Sunday, 5 May 2024
การเมือง

‘สมาชิกเพื่อไทย’ โอด ป้ายหาเสียงถูก ‘เผา-กรีด’ โร่แจ้งความหาตัวคนผิด ชี้!! ไม่อยากให้เกิดซ้ำอีก

มือมืดโผล่! เผาป้ายหาเสียงพรรคเพื่อไทย แม่ฮ่องสอน สมาชิกพรรคโร่แจ้งความเอาผิด วอนตำรวจเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ชี้ไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้ในเมืองสามหมอก ด้าน กกต.ระบุเป็นคดีอาญา เร่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยด่วน

(13 ม.ค. 66) นายสมภพ คงความซื่อ หรือ สจ.โจ้ อายุ 49 ปี ที่อยู่ 47 ม.4 ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน สมาชิกพรรคเพื่อไทย เขต 1 เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งประกอบด้วย อ.ขุนยวม, อ.เมือง, อ.ปางมะผ้า และ อ.ปาย ว่าป้ายแสดงนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ถูกติดไว้ในหลายพื้นที่ กว่า 10 จุด ได้ถูกลอบเผาทำลาย และบางป้ายมีการใช้ของมีคมกรีดจนเสียหาย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ก็พบว่ามีการทำลายป้ายดังกล่าวจริง และมีป้ายที่ถูกทำลายเสียหายกว่า 10 จุด จึงได้เดินทางไปแจ้งความ ที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อเอาผิดกับคนที่ลักลอบทำลายป้ายแสดงนโนบายพรรคเพื่อไทยต่อไป ทั้งนี้ ไม่อยากให้ภาพแบบนี้เกิดใน จ.แม่ฮ่องสอน อีกต่อไป เพราะทำให้ จ.แม่ฮ่องสอน เสียหาย

ขณะที่ นายณัฐเศรษฐ์ ราชไชยา ผอ.กกต.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า การลักลอบเผาป้ายหาเสียง ทาง กกต.แม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งเหตุจากทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอนแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในพื้นที่ของ จ.แม่ฮ่องสอน อย่างไรก็ตาม ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ในห้วงนี้ ถือเป็นห้วง 180 วันก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ซึ่งทาง กกต.ได้เปิดโอกาศให้พรรคการเมืองสามารถติดป้ายแสดงนโยบายพรรคหรือหาเสียงได้

สำหรับในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน พบว่า ทางพรรคการเมืองแต่ละพรรค ยังไม่ได้ส่งรายชื่อผู้แทนพรรคในพื้นที่ ให้แก่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งแต่อย่างใด ทำให้การหาเสียงในนามพรรคยังไม่ชัดเจน อีกทั้งพบว่า แต่ละพรรคการเมืองมีการเปลี่ยนตัวผู้ที่คาดว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งบ่อยครั้ง ส่งผลให้ประชาชนเฝ้ามองว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรคจะส่งผู้สมัครที่แท้จริงลงสมัครเมื่อใด แต่ก็พบว่ามีหลายคนได้มีการหาเสียงล่วงหน้ามาหลายเดือนแล้ว

สำหรับบัญชีรายชื่อผู้ที่คาดว่าจะลงรับสมัครเลือกตั้ง เป็น ส.ส.แม่ฮ่องสอน เบื้องต้นได้แก่ 
เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายดานุภัทร์ เชียงชุม เขต 2 นายสมบัติ ยะสินธุ์

‘เพื่อไทย’ โต้ ‘ณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี’ พรรคไม่เคยทอดทิ้ง ชี้ การสรรหาผู้สมัครยังไม่จบ แต่ดันชิงลาออกไปก่อน

พท.ปัดให้ผู้สมัครเลิกกับคนรักต่างค่าย ลั่นไม่ยุงเรื่องส่วนตัว แจงญาติ 'ณัฐวุฒิ' ร่วมงานพรรคอื่น เตือนแล้วไม่แก้ไข ย้ำกระบวนการสรรหาผู้สมัครยังไม่จบ เจ้าตัวชิงลาออกไปก่อน

(13 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคพท.กล่าวกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อต่าง ๆ ว่านายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี ส.ส.หนองบัวลำภู ลาออกจากพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคไม่ส่งลง ส.ส.เขต และมีการเสนอข่าวว่า 4 พรรคให้ยุติความสัมพันธ์กับนักการเมืองพรรคอื่นว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ขอชี้แจงว่า 

1.) ในกระบวนการคัดสรรผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยต้องดำเนินการโดยคณะกรรมการสรรหา หลังจากนั้นจะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเมื่อคณะกรรมการบริหารพรรคมีมติแล้ว จึงจะเป็นผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในนามของพรรคพท.ซึ่งกระบวนการดังกล่าวใช้ในการสรรหาผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อ 

2.) เกณฑ์ในการตัดสินใจส่งบุคคลใดลงสมัครรับเลือกตั้งนั้น พรรคพท.มีเกณฑ์การสรรหาที่โปร่งใส ชัดเจน แน่นอน โดยเฉพาะในประเด็นความซื่อสัตย์ มั่นคงกับพรรค ความชัดเจนของท่าทีทางการเมืองต่อพรรค รวมถึงการทำหน้าที่ ส.ส.ทั้งในสภาและนอกสภา 

3.) ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ ความรักของผู้สมัครนั้น เป็นเรื่องส่วนตัว พรรคจะไม่ไปก้าวล่วง เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล และพรรคไม่เคยขอให้ผู้สมัครรายใดยุติความสัมพันธ์กับคนรักที่สังกัดพรรคอื่นทั้งสิ้น

'ซูเปอร์โพล' เผยผลสำรวจ 'ผู้แทนราษฎรกับความหวังใหม่' ชี้!! ประชาชนยังมีหวัง ผู้แทนฯ ใหม่ทำหน้าที่ที่ดีในสภาฯ

เมื่อวานนี้ (15 ม.ค. 66) ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง ผู้แทนราษฎร กับ ความหวังใหม่ กรณีศึกษากลุ่มตัวอย่าง 1,137 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 12 - 13 มกราคม 2566

เมื่อถามถึง ความเข้าใจของประชาชนต่อ หน้าที่ของ ผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พบว่า ร้อยละ 51.0 ระบุผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. มีหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

ร้อยละ 44.9 ระบุ เห็นชอบกฎหมาย

ร้อยละ 32.7 ระบุ พิจารณากฎหมาย

ร้อยละ 30.3 ระบุ พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี

ร้อยละ 28.7 ระบุ เสนอกฎหมาย

ร้อยละ 23.7 ระบุ ช่วยเหลือ งานศพ งานบวช พบปะประชาชน ในงานต่าง ๆ

ร้อยละ 21.6 ระบุ ตั้งคณะกรรมาธิการชุดต่าง ๆ

ร้อยละ 14.8 ระบุ เห็นชอบ แต่งตั้งบุคคลนายกรัฐมนตรี

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่าที่น่าพิจารณาคือประชาชนเข้าใจว่า หน้าที่ของผู้แทนราษฎรคือช่วยเหลืองานศพ งานบวช พบปะประชาชนในงานต่าง ๆ มีสัดส่วนมากกว่าหน้าที่ในการเห็นชอบตั้งบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประเด็นที่ควรมีการพิจารณาเสริมสร้างความเข้าใจของประชาชนให้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น

ส่วนในประเด็นต้นตอความเสื่อมศรัทธาของประชาชน ต่อสภาผู้แทนราษฎร 

ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.8 ระบุ ความเสื่อมของ ส.ส. หรือผู้แทนราษฎร คือ สภาล่มซ้ำซาก แจกกล้วย พฤติกรรมไม่เหมาะสม ดูหนังโป๊ในสภา เสียบบัตรแทนกัน

ร้อยละ 91.9 ระบุ รัฐสภาไม่เป็นต้นแบบของความรักความสามัคคีของคนในชาติ แบ่งขั้ว แบ่งข้างมุ่งแต่หาผลประโยชน์

ร้อยละ 91.0 ระบุ ผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ต้นตอทุจริต แสวงหาผลประโยชน์ จากการประมูลโครงการต่าง ๆ

ร้อยละ 90.5 ระบุ ความเป็น ส.ส. หรือ ผู้แทนราษฎร เป็น สมบัติประจำตระกูลสืบทอดต่อ ๆ กันได้

ผู้แทนราษฎรที่ประชาชนคาดหวังทำหน้าที่ ส.ส.ที่ดีในสภาผู้แทนราษฎร พบว่า

ร้อยละ 54.9 ระบุ นาย เอกสิทธิ์ คุณานันทกุล, นาย ธนกร วังบุญคงชนะ, นางวลัยพร รัตนเศรษฐ จากพรรคพลังประชารัฐ

ร้อยละ 54.0 ระบุ นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์, นายอิสรพงษ์ มากอำไพ, น.ต.สุธรรม ระหงษ์ จากพรรคประชาธิปัตย์

‘เพื่อไทย’ เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัครส.ส. เพิ่ม 45 คน คาด!! เปิดตัวครบ 400 เขตภายในต้นเดือนก.พ.

(16 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค, นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ และน.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค แถลงเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งส.ส. ภาคเหนือ กทม. อีสาน กลางและใต้อีก 45 คน

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยคำนึงถึงเรื่องนี้ที่จะบอกกับประชาชนว่าเราพร้อม วันนี้เรามีว่าที่ผู้สมัคร 45 คนที่เราจะประกาศเป็นว่าที่ผู้สมัคร โดยส่วนที่เหลือเราจะประกาศตัวให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ม.ค.นี้หรือไม่เกินต้นเดือนก.พ. โดยว่าที่ผู้สมัครที่เราจะประกาศเป็นบุคลากรที่มีความมั่นใจ ว่าเกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนในการคัดเลือกมาเป็นผู้สมัครเพราะเข้าใจในพื้นที่ ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักของพรรคเพื่อไทยและผู้สมัครก็เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่จะทำให้ประชาชนตัดสินใจเลือกเรา เลือกเพื่อไทยให้กลับมาเป็นรัฐบาลเพื่อจะนำเอาความฝัน ความหวังมาสู่พี่น้องประชาชนอีกครั้ง

นายประเสริฐ​ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญ พรรคเพื่อไทยถือฤกษ์ในการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส. หลังจากนี้เราจะได้ทยอยเปิดตัวไปเรื่อย ๆ จนครบ 400 เขต ในการเปิดตัววันนี้จะส่งผลให้การเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ไปแตะเกือบ 90% ฉะนั้นจะเหลืออีกแค่ประมาณ 10% หรืออีก 40-50 คน ที่เราจะเปิดตัวสัปดาห์แรกของเดือนก.พ. เพื่อสร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ให้เกิดทั้งประเทศ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งนี้ 

สำหรับรายชื่อผู้ประสงค์จะลงสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้ง 45 คน แบ่งเป็น 

กทม. จำนวน 6 คน 
1.น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ อดีตส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 
2.นายภัทร ภมรมนตรี 
3.นายขจรศักดิ์ ประดิษฐาน 
4.นายธกร เลาหพงศ์ชนะ 
5.นายเกรียงไกร จงเจริญ 
6.นายอารุม ตุ้มน้อย

ภาคอีสาน ได้แก่ 
จ.กาฬสินธุ์ 
1.นางยรรยงรัตน์ ไชยศิวามงคล 
2.นายพีระเพชร ศิริกุล 
3.นายประเสริฐ บุญเรือง 

จ.ขอนแก่น 
1.น.ส.รัมภามาศ ทีฆธนานนท์ 
2.นายสุรพจน์ เตาะเจริญสุข 
3.น.ส.วิภาณี ภูคำวงศ์ 

จ.นครพนม 
1.นายไพจิต ศรีวรขาน 
2.นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ 

จ.บึงกาฬ 
1.น.ส.ภัทรพร ราชป้องขันธ์ 
2.นายไตรรงค์ ติธรรม 

จ.มุกดาหาร 
1.นายนนทภูมิ ตั้งปณิธานนท์ 

จ.สกลนคร 
1.น.ส.จิรัชยา สัพโส
2.น.ส.วงศ์อะเคื้อ บุญศล 

จ.หนองบัวลำภู 
1.นายณพล เชยคำแหง 

จ.อุดรธานี 
1.นายศราวุธ เพชรพนมพร 
2.นายอนันต์ ศรีพันธุ์ 
3.นายขจิตร ชัยนิคม 
4.นายกรวีร์ สาราคำ 
5.นางจุฑาพัตธน์ เมนะสวัสดิ์ 
6.นายธีระชัย แสนแก้ว 
7.นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม 
8.นางเทียบจุฑา ขาวขำ 
9.นายวัชรพล ขาวขำ 

จ.มหาสารคาม 
1.นายรัฐ คลังแสง

ภาคใต้ ได้แก่ 
จ.นครศรีธรรมราช 
1.น.ส.ปรมาภรณ์ บริบูรณ์ 

‘หมอชลน่าน’ แนะจับตารัฐบาลชิงยุบสภาฯ ชี้!! มีการถือกฤษ์ดูดวง หวังกลับมาสืบทอดอำนาจ

‘ชลน่าน’ แนะจับตา 3 ช่วงรบ.ถือฤกษ์ชิงยุบสภาฯ หวังกลับมาสืบทอดอำนาจ เชื่อ ปชช.จะพิพากษาในคูหาเลือกตั้ง อัดรัฐเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการชิงความได้เปรียบ ย้ำไม่ประกาศจับพรรคไหนก่อนเลือกตั้ง ชี้เสียมารยาท

(16 ม.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน หัวหน้าพรรค กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ตอบกลับว่ามีความพร้อมอภิปรายตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.เป็นต้นไป ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านและผู้เสนอญัตติได้ปรึกษาหารือเสนอไปว่า มันเป็นเวลาที่เนิ่นนานเกินกว่าเหตุที่จำเป็น ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ก็เห็นด้วยว่าอภิปรายควรไม่เกิน 1 เดือนเมื่อเสนอญัตติไปแล้ว ยืนยันว่าเราจะอภิปรายครอบคลุมทุกเนื้อหา และเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นในสังคม อาทิ ยาเสพติด ทุนจีนสีเทา การแต่งตั้งโยกย้าย ทั้งนี้ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะดูแลดูเนื้อหาสาระการอภิปราย เราตั้งเป้าได้เวลาไม่ต่ำกว่า 22 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าครั้งที่ผ่านมา 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญเพราะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย เพื่อให้ประชาชนลงมติในคูหาเลือกตั้ง เราจะถอดหน้ากากคนดีแล้วให้เห็นว่าคนดีที่แท้จริงคิดอะไร ส่วนบุคคลที่จะอภิปรายในนามพรรคต้องถูกคัดเลือก ไม่ได้ในนามสมัครใจ เสมือนเวทีปราศรัยใหญ่ แต่เป็นเวทีในสภาฯ และบุคคลที่คัดเลือกจะอภิปรายประเด็นที่เป็นประโยชน์ในการเสนอปัญหาให้ครม.

เมื่อถามกลัวรัฐบาลชิงยุบสภาฯ ก่อนหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นประเด็นที่วิตกพอสมควร เพราะช่วงที่กำหนดวันอภิปรายทิ้งเวลาเนิ่นนานเกรงว่าจะหนีอภิปราย และมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะยุบสภาฯ ก่อน 15 ก.พ. จริงหรือไม่ต้องติดตาม โดยเฉพาะหลังวันที่ 6 ก.พ. หากส.ส.ยังคงทำหน้าที่ต่อ โอกาสยุบสภาฯมีสูง ซึ่งได้ข่าวมาว่ามีการดูฤกษ์งามยามดีในการยุบสภา เพื่อให้ได้กลับมามีโอกาสสืบทอดอำนาจ คือวันที่ 14 ก.พ. 24 ก.พ.และ 7 มี.ค. ทั้งนี้ หากตรงไปตามข่าวยุบสภาก่อนวันที่ 15 ก.พ. ก็คือวันที่ 14 ก.พ.ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก อาจจะกลายเป็นวันแห่งความเกลียดได้ และต่อให้ถือฤกษ์ยามเพียงใด แต่ฤกษ์งามยามดีของประชาชน ก็คือวันเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นวันพิพากษาพวกท่าน

‘สมคิด’ อัด ‘บิ๊กตู่’ กู้เงินโปะงบประมาณทุกปี ชี้!! สร้างหนี้ให้ประเทศมากกว่า 4 ล้านล้านบาท

(17 ม.ค. 66) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการ ประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณประจำปี 2567 ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พบว่าเป็นการจัดทำงบประมาณขาดดุลเช่นเดิม ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาจัดทำงบประมาณขาดดุลมาโดยตลอด มีการกู้เงินโปะงบประมาณทุกปี จากการตรวจสอบพบว่าพล.อ.ประยุทธ์ใช้การกู้เงินโปะงบประมาณมากกว่า 4 ล้านล้านบาท สร้างหนี้สินไม่รู้จบ การกล่าวอ้างว่าไม่อยากให้เป็นภาระกับรัฐบาลหน้านั้น เป็นการพูดเอาดีเข้าตัว ข้อเท็จจริงคือหนี้สินที่พล.อ.ประยุทธ์สร้างไว้ ใครมาเป็นรัฐบาลต่อไปต้องไปตามใช้หนี้ที่พล.อ.ประยุทธ์ก่อขึ้น หนี้สินก้อนนี้ กระทบเงินลงทุนในการพัฒนาประเทศอย่างแน่นอน ทั้งนี้ งบประมาณประจำปี 2567 ที่สูงถึง 3,350,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 เป็นจำนวน 165 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.18 งบประมาณที่เพิ่มขึ้น ไม่สอดคล้องกับบริบทของประเทศไทย  

นายสมคิด กล่าวต่อว่า หากพล.อ.ประยุทธ์อยากเป็นนายกฯ ต่อ คงไม่สามารถคำนวณได้ว่าประเทศไทยจะเป็นหนี้อีกมากเท่าไหร่ 8 ปีที่ผ่านมาเชื่อว่าประชาชนเห็นอะไรชัดเจนแล้วว่าการบริหารประเทศของรัฐบาลผลออกมาเช่นไร ถึงเวลานี้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องยอมรับว่าตัวเองไร้ความสามารถ ประชาชนมองว่าพล.อ.ประยุทธ์แก่เกินกว่าจะมานั่งบริหารประเทศต่อไป ควรให้คนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามานำพาประเทศ จะเกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่า

เปิดนโยบาย 4 พรรคการเมืองใหญ่ ชูนโยบายแก้ปัญหาปากท้อง ปชช.

เชื่อว่าช่วงนี้ทุกท่านคงจะเห็นพรรคการเมืองเริ่มรุกกำหนดนโยบายหาเสียงกันแล้ว มีตั้งแต่นโยบายเล็ก ๆ ไปจนถึงนโยบายใหญ่ ๆ ซึ่งวันนี้ทีมข่าว THE STATES TIMES จะพาทุกท่านไปดูว่า พรรคการเมืองพรรคไหนบ้างที่มีนโยบายสนับสนุนปากท้องประชาชน

ขอเริ่มต้นที่ ‘พรรคพลังประชารัฐ’ ได้กำหนดนโยบายออกมาคือ ‘เศรษฐกิจประชารัฐ’ คือการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ย้ายแรงงานภาคการเกษตรไปยังภาคอุตสาหกรรม-ภาคของเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมมากขึ้น แล้วก็ส่งเสริมเรื่องเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมในเรื่องของการที่จะให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผ่านกองทุนต่าง ๆ หรือรูปแบบอื่นใดก็ตาม 

ต่อมา ‘พรรคเพื่อไทย’ พรรคนี้ได้ประกาศแคมเปญรณรงค์การเลือกตั้งครั้งนี้ว่า ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ ซึ่งทางพรรคก็เคลมว่าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลในปี 2570 ซึ่งมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจปากท้องประชาชน คือ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส ปี 2570 พรรคเพื่อไทยจะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศเติบโตอย่างต่ำเฉลี่ยร้อยละ 5% ต่อปี ช่องว่างความเหลื่อมล้ำจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะพรรคเพื่อไทยจะใช้แนวคิด ‘รดน้ำที่ราก’ เพื่อให้ต้นไม้งอกงามได้ทั้งต้น ทั้งที่น้ำมีจำกัด

พรรคถัดมาคือ ‘พรรคประชาธิปัตย์’ พรรคนี้ได้กำหนดยุทธศาสตร์ของพรรคไว้คือ ‘สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ’ ซึ่งมีนโยบายเสริมปากท้องประชาชนคือ 

1. การประกันรายได้ ซึ่งก็คือการประกันรายได้จ่ายเงินส่วนต่าง ข้าว มัน ยาง ปาล์ม และข้าวโพด โดยรายละเอียดของการต่อยอดโครงการประกันรายได้นั้นจะเน้นในส่วนของเงินส่วนต่างให้กับพี่น้องเกษตรกร

2. ให้เงินอุดหนุนกลุ่มประมง ซึ่งในไทยมีกลุ่มประมงกระจายอยู่ทั่วประเทศ 2,800 กว่าแห่ง กลุ่มประมงเหล่านี้คือกลุ่มประมงที่เป็นฐานรากของประเทศ ดังนั้นนโยบายที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องการสร้างความเข้มแข็งในฐานราก ก็คือการให้เงินอุดหนุนกลุ่มเกษตรกรประมง กลุ่มละ 100,000 บาทต่อปีทุกกลุ่ม ทั้ง 2,800 กว่ากลุ่ม 

ต่อมา ‘พรรคภูมิใจไทย’ ซึ่งพรรคนี้ได้กำหนดนโยบายออกมา 2 นโยบายที่สนับสนุนปากท้องท้องประชาชน ได้แก่

‘โรม’ หวั่น ‘บิ๊กตู่’ ยุบสภาฯ หนีศึกซักฟอก หลังให้เวลาฝ่ายค้านเตรียมตัวมากเป็นพิเศษ

(17 ม.ค. 66) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวยุบสภาก่อนการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเรื่องแปลกที่การอภิปรายในครั้งนี้ รัฐบาลดูจะให้เวลาฝ่ายค้านได้เตรียมตัวมากเป็นพิเศษ ทั้งที่ในการอภิปรายที่ผ่านมา รัฐบาลจะพยายามทำให้ฝ่ายค้านมีเวลาเตรียมตัวน้อยที่สุด เพื่อที่การอภิปรายจะออกมาไม่มีคุณภาพมาก แต่รอบนี้กลายเป็นว่าฝ่ายค้านมีเวลาถึงเดือนกว่าในการเตรียมตัว ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลอาจจะไม่ได้กังวลกับการอภิปรายทั่วไปครั้งนี้เท่าไรนัก

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า อาจมองได้ว่าเป็นเพราะรัฐบาล โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่เพิ่งเปิดตัวเข้าพรรคการเมืองใหม่ กำลังให้ความสนใจกับการสร้างตัวตนทางการเมือง จนไม่ได้สนใจปัญหาอื่น ๆ โดยเฉพาะเรื่องปากท้องของประชาชน ขณะเดียวกันงานในความรับผิดชอบหลายอย่างของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยเฉพาะงานตำรวจก็ทำได้เลวร้ายมาก เห็นได้จากการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับทุนจีนสีเทา แต่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับดูจะไม่ให้ความสำคัญกับประเด็นเหล่านี้ แต่กำลังให้ความสำคัญกับเรื่องเดียวเท่านั้น คือจะทำอย่างไรให้ตัวเองสืบทอดอำนาจ จึงไม่แปลกที่จะเกิดข่าวลือขึ้นหนาหูในช่วงนี้ ว่าจะเกิดการยุบสภาเพื่อหนีการซักฟอกของฝ่ายค้านหรือไม่ ซึ่งหากรัฐบาลเลือกที่จะยุบสภาเพื่อหนีการซักฟอกของฝ่ายค้าน ก็แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลยอมรับโดยปริยายว่าข้อกล่าวหาต่าง ๆ นั้นเป็นเรื่องจริง

'ประชาธิปัตย์' เล็งกวาด 3 ที่นั่งในพื้นที่สกลนคร หลังอดีต 'ส.ส.สาคร' มั่น!! นโยบายพรรคโดนใจปชช.

อดีต ส.ส.สกลนคร 'สาคร พรหมภักดี' มั่นใจ ผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ จะปักธงได้ถึง 3 คน หลังพรรคประกาศ 8 นโยบายโดนใจประชาชน

เมื่อวานนี้ (17 ม.ค. 66) นายสาคร พรหมภักดี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เขต 3 จังหวัดสกลนคร กล่าวเปิดใจถึงการสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และประสงค์ลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรคฯ ว่า จากการที่ได้ลงพื้นที่ พบปะ พูดคุยกับประชาชน ได้เห็นถึงการตื่นตัว และพึงพอใจในนโยบายประกันรายได้ของพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคไทยสร้างไทย เพื่อมาลงสมัครสมาชิกผู้แทนราษฎรในนามพรรคประชาธิปัตย์

“ตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา กับการเดินสายพบปะประชาชนพื้นที่จังหวัดสกลนคร ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อพรรคประกาศนโยบาย 8 ด้านออกมานั้น โดยเฉพาะนโยบายชาวนารับ 30,000 บาทต่อครัวเรือน การออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลง ภายใน 4 ปี และการออกกรรมสิทธิ์ทำกิน ให้ผู้ทำกินในที่ดินของรัฐ รวมทั้งธนาคารหมู่บ้าน - ชุมชน แห่งละ 2 ล้านบาท ที่มีความชัดเจนขึ้นนั้น เป็นที่พึงพอใจของประชาชนอย่างมาก และเชื่อว่าผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 3 คน จะสามารถปักธงในพื้นที่จังหวัดสกลนครได้อย่างแน่นอน หลังพรรคประกาศนโยบายที่โดนใจประชาชน” นายสาครฯ กล่าว

‘เพื่อไทย’ ลงพื้นที่พบปะพี่น้องชาว ‘นนทบุรี’ ลั่น!! ไม่สน พปชร. เพิ่มบัตรประชารัฐเป็น 700 บาท

(18 ม.ค. 66) เวลา 08.17 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (อุ๊งอิ๊ง) หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และชาวคณะ นำทีมเยี่ยมประชาชนตลาดประชานิเวศน์ 3 นนทบุรี

อุ๊งอิ๊งกล่าวว่า เสียงตอบรับจากการลงพื้นที่วันนี้ดีมากมาก ได้รับการต้อนรับอบอุ่นอย่างอบอุ่นจากพี่น้องประชาชนตลาดประชานิเวศน์ 3 ก็มีคนบอกว่าอยากจะเลือกตั้งแล้ว ซึ่งก็ถือว่าสําหรับพรรคเพื่อไทยก็เป็นกําลังใจอย่างมาก ที่ทําให้เราอยากจะเดินสายหาเสียงต่อ เราพร้อมแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีกว่าเดิม 

“นโยบายเราได้รับการตอบรับดีมาก ระหว่างเดินพบปะก็มีคนโชว์บัตรลายเซ็นต์ของท่านนายกทักษิณ ตั้งแต่ที่อยู่พรรคไทยรักไทย เห็นก็ชื่นใจมากมากนะคะ ที่พี่น้องประชาชนยังไว้ใจเรามายาวนานยี่สิบปีขนาดนี้ค่ะ แล้วก็ แน่นอนค่ะ เราจะไม่ทําให้พี่น้องประชาชนผิดหวังค่ะ” อุ๊งอิ๊งกล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top