Tuesday, 7 May 2024
Softpower

'รัฐบาล' เร่งผลักดัน 'มวยไทย' สู่เวทีโลก ต่อยอดให้เป็นที่นิยม เพิ่มมูลค่าทางศก. ให้ประเทศ

(11 ก.ย. 65) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลสนับสนุนการจัดทำแผนแม่บทส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยยกมวยไทยเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์สำคัญวางแผนประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จัก ส่งเสริมให้เป็นกีฬาเชิงศิลปะป้องกันตัวในระดับนานาชาติ โดยจะบูรณาการการทำงานทุกภาคส่วนเพื่อต่อยอดกีฬาของไทยให้เป็นที่นิยมในวงกว้าง ซึ่งจะช่วยเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมไทยและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศด้วยซอฟต์พาวเวอร์ โดยกำหนดส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ 5 หมวด (5F) ได้แก่ อาหาร (Food), ภาพยนตร์ (Film), เทศกาล (Festival), แฟชั่น (Fashion) และการต่อสู้ (Fighting) ซึ่งสามารถขยายประเภทออกเป็นสินค้าและบริการท่องเที่ยวได้จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กีฬามวยไทย ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ได้รับความนิยม มีความงดงามในท่วงท่าการเคลื่อนไหว รวมทั้งยังนำไปประยุกต์ใช้ในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ทุกคนสามารถฝึกฝนได้อีกด้วย

เปิดใจจักรวาล ‘แอน จักรพงษ์’ คนไทยคนแรกที่เป็นเจ้าของ MISS UNIVERSE 100%

📍แอน - จักรพงษ์ ออกมาเปิดเผยการซื้อกิจการ MISS UNIVERSE ORGANIZATION (MUO) โดยเป็นผู้หญิงคนแรก และเป็นคนที่ไม่ได้มีสัญชาติอเมริกันคนแรก ที่เป็นเจ้าของ MUO โดยใช้เวลาประมาณ 1 ปี ในการเจรจาต่อรอง

📍คว้า 3 แบรนด์อย่าง Miss Universe, Miss USA และ Miss Teen USA มีอำนาจในการควบคุมกิจการดูแลดำเนินการ สร้างสรรค์ รวมถึงโครงสร้างใหม่ทั้งหมด 

📍Miss Universe จัดประกวดครั้งแรกปี 1952 โดย PACIFIC MILLS จากนั้นปี 1996 Miss Universe ได้ถูกครอบครองจากอภิมหาเศรษฐีและอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา DONALD TRUMP และปัจจุบัน บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดย คุณแอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ เป็นเจ้าของ 100%

📍JKN ได้กลายเป็นเจ้าของ MISS UNIVERSE ORGANIZATION (MUO) รวมถึงธุรกิจ ตราสินค้า และเครื่องหมายการค้าทั้งหมดของแต่เพียงผู้เดียว 

📍JKN มีเป้าหมายในการขยายธุรกิจให้เป็นมากกว่าการประกวดนางงาม โดยกำหนดโครงสร้างรายรับไว้ 9 ด้านของธุรกิจ MISS UNIVERSE ORGANIZATION (MUO) และนี่คือการกำเนิด JKN Metaverse อย่างเป็นทางการ

‘ชาติพัฒนากล้า’ ปลุกพลังบวกส่งต่อน้องๆ ม.สวนดุสิต ฉายภาพอนาคต ‘Soft Power’ ปลุกเศรษฐกิจสร้างสรรค์

(12 พ.ย. 65) พรรคชาติพัฒนากล้าได้โพสต์บรรยากาศและมุมมองสร้างสรรค์ของงานเสวนาแบบสบายๆ ในธีม ‘My Life / My Goal’ ซึ่งจัดขึ้นที่ ดุสิต บิสโทร ผ่านเฟซบุ๊กของพรรค ว่า...

คนรุ่นใหม่ ‘ชาติพัฒนากล้า’
ปลุกพลังบวกส่งต่อน้องๆ ม.สวนดุสิต

ผ่านงานเสวนาแบบสบายๆ ในธีม ‘My Life / My Goal’ จัดขึ้นที่ ดุสิต บิสโทร

ผ่านประเด็นดังต่อไปนี้...
1. Soft power  
2. เศรษฐกิจสายมู 
3. บ้านในฝัน 
4. จากซึมเศร้าสู่สร้างสรรค์
5. Future Learning
6. Green Eco Life

งานนี้ อีฟ วิเวียน จุลมนต์ สมาชิก #พรรคชาติพัฒนากล้า นำทีมฉายภาพอนาคตผ่าน Keywords เริ่มด้วย ‘Soft Power’ นำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างไร

นุ่น ยศยา ชิยาปภารักษ์ - Yossaya Chiyapapharak : พูดถึงเศรษฐกิจสายมู ผ่านการเล่าเรื่อง How to สร้างเม็ดเงินจากมูเตลู เปี่ยมไปด้วยจินตนาการที่ทำได้จริง สร้างอาชีพให้กับน้องๆทุกคน ถ้าคุณไม่ได้เป็นสายมู แต่มี Passion ทำสิ่งใดสิ่งนั้นนำมามู Market ได้

PK Pasakorn Vanasirikul พีเค พัสกร วรรณศิริกุล : สุขภาพจิต จิตที่เหนื่อยล้าของเราทุกคนในสังคมจะทำอย่างไรให้ผันไปทางเรื่องสมดุล พีเค นำเสนอมุมมองเหนือชั้นที่ทุกคนในงานต่างร้อง Wow 

ธาม สมุทรานนท์ - Tharm Smuthranond : เล่าประสบการณ์เจอผู้คนที่เคยเจอวิกฤตเศรษฐกิจทำให้ต้องสูญเสียอาชีพ บ้านโดนยึด ทำให้เกิดปมในใจ ผลักดันให้ธามอยากผลักดันให้คนส่วนใหญ่สามารถซื้อบ้านเป็นของตัวเองได้ โดยมีคุณภาพดีและราคาจับต้องได้ 

ศราพงศ์ ปรินซ์ อิศรศักดิ์ ณ อยุธยา : ฉายภาพ Future Learning เพื่อให้น้องๆ สามารถออกแบบชีวิตที่ดีด้วยตัวเอง อาชีพใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไม่ใช่เรื่องไกลตัว โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว 

อีฟ วิเวียน จุลมนต์ : ได้ชี้เป้าให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาโลกร้อน แล้วพาชวนมองภาพความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิด และตระหนักรู้ถึงมาตรการของโลกที่จะตอบสนองต่อภาวะโลกร้อนเพื่อให้ผู้ฟังทุกคนเตรียมมองเห็นช่องทางในการทำเงินรวมถึงการปรับตัวในการดำรงชีวิต 

ผลบวกเน้นๆ 'กระตุ้นศก. - หนุน Soft Power' โอกาสที่ไทยจะได้จากการประชุมเอเปคหนนี้

(18 พ.ย. 65) The World Echo ได้เผยข้อมูลประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับผ่านการประชุมเอเปคครั้งนี้ ว่า…

หลายคนอาจสงสัยในฐานะที่ไทยเป็นเจ้าภาพ จัดงานเลี้ยงอย่างใหญ่โตด้วยเงินภาษีของประชาชน แล้วประชาชนอย่างเรา ๆ จะได้ประโยชน์อะไรจากงานนี้ ขอสรุปเป็นข้อ ๆ...

ข้อแรก-การจัดงานจะส่งผลช่วยเศรษฐกิจไทย ทั้งรายย่อยและรายใหญ่ หลังการระบาดของโควิด 19  เรื่องนี้นับเป็นประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับทั่วหน้า โดยเฉพาะด้านธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

ข้อสอง-นี่คือช่องทางให้ไทยได้แสดงศักยภาพและความพร้อม ในการจัดการประชุมระดับโลก หลังการระบาดของโควิด-19 ซึ่งทั้งโลกอยู่ในภาวะซบเซา โดยเฉพาะครั้งนี้เป็นการประชุมแบบพบปะกัน ไม่ใช่เป็นการประชุมแบบออนไลน์

'ข้าวสังข์หยดพัทลุง' Soft Power ไทย ทะยานไกลสู่วัฒนธรรมการกินโลก

ไม่นานมานี้ ส.ส.นริศ ขำนุรักษ์ พัทลุง เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงข้าวไทยสังข์หยดพัทลุงที่กำลังขจรไกลไปสู่วัฒนธรรมการกินโลกไว้ว่า...

ในการประชุม APEC ทุกครั้ง จะมีงานเลี้ยงอาหารค่ำ (Gala Dinner) เพื่อรับรองผู้นำเขตเศรษฐกิจที่เข้าร่วมประชุม โดยอาหารที่ถูกนำเสนอขึ้นโต๊ะอาหารของเหล่าผู้นำนั้น จะเป็นเสมือนตัวแทนของเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต และความเป็นไทยที่สะท้อนอยู่ในทุกเมนูที่ถูกรังสรรค์ขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็น Soft Power ที่จะช่วยผลักดันให้เกิดวัฒนธรรมการรับประทานอาหารไทยให้ไปได้ไกลในระดับสากลมากขึ้นด้วย ซึ่งในการเตรียมอาหารเพื่อเสิร์ฟแด่ผู้นำประเทศ APEC 

ในครั้งนี้มีการนำวัตถุดิบท้องถิ่นในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ มาเป็นส่วนหนึ่งของอาหาร เช่น กุ้งแม่น้ำ จ.พระนครศรีอยุธยา, ไก่กอและ จ.ยะลา, ไข่เป็ดไล่ทุ่ง จ.สุพรรณบุรี, เนื้อโพนยางคำ จ.สกลนคร และปลากุเลาจาก จ.นราธิวาส เป็นต้น 

ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นของดีของเด่นประจำจังหวัดและเป็นที่รู้จักกันดีของพวกเราคนไทยทุกคน

เมื่อพูดถึงของดีประจำจังหวัด พัทลุงของเราก็มีดีไม่แพ้ใคร อย่าง 'ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง' และ 'ปลาดุกร้าทะเลน้อย' ที่ได้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ Geographical Indication (GI) โดยเฉพาะข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง นับว่าโดดเด่นอย่างมากเพราะนอกจากเป็นข้าวสายพันธุ์แรกของไทยที่ได้ขึ้นทะเบียน GI ในประเทศแล้ว ยังเป็น 1 ในสินค้าไทยไม่กี่ชนิดที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ของสหภาพยุโรป และมีการส่งออกไปขายในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เนื่องจากข้าวสังข์หยดพัทลุง มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีสารช่วยชะลอวัย ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ลดระดับคอเลสเตอรอล และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เป็นต้น 

'บิ๊กตู่' ปลื้ม!! ต่างชาตินิยมยกกองถ่ายหนังในไทย ดันอุตฯ หนังไทยโต โกยรายได้กว่า 9 ล้านพันบาท

(13 ก.พ. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบและยินดีที่ ประเทศไทยเป็นสถานที่ยอดนิยมที่ต่างประเทศมักเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ ทำให้สถานที่สวยงามของไทยเป็นที่รู้จัก เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ รวมทั้งยังมีส่วนในการกระจายรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศไปในโอกาสเดียวกันด้วย

นายอนุชา กล่าวว่า จากรายงานของกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพบว่า ในปี 2565 มีการถ่ายทำภาพยนต์ต่างประเทศในประเทศไทยถึง 348 เรื่อง โดยเดือนกันยายน และพฤศจิกายน 2565 มีการถ่ายทำสูงสุดที่ 42 เรื่อง ในขณะที่ล่าสุด เดือนมกราคม 2566 มีการถ่ายทำไปแล้วถึง 34 เรื่อง สร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 298.11 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2566)

นายอนุชา กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย ภาครัฐยังได้ให้การสนับสนุนเป็นสิทธิประโยชน์ในรูปแบบการคืนเงิน (Cash Rebate) ตามมติ ครม. (7 ก.พ. 2566) ร้อยละ 20-30 เป็นระยะเวลา 2 ปี สิทธิประโยชน์หลักอยู่ที่ร้อยละ 20 เมื่อมีการลงทุนในประเทศไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท ส่วนสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมรวมแล้วไม่เกินร้อยละ 10 

นายอนุชา กล่าวว่า ยังมีการปรับเพิ่มการคืนเงินจากเดิม 75 ล้านบาท/เรื่อง เป็น 150 ล้านบาท/เรื่อง จะทำให้เพดานเงินลงทุนสร้างภาพยนต์ต่อเรื่องเพิ่มเป็น 750 ล้านบาท จากเดิม 375 ล้านบาท เพื่อเป็นการรับกับแนวโน้มที่คณะถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศที่เข้ามาในไทยเป็นผู้สร้างรายใหญ่ เงินทุนสูง โดยเฉพาะภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม!! ‘ชาไทยเย็น’ ติด Top 10 เครื่องดื่มที่ดีที่สุด เร่งผลักดัน Soft power ชูครัวไทย สู่ครัวโลก

(25 ก.พ. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้ทราบว่า TasteAtlas ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมบทความและข้อมูลอาหารยอดนิยมทั่วโลกได้จัด 10 อันดับเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2023 (10 Best Rated Non-Alcoholic Beverages in the World) (https://www.tasteatlas.com/best-rated-non-alcoholic-beverages-in-the-world#!#modal)

โดย “ชาไทยเย็น” ได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับที่ 7 ของโลก สะท้อนเอกลักษณ์และวัฒนธรรมอาหารของไทยที่โดดเด่น ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2018 ชาเย็นไทย ก็ได้รับการจัดอันดับที่ 27 ใน 50 เครื่องดื่มที่อร่อยที่สุดในโลก (World’s 50 most delicious drinks) จากเว็บไซต์ CNN Travel เช่นเดียวกัน (https://edition.cnn.com/travel/article/most-delicious-drinks-world/index.html)

นายอนุชา กล่าวว่า ผลการจัดอันดับดังกล่าวได้ให้รายละเอียดว่า ชาไทยเย็น ได้รับคะแนนโหวต 4.7 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน โดยถือเป็นเครื่องดื่มที่ผสมผสานเข้ากันได้ดีระหว่างชาดำเข้มข้น นมข้นหวาน/จืด น้ำตาล และสมุนไพรเครื่องเทศต่าง ๆ ซึ่งเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง โดยปัจจุบันจะพบชาไทยเย็นได้ ทั้งใน Street Food และร้านอาหารทั่วไป

นายอนุชา กล่าวว่า การจัดอันดับเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่ได้รับคะแนนสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่

1.) Hong Kong-Style Milk Tea จากฮ่องกง

2.) Aguas Frescas จากเม็กซิโก

3.) Chai masala จากอินเดีย

4.) Maghrebi Mint Tea จากเมืองอัลมัฆริบ (Maghreb) และโมร็อกโก

5.) Horchata จากเม็กซิโก

6.) Salep จากตุรเคีย

7.) ชาไทยเย็น จากไทย

8.) El submarino จากอาร์เจนตินา

9.) Ristretto จากอิตาลี

10.) Darjeeling จากอินเดีย

‘สุวัจน์’ เปิดงาน ‘เดิน เดิ่น โคราช’ หนุน Soft Power ดันสตรีทฟู้ดไทยสู่ระดับโลก หวังดึง นทท. - กระตุ้น ศก.

(25 ก.พ. 66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานเปิดงาน ‘เดิน เดิ่น โคราช’ ประจำปี 2566 เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 24 ก.พ.66 ที่ผ่านมา โดยมี นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ สส.นครราชสีมา เขต 2 พรรคชาติพัฒนากล้า, นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา พร้อมคณะผู้บริหาร สท.ผู้นำชุมชน, นักธุรกิจ, พ่อค้า, แม่ค้า และพี่น้องประชาชนร่วมงานจำนวนมาก ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และสวนอนุสรณ์สถานวีรกรรมท้าวสุรนารี

นายสุวัจน์ กล่าวว่า งานถนนคนเดิน เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อสร้างความสุข กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างบุคลิกคาแรคเตอร์ให้กับเมืองโคราช ที่เราเรียกว่า ‘เดิน เดิ่น โคราช’ คือ เดินชมเมืองโคราช เดินชมร้านค้า เดินชมดนตรี เดินไปตามถนนที่สวยงามย่านอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เดินชมอนุสรณ์สถานคุณย่าโม เดินไปท่ามกลางสตรีทฟู้ดที่มีอาหารดี ๆ พื้นบ้าน พื้นเมืองของคนโคราช เดินไปท่ามกลางสินค้าโอทอป สินค้าที่หลากหลายแล้วก็มีดนตรี มีอะไรมากมาย ที่ถือว่าเป็นการผสมผสานกันระหว่าง Night Market บวกกับ Streetfood บวกกับถนนวัฒนธรรม รวมแล้วเลยกลายเป็น ‘เดิน เดิ่น โคราช’

ซึ่งทางเทศบาลนครนครราชสีมา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์นี้ และเห็นว่าจะจัดกันเป็นประจำทุกศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ จัดกันไปเรื่อยๆ ก็จะทําให้เมืองมีความคึกคัก มีสีสัน มีบรรยากาศของการท่องเที่ยวและก็รองรับนักท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาประเทศไทย รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และเป็นการอวดของดีเมืองโคราช ของดีทางด้านสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม Soft Power ของดีทางด้านอาหารการกิน สินค้าโอทอป ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ดี แล้วก็จะนําไปสู่เรื่องเศรษฐกิจ ทําให้พ่อค้า แม่ค้า คนขายของที่ระลึก คนขายโอทอป คนขายอาหาร ทุกคนได้ขายสินค้า พี่น้องประชาชนได้ออกมาเที่ยวจับจ่ายใช้สอย นักท่องเที่ยวก็อยากจะมาที่โคราช ถือว่าเป็นโมเดลที่ดี ซึ่งทุกจังหวัดก็จะมีของดีอย่างนี้ แล้วก็ร่วมกันจัดงานลักษณะนี้จะเป็นถนนวัฒนธรรม ถนนคนเดิน หรือจะเป็นถนนสําหรับสตรีทฟู้ด

“เมืองไทยมีชื่อเสียงทั่วโลกพอพูดถึงเรื่องสตรีทฟู้ด ทุกคนจะนึกภาพเมืองไทยมาอันดับหนึ่ง สตรีทฟู้ด ขนาดมิชลิน สตาร์ บ้านเรายังมีอยู่ที่สตรีทฟู้ด ถ้าเราส่งเสริมเรื่องสตรีทฟู้ด ไปทุกตําบล ทุกเมือง ให้มีสตรีทฟู้ด แล้วเอาของดีมาอวด หรือส่งเสริมพวกมิชลิน สตาร์ เพราะนักท่องเที่ยวชอบไปกิน คือ เป็นการแนะนําของอร่อยที่เซอร์ติฟายด์โดยมิชลิน ส่งเสริมให้ มิชลิน สตาร์ Michelin เข้ามาให้ดาวให้เพจ ไปตามร้านอาหารดัง ๆ เมืองท่องเที่ยว ทุกจังหวัด ทุกอําเภอ ต่อไปเมืองไทยก็จะมีชื่อเสียงเหมือนเป็นเมืองของกินของโลก เมืองอาหารอร่อยของโลก สตรีทฟู้ดของโลก จะช่วยส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวได้มาก” นายสุวัจน์ กล่าว

นายสุวัจน์ กล่าวว่า วันนี้การท่องเที่ยวเป็นหัวใจสําคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเงินจากนักท่องเที่ยวมาเร็ว มาแรง มาทั่วถึง ไปทุกหมู่บ้าน ไปทุกตําบล วันนี้เราจะอาศัยการลงทุนจะต้องรอจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจ ถดถอย เงินเฟ้อ ดอกเบี้ยแพง ผลกระทบ ใช้เรื่องการลงทุนจะค่อนข้างชะลอ แต่เรื่องท่องเที่ยว เรื่องปาก เรื่องท้อง เรื่องอยากไปเที่ยว คิดได้ทุกวัน ขออย่างเดียว บ้านเมืองคุณปลอดภัย คุณมีสตรีทฟู้ด มีอาหารอร่อยๆให้ผมทานหรือเปล่า ผมก็อยากจะมา ฉะนั้น สตรีทฟู้ด เป็นเสน่ห์ของเมืองไทยมากขอให้ส่งเสริมให้ดีกันเยอะๆ ในทุกเมืองท่องเที่ยวจะเป็นประโยชน์ เพราะการท่องเที่ยวเป็นหัวใจในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมา

เพื่อไทยร่วมสาดสี!! ‘เพื่อไทย’ ร่วมเทศกาล ‘โฮลีอินเดีย’ บรรยากาศคึกคัก ยัน!! หากเป็น รบ. พร้อมผลักดัน Soft Power กระตุ้นการท่องเที่ยว

(12 มี.ค. 66) ที่สยามอะเมซิ่งพาร์ค เขตคันนายาว กทม. แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ นางนลินี ทวีสิน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ พร้อมด้วย ส.ส. ส.ก. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ร่วมงาน “โฮลี เฟสติวัล” ครั้งที่ 1 จัดขึ้นโดย สยามอะเมซิ่งพาร์ค ร่วมกับสมาคมอินเดียแห่งประเทศไทย สมาคมวิศวะฮินดูปาริชาดประเทศไทย (VHP)  และภารตะช้อยส์ โดยคณะพรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกันบูชาองค์พระพิฆเนศ เยี่ยมชมบูธอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้า อินเดียน-ไทยต่างๆ ภายในงาน ก่อนรับชมการแสดง แสง สี เสียง สไตล์บอลลีวู้ด และร่วมเล่นกิจกรรมสาดสีกับผู้มาร่วมงาน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

นายสมชาย กล่าวถึงการร่วมงานวันนี้ว่า รู้สึกตื่นเต้น เป็นบรรยากาศที่ไม่เคยสัมผัส จากการพูดคุยกับผู้จัดงาน เห็นว่ามีจุดประสงค์เพื่อให้ชาวไทยได้รู้จักเทศกาลนี้ แล้วก็กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย เสมือนการมาร่วมเทศกาลสงกรานต์ของไทย มองว่างานที่จัดขึ้น นอกจากจะเป็นการดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมที่สวยงามของชาวอินเดียแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยในการดึงดูดนักท่องเที่ยวเช่นกัน ซึ่งหากพรรคพท.ได้เป็นรัฐบาลก็อยากจะสนับสนุนงานเช่นนี้ เหมือนเป็น soft power รูปแบบหนึ่ง

‘หงส์ไทย’ ยาดมสมุนไพรแบรนด์ไทย ไอเท็มสุดฮิต โด่งดังไกลทั่วโลก ถูกใจคนทุกเพศ ทุกวัย

(25 มี.ค.66) ‘หงส์ไทย’ ยาดมสมุนไพร ของไทย ของดี ของมันต้องมี ของมันต้องตำ!! หลังจากที่ ‘British Vogue’ ได้ปล่อยคอนเทนต์วิดีโอ In The Bag ของ ‘Central Cee’ แร็ปเปอร์ชื่อดังชาวอังกฤษ เจ้าของเพลงฮิตอย่าง Doja และ Let Go โดยในคอนเทนต์นี้หนุ่ม Central Cee ได้เปิดให้ดูของในกระเป๋าว่าเจ้าตัวพกอะไรไว้ในกระเป๋าบ้าง

ซึ่งสิ่งที่ทำเอาแฟนเพลงชาวไทยหลายคนถึงกับคาดไม่ถึง ก็คือ ‘หงส์ไทย’ ยาดมสมุนไพรแบรนด์ไทย หนึ่งในไอเท็มยอดฮิตของชาวออฟฟิศ ที่ไม่ว่าใครก็ต้องมี หนุ่ม Central Cee บอกว่า เขาได้สิ่งนี้มาจากประเทศไทย มันช่วยให้จมูกโล่ง แถมยังบอกอีกว่า ถ้ายาดมหงส์ไทยที่ใช้อยู่หมดเมื่อไหร่ เขาก็จะสั่งมาอีก

บอกเลยว่านาทีนี้ แบรนด์ไทย ของไทยมาแรง เป็นที่นิยมและถูกใจชาวต่างชาติ จนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกหลายอย่าง ไม่ใช่แค่อาหาร ชุด หรือสถานที่ท่องเที่ยวเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงของใช้ของคนไทย ที่ไม่ว่าใครก็มี ถือเป็นอีกหนึ่ง Soft Power ที่น่าสนับสนุนและผลักดัน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top