Sunday, 5 May 2024
การเมือง

‘ลุงหนู’ ยินดี ‘ลุงตู่’ ขึ้นแท่นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 รทสช. บอก มีกำลังใจให้เสมอ ส่วนการเมืองต้องแข่งขันกัน

(2 ก.พ.66) ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวพรรครวมไทยสร้างชาติเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 1 ว่า ก็ต้องแสดงความยินดีกับท่าน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยให้กำลังใจทุกพรรคการเมือง และทุกฝ่ายเสมอ เพราะทุกพรรคการเมืองมีความตั้งใจที่จะรับใช้ประเทศชาติ และประชาชน 

'นิพนธ์' เชื่อมั่น ได้ สส.ใต้ 35-40 ที่เหลือ 18 ที่นั่ง แบ่งปันให้พรรคอื่น คาดหวัง จชต.ได้ไม่ต่ำกว่า 5 ที่นั่ง หมัดเด็ดคือ 'ยุทธศาสตร์ 3 สร้าง' ที่โดนใจ ประชาชน

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการ เลียงตั้ง ที่จะมาถึงในปี 2566 ว่า หลังจากที่ได้จัดทัพผู้สมัครได้ครบทั้ง 58 เขต และผู้สมัครได้ลงพื้นที่เพื่อการขับเคลื่อนนโยบายในการหาเสียง ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาธิปัตย์ คืนฟอร์ม ในการเป็นพรรคการเมืองของคนใต้ ทำให้ มั่นใจยิ่งขึ้นว่า ที่ ประชาธิปัตย์ ตั้งเป้าได้ สส. 35-40 ที่นั่ง เป็นความจริงแน่นอน ตัวเลข 35-40 ที่นั่ง เป็นเรื่อง ปกติ ที่ ประชาธิปัตย์ ตั้งเป้าไว้ เพราะในอดีตในปี 2548 ประชาธิปัตย์เคยได้ สส. 52 ที่นั่ง จากจำนวนทั้งหมด 54 ที่นั่ง และในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มี สส. จำนวน 12 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ เคยได้ สส.ถึง 11 ที่นั่ง ครั้งนี้ในพื้นที่ของ ปัตตานี,ยะลา,นราธิวาส จากการวางตัวผู้สมัคร และการกลับมาให้การสนับสนุนของคนในพื้นที่ ซึ่งเป็นกระแสที่ดีมาก รวมทั่งการเสนอนโยบายเฉพาะ พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประชาธิปัตย์ในการแก้ปัญหาความไม่สงบด้วยการ”สร้างสันติภาพ สู่ สันติสุข ซึ่งหลังจากมีการนำเสนอ ได้มีภาคประชาสังคม และภาคประชาชน เห็นด้วยและร่วมเสนอรายละเอียดเพื่อให้พรรคพิจารณา ทำให้เราเชื่อมั่นว่า จะได้ สส.4-6 ที่นั่ง  เลือกตั้งครั้งนี้ ประชาธิปัตย์ มีความมากที่สุด โดยในวันที่ 11-12 กพ.นี้ จะมีการ สัมมนา ผู้สมัคร และ ผอ.เขตเลือกตั้งของพรรคในภาคใต้ ก่อนที่จะทำในภาคอื่นๆต่อไป

'คริส' ยอมรับ!! ก้าวไกลมักจุดประเด็นดีๆ ให้สังคม แต่ถ้าอยากให้พรรคเข้มแข็ง ต้องทําให้เหมือนที่พูดด้วย

หลังจาก ‘คริส โปตระนันทน์’ ประกาศลาขาดกับพรรค ‘ก้าวไกล’ แล้ว เรื่องดรามาต่าง ๆ ก็ตามมามากมายเลยทีเดียว คนในพรรคก้าวไกลก็ออกมาให้ข่าวกันตามสไตล์ของตัวเอง บ้างก็บอกว่าเสียดายคนแบบคริส แต่บางคนกลับบอกว่า ไม่เคยคิดเสียดายคนไม่มีสปิริต 

ล่าสุด ‘คริส โปตระนันทน์’ ได้ไปให้สัมภาษณ์ที่ช่อง Voice TV ในรายการ Talking THAILAND โดยบางช่วงบางตอนในการสัมภาษณ์คริสได้พูดถึงข้อดีที่มีพรรคก้าวไกล ความควาดหวังต่อพรรค และเรื่องนโยบายของพรรค โดยระบุว่า…

“ผมพูดด้วยความสัตย์จริง ผมอยากให้พรรคก้าวไกลดีกว่านี้ แล้วการมีอยู่ของพรรคก้าวไกล มีคุณูปการกับสังคมหลายหลายเรื่อง สร้างให้เกิดการถกเถียงกันในประเด็นหลากหลายที่พรรคการเมืองอาจจะไม่เคยมาคุยเรื่องพวกนี้เลย เมื่อสมัยก่อน ผมสอนกฎหมายป้องกันการผูกขาด ไม่มีใครมานั่งคุยเรื่องการผูกขาดกันนะในประเทศไทย ไม่มีใครเคยสนใจลงวิชานี้เลย พรรคก้าวไกลทําให้ประเด็นเรื่องการผูกขาด มันกลับขึ้นมาเป็นประเด็นฮอตฮิตในสังคม ทําให้ประเด็นเรื่อง LGBT กลับมาคุยกันว่ามันเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ทําให้ประเด็นที่ต้องมาคุยกันเรื่องรัฐสวัสดิการ มันน่าคุย ปรากฏว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกลแสดงออกเป็นสิ่งที่ดี แต่วันนี้ผมจะบอกว่าถ้าเราจะทําพรรคให้มันเข้มแข็ง มันต้องมาดูโครงสร้างภายในด้วย ทําให้มันเหมือนกับที่เราพูด แค่นั้นเอง”

ส่วนในเรื่องของนโยบาย คริส ได้กล่าวไว้ว่า “มันมีปัญหามากด้วย เพราะว่าในสายตาผมนะ นโยบายที่ออกมาจากพรรคการเมืองที่จะทําให้ประชาชน ถ้าไม่ใช่นโยบายห้องแอร์ มันควรจะมาจากผู้สมัคร หรือว่านักการเมืองท้องถิ่น ลงพื้นที่คลุกคลีกับประชาชน แล้วได้รับปัญหารับฟังมา ให้รู้สึกด้วยนะ ว่ามันมีปัญหา เอากลับไปบอกที่พรรค ไปบอกนักนโยบายนี่แหละ ไปบอกนักรบห้องแอร์นี่แหละ ให้เขาคิดแผนคิดอะไรออกมา แล้วเมื่อได้นโยบายนั้น ต้องส่งกลับมาที่ท้องถิ่น ก็อย่างน้อยก็ส่งกลับมาที่เขตให้เอาไปคุยกับประชาชนว่า มันใช่หรือไม่ใช่. มีบวกหรือมีลบ แล้วสะท้อน feedback กลับไป แล้วเมื่อสะท้อน feedback กลับไป พรรคก็เอา feedback นั้น ไปร่างเป็นนโยบายชุดสุดท้าย แล้วก่อนที่จะเอามาหาเสียงเลือกตั้ง มันก็ควรจะผ่านคณะกรรมการนโยบาย ที่ได้รับการเลือกจากที่ประชุมใหญ่ในพรรค”

นายกแจ๊สโชว์ผลงาน 2 ปี พลิกโฉมปทุมธานี สู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะมั่นคงปลอดภัย

(15 ก.พ. 66) ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี แถลงผลการดำเนินงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี โดยมี นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น แพทย์ประจำตำบล และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีร่วมรับฟังและซักถามข้อสงสัยในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาสังคม การศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ด้านสาธารณสุขและการกีฬา ด้านการเมือง 

ด้าน พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ในการจัดระบบบริการสาธารณะ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเอง การเดินหน้าพัฒนาปทุมธานี เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีกว่า ภายใต้วิสัยทัศน์ “พลิกโฉมปทุมธานี สู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะที่มั่นคงและปลอดภัย ก้าวไกลเศรษฐกิจ บนวีถีชีวิตใหม่ดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมไทย” องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ยังเดินหน้าไม่หยุด พร้อมขับเคลื่อน นโยบาย ให้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม ทั้ง 6 ด้านได้แก่ 

1.) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค สาธารณูปการ จัดให้มีระบบการคมนาคม การขนส่งที่เชื่อมต่อ ระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภายในเขตจังหวัดปทุมธานี โดยการก่อสร้างปรับปรุงถนน สะพาน ตามมาตรฐานทางหลวงชนบท บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในการแก้ไข ปัญหาการจราจร ที่ติดขัดอย่างเป็นระบบบูรณาการร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการวางและจัดทำผังเมืองรวม จัดให้มีระบบไฟฟ้าสาธารณะอย่างทั่วถึง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การเกษตรกรรม และอุตสาหกรรม อย่างเพียงพอและทั่วถึงเพื่อป้องกัน และแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และปัญหาน้ำขาดแคลน สนับสนุนเครื่องมือ เครื่องจักรกล และบุคลากร เช่น รถดูดโคลนเลน ในการขุดลอกท่อระบายน้ำ และคูคลอง ตลอดจนได้ให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในช่วงสถานการณ์น้ำท่วมด้วยการมอบ โฟมลอยน้ำ ถุงยังชีพ และทรายถม เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้นำไปใช้ประโยชน์ และบรรเทาความเดือดร้อน

2.) พัฒนาสังคม การศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้ทำการส่งเสริม และพัฒนา คุณภาพชีวิต ของเด็กสตรีคนชรา ผู้พิการ และ ผู้ด้อยโอกาส การสังคมสงเคราะห์ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดปทุมธานี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จัดการศึกษา เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษา อย่างทั่วถึง บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหา ยาเสพติดในจังหวัดปทุมธานีอย่างเป็นระบบ ส่งเสริมและทำนุบำรุง ศาสนา ให้เจริญรุ่งเรือง เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพี่น้องประชาชน ชาวจังหวัดปทุมธานี ให้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข อนุรักษ์ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งเสริมสถาบันครอบครัว ให้มีความอบอุ่น และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกัน และบรรเทา สาธารณภัยที่เกิดขึ้นในจังหวัดปทุมธานี บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดระเบียบสุนัขและแมวจรจัดให้มีที่อยู่และมีการดูแลอย่างเหมาะสม

3.) นโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปลูกฝังจิตสำนึกของประชาชนและเยาวชนในจังหวัดปทุมธานีในการร่วมกันอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด พัฒนาแม่น้ำลำคลองให้สะอาดปราศจากน้ำเน่าเสีย ภายใต้โครงการ “คลองสวยน้ำใส  วิถีไทยต้องกลับมา” 

‘สาธิต’ ชัดเจน!! ยังอยู่ ‘ประชาธิปัตย์’ เช่นเดิม พร้อมเปิดตัว ‘ทีมสาธิต’ ทำงานเพื่อ 8 จว.ตะวันออก

เมื่อวานนี้ (20 ก.พ.66) ที่หาดแหลมเจริญ จ.ระยอง นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำทีมเปิดโยบายส่งเสริมศักยภาพจังหวัดภาคตะวันออก ภายใต้แนวคิด ‘คิดนำ ทำจริง’ ที่สอดคล้องกับการเป็นส่วนหนึ่งของ EEC พร้อมเปิดตัว ‘ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคตะวันออก’ พรรคประชาธิปัตย์ ในนาม ‘ทีมสาธิต’

โดยนายสาธิต ขึ้นเวทีเปิดใจการเมืองท่ามกลางการจับตาไปที่ทิศทางการเมือง ว่า 20 ก.พ.เป็นวันที่เรานัดหมายกันผมทราบดีว่าคอการเมืองทั้งประเทศ กำลังติดตามว่าการตัดสินใจทางการเมืองของผมวันนนี้ซึ่งถือว่าเป็นวันสำคัญอย่างที่สุด 

ผมเรียนกับทุกท่านว่าสถานการณ์การเมืองปัจจุบันไม่ว่าผมจะอยู่พรรคการเมืองไหนมีคำถามมากมายทำไมต้องเป็น 20 ก.พ.จะย้ายพรรคหรือไม่ ถ้าย้ายไปอยู่พรรคอะไร มีสื่อสารมวลชนได้พยายามสื่อสารไปสร้างความสับสนให้กับคนทั้งประเทศรวมทั้งคน จ.ระยอง เป็นอย่างมาก บางสื่อบอกว่านายกช้าง (ปิยะ ปิตุเตชะ) ย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย บางสื่อบอกว่าแบ่ง 2 คนลงอีกพรรคหนึ่ง แล้วอีก 3 คนจะลงอีกพรรคการเมืองหนึ่ง

“ผมไปที่ไหน บอกใครว่าไม่ย้ายพรรค คนเขาไม่เชื่อ เพราะเขาได้ซึมซับข้อมูลผ่านสื่อสารมวลชนที่เข้าเชื่อเกิดความลังเลขึ้นในสังคมเป็นจำนวนมากนี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องบอกกับพี่น้องคนไทยทั้งประเทศว่าผมจะต้องมีความชัดเจน และความชัดเจนนี้ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานความลังเลใด ๆ ทั้งสิ้น แต่อยู่บนพื้นฐานของการตัดสินใจบนข้อมูลอย่างครบถ้วนรอบด้านมีความจำเป็นอย่างที่สุดที่เราจะพยายามให้พี่น้องทั้งในพื้นที่จ.ระยองและพื้นที่ต่าง ๆ ได้เข้าใจสถานการณ์” นายสาธิต กล่าว

- ผนึก ‘ทีมสาธิต’ สู้เพื่อ 8 จังหวัดตะวันออก

นายสาธิต ยังกล่าวอีกว่า ผมทราบว่าทุกคนรอคอยคำตอบว่าผมจะตัดสินใจทางการเมืองครั้งสำคัญนี้อย่างไร ขอย้ำว่าการตัดสินใจของครั้งนี้อยู่บนพื้นฐานของเพื่อนร่วมทีม อยู่บนพื้นฐานของคนส่วนใหญ่ในจ.ระยอง คน จ.ระยอง ให้โอกาสผมมา 20 ปีเต็ม ผมไม่ตัดสินใจภายใต้ความคิดผม วันนี้จะมีความชัดเจนที่สุดและเราจะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ผมย้ำว่าผมร่วมตัดสินใจกับ ‘ทีมสาธิต’

“ผมอยู่ไหนไม่สำคัญเท่าทีมสาธิตจะทำอะไรให้กับคนภาคตะวันออก ทีมสาธิตจะทำอะไรให้กับคนประเทศนี้ และทีมสาธิตจะต้องทำอะไรให้กับ 8 จังหวัด โดยเฉพาะคนระยองที่ไว้วางใจผมมาตลอดระยะเวลา 20 ปี” นายสาธิตกล่าว

นายสาธิต ยังกล่าวว่า มีคำถามว่าทำไมตะวันออกต้องพิเศษ? ขอย้ำว่าไม่ได้หมายความว่าภาคอื่นไม่สำคัญ ทุกภาคมีความสำคัญ แต่ภาคตะวันออกสำคัญที่สุดมันจึงต้องพิเศษกว่าที่อื่น ถ้าเปรียบประเทศไทยเป็นบ้านหลังหนึ่งพื้นที่ตะวันออกเปรียบเสมือนห้องครัวของบ้านหลังนั้น 

คนภาคตะวันออก 8 จังหวัดมีอัตราการเสียชีวิตจากการเป็นมะเร็งสูงขึ้น ขณะที่การลงทุนของบีโอไปในพื้นที่ EEC 3.8 แสนล้านบาท มีภาษีที่เก็บไปเลี้ยงคนทั้งประเทศจุด 5 ของจีดีพีของประเทศ แต่คนที่นี่กลับได้รับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการพัฒนา การถมทะเล การทำท่าเรือแต่เราไม่สามารถปฏิเสธการพัฒนาได้  

ฉะนั้นประชาชนที่อาศัยใน 8 จังหวัดจะต้องได้รับการดูแลดีกว่าที่อื่นให้สมกับที่แบกรับผลกระทบ เหล่านี้คือสิ่งที่ทีมสาธิตจะร่วมกันเรียกร้องถ้าเป็นรัฐบาลต้องทำให้ได้ที่สำคัญจะต้องทำให้ภาคการลงทุนมาช่วยประชาชน เกษตรกร และผู้ที่ไม่มีงานทำ

วันนี้ข้อเสนอต่าง ๆ ยังไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควรทั้งปัญหาช้าง ปัญหาผลไม้ รวมถึงคุณภาพชีวิตแต่ต้องทำให้ได้ภายใต้ ‘ทีมสาธิต’

>> ชูธง ‘ระยอง’ เป็นจังหวัดจัดการตนเองเป็นแห่งแรก ดัน ‘เลือกตั้งผู้ว่าฯ’

นายสาธิต กล่าวว่า “ถ้าผมได้กลับไปเป็นรัฐบาลภายใต้ทีมสาธิต สิ่งที่จะต้องทำคือเก็บภาษีส่วนกลางกลับมาที่บ้านเราให้มากกว่านี้ นั่นคือจังหวัดจัดการตัวเอง ‘ทีมสาธิต’ ต้องทำและอาจนำไปสู่การเลือกตั้งผู้ว่าฯ ผ่านประชาชนจังหวัดแรก จังหวัดที่ 2 และจังหวัดที่ 3 ต้องเกิดขึ้นให้ได้ภายในพื้นที่ 8 จังหวัด” 

นายสาธิต ยังกล่าวต่อว่า ผมยืนยันว่าคนที่ยืนอยู่กับผมวันนี้ไม่มีสีเทา ยืนยันว่าเราจะเดินหน้าภายใต้ทีมสาธิตเพื่อแก้ไขปัญหาคนภาคตะวันออก โดยชี้แจงให้คนทั้งประเทศเห็นว่าไม่ได้เลือกปฏิบัติ 

“สถานการณ์การเมืองวันนี้ผมมีความกดดันสูงมากมันเป็นรอยต่อของการตัดสินใจอย่างแน่วแน่ทางการเมืองหลายปีที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่ผ่านมาพรรคการเมืองอ่อนแอทุกพรรค การเมืองอ่อนแอหมด ผมไม่แน่ใจว่ามีความตั้งใจหรือมันเกิดโดยธรรชาติ แต่ผมย้ำกับทุกท่านว่า ในฐานะที่ท่านไว้ใจผม ท่านทราบดี หลายคนที่มานั่งฟังรู้จักผมดี การเมืองสุจริตของผมย้ำกับทุกท่านว่านักการเมืองที่ชื่อสาธิตได้รับการเลือกตั้งจากพี่น้องคนระยองโดยไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงแม้แต่บาทเดียว” นายสาธิต กล่าว

ส่อง ‘13 พรรคการเมือง’ ที่ส่งผู้สมัคร ส.ส. มากกว่า 40 จังหวัด

ข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 22 ก.พ.66 ระบุว่า พรรคกการเมืองที่ส่งผู้สมัคร ส.ส. มากกว่า 40 จังหวัด มีด้วยกันทั้งหมด 13 พรรค ได้แก่ พรรครวมไทยสร้างชาติ 77 จังหวัด, พรรคก้าวไกล 76 จังหวัด, พรรคประชาธิปัตย์ 75 จังหวัด, พรรคภูมิใจไทย 75 จังหวัด, พรรคเพื่อไทย 75 จังหวัด, พรรคเสรีรวมไทย 68 จังหวัด, พรรคคลองไทย 59 จังหวัด, พรรคเศรษฐกิจไทย 56 จังหวัด, พรรคไทยสร้างไทย 47 จังหวัด, พรรคโอกาสไทย 45 จังหวัด, พรรคพลังประชารัฐ 44 จังหวัด, พรรคไทยภักดี 42 จังหวัด และพรรคยุทธศาสตร์ชาติ 42 จังหวัด

มองพรรคการเมืองไทย ผ่านเลนส์ ‘ดร.ธีรภัทร์’ หมั่นรับฟัง ปชช. มุ่งทิ้งปมขัดแย้งในพรรค

แม้หมอกควันความขัดแย้งระหว่าง นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะจางลงพร้อมกับหน้าฉากที่หลายคนมองว่า ‘จบสวย’ แต่นั่นก็กำลังสะท้อนภาพความเป็นจริงของเบื้องหลังพรรคการเมือง ที่หากคิดต่างอย่างไม่ลดละ อคติแบบไม่ยอมความ ก็อาจจะนำมาสู่ความเสียหายต่อภาพรวมของพรรคนั้นๆ ทั้งๆ ที่ในโลกแห่งการเมือง ความร้านฉานชั่วขณะ มักมิใช่สิ่งแปลกใหม่อันใด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ‘ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์’ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นักวิชาการประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้มองปมประเด็นดังกล่าวพร้อมแนะนำการปฏิบัติตัวของบรรดาพรรคการเมืองในห้วงเวลานี้กับ THE STATES TIMES ไว้อย่างน่าสนใจว่า... 

ในเรื่องความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะในองค์กรหรือสถาบันใด ย่อมต้องมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้เสมอ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของพรรคการเมือง ที่มักมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ก็มีสิ่งที่หลายคนอาจจะวิตกก็คือ เรื่องของความเห็นที่แตกต่างกันบางครั้ง มันควรจะเป็นเรื่องที่พูดคุยกันในพรรค ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะชน 

กรณีของคุณ ‘พิธา-ปิยบุตร’ สะท้อนให้เห็นว่า พรรคการเมืองควรจะต้องมีกระบวนการในการรับฟังความคิดเห็นกันมากขึ้น แน่นอนว่าเรื่องนี้ยังดีที่พรรคก้าวไกลนั้นมีผู้นำอย่าง คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งถือว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค ที่แม้ว่าจะไม่มีสิทธิ์ในการลงสมัครต่างๆ ก็ตาม แต่ตนคิดว่าความคิดเห็นของบุคคลเหล่านี้ ก็เป็นหัวใจสำคัญที่จะผสานความเข้าใจและนำพาพรรคให้เดินหน้าต่อไปได้ 

‘โบว์ ณัฏฐา’ โพสต์ฉะ ลูกเล่นการเมืองสกปรกขึ้นเรื่อยๆ เตือน!! ทุกคนตั้งสติ รู้ทันการเมือง อย่าอินเกินพอดี

(4 มี.ค. 66) คุณโบว์-ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมอิสระ และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองของไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า…

การเมืองก่อนเลือกตั้งคงสกปรกขึ้นเรื่อย ๆ ในวันที่ยังคุยกันรู้เรื่อง ก็อยากบอกทุกคนให้รักษาสติกับความเมตตาต่อกันไว้ และ 'อย่าอินเกิน'

อย่าลืมว่าดูการเมืองจากวงนอกก็เหมือนนั่งดูมวยปล้ำจากที่ไกล ๆ คุณไม่มีทางเห็นลูกเล่นจากการแสดงจริง ๆ

เรามีประสบการณ์จากการเห็นคนมีปัญหาทางจิตถึงขั้นเพี้ยนไปเพราะอินกับการเมืองมากไป บางคนที่มีปัญหาสุขภาพจิตซ่อนอยู่แล้ว สิ่งเหล่านี้สามารถกระตุ้นจนเขาอาการหนักขึ้นได้ ต้องรับการรักษา

ขอแข่งกันทำความดี ‘ลุงหนู’ ไม่สนดรามา ‘ภท.-พท.’ ก๊อบปี้นโยบาย พร้อมอวยพร ‘อุ๊งค์’ คลอดลูกปลอดภัย-แข็งแรง

จากกรณีการตอบโต้กันระหว่างพรรคการเมืองในช่วงที่ผ่านมา โดยสมาชิกพรรคภูมิใจไทยได้ออกตัวว่ามีพรรคการเมืองใหญ่ ลักไก่ก๊อบปี้นโยบายพักหนี้ ซึ่งต่อมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ตอบกลับพรรคภูมิใจไทย ที่กล่าวหาว่า พรรคเพื่อไทยลอกนโยบายหาเสียง ว่า ไม่สามารถก๊อบปี้นโยบายที่ริเริ่มได้ และให้ผู้กล่าวหาไปหาข้อมูลเพิ่มเติม

ล่าสุด (9 มี.ค.66) ที่ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า ยังไม่ได้ข่าว และขอหาข้อมูลก่อน แต่เรื่องนี้ใครจะก๊อบปี้ใคร ถ้าประชาชนได้ประโยชน์ก็ไม่เป็นไร ขอแข่งทำความดีดีกว่า และหากประชาชนได้ประโยชน์ก็ควรสนับสนุนกัน แทนที่จะมาแย่งกันว่าเป็นผลงานของใคร

เมื่อถามถึงกรณี น.ส.แพทองธาร หรืออุ๊งอิ๊ง ใกล้จะคลอดในช่วงวันเลือกตั้ง นายอนุทินกล่าวว่า ตนขออวยพรให้สุขภาพแข็งแรง คลอดง่าย ๆ เดินทางปลอดภัย ส่วนการเลือกตั้งต่างก็เป็นไปตามบริบทของแต่ละพรรค

ถามถึงแผนการหาเสียง นายอนุทินกล่าวว่า ตอนนี้มีการปราศรัยย่อยทั่วประเทศทุกวันอยู่แล้ว ตนเองก็หมดเวลาราชการ ก็ลงพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นส่วนใหญ่ ก็จะมีการจัดปราศรัยย่อยในพื้นที่ต่าง ๆ ในชุมชนในเขตเลือกตั้ง

คลิปภาพมัดตัว ‘นันทิวัฒน์’ เผย หลายพรรคเสี่ยงโดนยุบพรรค ชี้!! นักการเมืองมักคิดว่าทำอะไรก็ได้ ไม่ผิด

(13 มี.ค.66) นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สุ่มเสี่ยงผิดกฏหมาย

คนที่เรียกตัวเองว่าเป็นนักการเมืองมีความเก่งในการทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงผิดกฏหมาย หรือจะพูดว่า ไม่กลัวการทำผิดกฏหมาย ชอบเดินไต่ลวด ชอบเลี่ยงกฏหมาย หรือพูดง่าย ๆ ว่า ชอบโกง จับไม่ได้ ไล่ไม่ทันก็รอด นักการเมืองพวกนี้มักมีความเชื่อว่า เป็นนักการเมืองจะทำอะไรก็ได้ไม่ผิด แต่ถึงจะผิด สักวันจะสามารถออกกฏหมายยกเว้นความผิดที่ตัวเองก่อไว้ได้

มันเกิดอะไรขึ้น โมฆะบุรุษ คนที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยตัดสิทธิทางการเมืองจะไม่สามารถเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้ แต่คนเหล่านี้กลับเข้ามาแสดงบทบาททางการเมืองแบบเย้ยกฎหมาย บางคนบางพรรคตั้งให้มีตำแหน่งบนเวทีหาเสียง กระโดดขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงทางการเมือง ชี้นำ โฆษณานโยบายพรรคในการหาเสียงเลือกตั้ง มีบทบาทมากกว่าคนอื่น ๆ

พรรคการเมืองหลายพรรคกำลังสุ่มเสี่ยงใช้คนนอกพรรคชี้นำ ครอบงำพรรค บางพรรคเข้าใจเอาเองว่า คนเหล่านั้นสามารถเป็นผู้ช่วยหาเสี่ยงได้ อันเป็นความเข้าใจผิด

ปัจจุบัน ยังไม่ยุบสภา ยังไม่เปิดรับสมัคร ยังไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้น จึงยังไม่มีผู้ช่วยหาเสียงแน่นอน ไก่จะเกิดก่อนไข่ไม่ได้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top