เรื่อง: อนุดี เซียสกุล อดีต Radio Journalist, วิทยุบีบีซีภาคภาษาไทย
พระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ ๒ ของอังกฤษในวันจันทร์ที่ ๑๙ กันยายนนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นพระราชพิธีที่ไม่อาจจะเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ใด ๆ ที่ผ่านมาได้
ในกรุงลอนดอน วิหารเวสต์มินสเตอร์ในเวลา ๑๑ โมงเช้าจะเนื่องแน่นไปด้วยแขกที่พระราชวังบักกิงแฮมเชิญจำนวน ๒,๐๐๐ คน นอกจากนี้ยังมีบรรดาแขกระดับสูงจากต่างประเทศอีก ๕๐๐ คนและนายทหารประจำการอีก ๔,๐๐๐ คนและคาดว่าอีกหลายพันล้านคนที่จะชมพระราชพิธีนี้ทางสื่อต่าง ๆ
ลอร่า กุนสเบิร์ก Laura Kuenssburge ผู้ดำเนินรายการดังของโทรทัศน์บีบีซีชื่อ Sunday morning politic show เขียนรายงานของเธอว่า ที่วิหารเวสต์มินสเตอร์ในวันจันทร์นี้แม้ว่าจะเป็นเวลาของความเศร้าโศกในการไว้อาลัยต่อสมเด็จพระราชินีฯ ที่จากไป แต่ขณะเดียวกันในพระราชพิธีนี้จะเป็นช่วงเวลาที่บรรดาประมุขของประเทศ, ประธานาธิบดี, นายกรัฐมนตรี และนักการเมืองระดับสูงมาร่วมชุมนุมกันอันมีความหมายว่า นอกจากจะไว้อาลัยต่อประมุขของประเทศที่มีบทบาทสำคัญในเวทีโลกและแทบจะทุกประเทศในโลกรู้จักพระองค์เป็นอย่างดีแล้ว เหตุการณ์ในวันจันทร์นี้ ทุกสื่อจะจับจ้องมาที่กรุงลอนดอนและบุคคลที่มางานนี้ ก็จะถูกมองเห็นไปทั่วโลก ซึ่งเป็นโอกาสที่หาได้ไม่ง่ายนัก
นักการทูตคนหนึ่งบอกกับลอร่าว่า ผู้ที่ไม่ได้มาร่วมครั้งนี้อาจพลาดภาพประวัติศาสตร์ของยุคนี้ไปเลย และที่เขาเคยเห็นในการประชุมสุดยอดของผู้นำประเทศต่าง ๆ ในหลายครั้ง ผู้นำบางประเทศจะพยายามเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีฯ ให้ใกล้ที่สุด บางคนถึงกับจะสะกิดคนที่เฝ้าอยู่ใกล้ ๆ แล้วให้ถอยห่างออกมาเพื่อให้ตนได้เข้าไปแทนที่บ้าง สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถทางด้านการทูตที่จะหาใครเปรียบเทียบได้กับพระองค์
ในรายงานข่าวชิ้นนี้ ทำให้เห็นอีกว่าแขกระดับสูงไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดีหรือนายกรัฐมนตรีจะเดินทางด้วยรถบัสมายังวิหารเวสต์มินสเตอร์อย่างเท่าเทียมกัน เนื่องจากจำนวนแขกมีมากเกินกว่าจะใช้รถส่วนตัวเฉพาะบุคคลได้ แต่ขณะเดียวกันอาจมีผลดีทางด้านการทูตอยู่ไม่น้อย เพราะบรรดาผู้นำเหล่านี้อาจใช้ช่วงเวลานี้พูดเจรจาความเมืองต่อกันอย่างใกล้ชิด แม้จะไม่มาก แต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่นำไปสู่การเจรจาหลักต่อไปได้
เมื่อดูรายพระนาม และรายนามของแขกที่ตอบรับว่าจะเสด็จหรือมาร่วมในพระราชพิธีพระบรมศพในวันจันทร์ที่ ๑๙ กันยายนนี้แล้ว เห็นได้ว่าเป็นการชุมนุมของประมุขของประเทศในยุโรปและเอเชีย และผู้นำประเทศครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง ซึ่งถ้าท่านผู้อ่านได้ดูการถ่ายทอดทางโทรทัศน์คงได้เห็นบรรดาแขกเหล่านี้
สำหรับแขกคนหนึ่งที่ได้รับเชิญเช่นกันคือ เอิร์ล แห่งสเปนเซอร์ หรือน้องชายของเจ้าหญิงไดอาน่าผู้ล่วงลับ แม้ว่าอาจมีความสัมพันธ์ที่ไม่สนิทนักกับอดีตพี่เขย คือ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๓
ส่วนแขกอีกคนหนึ่งที่จะขาดไม่ได้คือ แองเจลา เคลลี่ ผู้ช่วยส่วนพระองค์และช่างเสื้อพระจำพระองค์เป็นเวลา ๓๐ ปี กล่าวกันว่าแองเจล่าเป็นผู้ที่สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ ๒ ทรงให้ความไว้ว่างใจมากคนหนึ่งหรืออาจเรียกได้ว่าเป็นคนสนิทก็ได้ และแองเจล่าผู้นี้ได้ถวายคำแนะนำเรื่องฉลองพระองค์และพระมาลาจนนำมาสู่จุดเด่นเป็นแฟชั่นและได้รับการยกย่องว่าเธอออกแบบฉลองพระองค์และพระมาลาได้อย่างงดงาม
นอกจากนี้ ยังมีแขกอีกคนหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ นั่นก็คือ จอห์น วอเรน ผู้ที่เป็นทั้งพระสหาย ที่ปรึกษาและผู้จัดการม้าแข่งของพระราชินี
มีการเปิดเผยว่านอกจากจะมีรายชื่อแขกที่ถูกเชิญแล้ว ก็ยังมีรายนามของประเทศที่สำนักพระราชวังบักกิงแฮมไม่เชิญด้วยเช่นกัน อาทิ ผู้นำรัสเซีย, เบราลุส, เมียนมา
อย่างไรก็ดีได้มีการเชิญผู้นำจีนอย่างนายสีจิ้นผิง แต่ผู้นำจีนก็ได้ให้รองประธานาธิบดีมาร่วมงานแทน เช่นเดียวกันกับเกาหลีเหนือ ที่ส่งเพียงเอกอัครราชทูตมาแทน ขณะที่ประเทศซึ่งถูกจับตามองอย่างมากอีกประเทศหนึ่งคือซาอุดีอาระเบีย โดยพระราชวังบักกิงแฮมได้ทูลเชิญเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานมกุฎราชกุมารผู้ที่กำลังมีบทบาทสำคัญในประเทศ แต่คาดกันว่าเจ้าชายจะไม่เสด็จมา หลังพระองค์ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการเสียชีวิตของนักข่าวที่ชอบวิจารณ์ราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย