‘หมอชลน่าน’ แนะจับตารัฐบาลชิงยุบสภาฯ ชี้!! มีการถือกฤษ์ดูดวง หวังกลับมาสืบทอดอำนาจ

‘ชลน่าน’ แนะจับตา 3 ช่วงรบ.ถือฤกษ์ชิงยุบสภาฯ หวังกลับมาสืบทอดอำนาจ เชื่อ ปชช.จะพิพากษาในคูหาเลือกตั้ง อัดรัฐเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการชิงความได้เปรียบ ย้ำไม่ประกาศจับพรรคไหนก่อนเลือกตั้ง ชี้เสียมารยาท

(16 ม.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน หัวหน้าพรรค กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ตอบกลับว่ามีความพร้อมอภิปรายตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.เป็นต้นไป ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านและผู้เสนอญัตติได้ปรึกษาหารือเสนอไปว่า มันเป็นเวลาที่เนิ่นนานเกินกว่าเหตุที่จำเป็น ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ก็เห็นด้วยว่าอภิปรายควรไม่เกิน 1 เดือนเมื่อเสนอญัตติไปแล้ว ยืนยันว่าเราจะอภิปรายครอบคลุมทุกเนื้อหา และเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นในสังคม อาทิ ยาเสพติด ทุนจีนสีเทา การแต่งตั้งโยกย้าย ทั้งนี้ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะดูแลดูเนื้อหาสาระการอภิปราย เราตั้งเป้าได้เวลาไม่ต่ำกว่า 22 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าครั้งที่ผ่านมา 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญเพราะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย เพื่อให้ประชาชนลงมติในคูหาเลือกตั้ง เราจะถอดหน้ากากคนดีแล้วให้เห็นว่าคนดีที่แท้จริงคิดอะไร ส่วนบุคคลที่จะอภิปรายในนามพรรคต้องถูกคัดเลือก ไม่ได้ในนามสมัครใจ เสมือนเวทีปราศรัยใหญ่ แต่เป็นเวทีในสภาฯ และบุคคลที่คัดเลือกจะอภิปรายประเด็นที่เป็นประโยชน์ในการเสนอปัญหาให้ครม.

เมื่อถามกลัวรัฐบาลชิงยุบสภาฯ ก่อนหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นประเด็นที่วิตกพอสมควร เพราะช่วงที่กำหนดวันอภิปรายทิ้งเวลาเนิ่นนานเกรงว่าจะหนีอภิปราย และมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะยุบสภาฯ ก่อน 15 ก.พ. จริงหรือไม่ต้องติดตาม โดยเฉพาะหลังวันที่ 6 ก.พ. หากส.ส.ยังคงทำหน้าที่ต่อ โอกาสยุบสภาฯมีสูง ซึ่งได้ข่าวมาว่ามีการดูฤกษ์งามยามดีในการยุบสภา เพื่อให้ได้กลับมามีโอกาสสืบทอดอำนาจ คือวันที่ 14 ก.พ. 24 ก.พ.และ 7 มี.ค. ทั้งนี้ หากตรงไปตามข่าวยุบสภาก่อนวันที่ 15 ก.พ. ก็คือวันที่ 14 ก.พ.ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก อาจจะกลายเป็นวันแห่งความเกลียดได้ และต่อให้ถือฤกษ์ยามเพียงใด แต่ฤกษ์งามยามดีของประชาชน ก็คือวันเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นวันพิพากษาพวกท่าน

เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐบาลเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถือเป็นการชิงความได้เปรียบของรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นการชิงความได้เปรียบอย่างแน่นอน แต่เราก็ดีใจกับประชาชนได้เงินเพิ่มในภาวะวิกฤติที่รัฐบาลสร้างไว้แบบนี้ แต่เชื่อว่าประชาชนรู้ว่าเงินที่ได้คือภาษีอากรของเขาเอง และทำไมเพิ่งมาได้ตอนนี้ทั้งที่เขายากลำบากมาก่อนหน้านี้ การอาศัยช่องว่างทางกฎหมายมาเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น แต่ไม่สามารถเอาเปรียบประชาชนที่เป็นเจ้าของภาษีไม่ได้ 

เมื่อถามถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ประกาศพร้อมจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นพ.ชลน่าน กล่าวว่า น.ส.แพทองธารพูดโดยหลักการ ทั้งนี้ การประกาศจับมือกับพรรคการเมืองอื่นก่อนเลือกตั้ง ถือเป็นมารยาทที่ไม่ดีทางการเมือง ไม่เคารพประชาชน เพราะยังไม่รู้เลยว่าประชาชนจะมอบอำนาจให้ใครเราจะจับมือกับประชาชนก่อน ถ้าประชาชนมอบอาณัติให้เรา 250 เสียงขึ้นไป ก็จะสามารถตั้งรัฐบาลของประชาชนได้อย่างแน่นอน โดยเราจะร่วมมือกับพรรคที่ประชาชนมอบความไว้วางใจให้เป็นหลัก ต้องดูเสียงที่ประชาชนมอบให้พรรคนั้น ๆ และถ้าจะจับกับพรรคใดต้องถามประชาชนก่อน และพรรคที่จะจับต้องเป็นพรรคที่เคารพหลักการประชาธิปไตย ไม่สนับสนุนและเป็นนั่งร้านให้กับเผด็จการ

เมื่อถามย้ำว่าเวลานี้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีอุดมการณ์เดียวกันกับพรรค พท.หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็ต้องถามกลับไปยังพรรค พปชร.มีอุดมการณ์เดียวกันหรือไม่ เชื่อว่าประชาชนรู้ดี


เรื่อง: เอก วงษ์อารีย์ Content Manager