Saturday, 4 May 2024
เพื่อไทย

‘เพื่อไทย’ ปลุกรัฐตื่นจากฝันยุทธศาสตร์ 3 แกน แซะ!! ต่างชาติไม่คิดลงทุนในยุค ‘ประยุทธ์’

นายวิกรม  เตชะธีราวัฒน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เชียงราย และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงยุทธศาสตร์ 3 แกน โดยมุ่งหวังให้ประเทศไทยเป็นฐานในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย แนวคิดดังกล่าว ดูเป็นเพียงการขายฝันในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) เพราะพลเอก ประยุทธ์ ไม่มีนโยบายหรือมาตรการส่งเสริมการผลิตและการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร อีกทั้งการเตรียมความพร้อมรองรับ ทั้งเรื่อง สถานีอัดประจุ หากมีการเดินทางระยะยาวหรือข้ามจังหวัดนั้น ควรจะต้องมีการวางแผนหาตำแหน่งที่ตั้งของสถานีอัดประจุ เนื่องจากปัจจุบันสถานีอัดประจุในประเทศยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ นอกจากนี้การที่ค่าไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้นที่จะสูงถึงหน่วยละ 5 บาทอาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่รถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้รับความนิยมมากนักในประเทศไทย 

นอกจากนี้ รัฐบาลจะไม่มีการส่งเสริมการผลิตแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพสูงแล้ว ยังไม่มีแนวนโยบายในการจัดการขยะจากแบตเตอรี่ เนื่องจากแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ในรถยนต์ไฟฟ้าปัจจุบันมีอายุการใช้งานที่จำกัด การเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่การกำจัดแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพไปแล้วนั้น ในปัจจุบันยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการกำจัดแบตเตอรี่ที่เป็นขยะเหล่านี้ ซึ่งเป็นความท้าทายที่จะต้องมีการดำเนินการต่อไป ทั้งนี้หากไม่มีแนวทางหรือแผนงานที่ชัดเจนจะเป็นแหล่งขยะพิษส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชนได้ 

ทั้งนี้ที่ผ่านมา คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยได้ศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ เรื่องอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) มา 3-4 ปีแล้ว และได้แนะนำรัฐบาลให้เตรียมความพร้อมในการร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต

อนุสรณ์ แนะ พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมรับมือฝ่ายค้านให้ดี ไม่อย่างนั้นมีโอกาสเสียทรงสูง

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ตอบคำถามในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ท้าเอาคนดีกว่ากลับมาให้ได้ก็แล้วกัน ว่า น่าเสียดายที่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถก้าวข้ามความเป็นตัวของตัวเอง แทบทุกครั้งของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ไม่มีพัฒนาการ ละทิ้งโอกาสที่จะได้แสดงวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่สามารถควบคุมได้ แสดงภาวะผู้นำ แทนที่จะตอบคำถามว่าจะแก้ไขวิกฤตของประเทศชาติและประชาชนอย่างไร

พล.อ.ประยุทธ์ กลับตอบตามแบบที่อยากตอบ ตอบไม่ตรงคำถาม ที่หนักกว่าและถือว่าเกินความจำเป็นไปมาก คือพอจวนตัวนอกสคริปต์จนเสียทรงก็ไปพาดพิงอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แสดงว่าที่พล.อ.ประยุทธ์ เคยบอกจะทำงานเพื่อทุกคน ไม่เป็นศัตรูกับใคร ย้อนแย้ง คำพูดสวนทางกับการกระทำ หรือประชาชนเรียกร้องผิดให้ก้าวข้ามดร.ทักษิณ ก้าวข้ามความขัดแย้ง มุ่งแสวงหาความปรองดองสมานฉันท์ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยทำได้ ทำเหมือนกับว่าดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นศูนย์กลางจักรวาลในใจของพล.อ.ประยุทธ์ตลอดเวลา พล.อ.ประยุทธ์ ไม่รู้สึกอะไรเลยหรือที่พรรคร่วมฝ่ายค้านพุ่งเป้าอภิปรายไม่ไว้วางใจ 

รัฐบาลแผ่นเสียงตกร่อง คิดอะไรไม่ออกก็โทษจำนำข้าว ‘เพื่อไทย’ ยัน หนี้ อคส. เกิดขึ้นสมัยรัฐบาลประยุทธ์ทั้งสิ้น

นายจักรพงษ์ แสงมณี กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องการทุจริตใน อคส. (องค์การคลังสินค้า) กระทรวงพาณิชย์ กรณีถุงมือยาง โดยนายจุรินทร์ได้ลุกขึ้นชี้แจงกรณีดังกล่าว และพาดพิง ‘โยนบาป’ เหมารวมว่าโครงการในอดีตของรัฐบาลเพื่อไทยก็มีกรณีอยู่ใน อคส. เช่นเดียวกันนั้นว่า ไม่ใช่ความจริงแบบที่นายจุรินทร์พยายามจะเข้าใจ  ตรงกันข้าม การทุจริตใน อคส. เป็นการปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ที่มีประเด็นชัดเจนมากคือ กรณีใน อคส. ทั้งหมด เกิดจากการดำเนินการของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งสิ้น 

ในฐานะอดีตคณะทำงานด้านเศรษฐกิจสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอชี้แจงว่า รัฐบาลเพื่อไทยขณะนั้น มีมาตรการการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวอย่างรัดกุมถึง 13 ขั้นตอน มีคณะกรรมการตรวจสอบทุกลำดับ และมีสัญญากับเอกชนซึ่งระบุความรับผิดชอบอย่างชัดเจน จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สามารถรักษาคุณภาพข้าว “‘เป็นอย่างดีและครบถ้วน’ ดังนั้น จึงไม่มีข้าวหาย ข้าวเน่า และข้าวเสื่อมคุณภาพ แบบที่มีการใส่ร้ายบิดเบือนกัน 

ตรงกันข้าม หลังการยึดอำนาจรัฐประหารรัฐบาลเพื่อไทยของพลเอกประยุทธ์  หากยึดตามหลักฐานที่ยืนยันได้โดยผู้บริหารคลังสินค้าและเซอร์เวย์เยอร์ กลับพบว่า มีการนำข้าวคุณภาพดีไปขายในราคาต่ำ โดยมีการจัดเกรดคุณภาพข้าวใหม่ที่ต่ำกว่ากว่ามาตรฐานปกติ ซ้ำยังมีการสุ่มตรวจข้าวแบบ ‘ขอไปที’ แล้วอ้างว่าเป็น ‘ข้าวเสีย’ ทั้งหมด เรื่องนี้จึงเป็นที่มาของการเกิดเป็นคดีความให้เอกชนคู่สัญญาเหล่านั้นซึ่งได้ทำสัญญารับผิดชอบดูแลรักษาข้าว ทั้งจำนวนและคุณภาพ ต้องลุกขึ้นใช้สิทธิต่อสู้ตามกฎหมาย เป็นคดีความฟ้องร้องมากมายต่อสู้กันในชั้นศาล 
 

'อนุสรณ์' ชี้ สึนามิทางการเมือง จะกวาดล้างระบอบสืบทอดอำนาจ จนสิ้นซาก

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุกลางสภา ไม่ได้เป็นคนทำปฏิวัติ คนที่ทำปฏิวัติเพียงคนเดียวคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ได้รู้สึกรู้สาว่าได้ทำอะไรผิดไป ยังรีบแอ่นอก ยกมือรับ ยิ้มกว้างด้วยความภาคภูมิใจ ไม่ได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อยว่าได้ทำปฏิวัติรัฐประหาร ยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญ ทำลายระบอบประชาธิปไตย ทำลายเกียรติภูมิของประเทศ 

พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันกับผู้บังคับบัญชามาตลอดว่าจะไม่ปฏิวัติ แต่ก็พลิกลิ้น สบจังหวะก็กลืนน้ำลาย ชิงจังหวะลงมือปฏิวัติรัฐประหารพฤติกรรมแบบนี้ชายชาติทหารเขาไม่ทำกัน พล.อ.ประยุทธ์ ไปเอาความภาคภูมิใจมาจากไหนนักหนา ที่นำพาประเทศเข้าสู่ภาวะสุญญากาศ นานาอารยะประเทศไม่ยอมรับ ประเทศถูกยึด ประชาชนผู้เห็นต่างถูกรวบ ฉีกรัฐธรรมนูญ ยื้อการเลือกตั้ง แล้วก็เขียนรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจ ประเทศต้องจ่ายมหาศาลเพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้อยู่ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ผ่านไป 8 ปี เห็นท่าไม่ดี กลัวว่าประชาชนจะสั่งสอน ไม่เห็นโอกาสที่จะชนะเลือกตั้งครั้งหน้า ก็กลับลำพลิกลิ้น เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า กลับไปใช้สูตรหาร 500 ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองและพวกพ้องอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด 

'ส.ส. เพื่อไทย' งัดหลักฐานซัด 'รัฐบาล' ชี้!! โกหกซ้ำซาก เอาหมูตายมาขายประชาชน

วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส. พะเยา พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ #เด็ดหัวสอยนั่งร้าน ชำแหละปัญหาหมูแพง เนื่องจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African swine fever: ASF) โชว์หลักฐานว่าที่รัฐบาลพยายามชี้แจงว่าควบคุมโรคระบาดในไทยได้สำเร็จนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะได้ติดตามและส่งชิ้นเนื้อไปตรวจ 3 ครั้ง ติดเชื้อทั้ง 3 ครั้ง เรื่องนี้กระทบผู้บริโภคและเกษตรกรขนาดกลางและย่อยรุนแรง 

วิสุทธิ์เท้าความก่อนว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้ติดตามประเด็นหมูในฟาร์มรายเล็กและรายย่อยของไทยติด ASF ตายเป็นเบือ ส่งผลให้ราคาหมูดีดตัวสูงขึ้นกระทบพ่อค้าแม่ขายและดันราคาอาหารพุ่งชนิดเท่าตัว และได้มีการอภิปรายเรื่องนี้ไปแล้วในการอภิปรายแบบไม่ลงมติ (ตามมาตรา 152) เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ครั้งนั้น รัฐบาลรับปากว่าจะแก้วิกฤตให้พี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูและแก้ปัญหาหมูแพง

ต่อมา ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ รัฐบาลจัดโครงการเอาหมูมาขายราคาพิเศษ คือ 140 บาท / กิโลกรัม ขณะที่ราคาท้องตลาดอยู่ที่ราว 250 บาท วิสุทธิ์จึงได้ซื้อเนื้อหมูจากโครงการนั้นไปส่งตรวจ พบว่าตัวอย่างทั้งหมดติดเชื้อ 100% และเมื่อสุ่มตรวจอีกครั้งในเดือนเมษายน โดยครั้งนี้ไม่ได้ซื้อจากโครงการรัฐแต่ซื้อจากร้านค้าปลีกในท้องตลาดทั่วไป ก็ยังพบว่าติดเชื้ออยู่ถึง 75% 

11 พ.ค. 2565 เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย สรวิศ ธาโตนี อธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้ออกแถลงว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ปลอดจากโรค ASF กำจัดโรคในหมูอยู่หมัด เรื่องนี้วิสุทธิ์ทวงถามในสภาเสียงเครียดว่า “เอาอยู่ตรงไหน?” 

เมื่อเห็นประกาศเช่นนั้น วิสุทธิ์จึงไปหารือกับ ประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอให้ตรวจสอบและนำงบ กมธ. ไปตรวจสอบดูว่า ที่ รมว. เกษตรพูดนั้นเป็นความจริงหรือไม่ และเมื่อตรวจแล้วก็ยังพบตัวอย่างหมูในประเทศติดเชื้ออยู่ถึง 40% 

‘จิรายุ’ อัด ‘บิ๊กตู่’ ปมน้ำมัน-ไฟฟ้าแพง เหตุรัฐบาลบริหารห่วย ไม่เกี่ยวสงคราม

(22 ก.ค. 65) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 จำนวน 11 คน เป็นวันที่ 4 ภายใต้ยุทธการ ‘เด็ดหัว สอยนั่งร้าน’ ซึ่งเป็นการอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่า วันนี้ตนจะมาฉายมหากาพย์การปล้นชาติกินเมืองที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากนายก ฯเพิกเฉยหมายความว่า นายกฯ ทุจริตไปด้วย แต่รัฐบาลพยายามบอกว่านายกฯ เป็นคนบริสุทธิ์ผุดผ่อง ซึ่งนายกฯ รองนายกฯ ปลัดกระทรวง และอธิบดี สวาปามกินทั้งดิน ทั้งน้ำ ทั้งลม และทั้งไฟ โดยนายกฯ ปล่อยให้พวกพ้อง บุคคลแวดล้อมทุจริตประพฤติมิชอบอย่างกว้างขวาง

นายจิรายุ กล่าวว่า เริ่มจากกองทุนทรัพยากรน้ำบาดาล ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จัดทำน้ำขวดบาดาลแจกจ่ายประชาชน หลังจากตนได้อภิปรายเมื่อต้นปี 65 ได้ยกเลิกโครงการไปแล้ว 2 ครั้ง แต่กลับแอบเดินหน้าโครงการต่อ โดยให้กรมทรัพยากรน้ำ 12 เขต จัดซื้อจัดจ้างขวดน้ำ เฉพาะ จ.สุพรรรณบุรี ได้งบประมาณ 4.4 ล้านบาท จัดซื้อขวดน้ำจำนวน 4.8 ขวด ที่มีฉ้อฉลว่าราคาขวดน้ำเปล่าที่กรมทรัพยากรน้ำซื้อมีราคาที่ต่างจากราคาท้องตลาดทั่วไป พร้อมทั้งข้อสังเกตงบประมาณปี 2566 ของกรมทรัพยากรน้ำดาล 10 โครงการ 1,800 ล้านบาท เหตุใดรีบเสนอโครงการทั้งๆ ที่สภายังอยู่ในระหว่างการพิจารณาวาระ 2-3

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องพลังงานที่มีราคาแพงไม่ได้เกี่ยวกับผลกระทบจากสงครามยูเครนรัสเซีย แต่เป็นเพราะรัฐบาลห่วยแตกโหลยโท่ย บริหารราชการแผ่นดินผิดพลาดบกพร่องโทษโน้นโทษนี่ ซึ่งมาตรการรอบใหม่ลดค่าครอบชีพช่วยเหลือประชาชนของรัฐบาลทั้ง 8 ข้อนั้น โดยเฉพาะขอความร่วมมือประหยัดพลังงาน วันนี้ตนขอหยิบวิธีประหยัดพลังงานที่นายกฯ บอกประชาชน คือ เตาเศรษฐีใช้แล้วดีมีแล้วรวย ที่มีสัญลักษณ์ เบอร์ 5 ที่สนับสนุนโดยกระทรวงพลังงาน กรณีที่จะขอลดค่ากลั่นและจะใช้เป็นตัวเลือกสุดท้ายนั้น ก็ยังหลอกประชาชน เพราะไม่ได้เจรจาจริง ทำให้น้ำมันแพงขึ้นทุกวันๆ และยังไม่ลดค่าการตลาดลงอยู่ที่ 1.40 สตางค์ แต่พบว่าค่าการตลาดอยู่ที่ 1.76-4.75 สตางค์ ขณะที่บริษัทไทยออยล์เพิ่มกำลังการผลิต จากเดิม 2.8 แสน บาร์เรลต่อวัน แล้วเพิ่มอีก 1.2 แสนบาร์เรลต่อวัน เพื่อการส่งออกแต่ไม่ได้ขายในประเทศเพราะได้กำไรดีกว่า

'เพื่อไทย' จี้ อธิบดีกรมอุตุฯ ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างโครงการติดตั้งสถานีตรวจวัดปริมาณน้ำฝน หลังอนุกมธ.กังขาติดตั้งให้หน่วยงานมีกำไรใช้ฟรี

เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธาน คณะอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 66 กล่าวว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 ที่มีการพิจารณางบประมาณ แผนบูรณาการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยเจ้าภาพหลัก คือสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้รับงบประมาณ 213,522,800 บาทนั้น มีคณะกรรมาธิการงงบประมาณรายจ่ายปี 66 จากห้องใหญ่ ติดตามการของบประมาณของกรมอุตุฯ เนื่องจากกรมอุตุฯ ของบประมาณเพิ่มขึ้นทุกปีมาตั้งแต่ปี 2564 ใน 2 โครงการ คือ
1. โครงการติดตั้งสถานีตรวจวัดปริมาณน้ำฝน 1,100 จุดซึ่งทางคณะอนุกรรมมาธิการได้สอบถามว่าจะติดตั้งที่ใดบ้าง ก็ได้รับคำตอบจากกรมอุตุฯว่าได้มีการทำหนังสือไปถึงหน่วยงานรัฐในแต่ละจุดแล้ว 
และ 2.โครงการปรับปรุงเครื่องตรวจวัดระดับน้ำ ซึ่งโครงการนี้ถูกตัดงบประมาณในปี 66

แต่ทราบว่าหากมีการทำสัญญากัน ในปี 67 จะมีการดำเนินการตั้งงบฯ กลับมาให้ใหม่ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าการเปลี่ยนงวดงาน ทั้งที่โครงการเหล่านี้ไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับประชาชนตามภารกิจของกรมอุตุฯ แต่เป็นการทำประโยชน์ให้แก่บางหน่วยงาน เช่นกรณีการติดตั้งสถานีเรด้าตรวจวัดปริมาณน้ำฝนประจำสนามบินแล้วให้วิทยุการบิน และการท่าใช้งานฟรี ทั้งที่วิทยุการบินและการท่าเป็นหน่วยงานที่มีกำไรมหาศาล หากจะติดตั้งสถานีเรดาร์ประจำสนามบินก็ควรให้หน่วยงานเหล่านี้ ดำเนินการเอง หรือต้องซื้อข้อมูลจากกรมอุตุฯ ไม่ใช่นำงบฯจากภาษีของพี่น้องประชาชนไปติดตั้งให้หน่วยงานที่มีกำไรใช้งานฟรี

โฆษกเพื่อไทยจี้ ป.ป.ช.เร่งสืบข้อเท็จจริงเอาผิดคนรับกล้วยหลังศึกซักฟอก ชี้ทั้งหมดเป็นผลไม้พิษจาก รธน.60

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ในท้ายที่สุดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและนั่งร้านรวม 11 คน จะอยู่รอดปลอดภัยในสภา แต่ศรัทธาของประชาชนหมดสิ้นแล้ว จากข้อมูลที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เปิดโปงข้อมูลส่อทุจริตในหลายประเด็น เช่น กรณีที่นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวข้องทุจริตถุงมือยางภาค 2 วงเงิน 2,000 ล้าน ที่ควรถูก ป.ป.ช.อายัด แต่ถูกเบิกออกยักย้ายถ่ายเทหนี , กรณีโอนหุ้นออกจากบริษัทเอกชนของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เคยถือหุ้นอยู่ มีหลักฐานมีพิรุธ ไม่น่าเชื่อถือ,

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่บกพร่องไม่ดูแลภัยแกงค์อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ แต่งตั้งคนสนิทเป็นที่ปรึกษารับงานศูนย์ดิจิทัลที่ส่อทุจริต รวมถึงประเด็นการขาดจริยธรรม หรือกรณีที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการท่อส่งน้ำ EEC เป็นต้น ซึ่งส่วนหนึ่งของความไม่ชอบมาพากลที่มาพร้อมหลักฐานที่ฝ่ายค้านรวบรวมมาได้จะสามารถมัดตัวผู้กระทำผิดโดยเฉพาะนักการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นการทุจริตเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะประเด็นหลังการลงมติไม่ไว้วางใจที่ได้ปรากฎหลักฐานการแจกจ่ายเงินให้กับพรรคการเมืองเพื่อต่อคานอำนาจให้พลเอกประยุทธ์ได้อยู่ต่อ กระบวนการต่อไปนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ต้องเร่งดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริงให้แน่ชัดและเอาผิดโดยเร็ว
 


 

'โฆษกเพื่อไทย' จี้ ป.ป.ช. เอาผิดคนรับกล้วย ชี้!! เป็นผลไม้พิษจากรัฐธรรมนูญ ปี 60

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ในท้ายที่สุดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและนั่งร้านรวม 11 คน จะอยู่รอดปลอดภัยในสภา แต่ศรัทธาของประชาชนหมดสิ้นแล้ว จากข้อมูลที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เปิดโปงข้อมูลส่อทุจริตในหลายประเด็น เช่น กรณีที่นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวข้องทุจริตถุงมือยางภาค 2 วงเงิน 2,000 ล้าน ที่ควรถูก ป.ป.ช.อายัด แต่ถูกเบิกออกยักย้ายถ่ายเทหนี

กรณีโอนหุ้นออกจากบริษัทเอกชนของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เคยถือหุ้นอยู่ มีหลักฐานมีพิรุธ ไม่น่าเชื่อถือ

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่บกพร่องไม่ดูแลภัยแก๊งอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ แต่งตั้งคนสนิทเป็นที่ปรึกษารับงานศูนย์ดิจิทัลที่ส่อทุจริต รวมถึงประเด็นการขาดจริยธรรม 

หรือกรณีที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการท่อส่งน้ำ EEC เป็นต้น 

ซึ่งส่วนหนึ่งของความไม่ชอบมาพากลที่มาพร้อมหลักฐานที่ฝ่ายค้านรวบรวมมาได้จะสามารถมัดตัวผู้กระทำผิดโดยเฉพาะนักการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นการทุจริตเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะประเด็นหลังการลงมติไม่ไว้วางใจที่ได้ปรากฎหลักฐานการแจกจ่ายเงินให้กับพรรคการเมืองเพื่อต่อคานอำนาจให้พลเอกประยุทธ์ได้อยู่ต่อ กระบวนการต่อไปนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ต้องเร่งดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริงให้แน่ชัดและเอาผิดโดยเร็ว

‘เพื่อไทย' ลงนามถวายพระพรฯ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 กรกฎาคม คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายสรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิช โฆษกพรรคเพื่อไทย ถวายแจกันดอกไม้หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมลงนามถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 70 พรรษา ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ในพระบรมมหาราชวัง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top