Sunday, 28 May 2023
WORLD

Warren Buffett ลั่น!! ดอลลาร์ยังเป็น KING อีกยาว ฝ่าวงล้อมฝ่ายด้อยค่า ให้ราคาโลหะมากกว่า FIAT

(9 พ.ค. 66) World Maker เผยว่า “เรา (ดอลลาร์) คือสกุลเงินสำรองของโลก ผมยังไม่เห็นตัวเลือกสกุลเงินใดเลยที่จะมาเป็นเงินสำรองแทนดอลลาร์” นั่นคือคำพูดที่ปู่ Warren Buffett ลั่นเอง!! หักหน้ากูรูฝั่งคอมมิวนิสต์ชัดเจน!! งานนี้คงต้องรอดูว่าระหว่างนักลงทุนระดับตำนานผู้ประสบความสำเร็จทางการเงินแบบมีผลงานพิสูจน์ได้ชัดเจนแก่สายตาโลก vs กูรูโปรจีน-รัสเซีย มุมมองของใครจะคมกว่ากัน ? เพราะตอนนี้แม้แต่ในไทยเองก็มีผู้ที่ยกตัวเป็นกูรูการเงินโลกมากมายออกมากล่าวอย่างมั่นใจให้คนทิ้งดอลลาร์และซื้อทองคำแทน! ขณะที่ฝ่ายปฏิบัติการของจีน-รัสเซียพยายามทำทุกวิถีทางที่จะกระชากดอลลาร์ลงจากบัลลังก์

อย่างไรก็ตาม แม้ปู่จะมั่นใจในเรื่องของดอลลาร์ แต่ปู่ก็เตือนไม่ให้รัฐบาลสหรัฐฯ จ่ายเงินแบบไม่คิดเนื่องจากหากมีการใช้จ่ายเงินมากเกินไป (จริง ๆ แล้วไม่ใช่แค่สหรัฐฯ แต่เป็นทั่วโลก) จะทำให้เกิดเงินเฟ้อได้ ปู่ Buffett จึงเตือนให้ “ระมัดระวังอย่างมาก” ในขณะที่ปู่เองยังถือครองเงินสดในเอาไว้มหาศาลกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ในบริษัท Berkshire และยังคงมองว่าเงินสดมีความสำคัญไม่แพ้ใครในช่วงเวลาที่โลกมีความตึงเครียดด้านสภาพคล่องเช่นนี้ และหลายสินทรัพย์มีการประเมินมูลค่าค่อนข้างสูง

ถึงกระนั้น มุมมองของปู่ถูกด่าอย่างเหยียดหยามว่าเป็น “คนโง่” สำหรับกูรูหลายคน โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งแสดงเชื่อมั่นเกิน 100% ว่าดอลลาร์จะพังทลายกลายเป็นแบงก์กงเต็กไม่มีใครเอา โดยกูรูเหล่านี้กล่าวว่า “มีแต่พวกไม่รู้เรื่องเศรษฐศาสตร์และการเงินที่บอกว่าดอลลาร์จะอยู่ต่อไปได้” (แสดงว่าปู่ Warren Buffett ไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์-การเงิน ?? จริงหรือ ??) แม้ว่ากูรูเหล่านี้จะไม่เคยมีผลงานพิสูจน์ประจักษ์แก่สายตาโลกเหมือนปู่ Warren Buffett ก็ตาม

📌 ซึ่งขณะเดียวกันนี้ พบว่ามีกองทุน Hedge Funds จำนวนมากที่กำลัง Short Sell พันธบัตรสหรัฐฯ อยู่ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือเดิมพันว่าราคาพันธบัตรสหรัฐฯ จะเป็นขาลง เนื่องจากพวกเขามองว่า FED ใกล้ถึงจุด Peak ของดอกเบี้ยและมีแนวโน้มจะลดดอกเบี้ยลงในปลายปีนี้ แม้ Powell จะไม่ได้ยืนยันแต่อย่างใดว่าจะมีการลดดอกเบี้ยจริง และล่าสุดยังย้ำว่า FED จะต้องต่อสู้กับเงินเฟ้อต่อไป

การ Short พันธบัตรของสหรัฐฯ เป็นการ Bet Against America ในอีกทางหนึ่ง และอยู่ในสถานะตรงข้ามกับยักษ์ใหญ่แห่ง Wall Street หลายแห่งเช่น JPMorgan, Morgan Stanley ซึ่งมองว่าพันธบัตรเป็นการลงทุนที่ดี (แน่นอนว่าขัดกับกูรูฝั่งคอมมิวนิสต์ด้วยที่แนะนำให้คนทิ้งดอลลาร์และสินทรัพย์ของสหรัฐฯ)

แต่ในอีกแง่หนึ่ง การเดิมพันเหล่านี้อาจมาจากการป้องกันความเสี่ยงได้เช่นกัน กล่าวคือนักลงทุนมีการซื้อพันธบัตรด้วยเงินสด และมา Short Sell ในตลาด Futures เอาไว้บางส่วนเพื่อพยายามทำกำไรจากส่วนต่างของราคาในกรณีที่พันธบัตรปรับตัวลดลงในระยะสั้น และยังอาจเป็นการบ่งชี้ว่าดอกเบี้ยพันธบัตรในปัจจุบันยังต่ำเกินไปเมื่อดอกเบี้ย FED อยู่ที่ประมาณ 5.25% (ดอกเบี้ยพันธบัตร 2 ปีของสหรัฐฯ ตอนนี้อยู่ที่เพียง 3.98%)

ปฏิบัติการถล่มดอลลาร์ของคอมมิวนิสต์จีน-รัสเซีย เกิดขึ้นในขณะที่คนจำนวนมากกังวลว่าสหรัฐฯ จะเกิด Recession ไปจนถึงการเกิดวิกฤตครั้งใหญ่ ซึ่งยิ่งทำให้มีเหตุผลมากมายมา Support ให้คนอยากถือทองคำ คิดอะไรไม่ออกก็ถือทองคำเอาไว้ก่อน เพราะทองคำถูกมองเป็น Safe Haven ที่รักษามูลค่าได้อย่างยาวนาน

ตอนนี้แม้แต่นักลงทุนระดับสถาบันจำนวนมากก็แห่กันเข้าไปซื้อทองคำ และดูจะมีความโปรดปรานในทองคำมากกว่า Bitcoin ซึ่งเป็นอีก 1 สินทรัพย์ที่ก่อนหน้านี้เป็นกระแสว่าจะล้มดอลลาร์และกลายเป็นทองคำดิจิทัล แต่สุดท้ายกลายเป็นราคา Bitcoin ร่วงยับก่อนดอลลาร์-ทองคำ

สิ่งที่กูรูฝ่ายคอมมิวนิสต์นำมาเชียร์ให้คนทิ้งดอลลาร์ ทิ้งพันธบัตรสหรัฐฯ และรุมซื้อทองคำนั้น ส่วนใหญ่มาจากหลักเศรษฐศาสตร์ดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นการที่สหรัฐฯ พิมพ์เงินออกมาได้แบบไม่ต้องมีทองคำหนุนหลัง หรือเรื่องของระบบหนี้และเพดานหนี้ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ หรือพูดง่าย ๆ ว่ากูรูกลุ่มนี้มองว่าชาวยิวนั้นโง่และไม่มีความรู้ทางการเงิน ที่ตัดสินใจพิมพ์ดอลลาร์ออกมาโดยไม่ต้องมีทองหนุนหลัง (แต่สุดท้ายแล้วชาวยิวจะโง่ ? หรือคนกลุ่มนี้กันแน่ที่คิดไม่ทันชาวยิว ? เรื่องนี้คงต้องติดตามกันต่อไป)

ราคาทองคำโลกในปัจจุบันพึ่งทำระดับ All Time High ใหม่ที่ประมาณ 2,080 $/Oz ไปไม่กี่วันก่อน และในวันนี้ก็ยังเทรดอยู่ในระดับประมาณ 2,025 $/Oz ซึ่งไม่ห่างจาก All Time High ล่าสุดมากนัก ขณะที่กูรูฝั่งจีน-รัสเซียกำลังกระหน่ำข่าวว่าดอลลาร์จะพังทลายไม่มีใครเอา ให้ผู้คนรีบแห่ไปซื้อทองคำเก็บเอาไว้โดยเร็ว 

📌 ทางด้าน Janet Yellen ขุนคลังของสหรัฐฯ ล่าสุดออกมากล่าวถึงเรื่องของเพดานหนี้ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯ โดยระบุว่าสหรัฐฯ มีความเสี่ยงครั้งใหญ่ภายในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ หากรัฐบาลยังไม่สามารถตกลงกันได้ที่จะระงับหรือขยายเพดานหนี้ต่อไป และหากสหรัฐฯ ผิดชำระหนี้ มันจะกลายเป็นความเสียหายรุนแรง และที่สำคัญที่สุดคือจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในเงินดอลลาร์และพันธบัตรของอเมริกาอย่างมาก

เมื่อมองสถานการณ์เช่นนี้แล้ว กูรูฝั่งจีน-รัสเซียจึงยิ่งมั่นใจเกิน 100% เสียอีกว่าดอลลาร์จะพัง และสิ่งที่พวกเขาแนะนำผู้คนก็คือการสะสมทองคำหรือที่ดินเอาไว้ แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว สินทรัพย์ทุกอย่างบนโลกล้วนเป็นฟองสบู่ได้หมด และนี่อาจใกล้ถึงช่วงเวลาสำคัญที่เราจะได้เห็นแล้วว่าสุดท้ายทองคำ-ที่ดิน vs ดอลลาร์ อันไหนจะพังก่อนกัน

แน่นอนว่าถ้าสหรัฐฯ ชำระหนี้ไม่ได้จริง ความฝันของกูรูฝั่งคอมมิวนิสต์จะใกล้ความจริงขึ้นมาอย่างมาก เพราะมีแนวโน้มที่คนจะยิ่ง Panic และแห่กันเข้าไปซื้อทองคำจนราคาพุ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ทางด้าน Joe Biden กำลังจะหารือเรื่องนี้ภายในวันที่ 9 พ.ค. 66 (พรุ่งนี้) ขณะที่ทาง Jerome Powell ประธาน FED ออกมากล่าวว่า “เราไม่ได้อยู่ในจุดที่จะพูดถึงประเด็นที่สหรัฐฯ จะผิดชำระหนี้เลย” พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถหลีกเลี่ยงหายนะได้ หรืออาจจะไม่เกิด Recession อย่างที่หลายคนกลัว

สิ่งที่น่าจับตามองเกี่ยวกับ FED, ดอกเบี้ย, ดอลลาร์, ทองคำ, พันธบัตร, Crypto และสินทรัพย์อื่น ๆ ก็คือการที่ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังอยู่ในภาวะร้อนแรงสูง อัตราว่างงานต่ำสุดในรอบราว 50 ปี ดังนั้นจึงมีความไม่แน่นอนสูงว่า FED จะเลือกดำเนินนโยบายอย่างไร ? จะผ่อนคลายเรื่องดอกเบี้ยได้ภายในปีนี้หรือไม่ ? ทั้งหมดขึ้นอยู่กับข้อมูลที่จะออกมาหลังจากนี้ เพราะ FED กล่าวชัดเจนว่าจะยึดข้อมูล Real Time เป็นหลัก ไม่ใช่คาดการณ์ของตลาด

นั่นแปลว่าแม้จะมีวิกฤต Bank Run เกิดขึ้นซึ่งทำให้หลายคนกังวล และทำให้กูรูฝั่งคอมมิวนิสต์ถือโอกาสกระหน่ำข่าวโจมตีสหรัฐฯ แต่ในความเป็นจริงแล้วเราอาจต้องจับตาดูมิติอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย ไม่ใช่จะไปด่วนสรุปว่าสหรัฐฯ จะเกิดหายนะเพราะวิกฤต Bank Run หรือเพราะจีน-รัสเซียพยายามทุบดอลลาร์โดยร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรหลาย ๆ ประเทศ

นอกจากนี้ ประเด็นเงินเฟ้อเป็นอะไรที่ซับซ้อนและมีหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ว่าสหรัฐฯ เกิด Recession แล้วเงินเฟ้อจะลดลงกลับสู่เป้าหมาย 2% ของ FED ได้ เพราะในความเป็นจริงยังมีความเสี่ยงอื่น ๆ เช่น ภัยธรรมชาติ, ความคาดหวังของผู้บริโภค, การใช้จ่ายเงินของผู้คน, ปัญหาด้าน Supply Chain และอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นแม้ว่าจะเป็นกรณีที่สหรัฐฯ เกิด Recession จริง ๆ แต่เงินเฟ้อก็อาจยังไม่ได้ลดลงก็ได้ ซึ่งเรื่องภาวะเช่นนี้ว่า Stagflation

📌 โดยเฉพาะหากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง แนวโน้มของเงินเฟ้อก็ยิ่งลดลงยากขึ้นไปอีก เว้นเสียแต่ว่าราคาสินทรัพย์อื่น ๆ จะโดนเทขายครั้งใหญ่และดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นอย่างมาก เงินเฟ้อจึงมีแนวโน้มลดลงได้ดีกว่า ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ง่าย เพราะทางจีน-รัสเซียกำลังพยายามดันเงินเฟ้ออย่างเต็มที่ในศึกสงครามกับสหรัฐฯ และมีแนวโน้มสูงมากว่าฝั่งคอมมิวนิสต์จะทำทุกอย่างต่อไปเพื่อซัดให้ดอลลาร์จมดินให้ได้

เรือท่องเที่ยวล่ม ใน ‘อินเดีย’ เสียชีวิตอย่างน้อย 22 ราย ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ล่าสุดจนท.ยังคงเร่งหาผู้สูญหาย

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 66 เอเอฟพีรายงานว่า เกิดเหตุเรือสองชั้นบรรทุกนักท่องเที่ยวล่ม ทางตอนใต้ของเขตมาลัปปุรัมในรัฐเกรละ ประเทศอินเดีย เมื่อค่ำวันอาทิตย์ ประเมินว่ามีผู้โดยสารอยู่ราวๆ 30 คน ก่อนเรือพลิกคว่ำโดยไม่ทราบสาเหตุ

ชาวอินเดียหลายสิบคนในพื้นที่เกิดเหตุช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตทั้งบนเรือและบริเวณรอบๆ เรือที่จมอยู่ตลอดทั้งคืน และการค้นหาดำเนินต่อเนื่องจนถึงวันจันทร์

"เรากู้ศพได้แล้ว 22 ศพ แบ่งเป็นหญิง 15 รายและชาย 7 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 6 คนถูกนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ปฏิบัติการกู้ภัยยังดำเนินต่อไป" เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกับเอเอฟพี

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีครอบครัวหนึ่งเสียชีวิตพร้อมกัน 11 รายในเหตุการณ์นี้ โดย 3 รายในนั้นเป็นเด็ก

ผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งซึ่งอยู่บนเรือกับสามีและลูกสาวของเธอ บอกกับสื่อว่า ผู้โดยสารส่วนใหญ่บนเรือเป็นเด็ก และก่อนเกิดเหตุมีควันลอยออกมาจากเรือขณะเดินทาง พร้อมชี้แจงว่ารอดชีวิตมาได้เพราะสวมเสื้อชูชีพ

สถานีโทรทัศน์ของอินเดียระบุว่า ทีมกู้ภัย รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกองกำลังรับมือภัยพิบัติแห่งชาติและหน่วยยามฝั่งอินเดีย ใช้กล้องใต้น้ำเพื่อค้นหาผู้ที่ยังสูญหาย

วีดี เสถียรสรรค์ นักการเมืองจากพรรคฝ่ายค้านของรัฐเกรละ กล่าวว่า เหตุเรือล่มที่เกิดขึ้นป็นฝีมือมนุษย์ และเรียกร้องให้มีการสอบสวน "ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเรือลำนี้มีใบอนุญาตหรือไม่" เขากล่าวกับนักข่าวเมื่อวันจันทร์

ไขปมลอบสังหาร ‘จอห์น เอฟ เคนเนดี’ ‘หลานเคนเนดี’ บอก!! เป็นฝีมือของ CIA

‘โรเบิร์ต เคนเนดี จูเนียร์’ หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งสมัยหน้า 2024 อีกทั้งยังเป็นหลานชายแท้ๆ ของ ‘จอห์น เอฟ เคนเนดี’ อดีตประธานาธิบดีชื่อดังที่ถูกลอบสังหาร ได้ออกมาทิ้งระเบิด เปิดประเด็นลูกใหม่ว่า CIA อยู่เบื้องหลังการแผนการลอบสังหารครั้งนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย 

โรเบิร์ต เคนเนดี จูเนียร์ ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการวิทยุ ‘WABC 770 AM’ ของนิวยอร์กว่า มีหลักฐานต่างๆ มากมาย ที่ชี้ว่า CIA เกี่ยวข้องกับคดีลอบยิงอดีตผู้นำเคนเนดีที่เมืองดัลลัส ในรัฐเท็กซัส ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 1963 และความพยายามที่จะปกปิดหลักฐานเหล่านั้นด้วย 

อีกทั้งยังอ้างอิงหนังสือ ‘JFK and the Unspeakable’ ของ เจมส์ ดักกลาส ที่ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้นานถึง 12 ปี และพยายามเสนองานของเขาให้กับหลายสำนักพิมพ์ แต่ถูกปฏิเสธ กว่าจะได้ตีพิมพ์จริงในสำนักพิมพ์ Orbis Book ที่ก็เคยปฏิเสธงานของดักกลาสถึง 3 ครั้ง ซึ่งเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้กว่า 500 หน้า ได้กล่าวถึงแรงจูงใจ และความเป็นไปได้ที่ทั้ง CIA และหน่วยงานรัฐบาลอื่นๆ ต้องการกำจัดประธานาธิบดีคนที่ 35 คนนี้ แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ปิดคดีว่า นายลี ฮาร์วีย์ ออสวอล์ด เป็นผู้ลงมือสังหารแต่เพียงผู้เดียวในอีก 1 ปีต่อมา 

โรเบิร์ต เคนเนดี จูเนียร์ เป็นหนึ่งในครอบครัวเคนเนดี ที่เข้าสู่วงการการเมืองของสหรัฐฯ ปัจจุบันเป็นทนายด้านสิ่งแวดล้อม และสมาชิกพรรคเดโมแครต มีศักดิ์เป็นหลานชายของ จอห์น เอฟ เคนเนดี ซึ่งในวันที่ลุงของเขาถูกลอบสังหาร และเป็นข่าวดังไปทั่วโลกนั้น เขามีอายุเพียง 9 ปี และต่อมาเมื่อเขาอายุ 14 ปี พ่อของเขา ‘โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี’ หรือ บ๊อบบี้ ซึ่งเป็นน้องชายของจอห์น ก็มาถูกลอบสังหารเช่นเดียวกัน ขณะกำลังเดินสายหาเสียงเป็นตัวแทนพรรคในการชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐในปี 1968

อาเซียนจวกเละ!! ‘เขมร’ ใช้นักกีฬามะกันโอนสัญชาติลงแข่งบาส ด้านโค้ชกัมพูชา ชี้!! ตัดโอกาสคนในชาติเฉิดฉายในศึกซีเกมส์

หลังจากที่ทีมบาสเกตบอล 3x3 กัมพูชา ใช้นักกีฬาอเมริกันโอนสัญชาติ ทีมชาย 3 จาก 4 คน และทีมหญิงเป็นอเมริกันทั้ง 4 คน ที่โอนสัญชาติมา ทำให้คู่แข่งในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 วิจารณ์เรื่องนี้กันอย่างหนัก

(8 พ.ค. 66) นายนิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร หรือ ‘เฮียต่าย’ นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ถือเป็นการซื้อทีมสหรัฐอเมริกามาเลย ไม่ใช่แค่ในบาส 3x3 แต่ในบาส 5x5 ทีมชายก็มีนักกีฬาจากสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่มารวมทีมกันถึง 8 คน ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะชนะได้ แต่ก็อยากให้รอลุ้นเซอร์ไพรส์ของทีมไทย ถึงจะเสียเปรียบ ก็จะให้นักกีฬาสู้กันอย่างเต็มที่ ไม่แพ้ขาดถึงขั้นโดนด่าแน่นอน

‘โฮเรซ ฟุค ตัม เหวียน’ โค้ชยัดห่วงทีมหญิงเวียดนาม กล่าวว่า รู้สึกตกใจกับสิ่งที่กัมพูชาทำในครั้งนี้มาก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำผิดกฎหรือระเบียบของซีเกมส์แต่อย่างใด แต่ในอนาคตอยากให้มีการแก้ไขกฎเรื่องการให้โอกาสให้มีความชัดเจนและเหมาะสมกว่านี้

ส่อง ‘ความเหลื่อมล้ำ’ ใน ‘สวิตฯ’ ประเทศในฝันของหลายคน ที่แลกกับความทุกข์ทนของ ‘ผู้เสียภาษี’ ไปดูแลคนไร้จิตสำนึก

(8 พ.ค. 66) ผู้ใช้งานติ๊กต็อก บัญชี ‘KornnikarThewie’ ได้โพสต์วิดีโอพูดถึงประเด็นความเหลื่อมล้ำของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่งที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น โดยระบุว่า...

วันนี้เทวีได้อ่านข้อมูลจากเพจนึง เกี่ยวกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งส่วนตัวเทวี บอกตรงๆ ว่าเห็นด้วยมากๆ และมันก็เป็นอะไรที่บังเอิญมาก หรืออาจจะไม่บังเอิญก็ได้ เพราะเมื่อเช้านี้เพื่อนคนสวิตฯ ของเทวีก็เพิ่งพูดเรื่องนี้เหมือนกัน 

เพจนี้เล่าให้ฟังเกี่ยวกับสวิตเซอร์แลนด์ ว่า “ที่สวิตฯ เนี่ยจะไม่มีสลัมและไม่มีเด็กไร้บ้าน ไม่มีเคสที่เด็กยากจนและไม่มีทุนเรียนต่อต้องมาเรี่ยไร เราจะไม่มีวันได้ยินข่าวแบบนี้ที่สวิตเซอร์แลนด์ แต่ก็จะมีสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้าบ้าง”

อันนี้คือถูกต้องและสิ่งที่ถูกต้องมากกว่านั้นอีก คือเมื่อเช้านี้ เพื่อนผู้บริหารบริษัทของเทวี ที่มาจากสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งตอนนี้อยู่ที่บ้านเทวี ก็จะเตรียมกลับไปสวิตฯ พรุ่งนี้ เขาบอกว่า เขาเหนื่อย เขาเอือม กับการที่ประเทศของเขาให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้ จนคนในประเทศเหนื่อยล้ากับการที่จะต้องช่วยเหลือ และทำให้ทุกอย่างมันเท่าเทียมกัน 

จริงๆ แล้ว การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม เป็นเรื่องที่ยุติธรรม แต่บางคนที่ไม่มีงานทำ เพราะเขาเลือกงานอยู่ ขณะเดียวกันก็ไม่คิดหันมาดูแลตัวเองก่อนด้วย ก็ไม่มีใครอยากช่วยเหลือขนาดนั้นหรอกค่ะ เพราะเหมือนไปช่วยคนที่ไม่ได้รู้สึกสำนึกรู้คุณคนที่ต้องเสียภาษี 

เกี่ยวกับเรื่องนี้เทวีมีเคสที่ประสบกับตัวเองเยอะมาก ซึ่งอันนี้พูดจากประสบการณ์จริงของตัวเอง สมัยตอนอยู่สวิตเซอร์แลนด์ใหม่ๆ เทวีก็ได้รับสวัสดิการที่มาจากเงินภาษีของคุณสามี เพราะเราไปในฐานะของการเป็นภรรยาของคนสวิตฯ คุณรู้ไหมคะว่าความเจ็บปวดมันเริ่มขึ้น และทำให้เทวีเข้าใจคนสวิตฯ จริงๆ ตอนที่เทวีได้สวัสดิการนี้แหละค่ะ 

เขาให้ไปเรียนฟรี คือ คำว่าเรียนฟรี เทวีไม่ได้จ่ายเงินเอง ก็อาจจะเรียกมันว่าเรียนฟรี แต่จริงๆ แล้วคือ สามีชำระภาษีและคนสวิตฯ ทุกคนชำระภาษี เพื่อเอากองทุนตรงนี้มาเป็นกองทุนที่จะทำให้เกิดความเท่าเทียมและช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ 

เช่นเดียวกันกับที่สวิตเซอร์แลนด์ จะไม่มีคนจนที่ไม่มีอะไรกิน เพราะยังไงก็แล้วแต่ เขาจะไม่ปล่อยให้คุณอดตาย เขาจะช่วยคุณอย่างเต็มที่อย่างดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ด้วยการเอาภาษีมาแบกภาระตรงนี้ 

กลับมาในเรื่องของสิ่งที่เทวีได้รับรู้ก็คือ เทวีได้รับสวัสดิการให้ไปเรียนภาษาเยอรมัน ซึ่งก่อนหน้านี้คุณสามีจะจ่ายเงินให้เรียน เป็นคอร์สเรียนที่ไม่ได้เรียนฟรี ซึ่งมันเป็นเงินเยอะมากถ้าเราจ่ายเองคือ 10 สัปดาห์ ประมาณแสนกว่าบาท ต่อ 1 คอร์ส แล้วการเรียนมันก็จะมีหลายคอร์ส พอคอร์สที่ 2 สามีเริ่มรู้สึกแล้วว่ามันหนักมาก จ่ายไม่ไหว จึงส่งเทวีให้เข้ารับสวัสดิการของภาครัฐ 

แล้วก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เทวีต้องร้องไห้ และไม่อยากไปโรงเรียนอีกเลย ทั้งๆ ที่เทวีเป็นคนที่รักเรียนมาก เพราะเพื่อนในห้องของเทวีบางคนอยู่ในประเทศเขามา 30 ปีบ้าง 20 ปีบ้าง และยังพูดภาษาเขาไม่ได้ แล้วก็ไปเรียน (ยังคงไปเรียน) เพียงเพื่อรับสวัสดิการตรงนี้ เขาไม่อยากได้ความรู้ เขาเพียงแค่อยากได้เงินที่รัฐบาลจ่ายให้เขาเป็นค่ารถไปโรงเรียนในแต่ละวัน จ่ายเงินให้เป็นค่าอาหารกลางวันในแต่ละวัน และมันดีสุดยอดที่เขาไม่ต้องทำงาน เพราะว่าเขายังไม่ได้ภาษา เขาก็จะทำงานไม่ได้ นี่แหละคือความเหลื่อมล้ำกับคนที่จ่ายเงินภาษี 

ว่าแล้ว...พอเราหันมาดูประเทศไทย มีความเหลื่อมล้ำไหม ทุกที่มีความเหลื่อมล้ำ ประเทศไทยของเรามีขนาดใหญ่และประชากรก็มีเยอะมาก ซึ่งเยอะกว่าสวิตเซอร์แลนด์ไม่รู้กี่เท่า การที่เราจะดูแลและควบคุมทุกอย่างให้ได้ตามที่เราต้องการ มันจึงเป็นไปได้ยาก และถ้าดูแลก็จะเหมือนด้านมืดในสวิตเซอร์แลนด์ที่เทวีเล่ามา 

‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก’ ลงแข่งยูยิตสูครั้งแรกในชีวิต คว้าเหรียญทอง-เงิน มาได้!! หลังซุ่มฝึกกับแชมป์โลก

(8 พ.ค. 66) มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเฟซบุ๊ก เข้าร่วมการแข่งขันกีฬายูยิตสูครั้งแรก และสามารถคว้าทั้งเหรียญทอง และเหรียญเงิน มาครอบครองได้สำเร็จ

สำหรับซีอีโอหนุ่มวัย 38 ปี เริ่มต้นฝึกซ้อมศิลปะการป้องกันตัวแบบผสม หรือ MMA ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2022 ซึ่งเจ้าตัวหลงใหลในการต่อสู้เป็นอย่างมาก โดยมีการเปิดเผยว่าเขาซุ่มฝึกซ้อมกับแชมป์โลก วัน แชมเปียนชิพ อย่างมิคีย์ มูซูเมซี เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน เพื่อเตรียมตัวสำหรับทัวร์นาเมนต์ล่าสุด

แน่นอนว่าความพยายามของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ก็ประสบผลสำเร็จ เมื่อเจ้าตัวอัพภาพ พร้อมบรรยายผ่านแคปชันบนเฟซบุ๊กว่าเข้าร่วมการแข่งขันยูยิตสูเป็นครั้งแรกในชีวิต และสามารถคว้าทั้งเหรียญทองกับเหรียญเงิน ไปครอง

‘จีน’ ส่งออก ‘ลูกปลาจาระเม็ด’ ล็อตแรก 1 ล้านตัวสู่มาเลเซีย เสริมความมั่นคงด้านการค้าในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เมื่อวันที่ (6 พ.ค. 66) สำนักข่าวซินหัว, ไห่โข่ว มณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ทางตอนใต้ของจีน เดินเรือขนส่งลูกปลาจาระเม็ดที่เพาะเลี้ยงในไห่หนาน จำนวน 1 ล้านตัว มุ่งหน้าสู่จุดหมายในประเทศมาเลเซีย เมื่อวันศุกร์ (5 พ.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการส่งออกปลาจาระเม็ดครั้งแรกของไห่หนานในปีนี้

‘หยางกัง’ ผู้ทำงานร่วมกับสถานีตรวจสอบขาเข้า-ขาออกของเมืองซานย่า กล่าวว่า สถานีฯ ให้บริการพิธีการศุลกากรแบบครบวงจรสำหรับการจัดส่งลูกปลานี้ โดยกระบวนการผ่านพิธีการศุลกากรที่รวดเร็วช่วยลดต้นทุนของบรรดาผู้ส่งออก

‘บุคคลลึกลับ’ ที่วิ่งผ่านมินสเตอร์แอบบีย์ระหว่างพิธี คือใคร? โลกโซเชียลขบคิดไม่หยุด!! หรือว่านี่คือ ‘ทูตล่าวิญญาณ’

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 66 เอเจนซีส์ - กลายเป็นที่โจษจันไปทั่วโลกโซเชียลมีเดียระหว่างถ่ายทอดสดทางทีวี วันพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ มีคนตาดีเห็นคนสวมชุดคลุมยาวดำเห็นอยู่แต่ไกลวิ่งตัดผ่านไป ลือไปต่างๆนานาว่าอาจเป็น รีปเปอร์ทูตล่าวิญญาณ

ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานว่า ท่ามกลางกระแสพิธีวันบรมราชาภิเษกที่ยังคงคึกคักในอังกฤษ โลกโซเชียลมีเดียแดนผู้ดีต้องมาขบคิดกันอีกครั้งเมื่อเกิดมีคนตาดีบังเอิญเห็นภาพปริศนาระหว่างกำลังพิธีอยู่ด้านในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ที่ถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์บีบีซีของอังกฤษ

เป็นภาพปรากฎคนลึกลับสวมชุดคลุมยาวดำเห็นอยู่แต่ไกลวิ่งผ่านประตูมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ไปอย่างน่าพิศวง เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทหารอังกฤษในชุดเครื่องแบบทางการสีแดงกำลังเดินทางเข้าสู่พิธี การปรากฎตัวของบุคคลปริศนาที่ผ่านประตูโบสถ์ไปยังเป็นเวลาเดียวกันกับที่เหล่านักร้องประสานเสียงกำลังขับขานดังไปทั่วตัวอาคารโบสถ์ที่เก่าแก่

สื่ออังกฤษรายงานว่า ชาวเน็ตที่ได้เห็นต่างพูดไปต่างๆนานา มีบางคนชี้ว่าเป็นภาพของ กริม รีปเปอร์ (grim reaper) และมีบางส่วนชี้ไปว่า บุคคลลึกลับอาจเป็นเจ้าหญิงไดอานาที่ล่วงลับไปนานแล้วกลับมาปรากฎให้เห็นก็เป็นได้

นอกจากเรื่องเงาทูตล่าวิญญาณปรากฎที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์แล้ว ยังมีรายละเอียดที่น่าสนใจอื่นเป็นต้นว่า อ้างอิงจากสื่อ PA MEDIA รายงานว่า ดูเหมือนมหามงกุฎเซนต์เอ็ดเวิร์ด (St Edward’s Crown) ที่จะต้องถวายแด่พระเจ้าแผ่นดินอังกฤษพระองค์ใหม่ดูเหมือนจะเกิดปัญหาระหว่างพิธี

‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ชี้!! เกือบ 2,400 ธนาคารในสหรัฐฯ กำลังวิกฤต ลั่น!! เสี่ยงล้มละลาย แถมกองทุนสำรองยามฉุกเฉินก็ใกล้หมด 

(7 พ.ค. 66) เกือบครึ่งหนึ่งของธนาคาร 4,800 ธนาคารในสหรัฐฯ ใกล้ล้มละลาย ขณะที่พวกเขาผลาญเงินกองทุนส่วนเพิ่มเพื่อสํารองไว้ยามฉุกเฉิน (Capital buffer) เกือบหมดสิ้นแล้ว ตามรายงานของเทเลกราฟเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอ้างอิงความเห็นของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านธนาคาร

เทเลกราฟรายงานโดยอ้างความเห็นของศาสตราจารย์อามิต เซรู ผู้เชี่ยวชาญด้านธนาคารแห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ระบุว่าสถาบันการเงินของสหรัฐฯ ราวครึ่งหนึ่งจมอยู่ใต้น้ำ "อย่าอ้างว่านี่เป็นแค่เรื่องเกี่ยวกับซิลลิคอน วัลเลย์ แบงก์ และเฟิร์สต์ รีพับลิก" เขากล่าว "มากมายในระบบธนาคารของสหรัฐฯ มีความเป็นไปได้ว่าจะล้มละลาย"

เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม เฟิร์สต์ รีพับลิก ถูกคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านการเงินของสหรัฐฯ เข้ายึดและขายกิจการให้แก่เจพี มอร์แกน ธนาคารรายใหญ่ที่สุดของประเทศ หลังจากก่อนหน้านี้ เฟิร์สต์ รีพับลิก ได้รับสายเลี้ยงชีพ 30,000 ล้านดอลลาร์ จากกลุ่มสถาบันการเงินในวอลล์สตรีท ที่ให้ความช่วยเหลือผ่านรูปแบบของเงินฝาก แต่ก็ไปต่อไม่ไหว

การขายกิจการของเฟิร์สต์ รีพับลิก มีขึ้นตามหลังการแห่ถอนเงินในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นต้นตอที่ทำให้ธนาคารระดับภูมิภาค 2 แห่ง ซิลลิคอน วัลเลย์ แบงก์ และซิกเนเจอร์ แบงก์ ต้องล้มครืนภายในเวลาไม่กี่วัน

ในวันพฤหัสบดี (4 พ.ค. 66) ต้องมีการระงับซื้อขายหุ้นของธนาคารแพ็คเวสต์ ซึ่งมีสำนักงานในลอสแองเจลิส และธนาคารเวสเทิร์น อัลลิอันซ์ ที่มีสำนักงานในแอริโซนา หลังราคาดิ่งลงอย่างน่าตกตะลึง ขณะที่ก่อนหน้านั้นในช่วงต้นเดือน หุ้นของสถาบันการเงินระดับภูมิภาคของสหรัฐฯ หลายแห่งร่วงลงอย่างน้อย 15% โหมกระพือความกังวลในหมู่นักลงทุน เกี่ยวกับสถานะทางการเงินของบรรดาธนาคารขนาดกลางอื่นๆ

พิธีบรมราชาภิเษก ‘คิงชาร์ลส์-ควีนคามิลลา’ เริ่มขึ้นแล้ว พสกนิกรเนืองแน่นตลอดเส้นทางสู่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์

(6 พ.ค. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา แห่งสหราชอาณาจักร ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นไปตามโบราณราชประเพณีที่สืบทอดมายาวนานกว่าหนึ่งพันปี และเป็นพระราชพิธีครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 70 ปีของสหราชอาณาจักร ได้เริ่มขึ้นแล้วเมื่อเวลา 10.20 น.ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 16.20 น.ตามเวลาในไทย

‘จามา เน็ตเวิร์ค’ เผยผลการศึกษาของ ‘วัคซีนโควิด-19’ ชี้ ประสิทธิภาพต้าน ‘โอไมครอน’ ลดทันทีหลังฉีด 6 เดือน

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 66 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลการศึกษาใหม่ที่เผยแพร่ในวารสารการแพทย์จามา เน็ตเวิร์ค (JAMA Network) เมื่อวันพุธ (3 พ.ค. 66) ชี้ว่าวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอนลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อเวลาผ่านไป

หวิดดรามา!! ‘กัมพูชา’ รีบขอโทษ ‘อินโดนีเซีย’ หลังติดธงชาติกลับด้านกลายเป็นโปแลนด์

(6 พ.ค. 66) แม้ว่าพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่สนามกีฬามรดกเตโช กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จะจบลงอย่างน่าประทับใจ ซึ่งเจ้าภาพกัมพูชาทำได้อย่างยิ่งใหญ่ และได้รับเสียงชื่นชมมากมาย

อย่างไรก็ตาม ในพิธีเปิดนั้นปรากฏว่าเกิดข้อผิดพลาดของเจ้าภาพให้เห็นอยู่บ้าง เมื่อผู้แสดงรายหนึ่งซึ่งควรจะถือธงอินโดนีเซีย แต่ธงดังกล่าวดันกลับด้าน จนดูเหมือนเป็นธงชาติโปแลนด์ ก่อนที่เวลาต่อมาจะมีการแก้ไขให้ถูกต้องก่อนที่การแสดงจะจบลง

คิงชาร์ลส์ที่ 3 เสด็จทักทาย-ขอบคุณประชาชน ก่อนบรมราชาภิเษก พสกนิกรนับพันแห่ร่วมยินดีและรอเป็นสักขีพยานในพระราชพิธีฯ ครั้งนี้

(6 พ.ค. 66) สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 เสด็จพระราชดำเนินออกมาตรัสขอบคุณเหล่าพสกนิกรที่ปรารถนาดี ที่ออกมาแสดงความสนับสนุนปักหลักบริเวณด้านนอกพระราชวังบัคกิงแฮม ตั้งแต่คืนวันศุกร์ (5 พ.ค.) ก่อนหน้าพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของกษัตริย์สหราชอาณาจักรพระองค์ใหม่ในวันเสาร์นี้ (6 พ.ค.)

รายงานข่าวระบุว่า สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 เสด็จพระราชดำเนินขอบคุณเหล่าพสกนิกร ร่วมกับเจ้าชายวิลเลียม และเจ้าหญิงเคท มิดเดิลตัน เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ โดยทรงพระสรวลและยื่นพระหัตถ์จับมือกับเหล่าพสกนิกรด้วยความเป็นกันเอง

ประชาชนบางส่วนถือธงยูเรียนแจ็คและสวมมงกุฎเทียม รวมถึงร้องเพลง God Save the King ถวายแด่กษัตริย์พระองค์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักร โดยในการเสร็จในครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยระดับสูง ภายใต้การเฝ้าระวังโดยรถตำรวจหลายสิบคัน และตำรวจบนรถจักรยานยนต์อีกจำนวนหนึ่ง

เจาะประวัติ St Edward’s Chair บัลลังก์ประวัติศาสตร์ อายุ 700 ปี พระราชอาสน์ที่สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 จะทรงประทับ

#บัลลังก์ประวัติศาสตร์ อายุ 700 ปี #บัลลังก์เซนต์เอ็ดเวิร์ด St Edward’s Chair หรือ บัลลังก์ราชาภิเษก The Coronation Chair เป็นพระราชอาสน์ที่สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 จะทรงประทับ ขั้นตอนของการสวมพระมหามงกุฎในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของกษัตริย์อังกฤษพระองค์ใหม่ ที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ในวันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม 2566 นี้

พระราชอาสน์เซนต์เอ็ดเวิร์ดนั้น เชื่อกันว่าเป็นเครื่องเรือนอายุเก่าแก่ที่สุดในสหราชอาณาจักรที่ยังถูกใช้งานตามวัตถุประสงค์ดั้งเดิมอยู่ โดยมีกษัตริย์อังกฤษถึง 26 พระองค์ ที่ได้ประกอบพิธีราชาภิเษกบนบัลลังก์นี้

พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 โปรดให้สร้างพระราชอาสน์เซนต์เอ็ดเวิร์ดขึ้นในช่วงยุคกลาง เพื่อใช้บรรจุ 'ศิลาแห่งชะตาลิขิต' Stone of Destiny หรือ หินแห่งสโคน (Stone of Scone) ซึ่งเป็นพระแท่นศิลาราชาภิเษกของกษัตริย์สกอตแลนด์ที่ทรงนำมาจากนครหลวงเก่าของชาวสกอต หลังทรงชนะศึกพิชิตดินแดนทางเหนือได้สำเร็จ รัฐบาลอังกฤษได้ส่งคืนศิลาแห่งชะตาลิขิตให้กับทางการสกอตแลนด์ไปเมื่อปี 1996 แต่มันจะถูกนำกลับมายังกรุงลอนดอนเป็นการชั่วคราว เพื่อประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในครั้งนี้

พระราชบัลลังก์ได้รับชื่อภายหลังตามพระนามของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้สารภาพ Edward the Confessor ผู้เป็นพระมหากษัตริย์อังกฤษพระองค์เดียวที่ได้รับการสถาปนาให้เป็นนักบุญ ตัวบัลลังก์เก็บไว้ที่ชาเปลเซนต์เอ็ดเวิร์ดในแอบบีเวสต์มินสเตอร์ พระมหากษัตริย์อังกฤษและพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักรทุกพระองค์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1308 ต่างก็ประทับบนบัลลังก์นี้เมื่อได้รับการสวมมงกุฎอย่างเป็นทางการ ยกเว้นพระราชินีนาถแมรีที่ 1 ผู้ทรงเลือกประทับบนบังลังก์ที่ได้รับการประทานจากพระสันตะปาปา และพระราชินีนาถแมรีที่ 2 ผู้ประทับบนบังลังก์ที่สร้างเลียนแบบบัลลังก์เซนต์เอ็ดเวิร์ด วาระสุดท้ายที่บัลลังก์นี้ใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์คือในพระราชวโรกาสที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงทำพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในปี ค.ศ. 1953

บัลลังก์เป็นเก้าอี้หลังตรงแบบกอธิคทำจากไม้โอ้คโดยช่างไม้ชื่อมาสเตอร์วอลเตอร์ผู้ได้รับค่าจ้างเป็นจำนวน 100 ชิลลิง ตัวบัลลังก์ตั้งอยู่บนสิงห์ปิดทองสี่ตัวซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับการซ่อมแซมในปี ค.ศ. 1727 แทนสิงห์ที่มาเพิ่มในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ภายใต้ที่นั่งเป็นช่องสำหรับวางหินแห่งสโคนจนกระทั่งปี ค.ศ. 1996 เมื่อถูกส่งคืนไปยังสกอตแลนด์โดยมีข้อแม้ว่าต้องถูกส่งกลับในโอกาสที่จะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งต่อไป 

‘รัสเซีย’ ชี้!! ‘สหรัฐฯ-ยูเครน’ ร่วมกันวางแผนปลิดชีพ ‘ปูติน’ หลังเกิดเหตุ ‘โดรน’ โจมตีทำเนียบเครมลินในกรุงมอสโก

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 66 สำนักข่าวซินหัว, มอสโก/วอชิงตัน รายงานว่า นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินของประเทศรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียมีหลักฐานบ่งชี้ว่า ‘สหรัฐฯ และยูเครน’ อยู่เบื้องหลังเหตุอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนโจมตีทำเนียบฯ เมื่อไม่นานนี้

เพสคอฟ กล่าวว่า รัสเซียได้รับข้อมูลจากหน่วยงานพิเศษ ซึ่งเกี่ยวกับความพยายามโจมตีทำเนียบฯ ด้วยโดรนเมื่อวันพุธ (3 พ.ค.) โดยสหรัฐฯ ควรรู้ว่า รัสเซียตระหนักถึงการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ ในเหตุก่อการร้ายดังกล่าว และสหรัฐฯ ต้องเข้าใจว่ามันอันตรายเพียงใด

เมื่อวันพุธ (3 พ.ค.) สำนักประชาสัมพันธ์ประจำประธานาธิบดีรัสเซีย ระบุว่า ยูเครนพยายามลอบสังหารวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ด้วยการใช้โดรน 2 ลำ โจมตีทำเนียบฯ ซึ่งหน่วยงานทางทหารและหน่วยงานพิเศษสามารถยับยั้ง โดรนทั้ง 2 ด้วยยุทธวิธีทางเรดาร์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top