Saturday, 4 May 2024
เพื่อไทย

อนุสรณ์ เห็นชอบเปิดพื้นที่ชุมนุมสาธารณะ กังวล คง พรก.ฉุกเฉิน

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี กทม.ออกประกาศพื้นที่ชุมนุมสาธารณะในกรุงเทพมหานครทั้ง 7 แห่ง ซึ่งมีผังชัดเจน ในพื้นที่กรุงเทพ 6 โซน แบ่งเป็น 7 จุด ว่า การเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้แสดงออกทางการเมืองเป็นเรื่องที่ดี บ้านเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตยต้องเปิดพื้นที่ภายใต้กรอบกฎหมาย ให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง รัฐบาลไม่ต้องกังวลหากมีการฝ่าฝืนกฎหมาย รัฐบาลก็สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อยู่แล้ว แต่ที่พรรคเพื่อไทยกังวล คือการคงประกาศพรก.ฉุกเฉิน ทั้งที่ถ้าประสงค์จะคุมโรคระบาด สถานการณ์โควิดก็คลี่คลาย เตรียมถอดแมสก์ เปิดผับ เปิดบาร์ แต่การที่รัฐบาลคงพรก.ฉุกเฉิน อาจหวังคุมคนไม่ให้ออกมาแสดงออกทางการเมือง เพื่อรักษาอำนาจของรัฐบาลเอง ขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนักจากวิกฤตค่าครองชีพแพง ค่าแรงถูก วิกฤตราคาพลังงานทั้งระบบ การเชิญชวนให้ประชาชนไปใช้เตามหาเศรษฐี เป็นการหนีจากปัญหาเก่า ไปสู่ปัญหาใหม่ ที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ หากรัฐบาลยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว รัฐบาลยังมีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมโรคที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ รัฐบาลไม่ต้องกังวล รัฐบาลจะคงพรก.ฉุกเฉินไว้ตลอดไปไม่ได้เพราะจะทำลายบรรยากาศการลงทุนการท่องเที่ยวทำลายบรรยากาศบ้านเมืองที่เป็นประชาธิปไตย

'เพื่อไทย' ซัด!! รัฐบาลใช้งบพีอาร์หลายพันล้าน แต่สู้ 'ผู้ว่าฯ กทม.' ที่ใช้แค่มือถือไลฟ์ลงเฟซบุ๊กไม่ได้

เมื่อวันที่ (5 ก.ค.) น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ว่าพูดคุยกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.กรณีการจัดการสายสื่อสาร พร้อมระบุว่ารัฐบาลทำงานมาตลอด แต่ยอมรับว่าประชาสัมพันธ์สู้นายชัชชาติไม่ได้ว่า สะท้อนแนวคิดการทำงานแบบน้ำเต็มแก้วของนายชัยวุฒิและรัฐบาลชุดนี้ ที่ชอบพูดเสมอว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ มีผลงานมากมาย แต่อ่อนด้อยการประชาสัมพันธ์ ประชาชนจึงไม่ทราบ ปัญหาการบริหารที่ผ่านมาของรัฐบาล หากมองแค่การอ่อนประชาสัมพันธ์คงเป็นการมองปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะต้นเหตุแห่งปัญหาคือผลงานของรัฐบาลและของ รมว.ดิจิทัล หากมีผลงานที่ประชาชนจับต้องได้ ต่อให้ไม่ต้องทำการประชาสัมพันธ์ก็จะมีการพูดถึงปากต่อปากโดยประชาชน ซึ่งเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ยั่งยืน 

แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กลับใช้เงินภาษีของประชาชนประชาสัมพันธ์นโยบายของภาครัฐต่อปีไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2565 เฉพาะกรมประชาสัมพันธ์ได้งบประมาณ 2,423 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2566 ได้งบประมาณเพิ่มขึ้นอีก 70 ล้านบาทเป็น 2,493 ล้านบาท ยังไม่รวมการประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาลผ่านกระทรวงและหน่วยงานอื่น ๆ ซึ่งประชาชนเจ้าของภาษีมีสิทธิที่จะตั้งคำถาม ว่าเป็นการใช้งบประมาณแผ่นดินคุ้มค่าหรือไม่

'ตรีชฎา' ชี้!! เพิ่มเบี้ยคนชราหลักร้อยไม่พอกิน เตือนความจำรัฐบาล หาเสียงไว้ก็ต้องทำให้ได้

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติงบกลางของปี 2565 ที่เคยเห็นชอบหลักการไปแล้วเพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษ ผู้สูงอายุรวมกว่า 8,300 ล้านบาท ตั้งแต่ 100-250 บาทต่อคนต่อเดือนตามช่วงอายุ เป็นเวลา 6 เดือนนั้น มองว่า การช่วยเหลือผู้สูงอายุและประชาชนเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากขณะนี้พี่น้องประชาชนกำลังประสบภาวะเศรษฐกิจกันอย่างถ้วนหน้าจากการบริหารที่ผิดพลาดของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ  

แต่การอุดหนุนเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุควรดำเนินการเร็วกว่านี้ และอุดหนุนให้เท่ากับที่พรรคร่วมรัฐบาลได้เคยหาเสียงเอาไว้ในการเลือกตั้งปี 2562 โดยพรรคพลังประชารัฐ หาเสียงเอาไว้ว่าจะปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทุกช่วงอายุเป็น 1,000 บาทต่อเดือน พรรคประชาธิปัตย์เคยหาเสียงจะปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงเป็น 1,000 บาทต่อเดือน พรรคชาติพัฒนา ตอนหาเสียงจะปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็น 2,000 บาทต่อเดือน 

จนปัจจุบันรัฐบาลอยู่มาเกือบครบวาระ 4 ปี แต่สิ่งที่พี่น้องประชาชนคนสูงอายุได้รับกลับได้ไม่ครบถ้วนตามที่หาเสียงเอาไว้ ผู้สูงอายุ 60-79 ปี ได้เบี้ยคนชรารวมเพียง 700-850 บาท และจะได้รับจำนวนนี้จนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้เท่านั้น กลายเป็นว่าไม่ใช่เงินอุดหนุนที่แท้จริง แต่เป็นเพียงเบี้ยหัวแตกที่ไม่พอยาไส้ในยุคข้าวยากหมากแพงตอนนี้ 

นางสาวตรีชฎา กล่าวอีกว่า พรรคการเมืองคือศูนย์รวมบุคคลกลุ่มต่าง ๆ ที่มีแนวคิดอุดมการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ หรือสังคมที่คล้ายคลึงกัน โดยมีเป้าเดียวกันที่จะขจัดทุกข์ บำรุงสุขให้พี่น้องประชาชน การที่ประชาชนลงคะแนนเลือกบุคลากรของพรรคใด ประชาชนย่อมมุ่งหมายให้พรรคการเมืองไปดำเนินการทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ให้เป็นจริง

'ไพศาล' ฟัน!! สูตรหาร 500 หยุด พท. แลนด์สไลด์ไม่ได้ ชี้!! 'ฉ้อราษฎร์ - หลอกปชช.' จะเป็นตัวช่วยให้ชนะขาดลอย

10 มิ.ย. 2565 – นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วย รองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊ก paisal puechmongkol ระบุว่า

ระบบ 500 หยุดเพื่อไทยแลนด์สไลด์ไม่ได้

ตราบใดที่รัฐราชการยังเต็มไปด้วยการโกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวง หลอกลวงประชาชน และล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและปัญหาปากท้องของประชาชนจะเป็นตัวช่วยอย่างยอดเยี่ยมให้แก่ชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย!!!!

ไม่ว่าจะเสกเป่าด้วยวิธีไสยศาสตร์ทางกฎหมาย ให้การเลือกตั้งใช้บัตรกี่ใบ หรือใช้ 500 หารก็ไม่มีทางพลิกสถานการณ์เพื่อไทยแลนด์สไลด์ได้

คำเตือนของท่านอดีตนายกอภิสิทธิ์ ควรจะปลุกผู้หลงมัวเมาและผู้ที่เป็นกาฝากแห่งผลประโยชน์กับผู้มีอำนาจให้ตื่นได้แล้ว พฤติกรรมในการเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงไปแล้ว!!!! ประชาชนจะไม่สนใจว่า ผู้สมัคร ส.ส. เขต หรือบัญชีรายชื่อ จะเป็นใคร

แต่ประชาชนจะกาบัตรเลือกตั้งเพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรีที่ต้องการ และเพื่อทำให้คนที่ไม่ต้องการไม่ให้เป็นนายกรัฐมนตรี

อดีตบิ๊กศรภ. ชี้!! ถ้ายังมี 'โทนี่' ก็ต้องมี 'นายกตู่' ต่อไป เพื่อไทยไม่มีทางได้แลนด์สไลด์ เพราะ 'อุ๊งอิ๊ง' แน่นอน

10 ก.ค. 65 -​ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้

ตราบใดยังมี 'โทนี่' ตราบนั้น 'ตู่' ก็ยังเป็นนายกฯ ต่อไป

ภาพการเมืองไทยในปัจจุบัน มองดูแล้วก็ขาดความตื่นเต้นเร้าใจครับ ทุกอย่างแทบไม่มีทางเป็นไปแบบที่สื่อมวลชนส่วนหนึ่งเห็นว่าจะมีเหตุรุนแรงถึงขั้น นายกต้องหลุดจากตำแหน่ง และยังมองข้ามไปอีกว่าจะเกิดแลนด์สไลด์ขึ้นจาก 'อุ๊งอิ๊ง' อีกด้วย

การอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ลุงตู่ลอยลำ แม้คะแนนจะไม่มาที่ 1 แพ้ลุงป้อม หรือคุณอนุทิน นิดหน่อยก็เป็นเรื่องตามปกติ ของพวกมีเส้นสาย และจะมี รมต.บางคน ที่คะแนนตกต่ำลง ไปบ้างก็ไม่เป็นไร สบายๆ ครับ

'อนุสรณ์' ชี้ 8 ปี 'ประยุทธ์' ยังทำพังขนาดนี้ ขออีก 2 ปี ใครจะไปเชื่อ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงการณ์กลยุทธ์ 3 แกน สร้างอนาคต ทำประเทศเดินหน้าใน 2 ปี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยู่มา 8 ปี ผ่านงบฯ ไป 12 ครั้ง ใช้เงินไป  28.5 ล้านล้านบาท แต่เศรษฐกิจทรุด ทุจริตฟู กู้เก่ง แต่บริหารไม่เป็น ทำประเทศล้มเหลวแทบทุกด้าน อย่าว่าแต่ขอเวลาอีก 2 ปีเลย 8 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ พังแทบทุกมิติ อยู่ในสภาพประเทศหนี้ล้น ประชาชนหนี้ท่วม พอจวนตัวเห็นสัญญาณจะไม่ได้ไปต่อ เผชิญวิกฤตศรัทธา ก็ออกมาสร้างเรื่องให้ความหวังเรื่องใหม่กลบเรื่องเก่าที่ทำไม่สำเร็จไปเรื่อยๆ 

เฉพาะเรื่องคนจนจะหมดประเทศ 8 ปี พูดมากี่ครั้ง ก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ ประชาชนที่ไหนจะไปเชื่อ วาระสุดท้ายของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เหมือนคนกำลังจะจมน้ำ อะไรผ่านมาก็คว้าไว้หมด ขนาดยอมเสียทรงจนถูกตั้งคำถามว่า ไปแทรกแซงเปลี่ยนสูตรคำนวณ ส.ส.จากหาร 100 เป็นหาร 500 เพื่อประโยชน์ในการสืบทอดอำนาจของตัวเองหรือไม่

อนุกมธ.งบฯ เพื่อไทย เสนอ 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นมหานครทางเศรษฐกิจของโลกมุสลิม เปลี่ยนภาพความรุนแรงเป็นเมืองเศรษฐกิจ พร้อมฝาก ศอ.บต-กระทรวงศึกษา-กรมศิลปกร จัดงบบูรณาการเพิ่มศักยภาพพื้นที่

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) แผนงานบูรณาการ 2 ในคณะกมธ.วิสามัญ พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 กล่าวว่า ในการประชุมคณะอนุกมธ.ฯ ได้มีการตั้งข้อสังเกต และข้อแนะนำให้แต่ละหน่วยงานที่มาชี้แจง โดยเฉพาะศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต) เกี่ยวกับการนำงบประมาณลงไปบูรณาการการทำงานร่วมกันในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกมธ.เห็นว่า พื้นที่ 'ปัตยะรา' (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) ยังเป็นมหานครแห่งโอกาสและความหวัง เป็นประตูเศรษฐกิจสู่อาณาจักรมุสลิมที่มีกำลังซื้อมหาศาล เป็นมหานครฮาลาลที่มีอนาคตที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เพียงแต่ต้องเข้าใจ และเปลี่ยนเป็นการนำทางด้วยเศรษฐกิจ และการพัฒนา โปรดอย่ามองด้วยสายตาว่าในพื้นที่นี้แข็งกระด้างและรุนแรง ซึ่งพี่น้องในปัตยะราทุกคนต่างต้องการการอยู่ดีกินดี มีอาชีพที่มั่นคง 

ทั้งนี้ ตนฝากนายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พัฒนาการศึกษาเพื่อการมีงานทำ และการศึกษาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ โดยขอให้ปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับการนำศักยภาพทรัพยากรธรรมชาติของพื้นที่ สู่การสร้างรายได้ที่มั่นคง ยั่งยืน พร้อมขอฝากกรมศิลปากรและกรมโยธา ช่วยพัฒนาการออกแบบสถาปัตยกรรมโครงสร้างพื้นฐานของเมืองให้มีกลิ่นอายของมรดกวัฒนธรรมถิ่น ในหลัก 8 วิถี 9 วัฒนธรรม ที่เคยวางเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาศิลปะวัฒนธรรมให้กับกระทรวง โดย 8 วิถี softpower ประกอบด้วย 

1.อาหาร 

2.แฟชั่น เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย 

3.สถาปัตยกรรมและที่อยู่อาศัย 

4.ข้าวของเครื่องใข้ของตกแต่งบ้าน 

5.ภาษา 

6.ศิลปวัฒนธรรม 

7.ดนตรีและบันเทิง 

และ 8.ความเชื่อความเป็นมงคล 

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พท. เชื่อ!! 'ประยุทธ์' หวังอยู่ยาว ซัด!! 'ส.ว. - พรรคร่วม' โอบอุ้มค้ำอำนาจ ไม่เห็นหัวปชช.

'วิสาระดี' เชื่อ 'ประยุทธ์' หวังกุมอำนาจยึดประเทศยาวเกิน 10 ปี อัด ส.ว. และพรรคร่วมรัฐบาลลดตัวเป็นนั่งร้าน ค้ำอำนาจ ไม่เห็นหัวประชาชน 

นางสาว วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ยึดอำนาจจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และก้าวขึ้นบริหารประเทศในตำแหน่งหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. จนถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจนถึงปัจจุบัน ยังคงใช้อำนาจตามอำเภอใจ และบริหารประเทศแบบไร้ทิศทางและไร้ประสิทธิภาพอย่างสิ้นเชิง

การบริหารที่ผ่านมา รัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนใกล้ชิด มองที่ผลประโยชน์กลุ่มนายทุนใกล้ชิดมากกว่าผลประโยชน์ของประชาชน ไม่เคยเห็นหัวประชาชน โดยเฉพาะภาคเกษตรกร โดนนายทุนอัดเอาเปรียบกดราคารับซื้อสินค้าทุกชนิด อาทิ ข้าวเปลือกราคาตก แต่ข้าวสารแพง ราคาหมู ไก่ ปรับราคาขึ้นทุกวัน แต่หน้าฟาร์มราคากลับไม่ขยับ พลเอกประยุทธ์ในฐานะ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ควรที่จะศึกษาเพื่อหาต้นทุนที่แท้จริง ทั้งนี้ราคาซื้อกับราคาขายที่ห่างกันมาก ประโยชน์ตกกับนายทุนใกล้ชิดรัฐบาล

พท. ชี้สูตรปาร์ตี้ลิสต์หาร 500 จงใจทำผิด รธน. คาดหากใช้จริง ‘ตลาดซื้อขายนักการเมือง’ เกิดแน่ 

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่า การที่ประชุมสภาฯ มีมติเห็นด้วยกับสูตรคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ โดยหาร 500 เป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่1) พ.ศ. 2564 มาตรา 91 อย่าง 'จงใจ ชัดแจ้ง' แสดงถึงเจตนาในการสืบทอดอำนาจของผู้มีอำนาจในปัจจุบัน หากสูตรการคำนวณนี้ถูกนำไปใช้จริงในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศไทยจะหนักหนารุนแรงกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้แน่นอน เพราะจะเกิดการต่อรองแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ของพรรคการเมืองใหม่ๆ ที่จะมีให้เห็นมากขึ้นกว่าเดิม เกิดการอัปราคาค่าตัว สร้างกลุ่มก้อนใหม่ๆ ขึ้นมาอีกมาก 'ตลาดซื้อขายนักการเมือง' จะเกิดขึ้นอย่างไม่อายประชาชน สุดท้ายคนที่ไม่ได้ประโยชน์ใดจากเรื่องนี้คือพี่น้องประชาชน เพราะนักการเมืองที่ได้มาจากสูตรการคิดคำนวณแบบนี้มีที่มาจากการกระทำผิดรัฐธรรมนูญ เมื่อมีที่มาที่กระทำผิดกฎหมายสูงสุดของประเทศแล้ว จึงไม่อาจยึดโยงกับประชาชนอย่างแท้จริงได้ ประชาชนเองก็คงไม่สามารถยอมรับได้เช่นกัน 

'เพื่อไทย' เชื่อคนไทยจะให้บทเรียนกับพรรคที่ทรยศอุดมการณ์ ลั่น พร้อมสู้ทุกกติกา เชื่อเลือกตั้งครั้งหน้าเงินสะพัดซื้อเสียงหนักทุกพื้นที่

นายฉลาด ขามช่วง ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การเลือกตั้งส.ส. ที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเมื่อใดก็ตาม พรรคเพื่อไทยไม่กังวลใจ เชื่อว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคน พร้อมสู้ทุกสนามและสู้ในทุกกติกาที่ผู้มีอำนาจกำหนดมา เพื่อความได้เปรียบทางการเมือง เชื่อมั่นการเลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนเลือกพรรคการเมืองเพื่อมาทำงานมากกว่าพวกบ้าน้ำลาย

นอกจากนี้เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงกันเป็นจำนวนมาก เงินสะพัดในหลายพื้นที่ ดังนั้นอยากบอกว่าการใช้เงินไม่สามารถซื้ออนาคตของประชาชนได้ ทุกวันนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศแบบนี้ประชาชนสิ้นศรัทธาและหมดหวังที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top