(22 พ.ย.67) ใกล้ถึงช่วงหมดวาระของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่ดูเหมือนรัฐบาลไบเดนกำลังทิ้งทวน จัดแพ็กเกจสารพันอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ยูเครนแบบชุดใหญ่ ล่าสุด รัฐบาลไบเดนแจ้งต่อรัฐสภาคองเกรสว่า มีแผนเตรียมยกเลิกหนี้สินที่ยูเครนติดค้างมูลค่า 4,650 ล้านดอลลาร์ (ราว 160 ล้านบาท) ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่สหรัฐต้องการสนับสนุนรัฐบาลเคียฟอย่างเต็มที่ ก่อนว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะกลับคืนสู่อำนาจ
รายงานระบุว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมยกเลิกเงินกู้เกือบครึ่งหนึ่งของยอดเงินกู้ 9,000 ล้านดอลลาร์ที่ให้กับยูเครน หรือราว 4,650 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณช่วยเหลือเพิ่มเติมมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ที่อนุมัติเมื่อเดือนเม.ย.
โดยว่า การยกเลิกหนี้สินที่ช่วยให้ยูเครนได้รับชัยชนะ ถือเป็นผลประโยชน์ของชาติของสหรัฐและพันธมิตรสหภาพยุโรป (อียู), G7 และพันธมิตรองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้)
ความเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปธน.ไบเดนที่ต้องการสนับสนุนยูเครนมากขึ้น ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมายังทำเนียบขาวในเดือนม.ค. ซึ่งทรัมป์บอกไว้ว่า สิ่งสำคัญของเขาคือ การผลักดันรัสเซียและยูเครนสู่การเจรจาอย่างสันติ ทำให้ผู้สนับสนุนยูเครนต่างกังวลว่าทรัมป์อาจตัดงบช่วยเหลือดังกล่าว
ทั้งนี้ กระบวนการยกเลิกหนี้จำเป็นต้องอาศัยการลงมติจากสภา ซึ่งขณะนี้รีพับลิกกันครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ในขณะที่จากพรรคเดโมแครตควบคุมวุฒิสภาอยู่ จึงอาจเป็นการยากที่จะผ่านมติตั้งแต่สภาผู้แทนราษฎร
ด้านสำนักข่าวสปุตนิกรายงานว่า จากข้อมูลของกระทรวงการคลังของยูเครน ณ วันที่ 30 กันยายน หนี้สาธารณะและหนี้ค้ำประกันของยูเครนรวมอยู่ที่ 155.69 พันล้านดอลลาร์ (ราว 5.3 ล้านล้านบาท) จำนวนนี้เป็นหนี้สินในต่างประเทศถึง 112.06 พันล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นเจ้าหนี้ดังนี้
หนี้ต่อสหรัฐ ข้อมูลระบุว่ายูเครนไม่มีหนี้ที่กู้ยืมจากรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ในเดือนเมษายน สหรัฐฯ อนุมัติแพ็กเกจช่วยเหลือยูเครนมูลค่า 60 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงเงินกู้ 9 พันล้านดอลลาร์ โดยไบเดนมีแผนล้างหนี้ครึ่งหนึ่งของเงินกู้ดังกล่าวตามรายงานในข้างต้น
หนี้ต่อสหภาพยุโรป ยูเครนมีหนี้ 44.17 พันล้านดอลลาร์ต่อสหภาพยุโรป 14.65 พันล้านดอลลาร์ ต่อธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการบูรณะและพัฒนา (IBRD) และ 12.08 พันล้านดอลลาร์ต่อกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
หนี้เงินกู้รัฐบาลต่างชาติ ยูเครนมีหนี้จากการกู้ยืมรัฐบาลประเทศต่าง ๆ เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ และสหราชอาณาจักร รวมมูลค่า 7.74 พันล้านดอลลาร์ โดยแคนาดาเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดที่ 5.11 พันล้านดอลลาร์
หนี้ภาคเอกชน ธนาคารแห่งชาติยูเครนระบุว่าธนาคารไซปรัสเป็นเจ้าหนี้หลัก คิดเป็น 48.4% ของหนี้ทั้งหมด ขณะที่สถาบันการเงินในสหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนีถือหนี้ 10.5%, 7.9% และ 3% ตามลำดับ
หนี้ต่อบริษัทเอกชนระหว่างประเทศ ยูเครนมีหนี้ 1.61 พันล้านดอลลาร์จากการกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศและองค์กรต่างชาติ อาทิ กู้เงินบริษัทคาร์กิลล์ (730 ล้านดอลลาร์) และธนาคารดอยช์แบงก์ (490 ล้านดอลลาร์)
หนี้จากพันธบัตร ยูเครนมีหนี้พันธบัตรยูโรปี 2024 อยู่ที่ 15.22 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ รัฐบาลเคียฟได้ผ่านกฎหมายอนุญาตให้ยูเครนระงับการชำระหนี้ต่างประเทศเมื่อต้นปีที่ผ่านมา