Saturday, 20 April 2024
เพื่อไทย

‘พรรคเพื่อไทย’ ลุย ‘ลพบุรี’ ลงพื้นที่ช่วยชาวบ้าน เผยพี่น้องประชาชนสุดทน รัฐบาลลอยแพปล่อยเจอปัญหาซ้ำซ้อน ‘น้ำท่วมบ้าน-ท่วมนาข้าวเน่า-ราคาข้าวตกต่ำ’ ไร้การเหลียวแล 

พรรคเพื่อไทย นำโดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย, นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรค, นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค, นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม., นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พร้อมด้วยอดีต ส.ส.ลพบุรี นำโดย สุชาติ ลายน้ำเงิน และ พิชัย เกียรติวินัยสกุุล ลงพื้นที่ บ้านเนินยาวและวัดบ้านคลอง ตำบลหนองทรายขาว และวัดหนองเมือง ตำบลหนองเมือง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งต้องจมอยู่ในน้ำมานานมากกว่า 10 วัน

โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ สะท้อนว่าสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอย่างหนัก เนื่องจากระดับน้ำที่สูงมากกว่า 1 เมตร จะเดินทางไปไหนต้องลุยน้ำที่สูงระดับหน้าอก บางชุมชนระดับน้ำสูงเกือบถึงชั้นสองของบ้านพัก อีกทั้งการที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ทำให้เริ่มเกิดปัญหาน้ำเน่าและเกิดโรคที่มากับน้ำ โดยเฉพาะโรคน้ำกัดเท้า รวมทั้งมีปัญหาการขาดแคลนอาหาร น้ำดื่มและยารักษาโรค นอกจากนี้ชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวนา ยังได้แจ้งความเสียหายที่เกิดขึ้น หลังจากน้ำท่วมไหลบ่าเข้าท่วมนาข้าวที่กำลังตั้งท้อง ซึ่งส่วนใหญ่เก็บเกี่ยวไม่ทัน และได้พยายามสอบถามถึงความชัดเจนของรัฐบาล ที่จะมีมาตรการชดเชยความเสียหายให้กับเกษตรกร

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ต้องอยู่อย่างยากลำบากเป็นเวลานาน เนื่องจากน้ำท่วมขังมานานนับสิบวัน แต่ระดับน้ำกลับไม่ลดลง ซึ่งตลอดการลงพื้นที่ได้เห็นอย่างชัดเจนว่า นาข้าวของชาวบ้านจมน้ำจำนวนมาก ดังนั้นรัฐบาลจึงควรเร่งหาทางระบายน้ำออกจากพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้โดยเร็ว รวมทั้งบรรเทาความเสียหายอันเกิดจากน้ำท่วมนาข้าวและผลผลิตอื่นๆ ของพี่น้องประชาชนด้วย 

'ไชยันต์' ย้อนปมปริศนาเอนทรานซ์ปี 47 เปิดคะแนน 'อุ๊งอิ๊ง' พุ่งสูงมหัศจรรย์

'ไชยันต์' ย้อนปมปริศนาข้อสอบเอนทรานซ์ปี 47 รั่ว เปิดคะแนนสูงมหัศจรรย์ลูกสาวอดีตนายกฯ สร้างรอยด่างวงการศึกษาไทยครั้งใหญ่

ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า…

ปมปริศนาความไม่เสมอภาคและความอยุติธรรมทางการศึกษาในปี พ.ศ. 2547 กรณีข้อสอบ Entrance ปี 47 รั่ว

แพทองธาร คะแนนสูงมหัศจรรย์ เมื่อคะแนน Ent ครั้งนั้นออก ผลการสอบของลูกสาวนายกฯ เทียบกับครั้งแรกตะลึง ภาษาไทย จาก 52 เพิ่มเป็น 72, สังคม จาก 41.25 เพิ่มเป็น 67.5, ภาษาอังกฤษจาก 64 เพิ่มเป็น 84, คณิตศาสตร์ 2 จาก 27 เพิ่มเป็น 63

ศ.ร.ต.อ.วรเดช จันทรศร เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เปิดซองต้นฉบับการ์ดข้อสอบ วิชาภาษาไทยและวิชาสังคมศึกษา ก่อนส่งให้คณะอนุกรรมการพิมพ์ข้อสอบ

ผลสรุปเอ็นทรานซ์รั่ว “ทักษิณ-อดิศัย” ต้องรับผิดชอบ (14 มิ.ย. 47) กรณีข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยเอ็นทรานซ์รั่วที่ปรากฏขึ้นในรัฐบาลชุดนั้นถือเป็นรอยด่างให้กับวงการศึกษาไทยครั้งใหญ่ ทำให้ความเชื่อมั่นศรัทธาต่อระบบการสอบเอ็นทรานซ์ที่เคยได้รับความเชื่อถือศรัทธามานานนับสิบปีต้องสั่นคลอนอย่างหนัก ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ต่างยืนยันว่า “ข้อสอบไม่รั่ว” รวมทั้งแสดงพฤติกรรมปกป้องคนผิดมาตลอด

เมื่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงชุด นายสุเมธ ตันติเวชกุล เป็นประธาน มีข้อสรุปว่า “ข้อสอบรั่ว” ศูนย์วิจัยฯ พรรคประชาธิปัตย์ ขณะนั้น เห็นว่าเมื่อผลสรุปออกมาแบบนี้ ทั้งนายกฯ ทักษิณ และ รมต.อดิศัย ต้องแสดงรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผลสรุปคณะกรรมการสอบสวนฯ ตบหน้า “ทักษิณ-อดิศัย”

ก่อนหน้านี้เมื่อเกิดเหตุการณ์อื้อฉาว สังคมตั้งข้อสงสัยเรื่องข้อสอบเอ็นทรานซ์รั่ว เพราะมีการเปิดเผยพฤติกรรมของข้าราชการระดับสูงบางคน โดยเฉพาะ ร.ต.อ.วรเดช จันทรศร อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (ก.อ.) ว่าไม่โปร่งใส มีการเปิดดูข้อสอบหรือนำข้อสอบไปเก็บไว้ในห้องทำงาน ในครั้งนั้นบรรดานักเรียน ผู้ปกครองรวมทั้งประชาชนทั่วไปเกิดความสงสัยและเรียกร้องให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาโดยเร็ว

แต่ปรากฏว่า ได้รับการขัดขวางทุกวิถีทางทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะนายกฯ ทักษิณ และรมต.อดิศัยต่างออกมาปฏิเสธ และเห็นว่าไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแต่อย่างใด อีกทั้งในบางครั้งยังออกมาพูดในทำนองว่าเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นเป็นเกมการเมืองหรือมีบางกลุ่มต้องการสร้างกระแสเพื่อดิสเครดิตรัฐบาลเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อกระแสสังคมเริ่มกดดันขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้รัฐบาลทนฝืนกระแสต่อไปไม่ไหว ก็มีการย้าย ร.ต.อ.วรเดช ไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษา แทนที่จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงให้คลายความสงสัยกับสังคม หรือยังมีการตกรางวัลความดีความชอบตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพิ่มให้อีก 2 ขั้น

ที่สุดแล้วเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้จึงต้องยอมแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และมีข้อสรุปในเวลาต่อมาว่า “ข้อสอบรั่ว” รวมทั้งยังระบุว่า การกระทำของ ร.ต.อ.วรเดช เป็นการไม่ถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. 2544 ข้อ 30 เพราะในรายงานการสอบสวนยังชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนอีกว่า ร.ต.อ.วรเดช เป็นผู้เปิดดูซองข้อสอบและเปลี่ยนแปลงสถานที่เก็บข้อสอบถึงสองครั้ง

พฤติกรรมดังกล่าวของ ร.ต.อ.วรเดช ทางคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงยังระบุว่า มีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัย ฐานปฏิบัติราชการไม่เป็นไปตามระเบียบของทางราชการและมติคณะรัฐมนตรี ไม่ปฏิบัติตามระเบียบและแบบธรรมเนียมของทางราชการตามมาตรา 85 และมาตรา 91 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 และมีมูลที่ควรกล่าวหาว่าประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ ดังนั้น เมื่อรายงานผลการสอบสวนออกมาตรงกันข้ามกับท่าทีและคำยืนยันของผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาล สังคมจึงต้องการรู้ว่า ทั้งสองคนดังกล่าวจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไรบ้าง

“อดิศัยท้าทายสังคม ‘ตัดตอน’ ผลสอบเอ็นทรานซ์รั่ว” หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า อะไรคือสาเหตุจูงใจให้ ร.ต.อ.วรเดช และ รมต.อดิศัย ถึงกล้าแสดงพฤติกรรมที่ท้าทายสังคมมาตลอด อย่างไรก็ดี ถ้าหากมองย้อนไปในอดีตแล้วก็สามารถเชื่อมโยงได้ทันทีจากคำพูดของนายกฯ ทักษิณ ที่เคยกล่าวว่า จะให้นายอดิศัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีไปจนครบ 4 ปี ซึ่งถือว่าเป็นการประกันเก้าอี้กันไว้ล่วงหน้า ทำให้หลายฝ่ายเข้าใจนี่อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ รมต.อดิศัย ไม่สนใจต่อสังคมมากนัก

ประกอบกับเวลานี้สิ่งที่สังคมยังตั้งข้อสงสัยและไม่พอใจคือ ความพยายามในการบิดเบือนข้อสรุปของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจาก นายอดิศัย โพธารามิก ที่เคยออกมาแถลงรายงานผลการสอบสวนเพียงบางส่วนโดยสรุปเหลือเพียง 2 หน้า จากจำนวนทั้งหมด 15 หน้า

พท.ห่วงองค์ประชุมสภาฯไม่ครบ เหตุความขัดแย้งใน พปชร. ชี้ให้เห็นเสถียรภาพรัฐบาลอาจไม่มั่นคง “ยุทธพงศ์”แนะจับตาสมัยประชุมฯอันตราย

ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่1 พ.ย.จะมีการเปิดสมัยประสภาฯ โดยนายชน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้นัดประชุมสภาฯวันที่ 3-5 พ.ย.โดยประธานฯมีดำหริว่าในสมัยประชุมนี้ จะพยายามให้มีการออกกฏหมายให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกัน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส..ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นัดประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทย ในวันที่ 2 พ.ย. เวลา 15.00 น. เนื่องจากพรรคเพื่อไทยมีความเป็นห่วงในเรื่ององค์ประชุมสภาฯจะครบหรือไม่  จึงต้องหารือกันว่าส.ส.พรรคเพื่อไทยต้องเข้าประชุมให้มากที่สุดเพื่อให้องค์ประชุมครบ

“แรมโบ้” อัด “เพื่อไทย” หนุนม็อบสามกีบคิดล้มล้างสถาบัน กล้าเสนอแก้ ม.112และ116 ก็ต้องชัดเจนแล้ว จะได้ป่าวประกาศบอกประชาชนคนไทยทั่วประเทศว่า อย่าไปเลือกพรรคหนักแผ่นดินที่คิดล้มล้างสถาบันฯ

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพรรคเพื่อไทย ประกาศพร้อมนำข้อเสนอแก้กฎหมายมาตรา 112 และ 116 เข้าสู่วาระการประชุมรัฐสภา โดยระบุว่าการที่จะเสนอแก้กฎหมาย 2 มาตรานี้เข้าสภาฯ ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพียงเพราะผลประโยชน์ และสำหรับปกป้องการกระทำความผิดของบางกลุ่มหรือพรรคการเมืองบางพรรคเท่านั้น การกระทำเช่นนี้จะทำให้คนไทยที่รักสถาบันหูตาสว่างขึ้นว่าพรรคเพื่อไทยที่แท้ก็คืออีแอบที่เกี่ยวข้องเรื่องการคิดจาบจ้วงก้าวล่วงของม็อบสามกีบและคณะราษฎรตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างนั้นใช่ไหม

ขณะเดียวกัน ม.112 และ116 ตนเองพูดมาตลอดว่าไม่เคยไปใช้รังแกใคร มีแต่คนกลุ่มนี้วิ่งเข้าใส่เพื่อท้าทาย ม.112 และ116 ทำผิดกฎหมายฝ่าฝืนตั้งใจเย้ยฟ้าท้ากฎหมายบ้านเมืองเองจึงต้องมีความจำเป็นต้องคงไว้ ถ้ายกเลิกกฎหมายมาตราดังกล่าว รับรองได้เลยว่า คนชั่วๆคนเลวๆ คนหนักแผ่นดินพวกนี้จะเหิมเกริมก้าวร้าวจนเป็นบ้านเมืองเกิดกลียุค ลุกเป็นไฟ กลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนอย่างแน่นอน 

นายเสกสกลยังตั้งข้อสังเกตว่าการที่พรรคเพื่อไทยออกมาสนับสนุน เสนอแก้กฎหมาย ม.112 และ116 นั้น อาจเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้อาจสนับสนุนกลุ่มเคลื่อนไหวม็อบ 3 นิ้วอยู่เบื้องหลัง แต่พอรู้ว่าจะเคลื่อนไหวไม่สำเร็จจึงออกมาเปิดเผยตัวและใช้ความเป็นนักการเมือง ใช้สภาฯ เป็นช่องทางในการแก้ไขกฎหมายแทน

นอกจากนี้ตั้งแต่ได้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวนายใหญ่ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมของพรรคด้วย พรรคเพื่อไทย จึงทำให้พรรคเพื่อไทยรีบเสนอแก้กฎหมาย เพื่อเป็นการเอาใจนายใหญ่ด้วยหรือไม่ หรือนายใหญ่สั่งมา ต้องกล้าเอาความจริงออกมาพูด

‘สมชัย’ ฟันธง บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เชื่อ ‘เพื่อไทย’ กวาดเก้าอี้ ส.ส.ทิ้ง พปชร.

‘สมชัย ศรีสุทธิยากร’ ชี้ ผลบังคับใช้ รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ทำเพื่อไทย จ่อได้เก้าอี้ ส.ส. เพิ่มเพียบ ทิ้งห่าง พปชร. ส่วน 12 พรรคจิ๋วสูญพันธุ์

วันนี้ (22 พ.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตกกต. โพสต์ข้อความ กรณีรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ประกาศในราชกิจจาฯ มีผลบังคับใช้วันนี้ ว่า จากนี้ ระบบการเลือกตั้ง เปลี่ยนเป็นบัตรสองใบ สัดส่วน ส.ส. เขต ต่อ บัญชีรายชื่อ เปลี่ยนเป็น 400 : 100 ผมเคยคำนวณ การเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรค จะได้ภายใต้กติกาใหม่ โดยใช้ฐานคะแนนการเลือกตั้งปี 2562 เป็นข้อมูล ปรากฏว่า เพื่อไทย ได้เพิ่มจาก 0 เป็น 22 พลังประชารัฐ เพิ่มจาก 19 เป็น 24 อนาคตใหม่ (ก้าวไกล) ลดจาก 50 เหลือ 18 พรรคกลาง พรรคเล็ก ลดลงทุกพรรค (ยกเว้น ประชาชาติ) พรรคจิ๋ว 1 เสียง 12 พรรค สูญพันธุ์หมด

"เพื่อไทย" อัด รบ.ไม่จัดการระบบสธ.ให้ดี หลังผู้ป่วยเส้นเลือดสมองแตกหาเตียงกว่า 6 ชม.จนเสียชีวิต ชี้ ส่งสัญญาณระบบสธ.ใกล้ล่มสลาย ขู่ ยื่นฟ้อง "ประยุทธ์" ถ้าไม่แก้ปัญหา

ที่รัฐสภา นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และน.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวกรณีผู้ป่วยวิกฤตเส้นเลือดสมองแตก หลังถูกโรงพยาบาลปฏิเสธการรักษาและต้องส่งตัวไกล 156 กม. จนเสียชีวิต โดยนพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า หลังผู้ป่วยหมดสติที่บ้าน ญาติพาไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านแต่ถูกปฏิเสธว่าเตียงเต็มและส่งต่อไปที่โรงพยาบาลใกล้เคียง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใช้สิทธิบัตรทองของผู้ป่วยแต่ก็ได้รับแจ้งว่าเตียงเต็มเช่นกัน ญาติจึงประสานโรงพยาบาลต่างๆ อีก 5-6 แห่ง ทั้งในเชียงใหม่และลำพูน แต่ก็ได้รับการปฏิเสธว่าเตียงเต็ม สุดท้ายก็ได้โรงพยาบาลที่รับรักษา

โดยเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ห่างไกลถึง 150 กม. ทั้งนี้ ญาติผู้ป่วยเสียเวลาในการติดต่อประสานและเดินทางรวม 6 ชั่วโมง เมื่อไปถึงโรงพยาบาลแพทย์ได้ทำการตรวจและระบุว่าเป็นเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้เลือดออกไปกดทับส่วนต่างๆ ของสมอง ทำให้อาการรุนแรงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา กรณีนี้แสดงให้เห็นว่าการจัดระบบสาธารณสุขของไทยในปัจจุบันล้มเหลว ทั้งเรื่องโครงการผู้ป่วยฉุกเฉินรักษาใกล้บ้านที่สามารถรักษาที่โรงพยาบาลไหนก็ได้ รวมถึงเรื่องบัตรทองที่โรงพยาบาลที่ใช้สิทธิบัตรทองปฏิเสธผู้ป่วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ถ้ารัฐบาลบริหารจัดการตามบริการสาธารณสุขได้ดีกว่านี้ ผู้ป่วยรายนี้อาจจะไม่เสียชีวิต

ด้าน นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนเคยแถลงข่าวว่าสถานการณ์ด้านสาธารณสุขในเชียงใหม่เริ่มแตกเต็มที ซึ่งในรอบเดือนที่ผ่านมาจำนวนผู้ป่วยโควิดในเชียงใหม่อยู่ที่ลำดับ 2 แม้ขณะนี้ลำดับจะลดลง แต่จำนวนผู้ป่วยไม่ได้ลดลง ซึ่งสถานการณ์ความพร้อมด้านสาธารณสุขก็เริ่มมีปัญหา เราเคยเตือนรัฐบาลแล้วแต่ก็ไม่มีการแก้ไข สัญญาณที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นสัญญาณแรกของการล่มสลายของระบบสาธารณสุข และจะมีเคสแบบนี้เกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ หากรัฐบาลยังไม่ทำอะไร พวกตนก็ต้องหากลไกทางสภาฯ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) เข้าไปแก้ไข โดยจะยื่นเรื่องให้กมธ.สาธารณสุข เพื่อดำเนินการหาว่าจุดบกพร่องอยู่ที่ไหน ทำไมสิ่งที่เราเคยทำมาดีๆ วันนี้ถึงใกล้ล่มสลาย เราต้องหาคำตอบเพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

'เพื่อไทย' งัด 4 ข้อเท็จจริง 'จำนำข้าว' อัดรัฐบิดเบือนสร้างตัวเลขหนี้ป้ายสี

เพื่อไทย เปิด 4 ข้อเท็จจริงจำนำข้าว เบรกรัฐ บิดเบือนโยนบาปกลบเกลื่อนหนี้โครงการประกันรายได้ ชดเชยเพียง 1 ปีผลาญงบกว่า 1.5 แสนล้าน ย้ำ คสช. ลดเกรดข้าวในสต็อกขายทิ้งสร้างตัวเลขหนี้ป้ายสีฝ่ายตรงข้าม

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 64 นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรค และทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รองโฆษกรัฐบาล ออกมาแถลงข่าวโจมตีโครงการรับจำนำข้าว สมัยรัฐบาลที่ผ่านมา ว่า การหยิบประเด็นนี้มาโจมตีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในเวลานี้ ทั้ง ๆ ที่รัฐบาลชุดนั้น หมดหน้าที่และยุติโครงการไปนานกว่า 7 ปีแล้ว พอจะเดาได้ว่าเพราะโครงการประกันรายได้ของชาวนา ที่รัฐบาลนำมาใช้ ตามการผลักดันของพรรคร่วมรัฐบาลที่หาเสียงไว้ กำลังทำลายความมั่นคงทางการคลัง จนสร้างความเดือดร้อนไปทั้งรัฐบาล เพราะไม่สามารถช่วยชาวนาให้มีรายได้มากขึ้น และกระตุ้นเศรษฐกิจขยายตัวได้ 

แตกต่างจากโครงการจำนำข้าวเปลือกที่มีรายงานของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รายงานถึงความคุ้มค่าของโครงการ เป็นผลให้เศรษฐกิจขยายตัว เลยต้องปฏิบัติการ "เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น" หรือว่าเป็นเพราะชาวนาและประชาชนคนทั่วไปได้เข้าใจถึงประโยชน์ของโครงการรับจำนำข้าวดีขึ้นแล้ว จนทำให้ความเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทยอยู่ในระดับที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้สังคมรับรู้ใน 4 ข้อเท็จจริงได้แก่

1.) เรื่องตัวเลขขาดทุนทางบัญชีที่กล่าวอ้างนั้นเป็นการอ้างถึงยอดรวม 5 ฤดูกาลผลิต ตลอดอายุของรัฐบาลไม่ใช่ ปีงบประมาณเดียว แบบโครงการประกันรายได้ ปี 2564/65 งวดที่ 1 ที่มียอดเงินชดเชยราคา และโครงการประกอบที่มียอดรวมสูงกว่า 1.5 แสนล้านบาท หากเปรียบเทียบกับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกโดยใช้จำนวนฤดูกาลเพาะปลูกที่เท่ากัน จะเห็นชัดเจนว่าโครงการประกันราคาใช้เงินมากกว่า โดยไม่ได้อะไรเลย

‘เพื่อไทย’ ยัน ไม่ส่งตัวแทนชิงผู้ว่าฯ กทม. ย้ำชัด!! ไม่อยากตัดคะแนนกันเอง

เพื่อไทย ประกาศไม่ส่งตัวแทนพรรคลงชิงผู้ว่าฯ กทม. แต่จะส่งส.ก. 50 เขต พร้อมหนุนตัวแทนฝ่ายประชาธิปไตย ย้ำไม่อยากตัดคะแนนกันเอง

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการส่งผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคเพื่อไทยว่า พรรคได้ประชุมหารือกันเรียบร้อยและมีข้อสรุปชัดเจนว่าการส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. จะคำนึงถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะฝ่ายประชาธิปไตยที่จะมีโอกาสชนะการเลือกตั้งและพิจารณาอย่างรอบคอบเห็นว่าขณะนี้เสมือนมีตัวแทนฝ่ายประชาธิปไตยที่อาสาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.อยู่แล้ว ตรงกับเจตนารมณ์ของพรรคที่ต้องการสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากต้องการส่งในนามพรรค จะทำให้วัตถุประสงค์ของพรรคที่ตั้งใจให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะมีปัญหา โดยอาจจะตัดคะแนนกันเอง ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจะไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรค แต่จะส่งคนลงสมัคร ส.ก. ทั้ง 50 เขตเพื่อดูแลประชาชน

“เราประกาศชัดเจนว่าจะส่งตัวแทนฝ่ายประชาธิปไตยเข้าไปแข่งขัน ซึ่งก็เห็นชัดเจนอยู่แล้วที่ประกาศตัวมา 3 คนก็แบ่งฟากชัดเจนอยู่แล้ว แต่การสนับสนุนอย่างเป็นทางการต้องดูหลายด้าน โดยเฉพาะจะกระทบกับตัวผู้สมัครเอง” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าว

‘ทักษิณ’ ฟันธง รัฐบาลอยู่ไม่นาน แต่ยังเชื่อ ไม่มีรัฐประหาร 

‘ทักษิณ’ ฟันธง รบ.อยู่ไม่นาน แต่ยังเชื่อ ไม่มีรัฐประหาร ปัดเป็นศัตรู ‘บิ๊กตู่’ ยกเลือกตั้งซ่อม ส.ส. หลักสี่เกทับที่ผ่านมาบริหารล้มเหลว แนะนายกฯ ถ้ารักบ้านเมืองจริงให้ยุบสภา

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี วู้ดซัม กล่าวในรายการ CARE คิด เคลื่อน ไทย X Clubhouse หัวข้อการเมืองไทยวิปโยค การเมืองโลกวิปริต โดยช่วงหนึ่งของรายการนายทักษิณ กล่าวว่า  การจะอยู่ได้ของรัฐบาลคงอยู่ได้ไม่นาน และอยู่ลำบาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าใจว่ามีความตั้งใจดี แต่โลกเปลี่ยนเร็วมาก พล.อ.ประยุทธ์ อาจตามไม่ทัน วิธีคิดเดิม ก็ไม่ได้มีการแก้ปัญหาและพื้นฐาน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มาจากประชาชนอย่างแท้จริง จึงไม่มีใจรักที่จะแก้ปัญหาอย่างจริงใจ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ยังคิดแบบเก่าๆ ทำรัฐประหารมาแล้วตั้งเป็นพรรคทหาร คือพรรคเฉพาะกิจ ที่เอานักเลือกตั้งมารวมกันเป็นพรรคทหาร ไม่มีอุดมการณ์ มีแต่ความสามารถในการยิง ยิงแม่นลูกกระสุนเยอะมาประกอบกำลังกัน เป็นพรรคทหาร เอาคนที่ยิงเก่ง ซึ่งขณะนี้ก็ใช่

นายทักษิณ กล่าวว่า เมื่อมีการเลือกตั้งคราวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะแตกออกไป อย่างตอนนี้ที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ได้ออกจากพรรคพลังประชารัฐออกไปก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่เชื่อว่าคนที่อยู่ในพลังประชารัฐเมื่อเสร็จรวมการเฉพาะกิจก็จะมีการแยกออกไป แต่ถ้าจะไปตั้งพรรคใหม่ก็อาจจะไม่เอื้ออำนวย เพราะกติกาบัตร 2 ใบ ที่เกิดขึ้น จะทำให้การเมืองเข้มแข็ง มีอุดมการณ์ รับปากสัญญาอะไรกับประชาชนแล้วก็ต้องทำ ต้องยืนอยู่นาน หน้าหนายังไงก็หนาไม่พอ อยู่ไม่ได้

“วันนี้จึงเป็นห่วงว่า พล.อ.ประยุทธ์ เจอด่านแรกนายกฯ 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร เมื่อครบแล้วจะเป็นอย่างไร จะชูใครมาเป็นนายกฯ หรือจะชู พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ท่านยังเดินไหวอยู่รึเปล่า ฉะนั้นท่านต้องฟิตหน่อย แล้วพลังประชารัฐจะชูใคร และความขัดแย้งอย่าบอกว่าไม่มี เพราะรัฐบาลไม่น่าจะอยู่ได้นาน จากสถานการณ์พลังประชารัฐตอนนี้ ประชาชนก็เห็นๆ กันอยู่” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวว่า เลือกตั้งซ่อมเขต 9 กทม. นายสุรชาติ เทียนทอง ชนะเพราะประชาชนเขาเห็นจริงๆ วันนี้ต้องยอมรับการบริหาร การวางกลยุทธ์ล้มเหลวผิดหมด วันนี้ คำตอบของการเลือกตั้ง หลักสี่ เป็นคำตอบค่อนข้างชัด อันดับหนึ่ง 35 เปอร์เซ็นต์ เป็นของเพื่อไทย อันดับ 2 ก้าวไกล ส่วนพปชร.ได้มา 10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่บอกจะได้ 3.5 หมื่น ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นยิงไม่เข้าเป้า หรือยังไง ต้องยอมรับว่าตอนนี้รัฐบาลอ่อนแอ ฝ่ายสนับสนุนอ่อนกำลังมาก ถ้าเป็นอย่างนี้ไม่มีใครมั่นใจรัฐบาลลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ฉะนั้นถ้ารักบ้านเมืองจริงยุบสภา ให้ประชาชนตัดสินใจดีกว่า นั่นจึงจะเป็นการแสดงสปิริตในการรักบ้านเมืองกว่า

'พท.' จี้ ทปอ.รับผิดชอบทำข้อมูลเด็ก TCAS ปี 64 รั่ว 2.3 หมื่นรายการ เหน็บเก็บค่าสอบแพง ต้องลงทุนระบบไอทีความปลอดภัยสูงด้วย

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่ข้อมูลส่วนตัวของเด็ก TCAS หลุดกว่า 23,000 รายการ และแฮกเกอร์นำไปประกาศขายว่า ถือเป็นการตอกย้ำความเสื่อมเสียของ TCAS อีกครั้ง ที่ทำให้ข้อมูลของเด็กที่สมัครสอบ TCAS ปี 2564 ในรอบ 3 หลุดไปจำนวนมากมายขนาดนี้ แม้ ทปอ.จะออกมาระบุว่าได้ประสานงานกับตำรวจในการสืบหาผู้กระทำความผิดที่ทำให้ข้อมูลหลุด แต่ยังไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะข้อมูลที่หลุดมีทั้งชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชน และข้อมูลอื่นๆ สิ่งที่ ทปอ.ควรทำคือ ต้องรับผิดชอบต่อข้อมูลที่หลุดออกมา เพื่อป้องกันการเกิดกรณีที่มิจฉาชีพนำข้อมูลไปใช้ในการหลอกลวงต่อ เพื่อสร้างความเสียหายให้กับเด็กและครอบครัวในอนาคต 

น.ส.อรุณี กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาผู้จัดสอบ TCAS มีความผิดพลาดและบกพร่องในการจัดการสอบเข้ามหาวิทยาลัยหลายครั้ง ไม่สามารถที่จะเป็นที่พึ่งที่หวังให้กับเด็กไทยในภาวะที่ทุกคนประสบความยากลำบากในการเรียน ในช่วงของการระบาดโควิด-19


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top