Saturday, 4 May 2024
เพื่อไทย

‘สมชัย’ ยก 8 ข้อ ชำแหละ ‘พปชร.-พท.’ เหตุใดถึงหนุนปาร์ตี้ลิสต์สูตรหาร 100

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2565 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ....โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...

มีคำถามที่นักวิเคราะห์การเมืองคิดไม่ตก คือ ทำไม พปชร. และเศรษฐกิจไทย ที่อยู่อีกซีกฝั่งทางการเมืองจึงหนุนหารร้อยทั้งๆ ที่ คือการป้อนชัยชนะในการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ให้กับเพื่อไทย

นี่คือมุมมอง ที่เก็บตกจากการวิเคราะห์ของหลายๆ คนที่ปรากฏตามสื่อ อาจใช่หรือไม่ใช่ทั้งหมด

1.) พปชร. ยังมีมุมการวิเคราะห์ว่า เขายังคงเป็นพรรคใหญ่ มีความได้เปรียบในฐานะรัฐบาล เชื่อว่าชื่อพลเอกประยุทธ์ยังขายได้ ดังนั้น แนวทางหารร้อยจึงยังเป็นแนวทางที่พรรคได้ประโยชน์ เรียกง่ายๆว่า หลงตัวเองว่า จะชนะเลือกตั้ง

2.) อาจมีดีลระหว่าง พปชร. กับ เพื่อไทย ในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมในอนาคต โดยไม่เอาพลเอกประยุทธ์ เป็นนายก ซึ่งเพื่อไทยรับได้ และ ลุงในป่าก็อยากได้ คนชื่อ พ. ไป คุยกับคนชื่อ ท. เรียบร้อย แต่เชื่อเหอะ ท. รอบจัดกว่าเยอะ

3.) นักการเมืองใน พปชร. จำนวนไม่น้อยมีรากมาจากเพื่อไทย วันนี้ร่วมยุทธการกับเพื่อไทยเป็นไมตรี วันหน้า หาก พปชร. ไม่รุ่ง เพื่อไทยคือที่พักใหม่ที่จองผ่านอโกด้าและจ่ายมัดจำไว้เรียบร้อยแล้ว

4.) ผู้มีอำนาจเบื่อเหนื่อยกับการแจกกล้วยพรรคเล็ก ที่ผ่านมาหมดไปหลายสวน หากหารห้าร้อยเกรงว่า กล้วยจะหมดโกดัง ถึงเวลาฆ่าลิง

5.) ทั้ง เพื่อไทยและ พปชร. หวั่นไหวต่อพรรคการเมืองรุ่นใหม่ที่กระแสมาแรงแล้วจะมาแทนที่ หารร้อยคือการทำให้พรรคใหม่ไม่โตเร็วเกินไป

เพื่อไทย ยืนยันไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมในการประชุมร่วมรัฐสภา 15 ส.ค.นี้ ย้ำยืนหยัดเพื่อความถูกต้อง ตามหลักกฎหมาย-เจตนารมณ์ประชาชน

14 ส.ค.2565 –นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ 14 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่1 ในวันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. หรือ กฎหมายเลือกตั้ง เพื่อหาสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่จะครบกำหนด 180 วัน ในวันที่ 15 สิงหาคม เพื่อเป็นการคัดค้านและยับยั้งการกระทำที่เป็นขัดหลักการ และขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ครั้งที่ 1) พุทธศักราช 2564 มาตรา 91 ที่มีใจความสำคัญว่า “ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองต้องเป็นสัดส่วนสัมพันธ์กันโดยตรงกับจำนวนคะแนนรวม” ซึ่งต้องหารที่ 100 และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ จะเป็นกระบวนการตรากฎหมายที่ไม่ชอบ ดังนั้นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย มีข้อสรุปร่วมกันว่า

1.สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทยมีความคิดเห็นตรงกันว่า จะไม่เป็นองค์ประชุมในการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 15 สิงหาคม 
2.หากเกิดกรณีเปิดประชุมร่วมรัฐสภาได้ ตัวแทนส.ส.จะเข้าร่วมประชุม โดยจะอภิปรายคัดค้านสูตรหาร 500 ให้ถึงที่สุด หากจบการอภิปรายแล้ว พรรคเพื่อไทยจะไม่เป็นองค์ประชุมและจะไม่ร่วมลงมติต่อ

'คนเพื่อไทย' เย้ย ภท.-ปชป. หยุดโม้กวาด ส.ส.ใต้ แนะ!! ไปทำตามสัญญาที่ให้ปชช. ให้ได้ก่อน

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นพ.ประสิทธิ์ โกยศิริพงศ์ อดีตนายกฯ อบจ.ภูเก็ต และประธานคณะทำงานโซนภาคใต้ฝั่งอันดามัน พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า จากกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ต่างประกาศจะยึดเก้าอี้พื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันทั้งหมดนั้น ตนอยากบอกว่า ขอให้ลืมไปได้เลย เพราะในปัจจุบันเท่าที่ทำหน้าที่ประสานงานให้พรรค พท. และลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องนั้น ทำให้ทราบว่า ประชาชนไม่เอาด้วยกับนโยบายกัญชาเสรีของพรรค ภท. ขณะที่พรรค ปชป. ก็ไม่มีผลงานแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้แก่ประชาชนเลย ทำให้กระแสตกลงอย่างต่อเนื่อง

นพ.ประสิทธิ์กล่าวต่อว่า ท่านอย่าเพิ่งพูด หรือคาดหวังไปก่อนโดยเหมารวมเอาเองว่าพี่น้องประชาชนชาวใต้ฝั่งอันดามันจะให้คะแนนเสียงพวกเราให้ท่านเหมือนอดีต เพราะท่านอาจจะผิดหวังได้ วันนี้คนใต้ลำบากกันมาก ราคายางตกลงอย่างต่อเนื่อง หลายครอบครัวเริ่มเป็นหนี้หนัก เมื่อทั้ง ภท. และ ปชป.ประกาศกวาดเก้าอี้ ส.ส. ภาคใต้ ภายใต้ภาวะที่ท่านเป็นรัฐบาล แต่ไม่ได้มีนโยบาย หรือแนวทางที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวใต้ให้กลับมาตั้งหลักได้อีกด้วยซ้ำ แล้วเหตุใดพี่น้องประชาชนภาคใต้ต้องเลือกท่านกลับมาอีก

'ไข่มุก เพื่อไทย' แลนด์สไลด์ชนะ 'เสี่ยโด่ง' คว้าเก้าอี้ 'นายกอบจ.กาฬสินธุ์'

ผลคะแนนเลือกตั้งนายกอบจ.กาฬสินธุ์อย่างไม่เป็นทางการแลนด์สไลด์ 'ไข่มุก เฉลิมขวัญ หล่อตระกูล' ชนะ 'เสี่ยโด่ง ชานุวัฒน์ วรามิตร' อดีตนายกอบจ.กาฬสินธุ์อย่างถล่มทลายเกือบ 1 แสนคะแนน 

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกอบจ.กาฬสินธุ์ หลังจากศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาให้มีการเลือกตั้งใหม่ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยเลือกตั้งทั้ง 18 อำเภอนับคะแนนแล้วเสร็จในช่วงเวลา 21.00 น. โดยผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผลปรากฏว่า เบอร์ 1 นายชานุวัฒน์ วรามิตร ได้ 150,443 คะแนน, เบอร์ 2 นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล ได้ 249,093 คะแนน และเบอร์ 3 นางเขมจิรา อนันทวรรณ ได้ 13,784 คะแนน

'คนเพื่อไทย' ซัด!! รบ.ประยุทธ์แก้ปัญหาน้ำล้มเหลว แนะ!! ไปศึกษาโครงการจากสมัยยิ่งลักษณ์ได้

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัครส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมหนักในหลายจังหวัดโดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือว่า วันนี้น้ำท่วมกลับมาเป็นปัญหาหลักของประเทศอีกครั้งหนึ่ง แต่นอกจากประชาชนจะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลน้อยมากแล้ว การสั่งการให้ความช่วยเหลือในระดับจังหวัดก็ยังไม่ชัดเจน ทำให้เห็นว่าตลอด 8 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์นั้นไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องปัญหาน้ำท่วมของประชาชนเลย 

ทั้งนี้ เมื่อมองไปที่การจัดสรรงบประมาณ ก็เป็นไปในทิศทางที่ตอบสนองต่อการเมืองแต่ไม่ได้จัดสรรเพื่อแก้ไขปัญหาที่แท้จริงให้กับประชาชนในพื้นที่ การแก้ไขปัญหาจึงไม่ตรงจุด ทั้งรัฐบาลยังไม่มีโครงการแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบในระดับโครงสร้างของประเทศเพื่อรองรับทั้งสถานการณ์น้ำท่วม และน้ำแล้ง ขณะที่มีการเบิกจ่ายใช้งบประมาณไปกว่าล้านล้านบาทแล้วแต่ประเทศไทยไม่สามารถบริหารจัดการน้ำได้เลย

“ปีนี้เกิดน้ำท่วมเนื่องจากพายุมู่หลาน ทำให้ลุ่มน้ำปิงได้รับผลกระทบหนัก เกิดน้ำท่วมที่จังหวัดเชียงใหม่ ลุ่มน้ำน่านเกิดน้ำท่วมหนักที่จังหวัดน่าน และต่อจากนี้พายุเมียรี กำลังจะพัดกะหน่ำเข้ามาอีกจะทำให้ลุ่มน้ำยมได้รับผลกระทบโดยจะเริ่มที่จังหวัดแพร่ต่อด้วยสุโขทัย และจะไปหนักที่พิษณุโลกเช่นทุกปี ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซาก แต่รัฐบาลไม่ดำเนินการแก้ไขจริงจัง พรรคเพื่อไทยจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลสั่งการโดยเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาฉุกเฉินให้กับประชาชนมิใช่ปล่อยให้ประชาชนถูกลอยแพเหมือนทุกปีที่ผ่านมา” นายวรวัจน์ กล่าว

ด้าน นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนและคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่อยากเสนอรัฐบาลนี้คือ อยากให้ท่านกลับไปดูโครงการเมื่อปี 2555 พรรคเพื่อไทยเคยออก พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เพื่อบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศอย่างเป็นระบบทั้งประเทศ โดยจะกำหนดได้เลยว่า น้ำจะไปอยู่ตรงไหน จะไปพักได้ที่ไหน เพราะเรามองว่า การใช้งบประมาณในแต่ละปีแต่ไม่เป็นระบบไม่สามารถจัดการระบบน้ำได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งประเทศไทยมีปัญหาว่า บางปีน้ำมากก็เกิดน้ำท่วม บางปีน้ำน้อยก็เกิดภัยแล้ง เมื่อเกิดภัยแล้งก็ส่งผลกระทบต่อภาคอื่น ๆ ไปด้วย เท่ากับว่า น้ำเยอะไปก็ไม่ดี น้ำน้อยไปก็ไม่ดี การออก พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เพื่อจัดการน้ำ ปีไหนน้ำเยอะก็เก็บ ปีไหนน้ำน้อยเราก็ใช้น้ำที่เราเก็บไว้ นี่เป็นแนวทางของพรรคเพื่อไทยมาตลอด

'เพื่อไทย' เปิดตัว 93 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อีสาน ทวงคืน 'ประชาธิปไตยกินได้' ให้ประชาชน

วันนี้ (16 ส.ค. 65) ที่พรรคเพื่อไทย ได้มีการจัดกิจกรรม 'ม่วนซื่นโฮแซว เพื่อไทยตุ้มโฮม ชื่นมื่นสดใส เพื่อไทยรวมพล' เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคอีสาน จำนวน 93 คนของพรรคเพื่อไทย มี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรค และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค ส.ส.และสมาชิกพรรค ร่วมกิจกรรม

ช่วงต้นของกิจกรรมได้มีการประกาศชื่อ และเชิญว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ออกมาเป็นรายบุคคล ซึ่งมีทั้ง ส.ส.ปัจจุบัน, อดีต ส.ส., อดีตผู้สมัคร ส.ส. รวมไปถึงคนรุ่นใหม่ ที่เสนอตัวเข้าสู่กระบวนการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค อย่างไรก็ตามการเปิดตัว 93 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ครั้งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น จากจำนวนที่นั่ง ส.ส.ภาคอีสาน 20 จังหวัด รวม 132 ที่นั่ง โดยจังหวัดที่ไม่ได้เปิดตัวในครั้งนี้ ได้แก่ จ.อุดรธานี, บึงกาฬ และกาฬสินธุ์

น.ส.แพทองธาร กล่าวให้กำลังใจให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคตอนหนึ่งว่า เสียงตอบรับที่คึกคักในวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดี หลังจากนี้พวกเราต้องทำงานหนัก ในการเดินเข้าหาพี่น้องประชาชน เพื่อบอกกับพี่น้องว่า พรรคเพื่อไทย พร้อมแล้วที่จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น ดีกว่าที่เป็นอยู่ และดีกว่า 8 ปีที่ผ่านมาที่ทำให้พี่น้องต้องมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น

นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า พรรคเพื่อไทย ยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตย ยึดพี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลางสร้างสรรค์นโยบายเพื่อความกินดีอยู่ดีของพี่น้องประชาชน จากพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน ตลอดเวลามากกว่า 20 ปี เราได้รับความไว้วางใจและสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด วันนี้พรรคเพื่อไทย ขอนำเสนอผู้ที่อาสาเป็นตัวแทนพรรคเพื่อรับใช้พี่น้องคนอีสาน เบื้องต้น จำนวน 93 คน ซึ่งมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนในการเลือกตั้งที่จะมาถึง และพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการสรรหาตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป สำหรับพื้นที่อื่นๆ ที่ยังไม่ได้เปิดรายชื่อนั้นยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของผู้บริหารพรรคก่อนที่จะเปิดรายชื่ออีกครั้งหนึ่ง

“พรรคเพื่อไทยมีภารกิจสำคัญ ในการทวงคืนประชาธิปไตย ทวงคืนความกินดีอยู่ดีให้พี่น้องประชาชน ให้กลับคืนสู่ประชาธิปไตยที่กินได้ ดังนั้นเราต้องชนะอย่างแลนด์สไลด์ถล่มทลายทั้งภาคอีสาน และแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน” นพ.ชลน่าน กล่าว

‘แท็กซี่ - เกษตรกร’ สมัครเข้าร่วม ‘ครอบครัวเพื่อไทย’ เชื่อมั่น ‘พรรคเพื่อไทย’ คือ ความหวังประชาชน

ตัวแทน ‘แท็กซี่ - เกษตรกร’ สมัครเข้าร่วม ‘ครอบครัวเพื่อไทย’ เชื่อมั่น ‘พรรคเพื่อไทย’ คือ ความหวังประชาชน ฝากความหวังชนะเลือกตั้ง จัดตั้งรัฐบาล เพื่อผลักดันนโยบายที่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาประชาชน

(17 ส.ค. 65) ตัวแทนกลุ่มแท็กซี่ทวงคืนความยุติธรรม สมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ และกลุ่มเกษตรกรไร้ที่ดินทำกิน สมาพันธ์เครือข่ายที่ดินทำกิน จังหวัดสระแก้ว สมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย พร้อมยื่นหนังสือต่อ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม เพื่อขอให้พรรคเพื่อไทยผลักดันการแก้ไขปัญหาของกลุ่มผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่และปัญหาเรื่องที่ทำกินของเกษตรกร โดยประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี และ อดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ร่วมรับหนังสือ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะนำข้อมูลที่ได้รับมาไปพิจารณาสู่การแก้ไขปัญหา

'เพื่อไทย' ซัด!! งบกลาโหม 8.5 หมื่นล้านบาท ประเคนกองทัพซื้ออาวุธ แบบไม่เห็นหัวประชาชน

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ส.ส. พรรคเพื่อไทย ระดมพลอภิปรายขอให้สภาผู้แทนราษฎรปรับลดงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานด้านความมั่นคงในส่วนของหน่วยงานภายใต้กำกับของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งมีแนวโน้มในการคุกคามและแทรกแซงประชาชน รวมไปถึงขอให้ปรับลดงบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหม ที่ยังคงมุ่งหน้าในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมหาศาล ซึ่งขัดแย้งกับสถานการณ์ประเทศที่กำลังวิกฤต ประชาชนต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจปากท้องอย่างหนักในขณะนี้

[+พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย]

ในมาตราที่ 7 ซึ่งเป็นงบประมาณรายจ่ายของสำนักนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานในกำกับ จะต้องปรับลดลง เนื่องจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีหน่วยงานในกำกับอยู่ถึง 27 หน่วยงาน มีงบประมาณรวมถึง 2.2 หมื่นล้านบาท รวมกับงบกลางเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินจำเป็น สำรองจ่ายได้อีก 9.2 หมื่นล้านบาท เป็น 1.1 แสนล้านบาท นอกจากนี้ยังรวมถึงหน่วยงานของ กอ.รมน. ที่เข้าไปล้วงลูกสั่งการหน่วยราชการในอีก 77 จังหวัดอีกด้วย ซึ่งใน 27 หน่วยงานนี้ก็มีบางหน่วยงานที่น่าจะตัดงบประมาณทั้งหมด เช่น สำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์กรมหาชน) เพราะทุกวันนี้ประชาชนก็ถูกหน่วยงานเหล่านี้คุกคามทางไซเบอร์อยู่ ยังไม่นับที่หน่วยราชการต่าง ๆ ที่ถูกล้วงลูกแทรกแซงอีก

[+ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม] 

ในงบประมาณ มาตรา 8 ในส่วนของกระทรวงกลาโหม ได้รับงบประมาณทั้งสิ้น 8.5 หมื่นล้านบาท โดยได้ระบุว่ามีความจำเป็นต้องปรับลด 10% ที่ได้ไปนำไปจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน แต่ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจขนาดนี้ไม่สอดคล้องกับการซื้อเรือดำน้ำที่ไม่มีเครื่องยนต์ นอกจากนี้เครื่องยนต์ที่ทางการจีนต้องไปจัดหาสำหรับเรือดำน้ำที่ไทยตั้งใจจะซื้อต่อนั้น ยังเป็นเครื่องยนต์ที่ไม่มีทหารคนไหนบนโลกเคยใช้มาก่อน

นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมยังมีความพยายามจะจัดซื้อเครื่องบินรบ F-35A เป็นเครื่องบินใหม่ล่าสุดที่มีนวัตกรรมทางทหารและทางอวกาศที่ล้ำสมัย อย่างไรก็ตามการจัดซื้อเครื่องบินรบที่มียุทโธปกรณ์สูงเช่นนั้นไม่เหมาะสมกับวิกฤตเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน อีกทั้งยังไม่สอดคล้องกับงบประมาณแผ่นดินในเวลานี้ที่ต้องจำกัดจำเขี่ย ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นการตั้งงบประมาณไว้ลอยๆ อย่างไม่จำเป็น เพราะการจะซื้อเครื่องบินรบ F-35A นั้นจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส สหรัฐอเมริกาเสียก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีวี่แววใดๆ ว่าทางสหรัฐฯ​ จะอนุมัติขายให้

[+ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส. เชียงใหม่]
ขอปรับลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม 10% โดยเฉพาะงบที่จะใช้ในการเช่ารถหรูประจำตำแหน่ง Mercedes-Benz S500 ถึง 30 คัน ประเทศไทยมีนายพลจำนวนที่เยอะเกินกว่าที่จำเป็น หากนับย้อนไป 2561-2563 มีนายพลแต่งตั้งโยกย้ายมากกว่า 10,000 คน เท่ากับ 1 ต่อ 166 นาย ส่งผลให้งบประมาณรายจ่ายสูง อีกทั้งสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมยังมีงบลับจำนวนมาก ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งการตั้งงบประมาณที่ไม่เกี่ยวข้องกับสายงานและไม่มีความจำเป็น เช่น การตั้งงบไอโอเพื่อโจมตีประชาชนที่มีความเห็นต่าง เป็นต้น

“ตั้งงบซื้ออาวุธทุกปี ถ้าไม่ซื้ออาวุธสักปี ประเทศไทยจะเสียเอกราชให้ใครหรือเปล่าคะ? หรือถ้าไม่ซื้อ ท่านนายกฯ จะตายหรือเปล่า ถ้าท่านนายกฯ จะเป็นจะตาย ดิฉันก็ยอมให้ท่านแล้วค่ะ จะได้เป็นบุญ แต่นี่ไม่ใช่ เพราะงบประมาณเป็นเงินภาษีประชาชน กองทัพที่ใหญ่โต งบประมาณที่เลอะเทอะ ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่ประชาชนกำลังหิวโหย ตั้งงบประมาณไม่เห็นหัวประชาชน จึงขอลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม 10% เพื่อไปเพิ่มสวัสดิการและแก้เศรษฐกิจให้แก่ประชาชน”

[+วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส. เชียงราย]
ขอปรับลดงบประมาณกระทรวงกลาโหมลง 9% ด้วยเหตุผล 2 ประการ

1.) ประเทศไทยมีโครงการทุนพัฒนาศักยภาพนักวิจัยด้านยุทโธปกรณ์เพื่อเพิ่มศักยภาพของกองทัพและการป้องกันประเทศ แต่กองทัพกลับไม่สนับสนุน กองทัพมุ่งแต่จะซื้ออาวุธทำให้เกิดปัญหาเงินไหลออก และประเทศขาดโอกาสในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปัจจุบันการซื้อขายอาวุธระหว่างประเทศได้มีนโยบายการซื้อสินค้าระหว่างประเทศที่ระบุให้ผู้ซื้อและผู้ขายอาวุธจะต้องมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านอาวุธ มีการลงทุนร่วมกันทั้งในภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาทักษะและพัฒนาอาวุธ ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านเราต่างใช้นโยบายนี้ แต่ไม่ทราบว่ากองทัพไทยได้ดำเนินการในเรื่องนี้หรือไม่

'ส.ส.เพื่อไทย' ซัด!! 'ประยุทธ์' ทำประเทศตกต่ำ อยู่มา 8 ปี สร้างปัญหา-ภาระให้ประชาชนเพียบ

นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปล่อยให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ปรับเพิ่มค่าเอฟทีอีก 68.66 สตางค์ต่อหน่วย รวมเป็นค่าเอฟทีทั้งสิ้น 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย ซึ่งพลเอกประยุทธ์ออกมาบอกว่าเห็นขึ้นหลักสตางค์ไม่กระทบประชาชน แต่พลเอกประยุทธ์ต้องไม่ลืมว่าหลักสตางค์ต่อหน่วยก็รวมแล้วเพิ่มขึ้นหลักร้อยบาทต่อเดือนที่ประชาชนต้องควักเงินเพิ่ม 

ส่วนที่บอกว่าให้นึกถึงคำสอนของพุทธเจ้าที่ว่าด้วยอริยะสัจ 4 คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรร.สคเพื่อหาเหตุแห่งปัญหา ทั้งนี้ประชาชนทั้งประเทศ ยืนยันว่าเหตุแห่งปัญหาประเทศคือตัวพลเอกประยุทธ์ เพราะสร้างสารพัด ปัญหาให้ประชาชนต้องตามไปแก้ ไม่เคยมีแนวคิดมาจากพลเอกประยุทธ์ ที่จะมาแก้ปัญหาให้ประชาชน

'เพื่อไทย' เย้ย!! สังขาร 'บิ๊กป้อม' นั่งรักษาการนายกฯ คงต้องมีคนพยุง ไปรับแขกบ้านแขกเมือง

(25 ส.ค. 65) น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้องฝ่ายค้านปมดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมมีมติให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาการนายกฯ แทน ว่าประเทศไทยเหมือนตกอยู่ในสภาวะหนีเสือปะจระเข้ ไม่หลุดพ้นจากการครอบงำของกลุ่มอำนาจ 3 ป. ได้เลย การมี พล.อ.ประวิตร รักษาการนายกฯ ไม่ต่างจากพาประเทศเดินถอยหลังเข้าคลองอีกครั้ง ภายใต้สถานการณ์และวิกฤตรอบด้านที่ท้าทาย ความเชื่อมั่นและความสามารถของผู้นำประเทศเป็นคุณสมบัติสำคัญที่จะนำพาประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤตที่รุมเร้าไปได้ โดยเฉพาะการประชุมเอเปกที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2565 พล.อ.ประวิตรไม่ได้อยู่ในสภาพหรือมีความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมได้ แต่เกรงว่าอาจกลายเป็นภาระให้กับประชาชนและคนรอบข้างแทนหรือไม่ ทั้งสภาพร่างกายภายนอกและความรู้ความสามารถในการบริหารงานราชการแผ่นดิน เชื่อว่าคนไทยคงไม่ต้องการเห็นผู้นำของตัวเองอยู่ในสภาพที่ต้องมีคนประคอง หรือพยุงมารับแขกบ้านแขกเมืองบนเวทีระดับโลกแน่


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top