เปิดนโยบาย 4 พรรคการเมืองใหญ่ ชูนโยบายแก้ปัญหาปากท้อง ปชช.

เชื่อว่าช่วงนี้ทุกท่านคงจะเห็นพรรคการเมืองเริ่มรุกกำหนดนโยบายหาเสียงกันแล้ว มีตั้งแต่นโยบายเล็ก ๆ ไปจนถึงนโยบายใหญ่ ๆ ซึ่งวันนี้ทีมข่าว THE STATES TIMES จะพาทุกท่านไปดูว่า พรรคการเมืองพรรคไหนบ้างที่มีนโยบายสนับสนุนปากท้องประชาชน

ขอเริ่มต้นที่ ‘พรรคพลังประชารัฐ’ ได้กำหนดนโยบายออกมาคือ ‘เศรษฐกิจประชารัฐ’ คือการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ย้ายแรงงานภาคการเกษตรไปยังภาคอุตสาหกรรม-ภาคของเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมมากขึ้น แล้วก็ส่งเสริมเรื่องเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมในเรื่องของการที่จะให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผ่านกองทุนต่าง ๆ หรือรูปแบบอื่นใดก็ตาม 

ต่อมา ‘พรรคเพื่อไทย’ พรรคนี้ได้ประกาศแคมเปญรณรงค์การเลือกตั้งครั้งนี้ว่า ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ ซึ่งทางพรรคก็เคลมว่าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลในปี 2570 ซึ่งมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจปากท้องประชาชน คือ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส ปี 2570 พรรคเพื่อไทยจะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศเติบโตอย่างต่ำเฉลี่ยร้อยละ 5% ต่อปี ช่องว่างความเหลื่อมล้ำจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะพรรคเพื่อไทยจะใช้แนวคิด ‘รดน้ำที่ราก’ เพื่อให้ต้นไม้งอกงามได้ทั้งต้น ทั้งที่น้ำมีจำกัด

พรรคถัดมาคือ ‘พรรคประชาธิปัตย์’ พรรคนี้ได้กำหนดยุทธศาสตร์ของพรรคไว้คือ ‘สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ’ ซึ่งมีนโยบายเสริมปากท้องประชาชนคือ 

1. การประกันรายได้ ซึ่งก็คือการประกันรายได้จ่ายเงินส่วนต่าง ข้าว มัน ยาง ปาล์ม และข้าวโพด โดยรายละเอียดของการต่อยอดโครงการประกันรายได้นั้นจะเน้นในส่วนของเงินส่วนต่างให้กับพี่น้องเกษตรกร

2. ให้เงินอุดหนุนกลุ่มประมง ซึ่งในไทยมีกลุ่มประมงกระจายอยู่ทั่วประเทศ 2,800 กว่าแห่ง กลุ่มประมงเหล่านี้คือกลุ่มประมงที่เป็นฐานรากของประเทศ ดังนั้นนโยบายที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องการสร้างความเข้มแข็งในฐานราก ก็คือการให้เงินอุดหนุนกลุ่มเกษตรกรประมง กลุ่มละ 100,000 บาทต่อปีทุกกลุ่ม ทั้ง 2,800 กว่ากลุ่ม 

ต่อมา ‘พรรคภูมิใจไทย’ ซึ่งพรรคนี้ได้กำหนดนโยบายออกมา 2 นโยบายที่สนับสนุนปากท้องท้องประชาชน ได้แก่

นโยบายที่ 1 พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกคนละไม่เกิน 1 ล้านบาท 

คือไม่ต้องจ่ายหนี้ทั้งเงินต้น และ ดอกเบี้ย เป็นเวลา 3 ปี และดอกเบี้ยจะไม่มาทบต้น ทบดอก เหมือนโครงการพักหนี้เกษตรกร และ พักหนี้อื่น ๆ ที่เคยมีมา พรรคภูมิใจไทยเผยว่านโยบายนี้ทำได้จริง ด้วยการออกพันธบัตรรัฐบาล ชื่อ พันธบัตร Thai Power หรือ พันธบัตรคนไทยรวมพลัง จำหน่ายให้กับประชาชนผู้มีเงินฝากดอกเบี้ย ร้อยละ 2.5-3 แล้วนำเงินที่ได้จากการขายพันธบัตร มาแก้ปัญหาหนี้สินให้ประชาชนที่เป็นหนี้ เมื่อครบเวลาพักหนี้ 3 ปี ประชาชน จะมีความสามารถชำระหนี้ได้เพิ่มขึ้น เจ้าหนี้จะได้รับชำระหนี้มากขึ้น ทำให้ลดปัญหาหนี้สินให้ประชาชน ลดปัญหาหนี้เสียให้ธนาคาร สถาบันการเงิน สหกรณ์ และกองทุนต่าง ๆ ที่เป็นเจ้าหนี้

นโยบายที่ 2 เกษตรร่ำรวย

คือการทำให้เกษตรร่ำรวย ด้วย Contract Farming จะนำมาใช้กับ 4 ชนิด ที่มีการกำหนดราคารับซื้อล่วงหน้า ในตลาดโลก ได้แก่ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง และ ปาล์มน้ำมัน และจะขยายไปสู่พืช หรือ ผลผลิตการเกษตรชนิดอื่น ๆ ต่อไป เช่น ข้าวโพด มะพร้าว ลำไย ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจ ของประเทศไทย

ซึ่งหากพรรคภูมิใจไทย ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนให้ไปจัดตั้งรัฐบาล จะทำทันที ปัจจุบันนี้เกษตรกรที่ทำเกษตรแบบ Contract farming กับภาคเอกชน สามารถขายผลผลิตได้ราคาที่มีกำไร เพื่อให้เกษตรกรทุกรายมีโอกาสเข้าสู่ระบบนี้ เพื่อแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร และมีกำไร อย่างยั่งยืน พรรคภูมิใจไทย จึงมีนโยบายให้รัฐบาล เข้ามาสนับสนุน และจัดทำนโยบาย เกษตรร่ำรวย ด้วย Contract Farming เพื่อให้เกษตรกรทุกราย มีสัญญาซื้อขายผลผลิตล่วงหน้าเป็นหลักประกัน

นี่เป็นนโยบายของพรรคการเมืองใหญ่ ๆ ที่ได้ออกนโยบายมา สุดท้ายแล้วนโยบายต่าง ๆ จะได้ทำตามเป้าหมายของแต่ละพรรคการเมืองหรือไม่ นั่นต้องขึ้นอยู่กับประชาชนแล้ว เพราะประชาชนเป็นผู้เลือกพรรค เลือกนโยบาย อนาคตต้องมาลุ้นกันแล้วว่าพรรคไหน นโยบายไหนจะมาขับเคลื่อนประเทศไทยในอนาคต 


เรื่อง: วายุ เอี่ยมรัมย์ Content Editor

ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/politic/2530576

https://www.prachachat.net/politics/news-1085888

https://www.posttoday.com/politics/688239

https://thestandard.co/democrat-party-8-policy/

https://bhumjaithai.com/policy