Saturday, 4 May 2024
เชียงใหม่

ทะลุเป้าปี 65!! ททท. ฉลองต่างชาติเที่ยวไทยครบ 10 ล้านคน พร้อมเดินหน้าดันยอดสู่ 20 ล้านคนในปี 66

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2565 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส่งการบ้านรัฐบาล จัดงาน ‘Amazing Thailand 10 Million Celebrations’ เฉลิมฉลองโอกาสสำคัญ
ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ครบ 10 ล้านคน (ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) ตามเป้าหมายส่งเสริมตลาดต่างประเทศของปี 2565 ของ ททท. ณ ท่าอากาศยานสำคัญ 7 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ สนามบินสมุย และด่านพรมแดนทางบก 2 แห่ง ได้แก่ ด่านพรมแดนสะเดา และด่านพรมแดนหนองคาย 

อีกทั้ง เป็นการขอบคุณนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่ให้ความเชื่อมั่นในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และประกาศความสำเร็จแบรนด์ Amazing Thailand ตอกย้ำความเชื่อมั่นประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในใจนักท่องเที่ยว เตรียมเดินหน้าดันยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติสู่ 20 ล้านคนในปี 2566

ทั้งนี้ การจัดงาน ‘Amazing Thailand 10 Million Celebrations’ ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้รับเกียรติจาก นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. เป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วย นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท. นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ ททท. นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานเชียงใหม่ นายณัฐวุฒิ ทาอินต๊ะ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (สายปฏิบัติการ) นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ นางสาวเพ็ญภัสสร คงสิริ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และนายพรเทพ อรรถกิจไพศาล ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ เข้าร่วมให้การต้อนรับและมอบของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยวเวียดนาม จำนวน 180 คน ที่เดินทางด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 907 จากเมืองดานัง ถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 12.30 น. และนักท่องเที่ยวฮ่องกง จากเขตปกครองพิเศษฮ่องกง จำนวน 180 คน ที่เดินทางด้วยสายการบินฮ่องกงเอ็กซเพรส เที่ยวบิน UO 754 จากฮ่องกง ถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 18.50 น. ซึ่งวางแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง

เชียงใหม่เตรียมจัดงาน ‘MFL2022 Chiang Mai Fashion & Lifestyle 2022’ ชูเสน่ห์ผ้าทอล้านนา

วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม 2565 เวลา 15.00 - 16.00 น. ณ Chef's Together by Aod & Dan นายอัศนีบูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ พร้อมด้วย นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) สำนักงานเชียงใหม่ และนายธนกร สมฤทธิ์ สมาคมการค้าผู้ประกอบการธุรกิจไมซ์และออกาไนซ์เซอร์ภาคเหนือตอนบน กรรมการผู้จัดการบริษัท เกรท มอร์โซลูชั่น จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน CMFL2022 Chiang Mai Fashion & Lifestyle 2022

นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ ถือได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เดินทางทางมาท่องเที่ยว พักผ่อน หรือแม้แต่การเข้ามาทำธุรกิจที่จังหวัดเชียงใหม่หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย ภาคอุตสาหากรรมการท่องเที่ยว ของเชียงใหม่ก็กลับมาฟื้นตัวขึ้น โดยสังเกตได้จากในช่วงวันหยุดยาว หลายๆ ครั้งที่ผ่านมากมีผู้คนเดินทางเข้ามาที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างมาก รวมไปถึงในพื้นที่ ที่ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ดูแลด้วยครับ สร้างมูลค่าหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

สำหรับในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้เริ่มขึ้นแล้ว ทางเทศบาลนครเชียงใหม่เองได้ดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการสร้างการเวียนทางเศรษฐกิจ ด้วยการสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมต่างๆซึ่งการงาน CMFL2022 Chiang Mai Fashion & Lifestyle 2022 ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ เห็นว่าเป็นกิจกรรมที่นำเอาศักยภาพอุตสาหกรรมสิ่งทอในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งมีความโดดเด่น มีอัตลักษณ์ มานำเสนอในรูปแบบที่มีความน่าสนใจ สร้างโอกาสและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบ ได้สร้างผลงานดีๆ ร่วมทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์เมืองเชียงใหม่ด้วยการใช้ แลนด์มาร์คของเมือง เป็นสถานที่จัดงาน และนำเสนอรูปแบบวิถีชีวิตในรูปของแฟชั่นอีกด้วย ในอนาคตหากมีการต่อยอด อาจจะกลายเป็นเป้าหมายของนักออกแบบระดับโลก มาจัดกิจกรรมที่เชียงใหม่ ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ยินดีให้การสนับสนุนกิจกรรมดีๆ ต่อไป

พิธีสถาปนา นายกสโมสรฝึกพูดเชียงใหม่ นายภัทรภณ หนูคงเจริญวิทย์ และคณะกรรมการ ปีบริหาร 2566

เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม 2565 เวลา 13.10 น. ที่ โรงแรมเมอร์เคียว เชียงใหม่ นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในงานครบรอบ 49 ปี พิธีสถาปนานายกสโมสรคนที่ 49 นายภัทรภณ หนูคงเจริญวิทย์ และคณะกรรมการ สโมสรฝึกพูดเชียงใหม่ปี บริหาร 2566   และ บรรยายพิเศษเรื่อง “พลิกฟื้นเชียงใหม่ หลังวิกฤติโควิด-19”โดยมี พ.ต.อ.สว่าง สิทธิวัง นายกสโมสรฝึกพูดเชียงใหม่ปี บริหาร 2565 มอบช่อดอกไม้ กล่าวแสดงความยินดี พร้อมด้วยดร.ศุภวัตร ภูกุล กล่าวแสดงความยินดีกับนายกคนใหม่และคณะกรรมการปีบริหาร 2566 มีท่านอดีตนายกสโมสรฝึกพูดเชียงใหม่ คณะกรรมการสโมสร สมาชิก ฝึกพูดเชียงใหม่  มวลมิตรสโมสรและแขกผู้มีเกียรติร่วมงาน

นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในงานครบรอบ 49 ปีและงานสถาปนาคณะกรรมการสโมสรฝึกพูดเชียงใหม่ ปีบริหาร 2566 สโมสรฝึกพูดเชียงใหม่ เป็นสโมสรฝึกพูดแห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้จัดกิจกรรมด้านการฝึกพูด การเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีให้กับสมาชิกและผู้สนใจทั่วไป องค์กร หน่วยงานต่างๆ ซึ่งได้สร้างบุคลากรอันทรงคุณค่าออกไปรับใช้สังคมทั้งภาครัฐและเอกชนให้กับสังคมจังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมากและเป็นระยะเวลาอันยาวนาน

ขอชื่นชมคณะกรรมการผู้ก่อตั้งสโมสร คณะกรรมการปีต่างๆทุกๆท่านที่ได้เสียสละทั้งกำลังกาย กำลังทรัพย์และกำลังสติปัญญา อุทิศตนเพื่อฝึกการพูดให้กับสมาชิก ผู้สนใจองค์กร หน่วยงานต่างๆ ตลอดจนนักเรียน นิสิต นักศึกษา เพื่อให้พูดภาษาไทยได้อย่างชัดเจนถูกต้องตามหลักภาษาไทย พูดดีพูดเป็นมีทักษะในการสื่อสารที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการพัฒนาการเป็นผู้นำ เป็นวิทยากร พิธีกรต่างๆ

ในโอกาสนี้ขอแสดงความยินดีกับนายกสโมสรและคณะกรรมการ ปีบริหาร 2565 ที่ได้ทำงานจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีและขอแสดงความยินดีกับนายกสโมสรฝึกพูดเชียงใหม่ท่านใหม่ คุณภัทรภณ หนูคงเจริญวิทย์ และคณะกรรมการปีบริหาร 2566 ที่จะได้มาสานต่อในการทำงานเพื่อรับใช้สังคมต่อไป ในโอกาสอันดีนี้ ขอทุกท่านร่วมกันพัฒนาสโมสรให้มีความเจริญก้าวหน้าและสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวังทุกประการ

นายภัทรภณ หนูคงเจริญวิทย์ นายกสโมสรฝึกพูดเชียงใหม่ (นายก คนที่ 49 )กล่าวว่า คณะกรรมการสโมสรฝึกพูดเชียงใหม่ ปีบริหาร 2566 ทุกคน รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านทั้งหลายได้เสียสละเวลาอันมีค่า มาร่วมงานฉลองครบรอบ 49 ปี และเป็นสักขีพยานในพิธีสถาปนานายกสโมสร และคณะกรรมการบริหารสโมสรปีบริหาร 2566 ในวันนี้

คณะกรรมการบริหารสโมสรฝึกพูดเชียงใหม่ปี 2566 ตระหนักดีว่า การฝึกพูดในที่สาธารณะเป็นกิจกรรมหนึ่งของสังคมเชียงใหม่ ที่ผู้ก่อตั้งสโมสรฝึกพูดเชียงใหม่ และอดีตนายก สโมสรทุกท่าน ได้ร่วมกันเสียสละ สรรค์สร้าง ให้อยู่คู่กับสังคมเชียงใหม่มาร่วม 48 ปี แล้ว ฉะนั้นมรดกที่ดีงามนี้จะต้องถูกสืบสาน ต่อยอด ส่งเสริม ให้ก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไปจากรุ่นสู่รุ่น ภายใต้กฎเกณฑ์ แบบฉบับและประเพณีที่รุ่นก่อนๆ ได้ทำไว้ดีงามแล้ว เชื่อว่าการดำเนินกิจกรรมของสโมสรฝึกพูดเชียงใหม่ 

สโมสรฝึกพูดเชียงใหม่ ได้ดำเนินกิจกรรมมาถึง 49 ปี วันนี้เป็น สถาปนานายกสโมสรและคณะกรรมการบริหารสโมสร ปี 2566 ในปีต่อไปนี้จะสำเร็จด้วยพลัง สามัคคี มีหลักธรรมสโมสร สโมสรฝึกพูดเชียงใหม่ เป็นที่รวมของบุคลากรทุกสาขาอาชีพ ที่ชื่นชอบ ศิลปะการพูดในที่สาธารณะ มีความเป็นเลิศ ศิษย์ มิตรครู ที่เอื้ออาทรต่อกันมายาวนาน  มิตรภาพและกำลังใจจากทุกท่าน จะเป็นพลังสำคัญในการนำพาสโมสรไปสู่เส้นชัย แห่งความสร้างสรรค์ตลอดไป คณะกรรมการสโมสร ปี 2566   จะร่วมกันสืบสาน พัฒนา ธำรงค์ไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงามนี้ แก่สังคมเชียงใหม่ตลอดไป

ททท.จัด 'มหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม' สัญจร ที่จังหวัดเชียงใหม่

ททท. ปลื้มมหกรรมเที่ยวเมืองไทยAmazing ยิ่งกว่าเดิมคึกคัก เดินหน้าจัดงานมหกรรม เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม@เชียงใหม่ พบกับ กิจกรรมเจรจาธุรกิจใน Business Matching ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายกว่า 130 บริษัททั่วประเทศ ได้แก่ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคเหนือองค์กรภาครัฐและเอกชน บริษัทนำเที่ยว โรงเรียนนานาชาติ และกลุ่มผู้จัดงานทั่วประเทศ หวังสร้างโอกาสทางธุรกิจ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

ในวันพุธ ที่ 21 ธันวาคม 2565 เวลา 08.30 - 13.00 น. ททท. จัดกิจกรรมการเจรจาทางธุรกิจ (B2B) ในโครงการ มหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม สัญจร ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  กล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยนางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงานททท.สำนักงานเชียงใหม่  นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ทและสปาเชียงใหม่ และผู้ประกอบการท่องเที่ยว ร่วมกิจกรรม ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส เชียงใหม่

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาค ภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. กำหนดจัดงานมหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม @เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 20 – 21 ธันวาคมนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวในประเทศ สร้างโอกาสทางธุรกิจ เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืนขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เตรียมพร้อมรองรับการท่องเที่ยวที่จะกลับสู่สภาวะปกติในปี 2566 ตามแนวคิดโครงการ Save Partner

โดยกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นการต่อยอดงาน 'มหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม' ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 – 18 ธันวาคม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ที่ผ่านมา ซึ่ง ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยการจัดงานตลอดทั้ง 4 วัน พบว่า มีผู้เข้าร่วมงานทั้งหมดกว่า 50,000 คน เกิดการซื้อขายภายในงานกว่า 70 ล้านบาท  

สำหรับการจัดงานมหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม@เชียงใหม่ เป็นการจัดกิจกรรม การเจรจาธุรกิจ B2B (Business to Business) ในรูปแบบของ 'Business Matching' ระหว่าง กลุ่มผู้ซื้อ (Buyer) และผู้ขาย (Seller) จำนวนกว่า 130 รายจากทั่วประเทศ ประกอบด้วย กลุ่มผู้ซื้อ (Buyer) จากองค์กรจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน บริษัทนำเที่ยว กลุ่มการศึกษา โรงเรียนเอกชน โรงเรียนนานาชาติ กลุ่มผู้จัดงาน เป็นต้น และ ผู้ขาย (Seller) ประกอบด้วย ผู้ประกอบการโรงแรม บริษัทนำเที่ยว ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภูมิภาคภาคเหนือ ร่วมนำเสนอแพ็คเกจพิเศษการท่องเที่ยวสำหรับองค์กรและการจัดรายการนำเที่ยว

หัวเมืองใหญ่อย่าประมาท เมื่อ PM2.5 มาตามคาด วอนคนไทยอย่าเที่ยวปีใหม่เพลิน จนลืมป้องกันตัว

ช่วงปลายปีแบบนี้ แถมอากาศหนาวเป็นใจ คนไทยเลยแห่เที่ยวแห่ฉลองกันอย่างสนุกสนาน โดยลืมว่าฤดูหนาวแบบนี้แหละที่มักเกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่เราหลงลืมไปว่ามักมาเยือนตามเมืองใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพมหานครและเชียงใหม่ 

แต่หนักสุดเห็นจะเป็นกรุงเทพฯ นี่แหละ เพราะมีรายงานข่าวจากสำนักสิ่งแวดล้อมว่า พบฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นั่นคือพบฝุ่นละออง PM2.5 มีค่าเกินมาตรฐาน จำนวน 4 พื้นที่ ได้แก่ เขตทวีวัฒนา, เขตหนองแขม, เขตหนองจอก และเขตปทุมวัน โดยตรวจวัดได้ระหว่าง 30-53 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) โดย PM2.5 ค่ามาตรฐาน เฉลี่ย 24 ชม. ไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม. แต่ 4 พื้นที่นี้มีค่ามาตรฐานเกินคือ 53 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร จึงต้องเตือนประชาชนในเขตพื้นที่ดังกล่าวให้ระวังสุขภาพและสวมหน้ากากป้องกัน  

ทั้งนี้ในวันที่ 24 ธ.ค. 65 เป็นช่วงเวลาที่ควรเฝ้าระวังทั้งพื้นที่ กทม. เนื่องจากสภาพเพดานการลอยตัวอากาศที่ต่ำ ประกอบสภาวะอากาศที่นิ่ง ลมสงบ  เพื่อความไม่ประมาท จึงควรเริ่มเฝ้าระวังตั้งแต่เย็นวันที่ 23 ธ.ค. 65

องค์การสวนสัตว์ ส่งนกกาฮัง (นกกก) กลับบ้าน ณ ดอยหลวงเชียงดาว ครั้งแรกของ จ.เชียงใหม่ ในรอบ 20 ปี

องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินการศึกษาวิจัยที่เป็นการกอบกู้วิกฤติการณ์การสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าตามธรรมชาติ ด้วยการนำสัตว์ป่าหายากกลับคืนสู่ธรรมชาติเพื่อประโยชน์ของการฟื้นฟูทรัพยากรและการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย  โดยการนำ 'นกกาฮัง' หนึ่งในนกเงือกขนาดใหญ่ที่สุดของไทยปล่อยคืนสู่พื้นที่ป่าอนุรักษ์ของจังหวัดเชียงใหม่ 'นกกาฮัง' หรือ 'นกกก' คู่แรกของจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นนกกาฮังคู่ที่สองที่ทำการทดลองปล่อยคืนสู่ธรรมชาติภาคเหนือ ภายหลังจากการสูญหายไปจากผืนป่าภาคเหนือของประเทศไทยมานานกว่า 20 ปี                                                   

วันที่ 9 มกราคม 2566 ณ สถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย นายวุฒิชัยม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ นายกฤตภาส ขันทะธงสกุลดี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ นายสงัด บูรณภัทรโชติ นายอำเภอเชียงดาว นายณัฐกุล ขันทะสอน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว คณะผู้บริหารองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ดร.วรพัฒน์ อรรถยุกติ ประธานมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ-เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในพื้นที่ภาคเหนือ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐ ผู้นำชุมชน ผู้นำโรงเรียน ตัวแทนชาวบ้านในจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันเปิดโครงการ “การทดลองปล่อยนกกาฮังคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพในเขตพื้นที่ภาคเหนือ” ณ สถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด 'นกกาฮังปิ๊กบ้าน' โดยการ นำนกกาฮังที่ได้รับการฟื้นฟูพฤติกรรมปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นของกระบวนการในการฟื้นฟูประชากรนกเงือกขนาดใหญ่ขึ้นใหม่อีกครั้ง ภายหลังการสูญพันธุ์ไปจากพื้นที่ป่าอนุรักษ์ภาคเหนือมานานนับ 20 ปี                                                    

จากความสำเร็จขั้นต้นของการนำนกกาฮังคู่แรก ที่ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ภาคเหนือ ณ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ. ลำปาง เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งนกที่ทำการทดลองปล่อยยังคงสามารถอาศัยอยู่ได้ในพื้นที่ป่าธรรมชาติ คณะผู้วิจัยของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ร่วมกับมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าในพื้นที่ภาคเหนือกว่า 6 แห่ง และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)  และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) จึงได้ดำเนินโครงการศึกษาวิจัย การทดลองปล่อยนกกาฮังคืนสู่ธรรมชาติฯ เป็นครั้งที่ 2 ณ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ของสถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว (พื้นที่บริเวณดอยหลวงเชียงดาว) ขึ้น ซึ่งถือเป็นนกกาฮังคู่แรก ที่ทำการทดลองปล่อยคืนสู่ธรรมชาติอย่างเป็นทางการในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ 

แถลงความสำเร็จ มอบรางวัลผู้ชนะประกวดภาพถ่าย-คลิปประทับใจที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กระตุ้นท่องเที่ยวหลังโควิด-19

เมื่อวานนี้ (12 ม.ค. 66) สำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยสำนักงานพัฒนาพิงนคร (องค์การมหาชน) มอบรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศในกิจกรรมภายใต้แคมเปญ ความสนุกไม่สิ้นสุด ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยมี นายกฤษดา ลาพิมล ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย สำนักบริหารงานกลาง รักษาการในตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงนคร และผู้อำนวยการสำนักบริหารงานกลาง เป็นประธานในพิธี และนายธีวินท์ เทเพนทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวรายงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเข้าร่วมพิธีแถลงข่าว ณ ห้องวารีกุญชร เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี  

นายกฤษดา ลาพิมล ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย สำนักบริหารงานกลาง รักษาการในตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงนคร และผู้อำนวยการสำนักบริหารงานกลาง กล่าวว่า สำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยสำนักงานพัฒนาพิงนคร (องค์การมหาชน) มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีส่วนช่วยพลิกฟื้นการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ผ่านการดำเนินกิจกรรมในแคมเปญ ความสนุกไม่สิ้นสุด ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี พร้อมทั้งมอบรางวัลเพื่อเป็นเกียรติแก่แก่ผู้ชนะเลิศการประกวด และเป็นกำลังใจในการสร้างแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ อันนำไปสู่ความสำเร็จด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ และยังเป็นกระบอกเสียงสำคัญที่จะทำให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นที่รู้จักในวงกว้าง นำไปสู่การอนุรักษ์อย่างยั่งยืนต่อไป

สำหรับแคมเปญ ความสนุกไม่สิ้นสุด ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นการดำเนินการผลิตและเผยแพร่สื่อโฆษณา เพื่อการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ผ่านสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์จอดิจิตอล รวมถึงสื่อออนไลน์ โดยได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์กิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกับสายการบิน Air asia และเครื่องดื่ม ตราช้าง จำนวน 2 กิจกรรม ดังนี้

ปิดปรับปรุง 'อควาเรียม' เตรียมเปิดสโนว์ หมีแพนด้าโชว์ตัวสวนหลังบ้าน

(16 มกราคม 2566) เวลา 10.00 น. นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า เนื่องจากทางสวนสัตว์เชียงใหม่ได้รับงบประมาณประจำปี 2566 ในการปรับปรุงทรัพย์สินสิ่งปลูกสร้างขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย คือ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ จำนวน 29 ล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินการปรับปรุงตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2566 – 7 เมษายน 2566 รวม 81 วัน 

โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 
1. ปรับปรุงงานโครงสร้างและสถาปัตยกรรม ประกอบด้วย งานเปลี่ยนฝ้าเพดาน งานเปลี่ยนพื้นทางเดินชมสัตว์ งานเปลี่ยนผนังตกแต่งภายในส่วนจัดแสดง งานเปลี่ยนผนังภายนอกอาคารฝั่งน้ำเค็ม งานปรับปรุงหลังคาทางเดินหน้าสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ
2. ปรับปรุงงานระบบไฟฟ้า และระบบปรับอากาศ ประกอบด้วย งานระบบไฟฟ้า งานปรับปรุงระบบปรับอากาศ เป็นต้น

การดูแลชีวิตสัตว์น้ำและบริหารจัดการช่วงปิดปรับปรุงในช่วงการปรับปรุงครั้งนี้ บริษัท มารีนสเคป ประเทศไทย จำกัด โดยนายนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป์ ประธานกรรมการบริษัทฯ ในฐานะผู้ลงนามสัญญารับบริหารจัดการ ซึ่งได้จัดเจ้าหน้าที่ดูแลให้อาหารปลาและสิ่งมีชีวิตสัตว์น้ำอย่างต่อเนื่องเหมือนเปิดปกติ ส่วนเจ้าหน้าที่ด้านต่างๆ จะปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับพนักงานของสวนสัตว์เชียงใหม่ ในการส่งเสริมการขายและการให้บริการนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมสวนสัตว์เชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง นับว่าเป็นการทำงานระหว่างภาครัฐและเอกชนที่ดีแห่งหนึ่งเตรียมเปิด สโนว์' กิจกรรมใหม่ สุดอลังการ!! หนึ่งเดียวในภาคเหนือสำหรับกิจกรรมใหม่ ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ เตรียมที่จะให้บริการกับนักท่องเที่ยวในเร็วๆ นี้ คือการเปิด 'สโนว์'

ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางจากเซี่ยงไฮ้ สู่เชียงใหม่

วันที่ 18 มกราคม 2566 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับพันธมิตรหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จังหวัดเชียงใหม่ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์การค้าเมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล แอร์พอร์ต เชียงใหม่ จัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ หลังรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ประกาศผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าออกประเทศจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 ส่งผลให้ชาวจีนสามารถเดินทางต่างประเทศได้โดยไม่ต้องเข้ารับการกักตัว และจังหวัดเชียงใหม่เป็นหมุดหมายปลายทางอันดับต้นที่ชาวจีนให้ความสนใจในการเดินทางมาท่องเที่ยว

การจัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่  โดยมีว่าที่ร้อยเอก สันติพงศ์ บุลยเลิศ ท่องเที่ยว และกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานเชียงใหม่ นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ นายณัฐวุฒิ ทาอินต๊ะ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (สายปฏิบัติการ) นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์  นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ นายศรายุทธ ทองร่มโพธิ์ ผู้บริหารศูนย์การค้า เมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ และ พันธมิตรหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมให้การต้อนรับ

'ชาวสนามบินเชียงใหม่' ร่วมใจ เพื่อจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยว

บุคลากรท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมใจฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยว” ระดมบุคลากรที่ปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ทุกภาคส่วน เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อป้องกันเชื้อกลายพันธุ์และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว

วันที่ 24 มกราคม 2566 นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดโครงการ “ชาวสนามบินเชียงใหม่ร่วมใจ เพื่อจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยว” ในกิจกรรมรณรงค์ “จังหวัดเชียงใหม่ ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น บุคลากรภาคบริการด้านการท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป” โดยมีนายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ และมีนายนิมิตร อินปั๋นแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่กล่าวรายงาน ณ อาคารอเนกประสงค์ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ 

โดยหน่วยฉีดวัคซีนโควิด-19 เคลื่อนที่ โรงพยาบาลนครพิงค์ ได้ตั้งหน่วยให้บริการฉีดวัคซีนแก่บุคลากรของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 24-25 มกราคม 2566  เพื่อยกระดับภูมิคุ้มกัน และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว  ซึ่งบุคลากรของท่าอากาศยานเชียงใหม่ นับเป็นด่านหน้าในการรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่ ต่างพร้อมใจกันทยอยเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นกันอย่างต่อเนื่อง 

โครงการ “ชาวสนามบินเชียงใหม่ร่วมใจ เพื่อจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยว” เป็นโครงการที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ริเริ่มดำเนินการเพื่อสนับสนุนกิจกรรมรณรงค์ “จังหวัดเชียงใหม่ ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น บุคลากรภาคบริการด้านการท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป” โดยได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนไปยังผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ลูกจ้าง บริษัทสายการบิน ผู้ประกอบการ ส่วนราชการ พนักงานจัดจ้างภายนอก พนักงานขับรถ ตลอดจนผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกลุ่มที่ปฏิบัติงานสัมผัสใกล้ชิดกับผู้โดยสาร ให้เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยได้รับการสนับสนุนวัคซีนเข็มกระตุ้นจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลนครพิงค์มาให้บริการฉีดวัคซีน ณ อาคารอเนกประสงค์ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 24-25 มกราคม 2566  


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top