Saturday, 4 May 2024
เชียงใหม่

สานต่อกิจกรรม 'เชียงใหม่ Light Up' หวังเพิ่มศักยภาพแหล่งท่องเที่ยว

สภาอุตสาหกรรมเชียงใหม่ จับมือ กกร.เชียงใหม่ และ ภาคเอกชน สานต่อกิจกรรม“เชียงใหม่ Light Up” หวังเพิ่มศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมให้กับศาสนสถานรอบคูเมือง พร้อมดึงชุมชนในพื้นที่เข้ามาร่วมชูศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น สร้างความยั่งยืนด้านการท่องเที่ยว

นายจักริน วังวิวัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ ว่าด้วยเรื่องนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาล ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ ด้านการกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่ง มีแนวโน้มจะฟื้นตัวขึ้นจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ประกอบกับในจังหวัดเชียงใหม่มี ศาสนสถาน (วัด) ที่มีศิลปวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ด้านสถาปัตยกรรมแบบล้านนาที่สวยงาม จึงมีแนวคิดในการร่วมมือกับ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) และ บริษัท เชียงใหม่วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (CSE) ในการสานต่อกิจกรรม “เชียงใหม่ Light Up” โครงการเพิ่มศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวด้านศาสนสถาน ด้วยการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างประสิทธิภาพสูง และพลังงานแสงอาทิตย์  โดยจะเริ่มประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์และดำเนินโครงการต่อเนื่อง คาดว่าจะเห็นผลในปลายปี 2565 ซึ่งจะสอดรับกับช่วงเทศกาลประเพณีของจังหวัดเชียงใหม่

 

 

‘เพื่อไทย’ โว!! ผลตอบรับ ‘เชียงใหม่’ ดีเกินคาด แซะ!! ‘ปชป.’ ทำความเข้าใจ ‘Soft Power’ ให้ดีก่อน

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ จ.เชียงใหม่ ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ จังหวัดใกล้เคียงและทั่วประเทศเป็นอย่างมาก ทั้งการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือตอนบน ครบทั้ง 40 เขต และยังมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมครอบครัวเพื่อไทยอีกจำนวนมาก  

รวมทั้งการลงพื้นที่รับฟังปัญหา หารือ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทุกสาขาอาชีพ ตั้งแต่วันที่ 9-10 กันยายน 2565 นำโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย โดย ส.ส. สมาชิกพรรค คณะทำงานด้านนโยบาย จะนำข้อร้องเรียน ตลอดจนข้อเสนอแนะของพี่น้องประชาชน พัฒนามาเป็นนโยบายของพรรค เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนต่อไป

จากการเปิดตัวนโยบายแรก 2 นโยบาย ได้แก่ นโยบายด้านการเกษตร ภายใต้แนวคิด ‘ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้’ แนวคิดเกษตรก้าวหน้าที่จะนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการทำการเกษตร เพื่อผลักดันให้ราคาสินค้าเกษตรของไทยขายได้ราคามากกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ถูกทอดทิ้งเหมือนในปัจจุบัน 

รวมทั้งนโยบายที่ 2 คือ ‘1 ครอบครัว 1 Soft Power’ นโยบายที่จะสร้างเงินจากฝีมือของ 1 คนในครอบครัว เพราะพรรคเพื่อไทยมองเห็นโอกาสว่าค่าแรงของ Soft Power มีค่าแรงสูงกว่าค่าแรงอุตสาหกรรมอื่นๆ รวมถึงแนวคิดในการจัดตั้ง The Thai Creative Content Agency : THACCA หน่วยงานพัฒนาศักยภาพ Soft Power ที่ใช้งบประมาณของรัฐบาลในการดูแลและนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบหน่วยงานนี้ 

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า หลังจากเปิดตัว 2 นโยบายดังกล่าว ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดีและรอคอยการประกาศนโยบายใหม่ๆ ที่ทีมนโยบายของพรรคดำเนินการพัฒนาอย่างรอบคอบ เพื่อเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนมากที่สุด หากชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ สิ่งที่เราคิดไว้ พร้อมทำทันที  

ส่วนกรณีที่คนในพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตอบโต้นางสาวแพทองธาร ว่าลอกนโยบาย ทั้งในเรื่องของคำว่าเซลล์แมนขายสินค้าเกษตรในต่างประเทศ หรือ Soft Power โดยระบุว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ทำมาตลอดนั้น บุคคลผู้นั้นอาจจะไม่ทราบความหมายที่แท้จริงของคำว่า Soft Power เพราะคือ การนำวัฒนธรรม เอกลักษณ์ หรือจุดเด่นมาเป็นจุดขาย ร่วมกับการใช้ความสมัยใหม่และเป็นสากล สร้างรายได้ ขยายไปในตลาดโลกนำรายได้เข้าสู่ประเทศ 

ซึ่ง Soft Power ของเพื่อไทย คือ ต้นทุนทางวัฒนธรรมที่ดำรงอยู่ในวิถีชีวิต วัฒนธรรม และสังคมไทย มีความสร้างสรรค์ ความละเมียดที่ดำรงอยู่ที่แสดงออกผ่านการปรุงอาหาร การประดิษฐ์สร้างสรรค์ หัตถกรรม ไปจนถึงงานศิลปะทุกแขนง สามารถด้านกีฬา การเขียน software และความสามารถทาง e-sport ฯลฯ แต่หากมาดูผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันเกี่ยวกับ Soft Power ของกระทรวงพาณิชย์ที่นำโดยนายจุรินทร์นั้น ยังถูกตั้งคำถามเพราะที่ผ่านมาคนไทยที่มีฝีมือหรือองค์กรภาคเอกชน ก็ล้วนดิ้นรนหาทางเติบโตเองทั้งสิ้น  

นอกจากนี้ หากจะกล่าวถึงคำว่า ‘เซลล์แมน’ หรือ ‘ทูตการค้า’ นั้น บุคคลที่ริเริ่มใช้คำนี้ คือ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่กระตุ้นให้ผู้แทนทางการทูตในต่างประเทศในขณะนั้น ร่วมมือกันขายภาพพจน์และภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ไปเจาะตลาด สร้างรายได้ในต่างประเทศ

'เชียงใหม่' ได้รับเลือกจัดงานวิ่งเทรลภูเขาชิงแชมป์โลก คาดคนเข้าร่วม 25,000 คน เงินสะพัดกว่า 1 พันล้านบาท

'ส.กรีฑาโลก' เลือก 'เชียงใหม่' จัดแข่งขันวิ่งเทรลภูเขาชิงแชมป์ครั้งแรกของโลก รายการ 'AMAZING THAILAND-WORLD MOUNTAIN & TRAIL RUNNING CHAMPIONSHIPS 2021' ณ ดอยสุเทพ วันที่ 3-6 พ.ย.นี้ มีนักกีฬาทีมชาติและเจ้าหน้าที่จากทั่วโลก เข้าร่วมกว่า 25,000 คน มีเงินสะพัดหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศกว่า 1,000 ล้านบาท

เมื่อวันที่ (20 ก.ย. 65) ที่ห้องประชุม ชั้น 24 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ การกีฬาแห่งประเทศไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานแถลงข่าวความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวิ่งเทรลภูเขาชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 1 รายการ 'AMAZING THAILAND-WORLD MOUNTAIN & TRAIL RUNNING CHAMPIONSHIPS 2021' ซึ่งกำหนดจัดวันที่ 3-6 พ.ย.นี้ (เลื่อนจากเดิม 11-14 พ.ย. 64 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19) ณ ดอยสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

โดยมีนายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.สันต์ ศุรตานนท์ นายกสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), มร.เอลาซิโอ ปุนซี่ ผู้อำนวยการอาวุโสสมาคมกรีฑาโลก, ดร.ฮิลลารี่ วอร์คเกอร์ เลขาธิการสมาคมวิ่งอัลตร้านานาชาติ, มร.คริส รอปป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Mass Participation World ผู้จัดงานประชุมสัมมนากรีฑาโลก และนายกอบเกียรติ แสงวนิชย์ รองเลขานุการคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ และประธานกรรมการไทยแลนด์ไตรลีก ท่ามกลางเหล่านักวิ่งทีมชาติเทรล ที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ในฐานะประธานอำนวยการจัดการแข่งขันฯ กล่าวว่า ตนต้องรอถึง 2 ปี กว่าจะได้จัดงานชิงแชมป์โลกครั้งนี้ เพราะอย่างที่ทราบกันดีถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้กำหนดการเดิม นั่นคือ วันที่ 11-14 พ.ย.64 ถูกเลื่อนอย่างไม่มีกำหนด โดยในช่วงกลางปี 2565 ภายหลังจากที่รัฐบาลไทย มีความมั่นใจว่าควบคุมสถานการณ์ของการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ เราก็ส่งสัญญาณถึงความพร้อมจัดงานดังกล่าวไปทางสมาคมกรีฑาโลก ทันที ซึ่งทางสมาคมฯ ได้หารือกัน และประกาศให้จัดงานชิงแชมป์โลกวิ่งเทรลภูเขาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ World Athletics รายการ 'Amazing Thailand World Mountain & Trail Championships 2021' ถูกจัดขึ้นในวันที่ 3-6 พ.ย.นี้ ที่ดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่

นอกจากนี้ สมาคมกรีฑาโลก ได้ย้ายการจัดงานประชุมและสัมมนากรีฑาโลก 'World Athletics Global Running Conference 2022' ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-3 ธ.ค. 2565 มาที่รอยัลพารากอน ฮอลล์ จะมีผู้จัดงานวิ่งชั้นนำจากทั่วโลก จำนวน 400 คน เดินทางมาประชุมกันทุกๆ 2 ปี อาทิ โตเกียวมาราธอน, ลอนดอนมาราธอน, บอสตันมาราธอน, เบอร์ลินมาราธอน, ชิคาโก้มาราธอน และนิวยอร์คมาราธอน ซึ่งการประชุมที่สำคัญของวงการกรีฑาครั้งนี้จะจัดควบคู่ไปกับการจัดงานวิ่งมาราธอนระดับโลก รายการ 'Amazing Thailand Marathon Bangkok 2022' ซึ่งคาดว่าจะมี นักวิ่งเข้าร่วมในการแข่งขันไม่น้อยกว่า 25,000 คน เป็นนักชาวต่างชาติไม่น้อยกว่า 3,500 คน

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวต่อ ตนมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่เราสามารถแสดงศักยภาพให้องค์กรกีฬาของโลก เห็นถึงศักยภาพต่างๆ ของประเทศไทย ที่มีทั้งสถานที่ ที่เหมาะสำหรับจัดการแข่งขันในมาตรฐานโลก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งที่พัก อาหารและสถานที่ท่องเที่ยว จนทำให้ประเทศไทย ได้รับสิทธิ์ในการจัดงานกีฬาระดับโลกได้มากมาย อาทิ โมโต จีพี, การแข่งขันวิ่งมาราธอนหลายรายการทั้งที่ บุรีรัมย์ มาราธอน หรือรายการ Amazing Thailand Marathon ที่จัดขึ้นใจกลางกรุงเทพมหานคร จนมาถึงรายการวิ่งเทรลภูเขา ที่เรามีทั้งการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และรายการวิ่งซีรีส์ เก็บคะแนนสะสมโลก อย่าง 'Thailand by UTMB' เป็นต้น

"แค่ประเทศไทย ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลก อย่างเป็นทางการ ก็คุ้มแล้ว แต่ครั้งนี้เรายังได้ว่า Amazing Thailand เพิ่มเป็นชื่อนำหน้าอีก ก็ถือว่าคุ้มแสนคุ้ม ในแต่ละรายการระดับโลกที่เราได้เป็นเจ้าภาพจัด ตนคาดว่าอย่างน้อยการจะทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศ เกิดความมั่นใจต่อการตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวอีกเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญเกิดกระแสหมุนเวียนของเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ทั้งทางตรงและทางอ้อมหลายร้อยล้านต่อรายการ ตนขออวยพรให้คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฯ ดำเนินงานออกมาให้ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้ทุกประการ" รมว.กีฬา กล่าว

‘บิ๊กตู่’ จัดให้!! วิ่งเทรลภูเขาชิงแชมป์โลก นักวิ่งทีมชาติ 52 ประเทศเข้าร่วมคึกคัก

‘บิ๊กตู่’ จัดให้อีกแล้ว!! กับกิจกรรมการ 'วิ่งเทรล​' / ‘วิ่งภูเขา’ ชิงแชมป์​โลก​ ครั้งแรกของไทย ในรายการ AMAZING THAILAND WORLD MOUNTAIN & TRAIL RUNNING CHAMPIONSHIPS ต้อนรับนักกีฬาทีมชาติจาก 52 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขันระหว่าง 4-6 พ.ย. 65 เส้นทางดอยสุเทพ

โดยผู้เข้าแข่งขันจะได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมสองข้างทาง ตั้งแต่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ ผ่านบ้านขุนช่างเคี่ยน, บ้านม้งดอยปุย, บ้านผานกกก, ตำบลโป่งแยง และสถานที่อื่นๆ อีกมากมาย

พิธีเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดเชียงใหม่

เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเบลเยียม ประจำประเทศไทย ประกาศสถาปนา ดร.ณรงค์ ตนานุวัฒน์ กงสุลกิตติมศักดิ์ และพิธีเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดเชียงใหม่ อย่างเป็นทางการ

เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565  ที่โรงแรมมีเลีย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นางซีบีย์ เดอ การ์ทีเย ดีฟว์( Ms. Sibille de Cartier d’YVES ) เอกอัครราชทูตราชอาณาเบลเยียม ประจำประเทศไทย กล่าวแสดงความยินดีกับ ดร.ณรงค์ ตนานุวัฒน์ ในโอกาสรับการสถาปนาตำแหน่ง ‘กงสุลกิตติมศักดิ์’ ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดเชียงใหม่ และพิธีเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดเชียงใหม่ อย่างเป็นทางการ เขตกงสุล ครอบคลุม 11จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ ลำปาง ลำพูน และตาก

นทท.แห่ทะลักสนามบินเชียงใหม่ เที่ยวลอยกระทงยี่เป็ง คาดช่วงท่องเที่ยว จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย 21,000 คน

นักท่องเที่ยวทะลักสนามบินเชียงใหม่ แห่เที่ยวเทศกาลลอยกระทงยี่เป็ง คาดช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวนี้จะมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยวันละประมาณ 21,000 คน

สำหรับในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาท่าอากาศยานเชียงใหม่มีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละประมาณ 19,000 คน เป็นผู้โดยสารภายในประเทศกว่า 18,300 คน ผู้โดยสารระหว่างประเทศกว่า 700 คน จำนวนเที่ยวบินเฉลี่ยวันละ 110-120 เที่ยวบิน

‘บิ๊กป๊อก’ ลุยเชียงใหม่ รับฟังปัญหาการทำงานของท้องถิ่น รับปากจะเร่งแก้ปัญหาให้ ส่วนอะไรที่ทำไม่ได้จะบอกกันตรงๆ

พล.อ อนุพงษ์ ลงพื้นที่เชียงใหม่ พบ ผู้บริหาร อบต. 5,300 แห่งทั่วประเทศ ยืนยันไม่มีนัยอะไร เพราะการเมืองไม่ใช่อนาคตของตนเอง พร้อมรับปาก จะเร่งพิจารณาขึ้นค่าตอบแทน ให้ อบต. และอีกไม่กี่เดือน จะเป็นแค่ตาแก่ ไปเดินกินก๋วยเตี๋ยวขอ อบต. ดูแลด้วย ลั่นหมดไฟแล้ว พร้อมเผย สัปดาห์หน้าเงินเยียวยาน้ำท่วมเข้า ครม. สัปดาห์หน้า 

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปที่ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีเปิดการอบรมสัมมนา ‘การพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่นสู่ความเป็นเมือง ตามหลักการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นไทย" พร้อมกล่าวปาฐกถา ‘บทบาท อบต.กับการพัฒนาฐานรากประเทศไทย’ โดยมี ผู้บริหาร อบต. 5,300 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วมการสัมมนา

โดยสมาคมนายกฯ อบต. แห่งประเทศไทย เสนอข้อเรียกร้อง เพื่อแก้ปัญหาอุปสรรค และสร้างความเสมอภาคของสมาชิก อบต. โดยขอให้แก้ไขปัญหาการทำงานของอบต. ทั้งการกระจายอำอาจ การบริหารงานบุคคลจากส่วนกลางให้ท้องถิ่นสรรหาบุคลากรได้เอง, ขอเพิ่มค่าตอบแทนผู้บริหาร และ สมาชิก อบต., ขอสวัสดิการเบิกค่าเล่าเรียนบุตร, เพิ่มสัดส่วนการพัฒนา ท้องถิ่น จัดสรรงบประมาณ สำหรับ อบต.ที่ได้งบประมาณ ไม่ถึง 30 ล้านบาท, เพิ่มขีดความสามารถในการใช้งบประมาณ โดยให้ มหาดไทย ประสานไปยังกรมบัญชีกลาง เพื่อสามารถคิดเลือกผู้รับจ้างงาน ในวงเงินไม่เกิน 5 ล้าน เพื่อให้ท้องถิ่นและหน่วยงานภาครัฐใช้งบประมาณ ได้อย่างรวดเร็ว และกระตุ้นเศรษฐกิจ จากการใช้งบประมาณจากภาครัฐ 

พลเอกอนุพงษ์ ยอมรับว่านี่เป็นครั้งแรก ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพิ่งเคยพบกับผู้นำท้องถิ่นเยอะขนาดนี้ รู้สึกภูมิใจที่ผู้บริหารท้องถิ่น ปฏิญาณตน ว่าจะทำงานด้วยความโปร่งใส ทำงานเพื่อประชาชน เพื่อชาติศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพราะนั่นคือดวงใจหลักของการบริหารงานท้องถิ่น พร้อมยืนยันว่า กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญและ นึกถึงหน่วยงานท้องถิ่นเสมอ ว่ามีอุปสรรค ปัญหา ในการทำงานอย่างไรบ้าง ซึ่งก็จะต้องพูดคุย นำปัญหาต่างๆ ไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น 

พร้อมย้ำว่า ตนเองไม่ได้มั่นหวังทางการเมือง ดังนั้นสามารถพูดได้ทุกอย่างอย่างเต็มที่ ยืนยันการเมืองไม่ใช่อนาคตของตนเอง และไม่มีนัยอื่น นอกจากการทำงานเป็นหลัก และงานที่ตนเองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ต้องปรารถนาที่จะทำให้ดีที่สุด การเดินทางมาเชียงใหม่วันนี้ เพื่อรับฟังปัญหา มองการทำงานของทุกภาคส่วน ไม่ได้มีนัยอะไรทั้งสิ้น 

พลเอกอนุพงษ์ รับปากกับผู้บริหาร อบต. จะเร่งพิจารณา ปรับปรุงเพิ่มค่าตอบแทนผู้บริหารและสมาชิก อบต.ให้แน่นอน แต่เท่าไหร่ต้องไปดูกันอีกที เพราะค่าตอบแทนที่ได้ทุกวันนี้ น้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำซึ่งไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมสั่งการให้ผู้บริหารท้องถิ่นทำหนังสื่อราชการ ร่างหลักเกณฑ์ การพิจารณา ค่าตอบแทน พร้อมพูดติดตลกว่า “คนที่เป็นผู้นำชุมชน ไม่มีค่าตอบแทน ก็จะมาถลกหนังหัวตนอีก” 

ส่วนเรื่องการเพิ่มบุคลลาการ ไม่น่าจะทำได้ เพราะงบประมาณสำหรับบุคลากร เต็ม 40% แล้ว หากเกินกว่านี้ สังคมจะรับไม่ได้ ข้าราชการ 1 คนตั้งแต่บรรจุจนถึงเกษียณ จะใช้งบประมาณ ถึง 30 ล้านบาท และเห็นว่า บางตำแหน่ง ท้องถิ่นไม่ควรทำเอง เพราะ ไม่ใช่งานที่ถนัด ต้องให้หน่วยงานที่ชำนาญ มาทำเพื่อให้เกิดการพัฒนา อย่างมีศักยภาพ เช่น งานด้านโยธา

อบจ.เชียงใหม่ ชวนเที่ยวงาน 'CHARMING Chiang Mai Flower Festival 2023' แสง สี ศิลป์ มนต์เสน่ห์ดอกไม้งาม

อบจ.เชียงใหม่ แถลงข่าวความคืบหน้าการจัดงาน 'มนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม ประจำปี 2565 ' (CHARMING Chiang Mai Flower Festival 2023) ภายใต้แนวคิด 'Miracle Flora' แสง สี ศิลป์ มนต์เสน่ห์ดอกไม้งาม ระหว่าง 16 ธันวาคม 2565 - 2 มกราคม 2566

วันที่ 6 ธันวาคม 2565 เวลา 17.00 น. นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมการแถลงข่าว 'งานมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม ประจำปี 2566' (CHARMING Chiang Mai Flower Festival 2023) 'Miracle Flora' พร้อมด้วย นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ แขกผู้มีเกียรติ ร่วมงาน ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่เป็นนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่มีแหล่งท่องเที่ยวหลัก 3 ด้าน คือแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีความงดงาม ความโดดเด่น ความล้ำค่าและความเลื่องลือในหลาย ๆ ด้าน และหนึ่งในนั้นคือ ความงดงาม ทางด้านประเพณีและวัฒนธรรม, แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ มีชื่อเสียงด้านวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและภูเขาที่ถูกปกคลุม ไปด้วยป่าเขตร้อนที่เขียวขจี เป็นแหล่งที่อยู่ของหมู่บ้านชาวเขาหลายกลุ่ม เป็นเมืองสำคัญทางภาคเหนือและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางสำรวจจังหวัดอื่น ๆ ต่อไปในภาคเหนือ และแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพที่มีการส่งเสริมและรักษาสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการจัดรายการท่องเที่ยวพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ เพื่อเรียนรู้วิธีใช้พลังงานจากธรรมชาติมาบำบัดรักษาและสร้างเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิต

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ด้วยนโยบายการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้เน้นการสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว การประชาสัมพันธ์เชิงรุกและการตลาด จึงเล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ รวมไปถึงศิลปวัฒนธรรม ประเพณีที่มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้จัดงานมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม ประจำปี 2566 (CHARMING Chiang Mai Flower Festival 2023)  ภายใต้แนวคิด 'Miracle Flora' (แสง..สี..ศิลป์ มนต์เสน่ห์ดอกไม้งาม) ระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2565 – 2 มกราคม 2566 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และบริเวณทิศตะวันออกของหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (ด้านหลังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่) 

เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสภาพลักษณ์ที่ดีงามในวิถีชีวิตและวัฒนธรรมล้านนา รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ให้พัฒนาและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่หลากหลายเหมาะสมกับแต่ละเทศกาลและสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมโยงและส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน สังคม ประชาชน และชุมชนด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่

สำหรับงานมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม ประจำปี 2566 (CHARMING Chiang Mai Flower Festival 2023) พิธีเปิดงานฯ ในวันที่ 16 ธันวาคม 2565 เวลา 18.00 น. ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ และบริเวณตรงกันข้ามหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (ด้านหลังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่) งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2565 - 2 มกราคม 2566 ตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.00 น. 

กิจกรรมภายในงาน อาทิ งานศิลปาชีพล้านนาไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี ครั้งที่ 4   กิจกรรมดนตรีในสวน กิจกรรมนิทรรศการสวนไม้ดอกไม้ประดับ  ซึ่งมีทั้งป่าฝนเขตร้อนแห่งกล้วยไม้นานาพันธุ์ จุดเด่น กล้วยไม้สกุลฟาแลนนอปซิส, แวนด้า และไม้ดอกไม้ประดับชนิดต่าง ๆ, สวนบุปผาแห่งเหมันต์ แหล่งความงามของดอกไม้เมืองหนาวสีสันสดใส มี ดอกทิวลิป, ดอกไฮเดรนเยีย, ลิลลี่, ไซคลาเมน และไลเซนทัส, พลังแห่งแสงอาทิตย์ ความสวยงามของดอกไม้เขตร้อน ทั้ง ดอกฮอลลี่ฮ็อค, เจอราเนียม, บีโกเนียดอกซ้อน และสับปะรดสี ฤดูกาลที่เปลี่ยนผัน จุดเด่น ดอกไม้ไฟ ประดับไฟแสงสี ที่ให้บรรยากาศสีสันของฤดูกาลทั้ง 4 สวยงามตระการตา และ ทุ่งดอกบลูซัลเวียบานสะพรั่ง ชูดอกสีม่วงสวยสุดลูกหูลูกตา สุดสวยงาม จุดเด่น การแสดงน้ำพุดนตรี วันละ 3 รอบ คือ ในเวลา 19.00 น. ,19.45 น. และ 20.30 น. กิจกรรมนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยว (ศูนย์เรียนรู้กล้วยไม้) การสาธิตและให้ความรู้ขั้นตอนการขยายพันธุ์ การแสดงกล้วยไม้ที่หาชมได้ยาก

กิจกรรมงานมนต์เสน่ห์สินค้า OTOP และผลิตภัณฑ์ชุมชน จังหวัดเชียงใหม่ (Charming Chiang Mai OTOP and Community Products Select 2023) จำหน่ายสินค้า OTOP และผลิตภัณฑ์ชุมชน 17 จังหวัดภาคเหนือ การจำหน่ายอาหารของสมาคมร้านอาหารและสถานบันเทิงจังหวัดเชียงใหม่ (ซุ้มอาหารและFood Truck)

ไฮไลฟ์ ดีเวลลอปเม้นท์ ประชันไอเดีย นวัตกรรมการออกแบบอาคารเพื่อร่วมแก้ปัญหา มลภาวะเป็นพิษ PM2.5 ในงาน 'HYFIVE DESIGN AWARD 2022'

ไฮไลฟ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จัดงาน HYFIVE DESIGN AWARD 2022 ขึ้นระหว่างวันที่ 8-14 ธันวาคม 2565 ณ โกดังราชวงศ์ เชียงใหม่ ซึ่งเป็นกิจกรรม CSR โครงการแรกของบริษัทฯ ที่มุ่งหวังการ มีส่วนร่วมกับชุมชนเพื่อปรับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเชียงใหม่จากมลภาวะเป็นพิษ PM 2.5 ภายในงานมีพิธีมอบรางวัลผู้ชนะการออกแบบอาคารและการจัดแสดงผลงานของผู้ชนะการประกวด 'นวัตกรรมการออกแบบอาคารเพื่อร่วมแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในจังหวัดเชียงใหม่อย่างยั่งยืน' ที่สะท้อนการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 รวมทั้งสิ้น 6 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 70,000 บาท

นางสาวพีรญา วงศรานุชิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท ไฮไลฟ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ “เนื่องจากบริษัทฯ ตระหนักในปัญหามลภาวะ เป็นพิษ PM2.5 ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของคนเชียงใหม่ ไฮไลฟ์ ดีเวลลอปเม้นท์ ตั้งใจให้งานนี้เป็นการเปิด โอกาสให้กับนักศึกษา และบุคคลทั่วไปที่สนใจและมีความถนัดด้านการออกแบบได้ประชันฝีมือ เป็นที่มา ของงาน HYFIVE DESIGN AWARD 2022 ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ร่วมเข้าแข่งขันส่งผลงานเข้า มากว่า 37 ผลงานจากทั่วประเทศ”

‘ก้าวไกล’ รับฟังปัญหาชุมชนแออัดในเชียงใหม่ พร้อมชงปลดล็อกท้องถิ่น กระจายที่ดินสู่ปชช.

‘พิธา’ พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล สำรวจชุมชนแออัดเชียงใหม่ ชี้ปัญหาประชาชนไม่มีที่อยู่มั่นคง ที่ดินถูกทิ้งร้าง-กระจุกในมือเอกชนรายใหญ่ ชงแก้ปัญหาระยะยาว สร้างรัฐสวัสดิการ-ปลดล็อกท้องถิ่น-กระจายที่ดินให้ประชาชน

วันที่ 10 ธันวาคม 2565 ที่จังหวัดเชียงใหม่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ ของพรรคก้าวไกล ประกอบด้วย เขต 1 เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู, เขต 3 ณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล และ เขต 4 พุธิตา ชัยอนันต์ ร่วมสำรวจและรับฟังปัญหาชาวชุมชนริมคลองแม่ข่า หลังวัดโลกโมฬี อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนแออัดที่อยู่ในพื้นที่ของเทศบาลนครเชียงใหม่ และกำลังได้รับผลกระทบจากแผนพัฒนาแม่บทคลองแม่ข่า รวมถึงการไล่รื้อชุมชนออกจากพื้นที่ด้วย

.จากการรับฟังปัญหา พบว่าชุมชนแออัดในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ มีจำนวนกว่า 21 ชุมชน รวม 2,169 หลังคาเรือน คิดเป็น 3% ของประชากรในเขตเทศบาล โดยที่ดินที่อาศัยอยู่ทั้งหมดเป็นที่ดินของรัฐ ส่วนใหญ่เป็นที่ดินราชพัสดุและเทศบาลนครเชียงใหม่ และหน่วยงานอื่น ๆ รวมกันกว่า 9 หน่วยงาน ชาวชุมชนมีทั้งที่อยู่อาศัยโดยมีสัญญาเช่าและไม่มีสัญญาเช่า ซึ่งตามแผนพัฒนาแม่บทคลองแม่ข่าไม่ได้มีแผนในการจัดการที่อยู่อาศัยหรือการชดเชยที่ชัดเจนหากการไล่รื้อเกิดขึ้น

.เพชรรัตน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตัวแทนชุมชนมีข้อเสนอในการจัดการ โดยขอให้ทางจังหวัดหยุดการไล่รื้อหรือย้ายประชาชนออกจากชุมชนจนกว่าจะมีแผนแม่บทการจัดการที่อยู่อาศัยที่ชัดเจน โดยชุมชนพร้อมจะปรับปรุงในที่ดินเดิมผ่านคณะทํางานที่อยู่อาศัยระดับชุมชน ในการร่วมกำหนดระยะร่นของอาคารและการปรับปรุงที่เหมาะสม ส่วนประชาชนที่ไม่สามารถอยู่ที่เดิมได้ จะขอเช่าอยู่ในพื้นที่ของรัฐใกล้เคียงที่เดิมและขอมีส่วนร่วมในการกําหนดเกณฑ์การพิจารณาสิทธิในการอยู่อาศัยร่วมกับคณะทํางาน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top