากเท่าไหร่ยิ่งดี และจบแบบเคารพผลการเลือกตั้งเร็วที่สุด ให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ” นายชัยธวัช ระบุ

เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยังกล่าวถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อตรวจสอบจริยธรรม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ในสภาฯหรือไม่ว่า ตนอยู่ในแถวเดียวกับ น.ส.ศิริกัญญา ซึ่ง น.ส.ศิริกัญญาก็ปฏิญาณตนตามปกติ เพียงแต่อาจจะหันมาบ้าง เข้าใจว่า น.ส.ศิริกัญญาคิดว่าสมาชิกทุกคนจะพูดตามประธานทีละประโยค แต่พอพูดชื่อตัวเองแล้วก็พูดยาวไปเลย โดยไม่ได้รอประธาน จึงคิดว่าทำไมไม่รอ ซึ่งเรื่องนี้ไม่น่าเป็นสาระสำคัญอะไร และไม่เป็นประเด็นทางข้อกฎหมาย จริงๆ การปฏิญาณตนของนายกฯ ที่ไม่ตรงตามรัฐธรรมนูญสำคัญกว่า อย่างที่เกิดขึ้นในปี 2562 เรื่องใหญ่กว่า ไม่ทราบว่านักร้องหายไปไหน และเรื่องนี้คงไม่ถูกนำไปเป็นไปเด็นเชื่อมโยงเรื่องสถาบันฯ ให้กระทบกับการโหวตนายพิธาเป็นนายกฯ เพราะไม่เกี่ยวกัน เป็นการปฏิญาณตนของ ส.ส.ต่อสภาฯ

เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลยอมถอยเรื่องการแก้ไขมาตรา112 ส.ว.น่าจะมีข้ออ้างอื่นที่จะไม่สนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า แน่นอน คนไม่เลือกก็ไม่เลือกอยู่แล้ว ถามย้ำว่า ส.ว.มีธงในการโหวตอยู่แล้วใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า มี ส.ว.บางคนเท่านั้นที่มีธงอยู่แล้ว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top