Sunday, 5 May 2024
การเมือง

‘เพื่อไทย’ เตรียมจัดหนัก ‘บิ๊กตู่’ ในศึกอภิปราย แซะ!! ช่วยตอบให้ตรงคำถาม อย่าก้มอ่านแต่โพย

(23 ม.ค. 66) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การอภิปรายตามมาตรา 152 ที่จะเกิดขึ้น ในส่วนประเด็นของพรรคเพื่อไทยที่จะอภิปราย สรุปแล้วว่าพรรคจะเน้นในเรื่องใดบ้าง รวมทั้งขุนพลที่จะมาอภิปราย อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ตอบให้ตรงคำถาม อย่าอ่านแต่โพยที่ข้าราชการชงมาให้ ทั้งนี้การอภิปรายจะสะท้อนความล้มเหลวของพล.อ.ประยุทธ์ว่าตลอด 8 ปีไม่สามารถทำตาม นโยบายที่แถลงไว้กับสภา และจงใจที่จะไม่ดำเนินการตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ รัฐบาลผลาญงบประมาณมหาศาล แต่ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน เงินงบประมาณไปตกอยู่กับคนกลุ่มไหนแล้วใครได้ประโยชน์บ้าง 

นอกจากนี้จะชี้ให้เห็นถึงการทุจริตที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาพรรคฝ่ายค้านได้อภิปรายชี้ให้เห็นถึงการทุจริตในรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ให้ประชาชนทราบแล้ว แต่พล.อ.ประยุทธ์กลับไม่ดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาคนผิด ในทางกลับกันพล.อ.ประยุทธ์ปล่อยให้ขบวนการทุจริตขยายใหญ่โตกระทบกับโครงการที่จะไปดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน  


 

‘เพื่อไทย’ จวก ‘บิ๊กตู่’ ไม่มีความรับผิดชอบ อยู่จะครบเทอม ยังจัดการปัญหาทุจริตไม่ได้

(24 ม.ค. 66) น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทยกล่าวถึงข่าวนักท่องเที่ยวชาวจีนอ้างว่าใช้บริการวีไอพีจากตำรวจไทยพร้อมจ่ายเงินตอบแทนว่า เป็นอีกครั้งที่ตำรวจไทยบางส่วนทำงามหน้าประเทศ เป็นปลาตัวเดียวที่ทำให้วงการสีกากีเน่าไปทั้งข้อง ทำเกียรติภูมิของตำรวจไทยเสียหาย สะท้อนไปถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เหลวแหลก พฤติกรรมของตำรวจบางกลุ่มที่ถูกเปิดโปง ต้องยอมรับว่าหากหัวไม่สั่นหางคงไม่กระดิกใช่หรือไม่ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งที่สั่นคลอนระบบราชการภายใต้การบริหารราชการแผ่นดินของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องรับผิดด้วย อย่ารับแต่ชอบ 

น.ส.ชญาภา กล่าวต่อว่า กี่กรณีแล้วที่พล.อ.ประยุทธ์ ปล่อยปละละเลยให้ธุรกิจสีเทาและทุนจีนสีเทาเฟื่องฟู ยาเสพติดระบาดเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมือง ระบบการส่งส่วยที่รับเงินสดแบบไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย เมื่อตรวจพบแต่ละครั้งก็ทำได้แค่ย้ายเข้ากรุ ตั้งคณะกรรมการสอบ โดยภายในเดือนม.ค.เพียงเดือนเดียว พบว่ามีการตั้งกรรมการสอบหน่วยงานของรัฐไปแล้ว 6 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการตรวจสอบกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง กรณีพบส่วยในห้องทำงานข้าราชการระดับสูงกรมอุทยาน กรณีตำรวจ 191 เรียกทรัพย์หลังค้นบ้านทุนจีนสีเทา กรณีดีเอสไอเรียกทรัพย์ค้นบ้านทุนจีนสีเทา กรณีเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ กรณีช่วยเหลือคดีตู้ห่าว ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเดือนเดียว เพิ่มเติมจากเรื่องเก่าที่ยังไม่มีความคืบหน้า อย่างเรื่องเงินบริจาคของนายตู้ห่าวที่บริจาคให้พรรคพลังประชารัฐ จึงไม่อยากประเมินสถานการณ์ไปถึงอนาคตว่าประเทศไทยจะมีการตั้งคณะกรรมการไปอีกกี่ชุด ทั้งที่การแก้ไขที่ต้นเหตุสามารถทำได้ด้วยการมีผู้นำที่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา และเอาจริงเอาจังในการปราบปรามการทุจริตทุกรูปแบบมากกว่านี้ แต่พล.อ.ประยุทธ์กลับละเลย ฉายา 8 ปีที่ 8 เปื้อนที่สื่อตั้งให้คงสมฉายาแล้ว

‘ลุงหนู’ เผย ‘ศักดิ์สยาม’ ไม่กังวล ปมยื่นฟ้องถอดตำแหน่ง ยัน ไม่ติดใจ ‘เพื่อไทย’ ไล่งับ เข้าใจเรื่องการเมือง

(26 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 14.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคเพื่อไทย ยื่นให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังประธานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สิ้นสุดลง เป็นการดิสเครดิตก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ ว่า นายศักดิ์สยาม ชี้แจงไปแล้วในประเด็นนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเดือน ก.ย.65 และนายศักดิ์สยาม ชี้แจงข้อกล่าวหาในสภาไปแล้ว และสิ่งที่พิสูจน์ได้คือ นายศักดิ์สยาม ได้รับคะแนนไว้วางใจในประเด็นที่ถูกกล่าวหา คะแนนห่างกับคะแนนไม่ไว้วางใจเป็นร้อยคะแนน จึงน่าจะโอเค ส่วนเรื่องที่จะไปยื่นอะไรเป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย หากอยู่ภายใต้กฎหมายสามารถยื่นได้ 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเป็นการดิสเครดิตกันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ประชาชนที่ติดตามอย่างใกล้ชิดจะพิจารณาได้ว่าวัตถุประสงค์เป็นอย่างไร 

‘อุ๊งอิ๊ง’ ขนทัพ ‘เพื่อไทย’ ปราศรัยใหญ่ จ.เลย ลั่น!! มุ่งทำเพื่อ ปชช. ไม่มุ่ง ‘พาพ่อกลับบ้าน’

(27 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ท่าอากาศยานเลย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมปราศรัยใหญ่ ในงาน #แลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น โดยทันทีที่เดินทางมาถึงมี แกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.จังหวัดเลย อาทิ นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ และประชาชนร่วมรอรับและมอบดอกกุหลาบ เพื่อให้กำลังใจ พร้อมส่งเสียงตะโกน “เพื่อไทย สู้ๆ” “อุ๊งอิ๊ง สู้ๆ” พร้อมชูป้ายความยินดีต้อนรับ จนเสียงดังสนั่น ณ สนามบินเลย โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นการลงพื้นที่หาเสียงในนามพรรคเพื่อไทยครั้งแรก หลังจากที่ก่อนหน้านี้จะลงพื้นที่ในนามครอบครัวเพื่อไทย โดยจุดแรกที่ลงพื้นที่ปราศรัยคือที่สนามกีฬากลางจังหวัด อ.เมือง จ.เลย

จากนั้นคณะพรรคเพื่อไทยได้หารือกับตัวแทนภาคเอกชนจังหวัดเลยที่ร้านอาหารล้านช้าง ก่อนเดินทางไปยังเวทีปราศรัยจุดแรก โดย น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย ว่า การลงพื้นที่หาเสียงครั้งนี้ถือเป็นการเดินสายหาเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคเพื่อไทย หลังจากนี้พรรคจะเดินหน้าหาเสียงทั่วประเทศ เพื่อพบประชาชนให้ได้มากที่สุด ในส่วนของตนที่ยังสามารถเดินทางด้วยเครื่องบินได้ ก็จะพยายามลงพื้นที่ให้ได้มากที่สุด เมื่อใกล้คลอดจะปรับเป็นนั่งรถไปแทน โดยพยายามไปให้ได้มากที่สุดโดยปรึกษาคุณหมอตลอด จะไม่ทำอะไรให้มากเกินไป

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้นแต่มีการพูดถึงการจับมือทางการเมืองหลังเลือกตั้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อนำ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้าน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่เคยคุยกันเลย เราจะเดินสายอุ้มท้องหาเสียงต่อไปเพื่อเป้าหมายเลนส์สไลด์นี่คือสิ่งที่นี่คือเป้าหมายที่พรรคเพื่อไทยตั้งใจทำ

เมื่อถามย้ำว่า นายทักษิณ ระบุว่าจะกลับบ้านเมื่อใดให้ น.ส.แพรทองธาร จะเป็นผู้ประกาศ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า “ยังไม่ได้บอกจะกลับเมื่อไหร่อย่างไร ที่บอกให้อิ๊งค์เป็นคนบอกก็ตามนั้น ส่วนจะกลับมาแบบไหนนั้น คุณพ่อออกไปหลายปีแล้ว คงมีวิธีและวิธีการว่าจะมาอย่างไรอิ๊งค์ก็เคารพการตัดสินใจและท่านก็พูดเองว่าจะไม่เอาพรรคการเมืองมาเกี่ยวข้อง ดังนั้น การที่มาอยู่ตรงนี้ พรรคเพื่อไทยอยู่ตรงนี้ เราจะมุ่งหน้าหาเสียงทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องพานายทักษิณกลับบ้าน ขอให้แยกเรื่องกัน”

เมื่อถามอีกว่า การจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตัดไปได้เลยใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนไม่เคยคุย และข่าวที่ออกมาจะกระทบกับกระแสพรรคหรือไม่นั้น ตนคิดว่าประชาชนติดตามข่าวน่าจะมีวิจารณญาณว่าเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้ตนไม่ได้คุยจริงๆ ยังไม่มีดีล ไม่ได้คุย ก็ไม่รู้จะตอบประชาชนอย่างไร

เมื่อผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ออกมาโจมตีนายทักษิณหนักมาก พรรคจะดำเนินการอย่างไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีแนวทางตอบโต้กับนายจตุพร หรือใครก็ตามที่วิพากษ์วิจารณ์ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบาย เราเชื่อว่าการทุ่มเททำงานหนักเพื่อนำประชาธิปไตยกลับคืนมา เปลี่ยนแปลงรัฐบาลเอานโยบายเพื่อไทยแก้ปัญหาประชาชนคือเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง ต้องทำให้สำเร็จให้ได้

สำหรับนายจตุพร แม้เหตุการณ์ตอนนี้ก็ไม่เคยรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ แต่ถ้าสื่อสารถึงกันได้บ้าง อยากบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าจะเพียงพอหรือได้ข้อยุติสำหรับการแสดงท่าทีแล้วหรือไม่ ขอให้พวกเราพี่ ๆ น้อง ๆ ได้ทำงานในสนามเลือกตั้ง เราไม่ทะเลาะกับนายจตุพร หากไม่สบายใจก็ไม่เป็นไร หากนายจตุพรจะหันมาที่ตน ตนยังพร้อมทำงานในฐานะผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยต่อไป โดยไม่แสดงความเป็นปฏิปักษ์

“อยากให้มองมาที่พรรคเพื่อไทย เป็นพี่ เพื่อน น้อง ที่เคยยืนเคียงข้างกัน วันนี้เราทำงานหนักเพื่อนำบ้านเมืองให้รอดจากวิกฤต ดังนั้น ขอให้เราได้มีสมาธิทำหน้าที่ เราต่างเคยยืนเคียงข้างนายทักษิณ ในสนามเลือกตั้ง เคียงข้างผู้นำของพรรคการเมืองนี้ตลอด วันนี้ผมยืนข้าง น.ส.แพทองธาร พี่ก็ทราบว่าน้องอิ๊งค์มีหัวใจเป็นคนเสื้อแดง เติบโตมากับการเห็นภาพการถูกกระทำของคนเสื้อแดง หลั่งน้ำตาให้กับการสูญเสีย กับความเจ็บปวดของคนเสื้อแดง อยากให้พี่นึกถึงภาพวันแบบนั้น ให้น้องอิ๊งค์ได้ทำหน้าที่อย่างที่ควรจะทำ อย่างที่ประชาชนตั้งความหวังอย่างที่ประเทศไทยกำลังรอโอกาส และเชื่อว่าพี่น้องเสื้อแดงหากจะไปสนับสนุนพรรคอื่นในฝ่ายประชาธิปไตย คงเป็นด้วยเหตุผลอื่น ไม่น่าจะเป็นเพราะประเด็นที่นายจตุพรเปิดออกมา และยังเชื่อว่าพี่น้องเสื้อแดงส่วนใหญ่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่

ส่วนคนเสื้อแดงที่ไม่สมหวังกับการจัดตัวผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ผมสอบถามกับคณะกรรมการสรรหาอยากให้มีการอธิบายแบบตรงไปตรงมา แต่ที่เปิดตัวไปมีคนเสื้อแดงจำนวนมากที่ได้โอกาส ยืนยันเราไม่เคยคิดทอดทิ้งทำลายน้ำใจกัน หวังเมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งพี่น้องเสื้อแดงจะทบทวนวิธีคิดและจับมือร่วมกันเหมือนเดิม และเหมือนที่ น.ส.แพทองธาร บอก เป้าหมายแลนด์สไลด์ไม่ใช่เพื่อพานายกฯ ทักษิณ เป็นคนละประเด็นกัน ท่านก็พูดจะกลับหรือไม่อยู่ที่หัวใจท่าน ไม่ได้อยู่ที่พรรคการเมือง ดังนั้น แลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย เพื่อเอาประยุทธ์ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม) ประวิตรกลับบ้าน (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ) เอารัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการกลับบ้าน” นายณัฐวุฒิ กล่าว

'ไตรรงค์' ลั่น!! 'บิ๊กตู่' นี่โง่จริงๆ เป็นนายกฯ มา 8 ปี ไม่กินสักบาท ยกคำ 'ตู่-จตุพร' นักการเมืองที่โกงประชาชน เลวกว่าหมา

เมื่อวานนี้ (28 ม.ค.66) บรรยากาศเวทีปราศรัยใหญ่พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นเวทีแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเป็นครั้งแรก ภายใต้ม็อตโต้ ลุงตู่เปิดประตูสู่ภาคใต้ 

นายเอกนัฎ พร้อมพันธ์ุ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้แนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย นายวิชัย สุดสวาทดิ์ เขต 1 นายสันต์ แซ่ตั้ง เขต 2 และ นายสุพล จุลใส หรือลูกช้าง เขต 3  และว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภาคใต้ รวมถึงแกนนำพรรค เช่น นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรค บอกกับชาวชุมพรว่า ในพื้นที่ภาคอีสาน ชาวอีสานให้การต้อนรับ ลุงตู่ และกระแสดี อยากให้ลุงตู่อยู่ต่อ พร้อมเย้ยพรรคเพื่อไทย ที่เปิดเวทีปราศรัยเมื่อวานนี้ที่ จ.เลยว่ามีคนมาแค่หลักพันเท่านั้น 

นอกจากนี้นายเอกนัฎ กล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติ จะชนะยกจังหวัดชุมพรเพียงจังหวัดเดียวไม่ได้ เพราะ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ก็ชนะยกจังหวัด จึงหวังว่าในภาคใต้ จะได้ไม่น้อยกว่า 30 ที่นั่ง

ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แนะนำว่าตนเองเป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มาทำงานกับลุงตู่ เพราะเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียวที่นำพาประเทศหลุดพ้นวิกฤตมาได้ พร้อมยกตัวอย่างนโนยบายที่สำเร็จแล้ว คือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แม้มีนักการเมืองจังหวัดตนเองที่มีแกนนำพรรคไม่ติดคุกหรือหนีไปต่างประเทศนำมาโจมตี แต่บอกว่าได้เต็มปากว่านโยบายนี้เป็นความคิดของพล.อ.ประยุทธ์

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวย้ำด้วยว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้าน ทุกสิ้นเดือนชาวบ้านจะรอคอยและเรียกว่าบัตรลุงตู่ พร้อมพูดถึงการทำงานของลุงตู่ที่ทำให้ประสบความสำเร็จ เช่นการแก้ปัญหาโควิด เพราะลุงตู่ตัดสินใจเด็ดขาด ทำให้เราผ่านพ้นสถานการณ์โควิดมาจนถึงทุกวันนี้

นายสุชาติ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ ออก พรบ.นิรโทษกรรม โดยบอกว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์สุดซอยในคืนนั้น เพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ไม่ได้เห็นด้วย และในคืนนั้น ได้ยิน เจ๊คนหนึ่งที่อยู่ภาคเหนือ กล่าวว่า "อ้ายๆ ตีสามเอาให้จบเลยนะ" จึงเป็นเหตุผลให้ตนมาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และ เราจะสนับสนุน ลุงตู่ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ต่อไป เพราะลุงตู่เป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาประเทศ พร้อมชม นายชุมพล จุลใส หรือ ส.ส.ลูกหมี และ นายสุพล จุลใส หรือส.ส.ลูกช้าง ว่าจัดเวทีได้ยิ่งใหญ่ ถ้าตนจะจัดเวทีชลบุรี ไม่รู้ว่าจะทำได้ยิ่งใหญ่เท่านี้หรือไม่

นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นกล่าวปราศรัยท่ามกลางเสียงเชียร์ของประชาชน โดยยอมรับว่า กลายเป็นประเพณีที่ตนเองไปขึ้นเวทีปราศรัยในภาคใต้ จะมีคนแก่นำหมากมาให้กิน สร้างเสียงหัวเรา วันนี้ตั้งใจมาขอบคุณประชาชน เคยมาหาเสียงให้ นายชุมพล หรือ ส.ส.ลูกหมี ไปต่อสู้ขับไล่รัฐบาลทักษิณ ที่โกงไปนับหมื่นล้าน และยังออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยให้ตัวเอง เพราะอยากกลับประเทศ แต่คดีมีการตัดสินไปแล้ว 12 ปี ยังมีอีกหลายคดี ยังไม่รวมคดีฆ่าคนไป 2,500 คน ในสมัยปราบปรามยาเสพติด มีแต่ประเทศไทยที่ทำได้ในสมัยนั้น จึงขอขอบคุณประชาชนได้วางมาตรฐานให้คนในชาติ ในการเลือกตั้งว่าคนที่ต่อสู้แบบ ส.ส.ลูกหมี ที่ต่อสู้เพื่อชาติ เพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นคนดี  

ตนมาพูดครั้งนี้ ออกจากพรรคนั้นแล้ว แต่จำชื่อไม่ได้ แต่พรรคนี้มีอุดมการณ์มั่นคง รักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเลือกคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ถูกริดสีดวงตนเอง หรือ ถูกใจ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ นี่โง่จริง ๆ เป็นนายกรัฐมนตรีมา 8 ปี ไม่กินสักบาท พร้อมดูนาฬิกาว่ามีเวลาพูดไม่มาก แต่นาฬิกานี้ภรรยาซื้อให้ ไม่ได้ยืมใครมา 

‘ลุงหนู’ ตอบชัด!! ไม่เคยพบ ‘ทักษิณ’ ครั้งเดินทางไปประชุมที่อังกฤษ

(31 ม.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวลือ เรื่องนายอนุทิน ได้พบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างปฏิบัติภารกิจที่ประเทศอังกฤษ ว่า 

“ไม่เคยเจอนะ ผมไปยุโรปนี่ผมไปกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข ท่านเลขา สปสช. และท่านเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงลอนดอน ท่านเอกอัคราชทูตไทย ท่านน่ารักมาก ผมจะทำ หนังสือไปถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศด้วยซ้ำ ขอบคุณที่ท่านทูตใส่ใจ ไปร่วมประชุมกับผมทุกนัด ถือว่าเป็นสปีริตที่ดีมาก การที่เราไปประชุมพร้อมท่านเอกอัคราชทูตฯ ทำให้ฝ่ายที่หารือด้วยเกิดความมั่นใจ ในฐานะที่เราก็เป็นตัวแทนของประเทศไทย การหารือจึงสัมฤทธิ์ผล”

‘นิพิฏฐ์’ โว พปชร. มีทีมเศรษฐกิจที่ดีที่สุด พร้อมแก้ปัญหาปากท้อง รอ ปชช.เลือกเข้าทำงาน

(31 ม.ค. 66) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ ทีมเศรษฐกิจที่ดีที่สุด มีรายละเอียดดังนี้

ตอนอยู่ ‘พรรคสร้างอนาคตตไทย’ ผมเคยพูดว่า พรรคสร้างอนาคตไทย มีทีมเศรษฐกิจที่ดีที่สุด และตอนนั้นพรรคสร้างอนาคตไทย ได้เริ่มผลิตนโยบายออกมา เช่น ‘ปุ๋ยคนละครึ่ง’ และ นโยบายอื่น ๆ ที่รอการประกาศออกมา ซึ่งน่าสนใจอย่างยิ่ง

ตอนผมย้ายมาอยู่พรรคพลังประชารัฐ อยากนำนโยบายบางเรื่องที่รอประกาศมาใช้ที่พรรคพลังประชารัฐ แต่หากทำอย่างนั้น เท่ากับเราเอาเปรียบพรรคสร้างอนาคตไทย ที่เขาอุตส่าห์คิดนโยบายขึ้นมา ผ่านการวิเคราะห์มาเป็นปี ๆ ผมจึงไม่เสนอนโยบายเหล่านั้นต่อพรรคพลังประชารัฐ

เมื่อ ดร.อุตตม สาวนายน และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และทีมเศรษฐกิจของดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จากพรรคสร้างอนาคตไทยย้ายมาพรรคพลังประชารัฐ ผนวกกับคุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ที่ย้ายมาก่อนแล้ว ผมจึงดีใจ และพูดได้เต็มปากว่า พรรคพลังประชารัฐ มีทีมเศรษฐกิจที่ดีที่สุดกว่าทุกพรรคแล้ว

‘ลุงหนู’ ลั่น หลังเลือกตั้ง ภท. พร้อมทำงานทุกบทบาท เชื่อ!! ส.ว. ไม่ฝืนตั้งรัฐบาลจากเสียง ส.ส.ข้างน้อย

(1 ก.พ. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงเป้าหมายการเมืองของพรรค ในศึกการเลือกตั้ง ระบุว่า 

พรรคทำเต็มที่แน่นอน และหลังเลือกตั้ง เราพร้อมทำงานในทุกบทบาท ขึ้นกับความไว้วางใจของประชาชน ถ้าประชาชนเลือกเข้ามามาก ตนก็พร้อมเป็นนายกฯ ซึ่งบทบาทนายกฯ ของตนคือการประสานทุกฝ่ายช่วยกันทำงาน เรื่องข้าง เรื่องสี ขอให้พอ ประเทศไทยถูกความขัดแย้งเหนี่ยวรั้งมานานเกินไปแล้ว  

เมื่อถามว่า จากนี้พรรคภูมิใจไทย จะเปลี่ยนจากพรรคผู้ถูกเลือก เป็นพรรคที่เป็นผู้เลือกแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า เอาเข้าจริง เราเป็นผู้เลือกอยู่ตลอด ครั้งที่แล้ว ถ้าไม้ได้พรรคภูมิใจไทย จะตั้งรัฐบาลกันได้หรือไม่ ย้อนกลับไปมีการเสนอสิ่งต่าง ๆ มาให้ตนและพรรคมากมาย ตำแหน่งสูงกว่ารัฐมนตรีก็ให้ แต่ถามว่า รับไปแล้ว บ้านเมืองไปต่อได้ไหม ถ้าไม่ได้ ถึงเป็นนายกฯ ก็ไม่มีประโยชน์ คราวที่แล้ว เมื่อเราเลือก อำนาจ คสช.ก็หมดไปทันที แต่ถ้าไม่เลือก ตามรัฐธรรมนูญ คือ รัฐบาลรักษาการอยู่ต่อไปจนถึงการที่ ครม.ใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ แต่สิ่งเหล่านั้น ไม่เกิด เพราะการเลือกของภูมิใจไทย เราทำให้การเมืองเข้าสู่ระบบใหม่ และประเทศไทย ก็ยังไปข้างหน้าได้ด้วย

'ชญาภา' สับ 'ประยุทธ์' ยิ่งอยู่นานทุจริตยิ่งบาน จวกคะแนนดัชนีคอร์รัปชันไทยยังต่ำลงเรื่อยๆ

(1 ก.พ. 66) น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพท.กล่าวกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่ดัชนีการรับรู้การทุจริตประจำปี 2565 (Corruption Perception Index ปี 2022 : CPI) ของประเทศไทยว่า แม้อันดับการรับรู้การทุจริตของไทย จะขยับขึ้นมาจากอันดับที่ 110 ในปี 2564 จาก 180 ประเทศ ได้คะแนน 36 คะแนน ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากปีที่แล้วเพียง 1 คะแนนเท่านั้น แทบไม่มีนัยสำคัญ หากดูตัวเลขในปี 2557 ไทยได้คะแนนอยู่ที่ 38 คะแนน อยู่ลำดับที่ 85 ซึ่งมากกว่าและดีกว่า แสดงให้เห็นว่าหลังยึดอำนาจ 8 ปีผ่านไปไม่มีอะไรดีขึ้น คะแนนและลำดับลดลงตกต่ำลงเรื่อยๆ หากเป็นการสอบของนักเรียน ถือว่าปีนี้ยังคงสอบตกจากคะแนนเต็มร้อยอยู่ 

ทั้งนี้ คาดว่าการจัดลำดับนี้น่าจะยังไม่รวมกับปัญหาทุนจีนสีเทา ตู้ห่าว การคอร์รัปชันของตำรวจที่เป็นข่าวรายวัน หรือข้อกล่าวหาการส่งส่วยในกรมอุทยาน ซึ่งอาจจะไม่สะท้อนลำดับที่แท้จริงตามสถานการณ์ในปัจจุบันหรือไม่ การคอร์รัปชันยังมีมากกว่าที่เห็นใน CPI ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญและรุนแรงเกาะกินประเทศไทยอยู่

‘เพื่อไทย’ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครฯ เพิ่ม 61 คน แง้ม!! ต้นเดือน มี.ค. จัดปราศรัยใหญ่ ที่โคราช

‘เพื่อไทย’ เปิดอีก 61 ผู้ประสงค์รับสมัครเลือกตั้ง มี ลูกชาย-หลาน พร้อมทีมงาน ‘กำนันป้อ’ ‘โฮม ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช’ โผล่ร่วมงานด้วย จ่อลงพื้นที่ปราศรัยใหญ่โคราช ต้นมี.ค.

(2 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา ประธาน ส.ส.พรรคพท. นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พร้อมด้วยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ร่วมแถลงเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางและภาคใต้รวม 61 คน

โดยนพ.ชลน่าน กล่าวว่า การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคเพื่อไทย วันนี้เป็นกลยุทธ์หนึ่งในสามกลยุทธ์หลักของพรรคเพื่อไทย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ 

1.) แคนดิเดตนายกฯ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่นำพาการบริหารการเลือกตั้งหรือบริหารแผ่นดิน ย้ำว่าพร้อมประกาศทั้ง 3 รายชื่อ โดยจะประกาศในระยะเวลาอันใกล้ 

2.) กลยุทธ์นโยบายที่เป็นนโยบายจับต้องได้ ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้แต่ทำสำเร็จมาแล้ว 

และ 3.) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย ที่เราจะประกาศรายชื่อทั้ง 61 คน มั่นใจว่าผู้สมัครทุกคนมีศักยภาพและความพร้อม

ด้านนายประเสริฐ กล่าวว่า วันนี้ พรรคเพื่อไทยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส. 61 คน ซึ่งล้วนเป็นอดีตส.ส.ที่ย้ายมาจากพรรคการเมืองอื่น หลายคนเป็นนักการเมืองท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกบริหารสภาท้องถิ่น และเป็นตัวแทนที่อยู่ในเขตเลือกตั้งของพี่น้องประชาชนมาตลอด

เมื่อถามว่า การได้บ้านใหญ่ของนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มาจะช่วยเสริมทัพให้พื้นที่จ.นครราชสีมาได้มากแค่ไหน และจะมาช่วยงานพรรคเพื่อไทยด้วยหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เท่าที่พูดคุยนายวีระศักดิ์มีปัญหาด้านสุขภาพ ขอพักรักษาตัวแต่ก็ได้ส่งบุตรชาย หลาน และทีมงานเข้ามาเพิ่มศักยภาพพรรคเพื่อไทย ซึ่งจ.นครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ เรามีความพร้อมอย่างเต็มที่

เมื่อถามถึง กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีกำหนดการลงพื้นที่หาเสียงในจ.นครราชสีมา จะส่งผลกระทบกับพรรคเพื่อไทยในพื้นที่นี้หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่เดิมทีเราวางโปรแกรมปราศรัยในพื้นที่จ.นครราชสีมาไว้แล้ว ตั้งใจว่าต้นเดือนมีนาคมหลังจากเปิดตัวผู้สมัครแล้ว และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แบ่งเขตครบ เราจะทำการปราศรัยใหญ่ที่จ.นครราชสีมา

ด้านนพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า ตนมองว่ายิ่งเป็นการหาเสียงให้พรรค พท.เป็นอย่างดียิ่ง มั่นใจว่าประชาชนจะเกิดการเปรียบเทียบและเห็นในสิ่งที่มีความชัดเจนในการทำงาน ทำหน้าที่ และอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ไปหาเสียงทุกจังหวัด เพราะพรรคเพื่อไทยจะได้หาเสียงได้ง่ายขึ้น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top