Tuesday, 1 July 2025
WORLD

เครมลินชี้!! ชาติตะวันตกเริ่มยอมรับความจริง แม้พยายามหนัก แต่ไม่สามารถเอาชนะรัสเซียได้

(30 มิ.ย. 68) รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ (Sergey Lavrov) กล่าวระหว่างเยือนคีร์กีซสถานว่า ชาติตะวันตกเริ่มตระหนักว่า ไม่สามารถเอาชนะรัสเซียในเชิงยุทธศาสตร์ได้ แม้จะพยายามใช้อาวุธและสนับสนุนรัฐบาลยูเครนที่ลาฟรอฟกล่าวหาว่าเป็น “ระบอบนาซี” เพื่อบีบให้รัสเซียพ่ายแพ้ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยสำเร็จ และครั้งนี้ก็จะล้มเหลวอีกเช่นกัน

ลาฟรอฟยืนยันว่ารัสเซียพร้อมร่วมมืออย่างจริงใจในการหาทางยุติสงครามในยูเครน แต่จะไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของเกมการเมืองที่ผู้นำยุโรปบางรายพยายามกดดันให้รัสเซียเข้าร่วม พร้อมโจมตีผู้นำฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง และนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ฟรีดริช แมร์ทซ์ ว่าไม่มีเหตุผล และกำลังพยายามรื้อฟื้นอิทธิพลเดิมของยุโรปในแบบที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

นอกจากนี้ ลาฟรอฟยังหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศคีร์กีซถึงประเด็นแรงงานข้ามชาติ โดยระบุว่ารัสเซียยินดีต้อนรับแรงงานจากประเทศพันธมิตร แต่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด พร้อมหารือเรื่องสถานการณ์ในยูเครน อิหร่าน และปัญหาปาเลสไตน์

ลาฟรอฟแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลคีร์กีซที่มีท่าทีเป็นกลางและไม่เข้าข้างฝ่ายใดในความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย โดยการเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 29–30 มิถุนายน และเขายังเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศขององค์กรสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมกัน (CSTO) อีกด้วย

ศาลอิสราเอลเลื่อนสืบคดี ‘เนทันยาฮู’ อ้างติดภารกิจดูแลเรื่องความมั่นคงชาติ

(30 มิ.ย. 68) ศาลกรุงเยรูซาเลม มีคำสั่งเลื่อนการไต่สวนคดีทุจริตของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ซึ่งเดิมมีกำหนดในสัปดาห์นี้ หลังเจ้าตัวยื่นคำร้องขอเลื่อน โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ และได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกคดี พร้อมยกย่องเนทันยาฮูว่าเป็น “วีรบุรุษ”

ทีมกฎหมายของเนทันยาฮูให้เหตุผลว่า นายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องทุ่มเทเวลาทั้งหมดในการจัดการปัญหาทางการเมืองและความมั่นคง โดยเฉพาะหลังจากเกิดการสู้รบกับอิหร่านที่เพิ่งยุติลงด้วยข้อตกลงหยุดยิง และสถานการณ์ในฉนวนกาซาที่ยังมีตัวประกันชาวอิสราเอลถูกจับอยู่

ก่อนหน้านี้ศาลเคยปฏิเสธคำขอเลื่อนการไต่สวนของเนทันยาฮู แต่ภายหลังเปลี่ยนใจเมื่อได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าตัว รวมถึงหัวหน้าหน่วยข่าวกรองทหารและผู้อำนวยการมอสซาด (Mossad) ซึ่งยืนยันว่าเขาจำเป็นต้องทุ่มเทเวลาให้กับภารกิจด้านความมั่นคง จึงเห็นควรให้เลื่อนการไต่สวนออกไปก่อนในช่วงนี้

สำหรับคดีของเนทันยาฮูมีหลายประเด็น โดยหนึ่งในนั้นคือการรับของขวัญหรูมูลค่ากว่า 260,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.49 ล้านบาท) จากนักธุรกิจ แลกกับผลประโยชน์ทางการเมือง อีกทั้งยังถูกกล่าวหาว่าพยายามต่อรองให้สื่อบางสำนักเสนอข่าวเชิงบวก ขณะที่เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และมองว่าคดีนี้มีแรงจูงใจทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง โดยที่ผ่านมาเขาเคยขอเลื่อนการพิจารณาคดีมาแล้วหลายครั้งนับตั้งแต่ปี 2020

‘ทรัมป์’ ยืนกรานเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ญี่ปุ่น 25% เสนอทางรอด!! ซื้อสินค้าอเมริกันแทนโดนภาษีอัตราสูง

(30 มิ.ย. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกโรงวิจารณ์การค้ารถยนต์ระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่นว่าไม่เป็นธรรม โดยระบุว่าสหรัฐฯ รับรถยนต์จากญี่ปุ่นนับล้านคันทุกปี แต่ญี่ปุ่นกลับไม่เปิดตลาดรับรถจากอเมริกาเท่าที่ควร พร้อมขู่ว่าจะยังคงเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มอีก 25% ต่อไป

ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ว่า สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก และเชื่อว่ารัฐบาลญี่ปุ่นก็รู้เรื่องนี้ดี เขายังพูดเชิงประชดว่า “ผมอาจส่งจดหมายถึงญี่ปุ่นว่า คุณต้องจ่ายภาษีนำเข้ารถยนต์ 25%” ซึ่งสื่อว่าเขาจะไม่ยอมลดหรือยกเลิกภาษีนำเข้ารถยนต์จากญี่ปุ่นตามที่ญี่ปุ่นร้องขอ

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวว่า ญี่ปุ่นควรช่วยลดการขาดดุลการค้าด้วยการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ให้มากขึ้น เช่น น้ำมันหรือสินค้าอุตสาหกรรม พร้อมย้ำว่าเขาสามารถประกาศเก็บภาษีได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องพบหรือหารือกับผู้นำประเทศคู่ค้าเหล่านั้นโดยตรงก่อน

ทรัมป์ยังระบุอีกว่า เขาเตรียมส่งจดหมายแบบเดียวกันไปยังประเทศคู่ค้ารายอื่น ๆ ที่ตั้งภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ไว้สูง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลของเขาจะเดินหน้านโยบายกดดันด้านการค้าอย่างจริงจัง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เป็นหลัก

เยอรมนีจี้ Apple–Google แบน DeepSeek หวั่นข้อมูลผู้ใช้ถูกส่งกลับจีน!! ชี้ละเมิดกฎหมายคุ้มครอง

(30 มิ.ย. 68) เยอรมนีออกคำเตือนถึง Apple และ Google ให้พิจารณาแบนแอป AI จากจีนชื่อ DeepSeek หลังพบว่ามีการส่งข้อมูลผู้ใช้ในเยอรมนีกลับไปยังจีนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อกำหนดด้านการปกป้องข้อมูลของสหภาพยุโรป (GDPR) โดยสำนักงานคุ้มครองข้อมูลของกรุงเบอร์ลินระบุว่า DeepSeek ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าข้อมูลของผู้ใช้ชาวเยอรมันจะปลอดภัยเมื่อถูกส่งไปยังจีน

DeepSeek ได้รับความสนใจมากขึ้นหลังเปิดตัวโมเดล AI ราคาประหยัดที่อ้างว่าพัฒนาได้ด้วยต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่ง และปล่อยแอปแชตบอตที่มีผู้ดาวน์โหลดหลายล้านครั้งทั่วโลก อย่างไรก็ตาม แอปนี้มีการส่งข้อมูลผู้ใช้งานกลับไปยังจีน ซึ่งทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐจีนอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ในยุโรปได้ เรื่องนี้ขัดต่อกฎหมาย GDPR ของสหภาพยุโรป ซึ่งกำหนดให้ต้องมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลอย่างเข้มงวดก่อนจะส่งข้อมูลออกนอกยุโรป

ปัจจุบันหน่วยงานกำกับข้อมูลของเยอรมนีได้แจ้ง Apple และ Google ถึงข้อกล่าวหาดังกล่าวแล้ว และคาดหวังว่าทั้งสองบริษัทจะรีบดำเนินการตรวจสอบว่าแอปพลิเคชั่น DeepSeek ควรถูกถอดออกจาก App Store และ Play Store หรือไม่ หากทั้งสองบริษัทดำเนินการตามคำแนะนำ ก็เท่ากับเป็นการแบน DeepSeek ทั่วทั้งสหภาพยุโรป

ทั้งนี้ DeepSeek เคยเผชิญปัญหาลักษณะเดียวกันมาแล้วในยุโรป โดยอิตาลีเคยสั่งระงับแอปดังกล่าวในประเทศเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และไอร์แลนด์ก็เคยขอข้อมูลด้านการประมวลผลข้อมูลจากบริษัทในช่วงต้นปีที่ผ่านมา หากแนวโน้มการตรวจสอบยังดำเนินต่อไป อาจส่งผลให้ DeepSeek สูญเสียตลาดสำคัญในยุโรปและสหราชอาณาจักรในไม่ช้า

จีนปลด ‘พลเรือเอกเมี่ยว ฮัว’ พ้นคณะทหารสูงสุด ปมละเมิดวินัยร้ายแรง เอี่ยวคอร์รัปชันกองทัพ

(30 มิ.ย. 68) รัฐสภาสูงสุดของจีนมีมติปลด “พลเรือเอกเมี่ยว ฮัว” (Miao Hua) เจ้าหน้าที่ทหารอาวุโสวัย 69 ปี ออกจากตำแหน่งในคณะกรรมาธิการทหารกลาง ซึ่งเป็นองค์กรบัญชาการสูงสุดของกองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLA) หลังมีรายงานว่าเขาถูกสอบสวนเรื่อง “การละเมิดวินัยอย่างร้ายแรง” ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอุดมการณ์ทางการเมืองของ PLA

การปลดพลเรือเอกเมี่ยว ฮัว ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการเดินหน้ากวาดล้างคอร์รัปชันภายในกองทัพ โดยตลอดช่วงที่ผ่านมา มีทั้งนายพลระดับสูงและผู้บริหารในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศหลายรายถูกสอบสวนและถอดถอน ซึ่งเมี่ยวฮัวเองเคยร่วมงานกับสี จิ้นผิง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในมณฑลฝูเจี้ยน และเป็นบุคคลที่สี จิ้นผิงผลักดันให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งระดับสูงในกองทัพ

นอกจากพลเรือเอกรายนี้แล้วยังมีรายงานว่า “หลี่ ฮั่นจวิน” (Li Hanjun) รองผู้บัญชาการกองทัพเรือ ก็ถูกปลดจากสถานะผู้แทนรัฐสภา ขณะที่อีกหนึ่งนายพลระดับสูง “เหอ เว่ยตง” (He Weidong) ซึ่งเป็นอันดับสองในคณะกรรมาธิการทหารกลาง หายตัวไปจากสาธารณะตั้งแต่เดือนมีนาคม และยังไม่มีความชัดเจนว่าเขาเกี่ยวข้องกับการสอบสวนใด ๆ หรือไม่ แม้โฆษกกลาโหมจีนจะอ้างว่า “ไม่ทราบ” เรื่องข่าวการควบคุมตัว

ทั้งนี้ จีนเคยปลดรัฐมนตรีกลาโหมมาแล้วสองคนจากกรณีคอร์รัปชัน หนึ่งในนั้นคือ “หลี่ ซางฝู” (Li Shangfu) ที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ ส่วนรัฐมนตรีกลาโหมคนปัจจุบัน “ตง จวิ้น” (Dong Jun) ยังปรากฏตัวในงานต่าง ๆ และเพิ่งเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีกลาโหมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้เมื่อไม่นานมานี้ ท่ามกลางกระแสจับตาเกี่ยวกับความโปร่งใสในกองทัพจีนที่ยังคงเป็นปริศนา

วิเคราะห์!! ‘ฮุนเซน’ เพลี่ยงพล้ำ หรือ ตามบท เกิดอะไรขึ้น!! ทำไม?? ถึงทำแบบนี้

(29 มิ.ย. 68) ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา หลายๆคนจะได้เห็นข่าวในสื่อออนไลน์ที่ฮุนเซนออกมา Live รัวๆต่อว่าตระกูลชินวัตรและนายทักษิณต่างๆนานา  วันนี้เอย่าจะมานั่งวิเคราะห์กันชอตต่อชอตถึงสิ่งที่ฮุนเซนทำนั้น  เกิดอะไรขึ้นทำไมฮุนเซนถึงทำแบบนี้

ย้อนรอยกันก่อนว่าเรื่องราวทั้งหมดระหว่างกัมพูชากับไทยเริ่มตั้งแต่คุณแพรทองธารเข้ามาเก้าอี้นายกรัฐมนตรี  ฝั่งกัมพูชาก็เริ่มมีการส่งคนมาที่ปราสามตาเมือนธม และ ปราสาทตาควาย

จนกระทั่งกองทัพกัมพูชาเอากองทัพมาขุดสนามเพาะและนั่นคือจุดที่กองทัพสุดจะทนเพราะรุกล้ำอธิปไตยจนเกินเหตุ  จากนั้นเหตุการณ์เป็นเช่นไรก็อย่างืฝที่ทุกคนได้ตามข่าวมานั่นแล

แต่ที่น่าสงสารคืออาทิตย์ที่ผ่านมานี้ฮุนเซนเปลี่ยนบทออกมา Live  ต่อว่าผู้นำรัฐบาลและครอบครัวอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อนจนเหมือนลืมไปว่าเฮ้ยนี่ญาติแกนะ

เอย่าในฐานะที่คลุกคลีตีโมงกับเรื่องพรรค์นี้มาพอสมควรวันนี้ก็จะมาวิเคราะห์ให้อ่านกันนะคะ

เริ่มว่าถ้าหากทะเลาะกันจริงเหตุผลก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับธุรกิจสีเทาหรือคาสิโนตามริมชายแดน อย่าลืมนะคะว่าฮุนเซนเก็บค่าเช่าที่ อารมณ์เหมือนเจ้าของตึกแถวบรรทัดทองนั่นละคะ ขายดีไหมไม่ใช่ปัญหาของเจ้าของตึกเพราะงั้นเรื่องนี้ที่มีคนบางคนวิเคราะห์ออกมาตีตกไปได้เลย  ส่วนข้ออื่นที่จะทะเลาะกันเอย่าพยายามคิดแล้วคิดอีกก็ยังหาไม่เจอ  ยกเว้นเสียแต่รู้ว่าครอบครัวฝั่งไทยกำลังเพลี่ยงพล้ำแล้วเลยเล่นบทตัดญาติเสียเลย

แต่อย่าลืมนะคะจนถึงวันนี้ฮุนเซนยังไม่ได้พูดอะไรที่คนไทยไม่รู้เลยออกมา  สิ่งที่ออกจากปากฮุนเซนวันนี้คือทุกเรื่องที่คนไทยทราบมาก่อนแล้ว  แต่เขาเอาทาพูดอีกทีในมุมเขาเองก็แค่นั้น  เพราะฉะนั้นเอย่ามองว่าฮุนเซนกำลังเพลี่ยงพล้ำไหม ไม่ใช่เลยแต่น่าจะเป็นสคริปต์ที่เตี๊ยมกันไว้แล้วกับฝั่งไทยเสียมากกว่า

มา ณ วันนี้เอย่าอยากให้ผู้อ่านลองมองนะคะ  เขาพยายามแซงชั่นไทยทุกอย่าง  แต่อย่าลืมว่าเขาอาจจะมีดีลประเทศอื่น supply ไว้และตระกูลฮุนได้ประโยชน์อยู่แล้วก็เป็นได้  นี่จึงเป็นแค่สถานการณ์เตะหมูเข้าปากหมาแบบเสียมิได้เสียด้วย

ในวันนี้เรื่องที่น่าจับตาก็คือ ผู้ที่พยายามสร้างบทเด่นขึ้นมาในช่วงนี้มากกว่าจนหลายคนอดสงสัยว่ารับงานใครมาหรือเปล่า  เพราะขนาดสงครามอิหร่าน อิสราเอล และอเมริกา ยังกลายเป็นปาหี่กองใหญ่ได้ ไฉนเลยงานนี้อาจจะมีมวยล้มต้มคนดูให้เคลิ้มไปกับสถานการณ์ก็เป็นได้เพราะดูเหมือนพยายามสร้างเงื่อนไขให้กองทัพยึดอำนาจเสียเหลือเกิน

แต่ไม่ต้องห่วงคะจากที่เอย่านำเสนอไปกองทัพก็รับรู้เช่นกันและยังยืนยันคำเดิมว่า

"คนไทยควรได้เรียนรู้และรับผลจากสิ่งที่คุณเลือกมา  เวลานี้ทหารขอทำงานตามขอบเขตของตนพอแล้ว ไม่ขอก้าวก่ายการเมืองอีก"

หากฉันชนะการเลือกตั้ง จะจับกุม ‘เนทันยาฮู’ เมื่อเดินทางมานิวยอร์ก และขอสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ทุกคน ที่ทำให้ชนะการเลือกตั้ง

(29 มิ.ย. 68) ดร.เลอพงษ์ ซาร์ยีด นักวิชาการชาวไทย ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอิหร่าน ได้โพสต์ข้อความ โดยได้ระบุว่า ...

เมื่อ Zohran mamdani ผู้ลงชิงสมัครการเลือกตั้งผู้ว่ารัฐนิวยอร์กที่เป็นมุสลิมจากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งและเป็นตัวแทนจากพรรค (รอประกาศผลอย่างเป็นทางการ)

Zohran ประกาศช่วงหาเสียงว่า "หากฉันชนะการเลือกตั้ง จะจับกุมเนทันยาฮู เมื่อเดินทางมานิวยอร์ก และขอสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ทุกคนที่ทำให้ชนะการเลือกตั้ง" (เลือกตั้งช่วงเดือนพฤศจิกายน) 

การประกาศของ Zohran ทำให้ทรัมป์จากพรรคริพับลิกันไม่พอใจที่จะจับกุมสุดที่รัก

นักวิชาการไทย ในอิหร่าน โพสต์เฟซ!! เผยข้อมูลสำคัญ ชี้!! ‘อิหร่าน’ สนใจจะซื้อระบบป้องกันภัย HQ-16 จากจีน

(28 มิ.ย. 68) ดร.เลอพงษ์ ซาร์ยีด นักวิชาการชาวไทย ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอิหร่าน ได้โพสต์ข้อความ เกี่ยวกับ HQ-16 ระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ (SAM) พิสัยกลางของจีน โดยมีใจความว่า ...

HQ-16 เป็นระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ (SAM) พิสัยกลางของจีน พัฒนาโดย Shanghai Academy of Spaceflight Technology (SAST) สังกัด China Aerospace Science and Technology Corporation (CASC)

ระบบนี้มีพื้นฐานมาจากระบบขีปนาวุธ Buk ของรัสเซีย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันภัยทางอากาศสำหรับกองทัพเรือและกองทัพบกของจีน 
คุณสมบัติและข้อมูลจำเพาะของ HQ-16:

ประเภท: ขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ (SAM) พิสัยกลาง ผู้พัฒนา: Shanghai Academy of Spaceflight Technology (SAST)

ผู้ใช้งาน:กองทัพเรือและกองทัพบกของจีน

พื้นฐาน: ระบบขีปนาวุธ Buk ของรัสเซีย

รุ่น:HQ-16A: รุ่นพื้นฐานสำหรับกองทัพบก

HHQ-16: รุ่นสำหรับเรือรบของกองทัพเรือ

HQ-16B: รุ่นที่มีพิสัยการยิงไกลขึ้น

HQ-16C: รุ่นที่อยู่ในช่วงการพัฒนา 

พิสัย: สูงสุด 40 กม. สำหรับ HQ-16A และ 70 กม. สำหรับ HQ-16B ความเร็ว: มากกว่า Mach 3 ระบบนำวิถี: ผสมผสานระหว่างการนำวิถีแบบเฉื่อย การส่องสว่าง และการนำวิถีแบบกึ่งเรดาร์

การใช้งาน:ป้องกันภัยทางอากาศสำหรับเรือรบและฐานทัพของจีน 
ป้องกันภัยทางอากาศสำหรับพื้นที่ทางทหารและอุตสาหกรรม 
สามารถทำงานร่วมกับระบบอื่น ๆ เช่น HQ-9B เพื่อสร้างเครือข่ายป้องกันภัยทางอากาศ

HQ-16 มีความสำคัญอย่างไร?
ปกป้องน่านฟ้า:ช่วยปกป้องจีนจากภัยคุกคามทางอากาศ

ความทันสมัย:เป็นระบบ SAM พิสัยกลางที่ทันสมัยของจีน ความหลากหลาย: มีหลายรุ่นที่ปรับให้เหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกัน

ความน่าเชื่อถือ:มีประสิทธิภาพในการต่อต้านเป้าหมายทางอากาศหลายประเภท

EU รับยังไม่พร้อมลงศึกสงครามโดรน หวั่นเกรงโดรนรัสเซีย! สยบรถถังเพียง 6 นาที

(27 มิ.ย. 68) อันดรีอุส คูบิลิอุส (Andrius Kubilius) กรรมาธิการฝ่ายกลาโหมแห่งสหภาพยุโรป ให้สัมภาษณ์กับสกายนิวส์ว่า ยุโรปยังไม่มีความพร้อมหากเกิดสงครามโดรนกับรัสเซีย พร้อมระบุว่า หากสถานการณ์เลวร้ายถึงขั้นเปิดฉากสู้รบ จำเป็นต้องมีโดรนอย่างน้อย 3 ล้านลำต่อปีเพื่อรับมือ

คูบิลิอุสอ้างข้อมูลว่ารัสเซียอาจมีโดรนถึง 5 ล้านลำ ซึ่งทำให้ยุโรปต้องเร่งเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีอากาศไร้คนขับ หากหวังจะเอาชนะหรือป้องกันตนเองในกรณีที่เกิดความขัดแย้งทางทหารในอนาคต

ในสงครามยูเครน-รัสเซียที่ยังดำเนินอยู่ โดรนกลายเป็นอาวุธหลักในสนามรบ สหภาพยุโรปจึงเร่งตอบสนองด้วยการอนุมัติเงินกู้ 150,000 ล้านยูโร (ราว 5.8 ล้านล้านบาท) เพื่อสนับสนุนการผลิตอาวุธ โดยเฉพาะโดรนรุ่นใหม่ พร้อมผลักดันการฝึกกำลังพล และพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้ทันสมัยและยืดหยุ่นมากขึ้น

ทั้งนี้ คูบิลิอุสเตือนว่า แม้ยูเครนจะผลิตโดรนได้ถึง 4 ล้านลำในปีนี้ แต่ยุโรปยังห่างไกลจากเป้าหมายดังกล่าว พร้อมยกตัวอย่างจากประสบการณ์แนวหน้าของยูเครนที่ทุกอย่างควบคุมด้วยโดรน และรถถังแบบเดิมอยู่ได้เพียง 6 นาทีเท่านั้นในสงครามสมัยใหม่ จึงเรียกร้องให้นาโตและประเทศสมาชิกเร่งลงทุน ขยายกำลังป้องกันทางอากาศ และพัฒนาเทคโนโลยีต้านโดรนอย่างจริงจัง

ญี่ปุ่นประหารชีวิต ‘ฆาตกรทวิตเตอร์’ ก่อเหตุสังหารเหยื่อ 9 คน ภายใน 2 เดือน

(27 มิ.ย. 68) ญี่ปุ่นกลับมาใช้โทษประหารอีกครั้งในรอบ 3 ปี เมื่อล่าสุดทางการญี่ปุ่นสั่งแขวนคอนายทาคาฮิโระ ชิราอิชิ วัย 34 ปี ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญหญิงสาว 8 ราย และชาย 1 ราย ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน 

โดยญี่ปุ่นได้ดำเนินการประหารชีวิต ชิราอิชิ ด้วยการแขวนคอเมื่อวันศุกร์ที่เรือนจำโตเกียว ซึ่งการประหารชีวิตในญี่ปุ่นเป็นไปอย่างลับๆ โดยปกติแล้ววันที่ประหารชีวิตจะไม่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ จนกว่าจะมีการดำเนินการแล้วเสร็จ

สำหรับคดีของชิราอิชิ ได้ใช้แพลตฟอร์มทวิตเตอร์ (ปัจจุบันคือ X) ล่อลวงเหยื่อที่โพสต์ว่ามีความคิดอยากปลิดชีพตัวเอง เขาหลอกว่าจะช่วยพวกเธอจบชีวิต หรือพร้อมจบชีวิตไปด้วยกัน แต่สุดท้ายกลับสังหารเหยื่อและหั่นศพ บางส่วนถูกซ่อนในกล่องและถังในห้องพัก พร้อมใช้ทรายแมวกำจัดกลิ่น

รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เคย์สุเกะ ซูซูกิ ระบุว่าอาชญากรรมของชิไรชิในปี 2017 มีทั้งการล่อลวง ข่มขืน ปล้น ฆาตกรรม และอำพรางศพ เหยื่อทั้งหมดถูกตีหรือรัดคอจนเสียชีวิตก่อนนำศพไปซ่อน บางส่วนถูกทิ้งในถังขยะ พฤติกรรมของเขาถูกอธิบายว่า “เห็นแก่ตัวและสุดโต่งเกินไป” เพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศและเงิน

แม้ทีมทนายความพยายามให้เหตุผลว่าผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มปลิดชีพตัวเองอยู่แล้ว บางรายอาจยินยอม อย่างไรก็ตามศาลญี่ปุ่นปฏิเสธ โดยชี้ว่าชิราอิชิฉวยโอกาสจากผู้เปราะบาง และการกระทำของเขา “โหดเหี้ยมเกินมนุษย์”

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นยังคงมีโทษประหารชีวิตสำหรับคดีรุนแรง เช่น ฆาตกรรมต่อเนื่องหรือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เป็นประเทศพัฒนาแล้วเพียงไม่กี่แห่งที่ยังใช้โทษนี้ การสำรวจชี้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังสนับสนุน โดยเฉพาะในคดีสะเทือนขวัญที่สังคมเห็นว่าผู้กระทำ “ไม่ควรมีโอกาสแก้ตัว”

อาเซอร์ไบจานย้ำสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับอิหร่าน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าร่วมมือกับอิสราเอล

(27 มิ.ย. 68) รัฐบาลอิหร่านเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน อิลฮาม อาลีเยฟ ได้ปฏิเสธข่าวลือที่ระบุว่าอิสราเอลใช้พื้นที่ทางอากาศของอาเซอร์ไบจาน เพื่อโจมตีอิหร่านในช่วงสงคราม 12 วันระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อ 13 มิ.ย. และสิ้นสุดด้วยการหยุดยิงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

คำปฏิเสธดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียน (Masoud Pezeshkian) ของอิหร่าน กับประธานาธิบดีอิลฮัม อาลีเยฟ (Ilham Aliyev) ของอาเซอร์ไบจาน โดยเปเซชเคียนได้ขอให้อาเซอร์ไบจานตรวจสอบกรณีที่มีรายงานว่าอิสราเอลใช้โดรนและเครื่องบินเบาโจมตีเป้าหมายในอิหร่านผ่านน่านฟ้าของอาเซอร์ไบจาน

ในบทสรุปการสนทนาจากฝ่ายอิหร่าน ระบุว่า อาลีเยฟปฏิเสธข้อมูลดังกล่าว และยืนยันว่า รัฐบาลอาเซอร์ไบจานจะไม่ยินยอมให้ประเทศใดใช้พื้นที่หรือทรัพยากรของตนเพื่อโจมตีประเทศที่เป็นมิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิหร่านที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น

ทั้งนี้ อาเซอร์ไบจานเคยแถลงอย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นสงครามว่า จะไม่อนุญาตให้มีการใช้ดินแดนหรืออากาศยานจากประเทศตนในการโจมตีอิหร่าน ท่ามกลางความกังวลที่สะสมมานานของเตหะรานต่อบทบาทของอิสราเอล ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านอาวุธรายสำคัญของบากู

ทรัมป์รับประกัน! รัสเซียจะไม่บุกยุโรปในยุคตน สวนทาง ‘นาโต’ ที่เร่งจัดสรรงบเตรียมรับศึกใหม่

(27 มิ.ย. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวในการประชุมนาโตที่กรุงเฮกเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ว่า รัสเซียจะไม่โจมตีกลุ่มนาโต ตราบใดที่เขายังดำรงตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยอมรับว่า รัสเซียอาจต้องการขยายอิทธิพลไปไกลกว่ายูเครนในอนาคต 

แม้จะไม่ปฏิเสธความเสี่ยงจากมอสโก ซึ่งทรัมป์ลดทอนน้ำหนักภัยคุกคามของรัสเซีย โดยระบุว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ไม่ได้ร้ายกาจหรืออันตรายอย่างที่หลายประเทศเชื่อ แต่เป็นแค่คนที่มีมุมมองหรือความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสถานการณ์โลก ซึ่งคำพูดนี้สวนทางกับความกังวลของหลายประเทศในยุโรปที่เริ่มเตรียมรับมือกับความเป็นไปได้ของสงครามเต็มรูปแบบระหว่างรัสเซียกับนาโต

ท่าทีที่เบาลงของทรัมป์มีขึ้นในช่วงที่สถานการณ์ระหว่างรัสเซียกับยุโรปเริ่มตึงเครียดมากขึ้น เพราะไม่นานก่อนหน้านั้น ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี เพิ่งเปิดเผยว่า หน่วยข่าวกรองของยูเครนพบหลักฐานว่ารัสเซียกำลังวางแผนโจมตียุโรปอีกระลอก ขณะที่ประธานาธิบดีปูตินก็เพิ่งประกาศชัดว่า “ยูเครนทั้งหมดเป็นของรัสเซีย” ยิ่งทำให้หลายฝ่ายกังวลว่ารัสเซียอาจไม่หยุดแค่ยูเครน

ทั้งนี้ ท่ามกลางกระแสคุกคามที่เพิ่มขึ้น ประเทศสมาชิกนาโตจึงเห็นพ้องร่วมกันในการเพิ่มงบกลาโหม โดยตั้งเป้าให้แต่ละประเทศจัดสรรงบประมาณด้านความมั่นคงอย่างน้อย 5% ของ GDP ภายในปี 2035 ด้านผู้นำใหม่ของนาโต มาร์ค รุตเต้ (Mark Rutte) ยังเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายมีท่าทีสมจริงต่อภัยจากรัสเซียและจีน ขณะที่เยอรมนีก็เตือนว่า รัสเซียอาจทดสอบความเหนียวแน่นของพันธมิตรนาโตนอกเหนือจากยูเครนในเร็ว ๆ นี้

‘ทหารผ่านศึกยูเครน’ เดินหน้าประท้วงรัฐ ‘เมินสวัสดิการ’ ไล่พวกคอร์รัปชัน มีแต่คนรวยเพิ่ม ทำทหารเกณฑ์หาย

(26 มิ.ย. 68) เกิดการประท้วงเรียกร้องความเปลี่ยนแปลงในยูเครน แม้เป็นภาพที่เห็นแทบทุกสัปดาห์ แต่ครั้งนี้กลับไม่ธรรมดา เพราะมีผู้ร่วมประท้วงเกือบพันคน และส่วนใหญ่เป็นทหารอาสาสมัครและอดีตผู้ร่วมรบจากสงครามกับรัสเซีย นี่จึงเป็นปรากฏการณ์ใหญ่กว่าครั้งก่อน ๆ

ผู้ประท้วงยกประเด็นคอร์รัปชันที่รุนแรงและแทรกซึมในระบบระหว่างช่วงสงคราม พวกเขามองว่า เงินงบประมาณถูกใช้ผิดจุด จนเกิดการขาดสวัสดิการและความโปร่งใส โดยเฉพาะในหน่วยทหารที่บาดเจ็บ และขาดการดูแลที่เหมาะสม

นอกจากนี้ ครอบครัวของทหารที่ถูกบังคับเกณฑ์ ทั้งที่เสียสละชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ยังออกมาเรียกร้องให้ทางการเร่งเจรจาขอแลกเชลยกับรัสเซีย และจัดตั้งระบบดูแลทหารที่ชัดเจน พวกเขาต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่แก้ไขแบบผิวเผิน

ข้อมูลจากสื่อยูเครนยังระบุว่า ช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมา บรรดามหาเศรษฐีในประเทศเพิ่มจำนวนอย่างมาก ซึ่งส่วนหนึ่งได้มาจากการจ่ายสินบนเพื่อหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร หรือจ่ายเพื่อหลีกหนีออกนอกประเทศ นี่จึงสะท้อนให้เห็นภาพของ “สงครามคอร์รัปชัน” ที่เกิดขึ้นควบคู่กับสมรภูมิรบจริง ๆ

‘อิหร่าน’ ในวันที่สูญเสียจาก ‘อิสราเอล’ โจมตี แม้ประเทศเสียหายแต่หัวใจคนอิหร่านกลมเกลียว

หนึ่งประเทศ หนึ่งใจ (One Nation, One Heart) การรุกรานของอิสราเอลทำให้ชาวอิหร่านสามัคคีกันมากขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร?

มุมมองของ Soheila Zarfam จาก Tehran Times

'One Nation, One Heart' เป็นคำขวัญที่ใช้กันในอิหร่าน ซึ่งเน้นย้ำถึงความเป็นเอกภาพและความรักชาติของชาวอิหร่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เกิดความขัดแย้งหรือความตึงเครียดกับอิสราเอล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชาวอิหร่านที่เกิดขึ้นจากการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ภายนอก

เมื่อวานนี้ (25 มิ.ย. 68) เป็นวันพุธที่น่าประหลาดใจในเตหะราน หนึ่งวันหลังจากการสู้รบระหว่างอิหร่านและอิสราเอลยุติลง ผู้คนออกมาทำงานมากขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อน ๆ และทางตอนใต้ ณ สุสานเบเฮชท์-เอ-ซาฮรา ก็มีผู้คนพลุกพล่านมากที่สุดในรอบหลายปี

มีการจัดงานศพหลายงานที่นั่น มีทั้งศพของคนหนุ่มสาว คนชรา ชาย และหญิง ห่อด้วยผ้าขาวที่ชาวมุสลิมใช้ฝังศพ บรรยากาศน่าขนลุก มีผู้คนจำนวนมากร้องไห้ แต่ก็มีบางคนที่ดูหนักแน่นละมั่นคง แม้ว่าใบหน้าของพวกเขาจะแสดงออกถึงความเศร้าโศกก็ตาม

ผู้เขียนพูดคุยกับผู้ร่วมไว้อาลัยคนหนึ่ง ซึ่งเป็นหญิงที่กำลังฝังศพพี่ชายของเธอ เธอสวมชุดคลุมสีดำแบบอิหร่าน ข้าง ๆ เธอมีผู้คนที่แต่งตัวไม่เหมือนเธอเลย พวกเขาสวมเสื้อผ้าหลวม ๆ และสวมฮิญาบ "ฉันสูญเสียพี่ชายไประหว่างการโจมตีของอิสราเอล เขาเป็นทหารที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพ" ผู้หญิงคนดังกล่าวอธิบาย 'ซาห์รา' ซึ่งเป็นชื่อที่เธอใช้เอง บอกว่าเธอมาจากครอบครัวที่เสียสละสมาชิกจำนวนมากเพื่อประเทศ "ลุงของฉันสองคนเสียชีวิตในสงครามอิหร่าน-อิรัก พ่อของฉันก็เป็นทหารในสงครามนั้นด้วย เราคุ้นเคยกับการได้ยินและพูดคุยเกี่ยวกับผู้พลีชีพ แต่เราไม่เคยคิดว่าเราจะพูดถึงพี่ชายวัย 23 ปีของฉันในลักษณะเดียวกันอีก"

ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างซาห์ราไม่ใช่ญาติกับเธอ พวกเธอมาเมื่อพวกเธอรู้ว่า มีผู้พลีชีพถูกฝัง คนแปลกหน้าอีกหลายสิบคนก็มารวมตัวกันรอบหลุมศพที่เพิ่งขุดใหม่เพื่อแสดงความเสียใจและสวดมนต์ ผู้เขียนถามผู้หญิงคนหนึ่งจากสองคนที่สะดุดตาผู้เขียนเกี่ยวกับการโฆษณาชวนเชื่อที่เราได้ยินจากสื่อเปอร์เซียที่ตั้งอยู่ในตะวันตกว่า สงครามครั้งนี้เป็นสงครามของสาธารณรัฐอิสลาม และคนไม่เคร่งศาสนาควรแยกตัวจากกองทัพ "เราอยู่ที่นี่เพื่อประเทศของเรา ไม่สำคัญว่าเราจะนับถือศาสนาหรือการเมืองแบบใด เมื่อเป็นเรื่องของอิหร่าน เราพร้อมเสมอที่จะต่อสู้เพื่อมันและยอมสละชีวิต" เธอกล่าวขณะที่ใช้มือบังตาจากแสงแดด

การสร้างความแตกแยกและการแบ่งแยกเป็นวาระสำคัญของศัตรูในช่วงสงคราม 12 วันที่พวกเขาทำกับอิหร่าน ชาวอเมริกันและชาวอิสราเอลได้ขอให้ลูกชายของชาห์ผู้ถูกปลดออกจากอำนาจออกมาประกาศว่า เขาพร้อมที่จะเข้ารับตำแหน่ง อดีตมกุฏราชกุมารผู้ตกงานและหลงผิดคนนี้ถูกเรียกในอิหร่านว่า "เด็กโข่ง" ซึ่งเป็นคำคุณศัพท์ที่นักวิชาการชาวอิหร่านที่มีชื่อเสียงมอบให้กับเขาหลังจากที่เขาสนับสนุนสงครามของอิสราเอลต่อประเทศของเขา

อย่างไรก็ตาม ในช่วงสงคราม ความสัมพันธ์ระหว่างชาวอิหร่านกลับแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ทรัมป์กล่าวว่าประชาชนควร "อพยพออกจากเตหะราน" ผู้คนนับล้านทั่วประเทศก็ใช้โซเชียลมีเดียประกาศว่าพวกเขาพร้อมที่จะต้อนรับชาวอิหร่านในบ้านของตนเองแล้ว บนท้องถนน ประชาชนออกมาแจกเครื่องดื่มและอาหารแก่กองกำลังรักษาความปลอดภัยที่กำลังตามหาสายลับมอสสาด ส่วนในร้านขายของชำและปั๊มน้ำมัน ผู้คนระมัดระวังไม่ซื้อของมากเกินความจำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดการขาดแคลนสินค้าและเชื้อเพลิง

ในวันอังคารและวันพุธ เจ้าหน้าที่ทหารและการเมืองต่างยกย่องความสามัคคีและความรักชาติว่า เป็นหัวใจสำคัญของชัยชนะของอิหร่านเหนืออิสราเอล ซึ่งเริ่มสงครามกับอิหร่านโดยคิดว่า จะสามารถล้มรัฐบาล โดยการทำลายเสถียรภาพของประเทศ และทำลายกองทัพตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานให้สิ้นซาก

เมื่อผู้เขียนกลับมาถึงบ้านพักในเตหะรานตะวันออก เพื่อนบ้านคนหนึ่งนำ "นาซรี" มาให้ผู้เขียน ซึ่งเป็นอาหารที่ชาวอิหร่านทำและแจกจ่ายให้ผู้อื่นหลังจากที่พวกเขาอธิษฐานขอสิ่งใดสิ่งหนึ่งจากพระเจ้า "ผู้เขียนขอให้เราสามัคคีกันและเอาชนะศัตรู" เพื่อนบ้านของผู้เขียนกล่าว เธอเป็นผู้หญิงที่ใกล้จะอายุ 70 ปีแล้ว เธอเล่าให้ผู้เขียนฟังว่าความสามัคคีและความสอดคล้องกันที่เธอเห็นในช่วงวันสุดท้ายทำให้เธอหวนนึกถึงช่วงสงครามอิหร่าน-อิรัก "ผู้เขียนคิดว่าตราบใดที่ชาวอิหร่านยังมีชีวิตอยู่ การปกป้องประเทศจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา ไม่มีใครสามารถพรากสิ่งนี้ไปจากเราได้"

‘ทรัมป์’ เสียงอ่อย รับยุติสงคราม ‘รัสเซีย-ยูเครน’ ไม่ง่าย โบ้ยศึกซับซ้อน ‘ปูติน-เซเลนสกี’ เจรจาด้วยยาก

(26 มิ.ย. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันพุธว่า ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยุติ แม้เจ้าตัวจะเคยประกาศในเวทีหาเสียงว่าจะสามารถ “ยุติสงครามใน 24 ชั่วโมง” หากได้กลับมาเป็นผู้นำประเทศอีกครั้งก็ตาม โดยยอมรับว่า ทั้งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ต่างก็สร้างความยุ่งยากในเวทีเจรจา

เมื่อถูกถามว่าเหตุใดจึงยังไม่สามารถยุติสงครามได้ ทรัมป์ตอบว่า “เพราะมันยากกว่าที่คนทั่วไปจะจินตนาการ” พร้อมเผยว่าเคยมีปัญหากับเซเลนสกีในบางช่วง แต่การพบกันล่าสุดนั้นเป็นไปด้วยดี และไม่ได้มีการหารือเรื่องหยุดยิงโดยตรง

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ระบุว่า เซเลนสกีต้องการยุติสงคราม และตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดี ที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่า เขากำลังพิจารณาส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ "แพทริออต" (Patriot) ให้ยูเครน แม้จะยอมรับว่าอาวุธเหล่านี้หายาก เพราะสหรัฐฯ เองก็ต้องการใช้ และบางส่วนได้ส่งให้กับอิสราเอลแล้ว

เมื่อถูกถามว่าสหรัฐฯ จะร่วมจ่ายเงินช่วยเหลือยูเครนในวงเงิน 5 พันล้านดอลลาร์ ที่พันธมิตร NATO เสนอหรือไม่ ทรัมป์ตอบเพียงสั้น ๆ ว่า “เดี๋ยวค่อยว่ากัน” ท่ามกลางความไม่แน่นอนว่ารัฐบาลวอชิงตันจะสนับสนุนความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนเพิ่มเติมหรือไม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top