Thursday, 19 June 2025
WORLD

ปูตินเดือด! ยูเครนถล่มสนามบินรัสเซีย ประกาศ ‘ไม่มีเส้นแดงอีกต่อไป’ ขู่ตอบโต้เต็มรูปแบบ

(2 มิ.ย. 68) ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศว่า “ไม่มีเส้นแดงอีกต่อไป” หลังจากยูเครนโจมตีสนามบินของรัสเซียเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2025 โดยปูตินกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าไม่มีทางออกที่สงบสุขที่เป็นไปได้ อีกต่อไป และยูเครนจะต้องเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป

หลังจากแถลงการณ์ของปูตินไม่นาน กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานว่า ได้ยิงขีปนาวุธอิสกันเดอร์ (Iskander) เข้าใส่ค่ายฝึกอบรมของกองทัพยูเครนในพื้นที่โดนีโปรเปตรอฟสค์ ส่งผลให้มีทหารยูเครนเสียชีวิตอย่างน้อย 12 นาย และบาดเจ็บกว่า 60 นาย

ขณะเดียวกัน สหรัฐอเมริกาได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้รับข้อมูลล่วงหน้าเกี่ยวกับการโจมตีของยูเครนต่อสนามบินรัสเซีย โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า ยูเครนไม่ได้แจ้งให้ทราบถึงแผนการดังกล่าว

ทั้งนี้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อการเจรจาสันติภาพที่กำลังจะมีขึ้นในอนาคต

จีนประณาม ‘มาครง’ กรณีเปรียบไต้หวันกับยูเครน ชี้เป็นคนละเรื่อง!!..ยันสองกรณีต่างกันโดยสิ้นเชิง

(2 มิ.ย. 68) จีนออกแถลงการณ์ประณามประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส หลังเจ้าตัวกล่าวในเวทีการประชุมความมั่นคง Shangri-La Dialogue ที่สิงคโปร์ว่า หากรัสเซียสามารถยึดครองดินแดนยูเครนได้โดยไร้ข้อจำกัด ก็อาจเกิดเหตุการณ์คล้ายกันในไต้หวันหรือฟิลิปปินส์ได้ในอนาคต

สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำสิงคโปร์ตอบโต้ทันทีผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่าการเปรียบเทียบกรณีไต้หวันกับยูเครนเป็นเรื่อง “ไม่อาจยอมรับได้” โดยชี้ว่าสถานการณ์ทั้งสองแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และกล่าวหามาครงว่ามี “มาตรฐานสองแบบ” ในมุมมองทางการเมือง

จีนย้ำว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ และจะเดินหน้าสู่การรวมชาติโดยสมบูรณ์ พร้อมเตือนให้เจ้าหน้าที่ไต้หวันหลีกเลี่ยงการประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการ ขณะที่หลายประเทศตะวันตกยังคงขายอาวุธและมีความสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการกับไต้หวัน ซึ่งสร้างความไม่พอใจต่อปักกิ่ง

ด้านรัสเซีย ระบุว่าพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนที่ลงประชามติขอเข้าร่วมรัสเซียนั้น เป็นดินแดนที่ควรได้รับการยอมรับโดยรัฐบาลเคียฟ และเรียกร้องให้ยูเครนถอนทหารออกจากพื้นที่ดังกล่าว หากต้องการยุติความขัดแย้งในภูมิภาคนี้

‘ยูเครน’ เปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดต่อ ‘รัสเซีย’ ใช้โดรน 117 ลำ ซ่อนในห้องไม้ถล่ม 4 ฐานทัพ

(2 มิ.ย. 68) รัฐบาลยูเครนเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า ได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศระยะไกลครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มสงครามกับรัสเซีย โดยใช้โดรน 117 ลำ ลักลอบโจมตีเครื่องบินรบ 40 ลำใน 4 ฐานทัพของรัสเซียในปฏิบัติการชื่อ “ใยแมงมุม” ซึ่งประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า ได้ทำลายเครื่องบินขีปนาวุธพิสัยไกลได้ถึง 34%

แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรองยูเครน (SBU) ระบุว่าปฏิบัติการนี้วางแผนมานานกว่า 1 ปีครึ่ง โดยใช้โดรนซ่อนในห้องไม้เคลื่อนที่บนรถบรรทุก ก่อนจะเปิดหลังคาด้วยระบบควบคุมระยะไกลเพื่อปล่อยโดรนออกโจมตีเมื่อถึงเวลาเหมาะสม

รัสเซียยืนยันว่ามีการโจมตีใน 5 แคว้น พร้อมระบุว่าเป็น “การก่อการร้าย” แต่รัสเซียก็ได้ตอบโต้ด้วยการส่งโดรนและขีปนาวุธโจมตีหลายพื้นที่ของยูเครนในคืนวันเดียวกัน โดยยูเครนอ้างว่าสามารถสกัดเป้าหมายทางอากาศได้ถึง 385 รายการ

ปฏิบัติการของยูเครนมุ่งเป้าไปที่ฐานทัพในแคว้นอีร์คุตสค์, มูร์มันสค์, รียาซาน และอีวานอฟ ซึ่งตั้งอยู่ลึกในดินแดนรัสเซีย โดยมีเป้าหมายเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล Tu-95, Tu-22M3 และเครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้า A-50 ซึ่งสร้างความเสียหายที่ SBU ประเมินว่ามีมูลค่ากว่า 7 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.55 แสนล้านบาท)

ในขณะเดียวกัน ผู้แทนจากทั้งสองฝ่ายกำลังมุ่งหน้าไปยังอิสตันบูล ประเทศตุรกี เพื่อเจรจาสันติภาพรอบใหม่ในวันจันทร์ แต่บรรยากาศคาดว่าจะไม่คืบหน้า เนื่องจากจุดยืนของทั้งสองฝ่ายยังคงห่างกันมาก รัสเซียยังครอบครองดินแดนยูเครนราว 20% รวมถึงไครเมียที่ถูกผนวกเมื่อปี 2014

‘ซีอานเจียวทง’ เปิดประตูรับ!! ‘นักศึกษาฮาร์วาร์ด’ ย้ำ!! มาตรฐานโลก พร้อมมอบโอกาสเรียนต่อในจีน

(1 มิ.ย. 68) มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง (Xi’an Jiaotong University: XJTU) หนึ่งในสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของจีน ประกาศเชิญชวนนักศึกษานานาชาติจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนวิชาการระดับโลก โดยเปิดรับทั้งนักศึกษาใหม่และผู้ที่ต้องการโอนย้าย พร้อมอำนวยความสะดวกด้านขั้นตอนการสมัครและการปรับตัวเต็มที่

แถลงการณ์อย่างเป็นทางการจาก สำนักงานรับนักศึกษานานาชาติของ XJTU ระบุว่า มหาวิทยาลัยมีความภาคภูมิใจที่จะมอบ “เวทีการศึกษาอันมั่นคง” ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลก พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับนักศึกษาฮาร์วาร์ดในทุกขั้นตอนของการเรียนรู้

XJTU ขึ้นชื่อในฐานะมหาวิทยาลัยวิจัยระดับแนวหน้าของจีน โดยเฉพาะสาขาวิศวกรรมเครื่องกล พลังงานและเชื้อเพลิง วิศวกรรมเคมี และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน Top 10 ของโลก อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังได้รับ เกรด A+ ในการประเมินคุณภาพการศึกษานานาชาติของกระทรวงศึกษาธิการจีน (MOE) ท่ามกลางมหาวิทยาลัยชั้นนำกว่า 894 แห่งทั่วประเทศ

ตัวแทนจาก XJTU ยังเน้นว่า นักศึกษาที่เลือกย้ายมาศึกษาที่นี่จะได้รับ “บรรยากาศนานาชาติที่เปิดกว้าง” ในเมืองซีอาน เมืองประวัติศาสตร์เก่าแก่ของจีน พร้อมประสบการณ์เชิงวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งควบคู่กับการเรียนรู้ที่เข้มข้น

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดการสมัครได้ที่:
คุณหลัว
อีเมล: [email protected]
โทรศัพท์ : +86-29-82668812, 82668063, 82665924

ฉลองวันหยุดของอเมริกา ด้วยการกินข้าวนอกบ้าน คิดว่าวันหยุดแบบนี้ ร้านแน่นแน่เลย..แต่ผิดคาด แสดงว่า อเมริกันระดับครัวเรือน เริ่มตัดงบฟุ่มเฟือยกันแล้ว

(1 มิ.ย. 68) ‘เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้’ คนไทยที่อาศัยอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ... 

ฉลองวันหยุดของอเมริกา
ด้วยการกินข้าวนอกบ้าน
คิดว่าวันหยุดแบบนี้
ร้านแน่นแน่เลย..แต่ผิดคาด
แสดงว่าอเมริกันระดับครัวเรือน
เริ่มตัดงบฟุ่มเฟือยกันแล้ว

เคยอ่านรายงานว่าปี 2025 
ครอบครัวอเมริกันจะตัดงบรายจ่ายอะไรบ้าง
อันดับหนึ่งคืองดซื้อของแบรนด์
งดกินข้าวตามร้าน
ตามมาด้วยงดเที่ยว Vacation

ที่ออกไปกินนี่คือขี้เกียจทำกับข้าว
ทำสวนเหนื่อยทั้งวันแล้ว
จะให้มาทำปิ้งย่างบาร์บีคิวกินสองคน
บอกตรงๆว่าไม่ไหว
แต่ด้วยความงก
ก็เอาพาสต้ากลับมากินต่อวันพรุ่งขึ้น

‘วลาดีมีร์ ปูติน’ กล่าวซึ้ง!! ถึง ‘อดีตนายกฯญี่ปุ่น’ สะกิด!! ต่อมน้ำตาของ ‘ภรรยา Shinzo Abe’ ไหลหลั่ง

เมื่อวานนี้ (30 พ.ค. 68) วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ให้การต้อนรับภรรยาของ Shinzo Abe ในกรุงมอสโก เนื่องในโอกาสครบรอบวันเสียชีวิตของอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยปูตินได้ถือช่อดอกไม้ไปต้อนรับ Akie Abe ด้วยความนอบน้อม

ในระหว่างการพบกัน คำพูดของปูตินเกี่ยวกับ Shinzo Abe ทำให้เธอถึงกับน้ำตาไหลออกมา

ประธานาธิบดีรัสเซียแสดงความเคารพต่อ Shinzo Abe โดยกล่าวว่า "เขารู้ว่า Abe ฝันที่จะลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งสนธิสัญญานั้นยังไม่ได้รับการลงนามระหว่างรัสเซียและญี่ปุ่น เนื่องจากยังคงติดขัดเรื่องความขัดแย้งเกี่ยวกับการครอบครองเกาะสี่เกาะในกลุ่มเกาะคอร์เยอร์ ซึ่งญี่ปุ่นเรียกว่า 'ดินแดนเหนือ' ซึ่งเป็นประเด็นหลักความขัดแย้งในอดีต"

Shinzo Abe ถูกยิงจากด้านหลังในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองนารา เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2021 และจากรายงานของสื่อญี่ปุ่น เขาถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยภาวะหัวใจหยุดเต้นและภาวะการหายใจหยุดลง

เด็กหนุ่มญี่ปุ่น ป.6 ทำโครงงานปิดเทอม สุดเจ๋ง!! นับรถทุกคันที่ไม่หยุดให้ข้ามทางม้าลาย ส่งตำรวจ

(31 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘JapanSalaryman’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

น้องโคตะคุง นักเรียนชั้นป.6 ต้องเดินข้ามทางม้าลายแถวบ้านทุกเย็น เพื่อไปเรียนพิเศษ

แต่ปัญหาคือ…
รถแทบทุกคัน “ไม่เคยหยุด” ให้เขาข้ามเลย
ไม่ว่าจะยกมือ โบกมือ หรือมองตากับคนขับก็แล้ว
ก็ยังไม่มีใครเบรกให้เลยสักคัน วิ่งผ่านหน้าตาเฉย
จนวันหนึ่งเขาตัดสินใจว่า “จะไม่ปล่อยผ่านอีกต่อไป”
เขายืนเฝ้าทางม้าลายวันละหลายชั่วโมง
และนับอย่างจริงจังเลยว่า “มีรถกี่คันที่ไม่หยุดให้ข้าม”
เป็นการเก็บข้อมูล

น้องทำตารางนับอย่างละเอียด ตั้งแต่ 7:30 เช้า ถึง 19:00 แบ่งช่วงเวลาเป็น 30 นาที ทำต่อเนื่อง 12 วันเต็ม ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน

ผลที่ได้ออกมาว่า…
ช่วงที่รถไม่หยุดมากที่สุด คือเวลา 8:00–8:30 น. (ซึ่งตรงกับ 'ชั่วโมงเร่งด่วน' ของคนทำงาน) ช่วงนั้น เฉลี่ยแล้ว รถ 5 คันกว่า ๆ ถึงจะมีคันนึงหยุด

แต่น้องโคตะไม่ได้แค่นับจำนวนนะครับ เขายังวิเคราะห์ต่ออีกว่า คนขับแบบไหนที่หยุดให้…หรือไม่หยุดเลย?
1.คนที่ "ชอบหยุดให้ข้าม" คือ… คุณลุงหน้าตาใจดี, รถบรรทุกใหญ่ ๆ, หรือพี่ชายที่ดูโหดแต่กลับใจดี
2.คนที่ "มักไม่หยุดเลย" คือ… รถคันเตี้ย ๆ และคนขับที่เป็นคุณป้าหรือคุณยาย

ความรู้จากแม่ของโคตะช่วยเติมเต็มงานนี้อีกชั้น แม่เคยเล่าให้ฟังว่า ถ้าโดนจับข้อหาไม่หยุดให้คนข้าม จะต้องโดนปรับ 9,000 เยนต่อคัน! น้องเลยลอง “คำนวณค่าปรับทั้งหมด” จากข้อมูลที่ตัวเองนับมา ผลคือ… ถ้าตำรวจจับได้ครบ จะเก็บค่าปรับได้ถึง 5,742,000 เยน!! (9,000 เยน × 638 คันที่ไม่หยุด)

พอปิดเทอมจบ หลังจากสรุปข้อมูลทั้งหมด โคตะคุงส่งรายงานให้คุณครู พร้อมทั้ง.. ส่งรายงานนี้ให้กับสถานีตำรวจในพื้นที่ด้วย! ตำรวจอ่านแล้วประทับใจมาก จนตัดสินใจ “ใช้ข้อมูลของโคตะ” มาทำเป็น “ใบปลิวรณรงค์เรื่องความปลอดภัยหน้าทางม้าลาย” ในใบปลิวก็จะมี
– สถิติช่วงเวลาที่รถไม่หยุด
– ลักษณะของคนขับที่มีแนวโน้มจะหยุด / ไม่หยุด
– กราฟแสดงผลตามช่วงเวลาอย่างละเอียด

น้องโคตะพูดถึงผลของโครงงานนี้ว่า…
“ผมไม่ได้คาดหวังว่าทุกคันจะหยุด แต่อยากให้มีสักคัน ที่อ่านแล้วเริ่มหยุดให้คนข้าม
แค่นั้นผมก็ดีใจแล้วครับ”

ผมว่าเป็นโครงงานที่เรียบง่าย แต่จริงจังมาก เพราะอาจทำให้ทั้งเมืองต้องหันกลับมาสนใจเรื่องเล็ก ๆ ที่หลายคนมองข้ามได้เลยนะ ถ้าเป็นผมขับรถแล้วทำผิด แล้วมารู้ทีหลังว่าเด็ก ป.6 ยังใส่ใจกับเรื่องนี้ ก็คงรู้สึกอายเหมือนกันครับ

อดีตนาวิกโยธินอังกฤษ วัย 53 ปี ถูกตั้งข้อหาหนัก!! หลังขับรถพุ่งชนฝูงชน!! ในงานฉลองแชมป์ลิเวอร์พูล

(31 พ.ค. 68) Amthaipaper (หนังสือพิมพ์ไทยในอังกฤษ) รายงานว่า ชายชาวอังกฤษนาม Paul Doyle วัย 53 ปี จากย่าน West Derby เมืองลิเวอร์พูล อดีตนาวิกโยธินของกองทัพอังกฤษ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาหลายกระทง หลังจากเขาขับรถพุ่งชนกลุ่มแฟนบอลจำนวนมากในงานขบวนแห่ฉลองแชมป์ของสโมสร Liverpool FC จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง เกือบ 80 คน บางรายอาการสาหัส

แม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นในช่วงขบวนแห่ที่ผู้คนหลั่งไหลกันมานับหมื่น แต่นาย Doyle ไม่ได้มาร่วมขบวนแห่แชมป์ ตามรายงานจากสื่อท้องถิ่น เขาขับรถมาส่งเพื่อนที่บริเวณใกล้เคียงจุดจัดงาน ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าพฤติกรรมของเขาในขณะนั้นเป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้าหรือเกิดขึ้นด้วยเหตุอื่น

จากรายงานของตำรวจและสื่อหลายสำนัก นาย Paul Doyle ถูกตั้งข้อหาดังนี้
• ขับรถโดยประมาทอันตราย (Dangerous driving)
• ทำร้ายร่างกายสาหัสโดยเจตนา (Grievous bodily harm – GBH – with intent)
• พยายามทำร้ายร่างกายสาหัส (Attempted GBH)
• และทำร้ายร่างกายโดยมีเจตนา (Wounding with intent)

Paul Doyle คือใคร

Paul Doyle เป็นอดีตทหาร Royal Marine ที่เคยรับใช้ชาติ แต่หลังปลดประจำการ ดูเหมือนว่าเขาจะใช้ชีวิตเงียบ ๆ ในฐานะ คุณพ่อลูกสาม และถูกมองว่าเป็น คนรักครอบครัว (family man) โดยผู้ที่รู้จักใกล้ชิด

ภาพของเขาที่ยิ้มแย้ม นั่งเล่นกับลูก ๆ หรือสวมหมวกปาร์ตี้ในบรรยากาศครอบครัว ถูกนำมาเปรียบเทียบกับภาพขณะนั่งอยู่หลังพวงมาลัยในรถที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งสร้างความสับสนและตกใจให้กับสาธารณชนอย่างมาก

แม้จะมีบุคลิกดูอ่อนโยนและไม่มีประวัติน่ากังวลในอดีต แต่ข้อกล่าวหาจากทางการในครั้งนี้ชี้ว่าการกระทำของเขาอาจเกิดขึ้นโดยเจตนา ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่กำลังถูกสอบสวนอย่างละเอียด

คดีนี้ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีและการไต่สวนในชั้นศาล ผู้ต้องหายังไม่ได้รับการตัดสินว่ามีความผิดตามกฎหมาย ข่าวนี้เป็นการรายงานข้อกล่าวหาที่ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะ

‘สหพันธ์มวยโลก’ ลั่น!! ไม่อนุญาตให้ ‘อิมาน เคลิฟ’ ชกกับนักมวยหญิง เว้นแต่จะยินยอม!! เข้ารับการตรวจเพศ เพื่อแสดงว่ามี ‘โครโมโซม XX’

(31 พ.ค. 68)  เพจเฟซบุ๊ก ‘Jaroensook Limbanchongkit Pone’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า …

สหพันธ์มวยโลกประกาศว่า อิมาน เคลิฟ นักมวยชาวแอลจีเรีย จะไม่ได้รับอนุญาตให้แข่งขันกับนักมวยหญิงในรายการ Eindhoven Box Cup ที่จะจัดขึ้นในเร็วๆ นี้ เว้นแต่เคลิฟจะยินยอมเข้ารับการตรวจเพศ

ต่อไปนี้คณะกรรมการมวยสากลของแอลจีเรียจะต้องแสดงให้เห็นว่าเคลิฟมีโครโมโซม XX เพื่อที่จะแข่งขันกับผู้หญิงได้ในรายการมวยสากลโลกทั้งหมด

ศ.หญิงรายได้สูง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ถูกไล่ออกจากฮาร์วาร์ด ฐานบิดเบือนข้อมูลวิจัย

(30 พ.ค. 68) ฟรานเชสกา จิโน (Francesca Gino) อดีตศาสตราจารย์ด้านพฤติกรรมศาสตร์แห่ง Harvard Business School ซึ่งเคยมีรายได้สูงถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ราว 36 ล้านบาท) ระหว่างปี 2018-2019 ถูกปลดออกจากตำแหน่งและถูกเพิกถอนตำแหน่งถาวร หลังผลสอบชี้ชัดว่าเธอมีการบิดเบือนข้อมูลในงานวิจัยถึง 4 ชิ้น เพื่อให้ผลลัพธ์สนับสนุนสมมติฐานของตนเอง

การสืบสวนเริ่มขึ้นในปี 2021 หลังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับงานวิจัยชื่อดังของจิโน ว่าด้วยการลงนามคำมั่นสัญญาความซื่อสัตย์ ซึ่งภายหลังถูกเพิกถอนเพราะพบหลักฐานปลอมแปลงข้อมูล การตรวจสอบเชิงลึกโดยมหาวิทยาลัย และบริษัทนิติวิทยาศาสตร์จากภายนอก พบการปรับแต่งข้อมูลในอีก 3 งานวิจัยที่เธอร่วมเขียนระหว่างปี 2012-2020

แม้จิโนจะออกมาปฏิเสธผ่านเว็บไซต์ส่วนตัวว่าไม่ได้กระทำการฉ้อโกงทางวิชาการ และอ้างว่าอาจเป็นความผิดของผู้ช่วยวิจัยหรือมีผู้เจตนาร้ายแทรกแซงข้อมูล แต่ผลสอบของมหาวิทยาลัยไม่ยอมรับคำชี้แจงดังกล่าว พร้อมเดินหน้าปลดเธอออกจากตำแหน่งโดยทันที และเสนอให้เพิกถอนงานวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

จิโนถือเป็นศาสตราจารย์คนแรกของฮาร์วาร์ดที่ถูกเพิกถอนตำแหน่งในรอบกว่า 80 ปี เธอยังได้ยื่นฟ้องมหาวิทยาลัย อดีตคณบดี และบล็อกเกอร์กลุ่ม Data Colada เรียกค่าเสียหาย 25 ล้านดอลลาร์ แต่คำร้องถูกศาลกลางในบอสตันปฏิเสธ โดยระบุว่างานวิจัยของเธอเป็นเรื่องที่เปิดให้สาธารณะวิจารณ์ได้ภายใต้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ

กรณีนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนในวงวิชาการสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงพฤติกรรมศาสตร์ ซึ่งจิโนเคยเป็นนักวิจัยแนวหน้า ได้รับการตีพิมพ์บทความมากกว่า 140 ชิ้น และได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางจากสื่อมวลชนตลอดทศวรรษที่ผ่านมา

WFP เผย 'ฝูงชนอดอยาก' ล้อมคลังอาหารในกาซา ดับแล้ว 2 ราย บาดเจ็บอีกเพียบในการแย่งเสบียง

(30 พ.ค. 68) สถานการณ์ความอดอยากในฉนวนกาซาทวีความรุนแรง ขณะที่โครงการอาหารโลก (WFP) เปิดเผยว่า กลุ่มชาวปาเลสไตน์จำนวนมากซึ่งหิวโหย ได้บุกเข้าโกดังเก็บเสบียงในเมืองเดียร์ เอล-บาลาห์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีกหลายคน เหตุเกิดท่ามกลางภาวะขาดแคลนอาหารอย่างหนัก 

ในขณะเดียวกัน การโจมตีจากอิสราเอลยังคงดำเนินต่อเนื่อง กระทรวงสาธารณสุขในกาซาระบุว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 รายทั่วพื้นที่ โดยเฉพาะในค่ายผู้ลี้ภัยบูเรจในกาซากลาง มีผู้เสียชีวิต 23 ราย จากการโจมตีอาคารที่พักอาศัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินต้องใช้เวลานานกว่า 30 นาทีในการกู้ร่างผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

นอกจากนี้ ยังมีรายงานการโจมตีบ้านเรือนและโรงเรียนอนุบาลในเขตจาบาเลีย ทางเหนือของกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกอย่างน้อย 7 ราย ขณะที่จุดแจกจ่ายความช่วยเหลือที่ก่อตั้งโดยมูลนิธิ Gaza Humanitarian Foundation (GHF) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ก็เกิดระเบิดต่อเนื่อง โดยยังไม่มีความชัดเจนถึงสาเหตุ

องค์กรสิทธิมนุษยชนและสหประชาชาติแสดงความกังวลต่อบทบาทของ GHF โดยระบุว่าโครงการดังกล่าวขาดความเป็นกลางและละเมิดหลักการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ทั้งยังอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางทหารหรือการควบคุมพลเรือนของอิสราเอล

แม้อิสราเอลจะยืนยันว่าอนุญาตให้นำส่งความช่วยเหลือทั้งผ่าน UN และ GHF แต่เจ้าหน้าที่ UN ระบุว่าจำนวนความช่วยเหลือที่เข้าสู่กาซายัง 'น้อยเกินไป' เมื่อเทียบกับความต้องการระดับวิกฤต พร้อมเตือนว่า การแจกจ่ายแบบ 'จับตา-จำกัด' นี้ อาจยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ขาดแคลนอาหารและบั่นทอนหลักมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง

‘ยูเครน’ กุมขมับวิกฤต ‘หนีทหาร’ ปีนี้พุ่งไม่หยุด คาดยอดจะทะลุ 61,000 ราย สูงสุดเป็นประวัติการณ์

(30 พ.ค. 68) กองทัพยูเครนกำลังเผชิญปัญหาทหารหลบหนีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจำนวนผู้ละทิ้งหน้าที่โดยไม่ได้รับอนุญาตในปี 2025 จะทะลุ 61,000 ราย เกือบเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีก่อน ตามการวิเคราะห์ของผู้สื่อข่าว Sputnik โดยอ้างอิงจากบันทึกคดีในศาลยูเครน

กรณีการหลบหนีส่วนใหญ่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 407 วรรค 5 ของประมวลกฎหมายอาญายูเครน ซึ่งระบุถึงการ “ละทิ้งหน่วยหรือสถานที่ปฏิบัติหน้าที่เกิน 3 วัน ภายใต้กฎหมายกฎอัยการศึกหรือสถานการณ์การรบ”

ข้อมูลจากทะเบียนคดีของศาลยูเครนระบุว่า เดือนเมษายน 2025 มีคดีหนีทหารสูงสุดที่ 6,245 คดี ส่งผลให้ยอดสะสม 5 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 25,508 คดี หากแนวโน้มยังดำเนินต่อไป จำนวนรวมทั้งปีอาจสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

เมื่อเทียบกับปีก่อน แนวโน้มดังกล่าวน่ากังวลอย่างยิ่ง โดยในปี 2024 มีรายงานการหลบหนีถึง 35,750 คดี เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าจากปี 2023 ที่มีเพียง 12,563 คดี สะท้อนภาวะขาดเสถียรภาพในกำลังพลอย่างต่อเนื่อง

เวียดนามสั่งแบน The Economist ฉบับ ‘โต เลิม’ หวั่นปกนิตยสารกระทบ!..ภาพลักษณ์ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์

(30 พ.ค. 68) รัฐบาลเวียดนามมีคำสั่งห้ามวางจำหน่ายนิตยสาร The Economist ฉบับล่าสุด หลังขึ้นปกภาพ โต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์วัย 67 ปี โดยภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นดวงตาของเขาถูกปิดด้วยดาวสีเหลืองบนพื้นหลังสีแดง พร้อมพาดหัวว่า 'บุรุษผู้มีแผนสำหรับเวียดนาม' ซึ่งถูกมองว่าเป็นภาพเชิงสัญลักษณ์ที่อ่อนไหว

แหล่งข่าวในประเทศให้ข้อมูลกับสำนักข่าว Reuters ว่า ได้รับคำสั่งให้ฉีกหน้าปกและบทความที่เกี่ยวข้องกับ โต เลิม ออกจากนิตยสาร ก่อนที่จะมีคำสั่งให้ระงับการจำหน่ายทั้งหมด แม้จนถึงขณะนี้ ทางการยังไม่มีแถลงการณ์ชี้แจงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเหตุผลของการแบน

การดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางควบคุมสื่อที่เข้มงวดของรัฐบาลเวียดนาม ซึ่งมีประวัติการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น โดยเวียดนามอยู่ในอันดับที่ 173 จาก 180 ประเทศ ตามดัชนีเสรีภาพสื่อของ Reporters Without Borders (RSF) ปี 2025 สะท้อนถึงเสรีภาพของสื่อมวลชนที่อยู่ในระดับต่ำมาก

สำหรับเนื้อหาในบทความของ The Economist ระบุว่า โต เลิม เป็นผู้นำที่แข็งกร้าวซึ่งจำเป็นต้องปรับบทบาทเป็นนักปฏิรูปเพื่อรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ การใช้ภาพสื่อถึงสัญลักษณ์ชาติบนใบหน้าของเขาอาจถูกตีความว่าเป็นการวิจารณ์เชิงล้อเลียน

การแบนครั้งนี้สะท้อนถึงความอ่อนไหวของรัฐบาลเวียดนามต่อการวิจารณ์ผู้นำระดับสูงจากสื่อต่างชาติ แม้ฉบับพิมพ์จะถูกระงับ แต่บทความฉบับออนไลน์ของ The Economist ยังสามารถเข้าถึงได้

ยูเครนร้องจีนสองมาตรฐาน ระงับขายโดรนให้ตะวันตก แต่ส่งให้รัสเซียเพิ่ม

(30 พ.ค. 68) ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน เปิดเผยเมื่อ 29 พ.ค. ว่า จีนได้หยุดขายโดรนให้ยูเครนและประเทศตะวันตก แต่ยังคงส่งโดรนให้รัสเซีย โดยระบุว่า “Mavic จากจีนเปิดขายให้รัสเซีย แต่ปิดให้ยูเครน” ซึ่งเป็นโดรนรุ่นยอดนิยมของบริษัท DJI จากจีน

เลนสกีเผยอีกว่า มีสายการผลิตโดรนตั้งอยู่ในรัสเซียโดยมีตัวแทนจากจีนอยู่ด้วย ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ยุโรปที่ระบุว่าจีนได้ลดการส่งออกชิ้นส่วนโดรน เช่น แม่เหล็กมอเตอร์ ไปยังตะวันตก แต่เพิ่มการส่งให้รัสเซีย

แม้จีนจะอ้างความเป็นกลาง แต่ตลอดช่วงสงคราม โดรนได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในสนามรบ โดยทั้งสองฝ่ายนำมาใช้ในภารกิจลาดตระเวนและโจมตีแม่นยำ ขณะที่ยูเครนเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตโดรนภายในประเทศให้ถึงขีดสุด เพื่อลดการพึ่งพาต่างชาติ

กระทรวงการต่างประเทศจีนยังคงปฏิเสธว่าไม่ได้ส่งยุทโธปกรณ์ให้ฝ่ายใด พร้อมยืนยันว่าควบคุมเข้มสินค้าสองทาง (Dual-use goods) แต่การที่จีนกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซียมากขึ้น ได้สร้างความกังวลให้กับโลกตะวันตกและนาโต ซึ่งระบุว่าจีนกำลังเป็น 'ผู้สนับสนุนหลัก' ให้รัสเซียรุกรานยูเครน

ชาวเนปาลนับหมื่นลงถนน เรียกร้องฟื้นฟูระบอบกษัตริย์ หลังไม่พอใจรัฐบาล ทำเศรษฐกิจประเทศตกต่ำ

เมื่อวานนี้ (29 พ.ค.68) ประชาชนหลายหมื่นคนออกมารวมตัวกันในกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เรียกร้องให้ฟื้นฟูระบอบกษัตริย์ที่ถูกยกเลิกไปตั้งแต่ปี 2008 ท่ามกลางความไม่พอใจต่อสภาพเศรษฐกิจและการทำงานของรัฐบาลปัจจุบัน โดยผู้ชุมนุมยังเรียกร้องให้ศาสนาฮินดูกลับมาเป็นศาสนาประจำชาติ

กลุ่มผู้ชุมนุมได้ตะโกนข้อว่า “จงนำกษัตริย์กลับคืนราชบัลลังก์และช่วยชาติ เรารักกษัตริย์มากกว่าชีวิต” ขณะที่เป้าหมายของการเรียกร้องครั้งนี้คือการให้ กษัตริย์เกียนเอนทรา ชาห์ วัย 77 ปี อดีตกษัตริย์พระองค์สุดท้ายของเนปาล ซึ่งยังพำนักอยู่ในกาฐมาณฑุ กลับคืนสู่บัลลังก์อีกครั้ง

เนปาลกลายเป็นสาธารณรัฐหลังยกเลิกระบอบกษัตริย์ และปัจจุบันมีประธานาธิบดีเป็นประมุข อย่างไรก็ตาม ยังมีประชาชนบางส่วนที่ไม่พอใจกับชนชั้นการเมืองและสภาพเศรษฐกิจ ที่ทำให้ชาวเนปาลจำนวนมากต้องเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ เพื่อส่งเงินกลับบ้าน

แม้จะมีเสียงเรียกร้องเพิ่มขึ้น แต่โอกาสในการฟื้นฟูระบอบกษัตริย์ยังคงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากพรรคการเมืองหลักทั้งสามพรรคในสภายังคัดค้านแนวคิดดังกล่าว ขณะที่พรรคฝ่ายหนุนกษัตริย์อย่าง Rastriya Prajatantra Party มีเพียง 13 ที่นั่งจากทั้งหมด 275 ที่นั่งในรัฐสภาเท่านั้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top