Saturday, 18 May 2024
เชียงใหม่

‘บิ๊กป้อม’ ขึ้นปราศรัย ขออาสาสร้างความเป็นหนึ่งเดียว เมินโพลไม่ติด 1 ใน 10 ‘นายกฯ ในใจ’ ยันเดินหน้าต่อ

‘บิ๊กป้อม’ ขึ้นเวทีเชียงใหม่ อ้อนเลือกพปชร. ช่วยให้ประเทศเป็นหนึ่งเดียว ลั่น เป็นรัฐบาลทำทุกนโยบาย ด้านปชช. หนีฝน กลับก่อน เมินไม่ติด 1 ใน 10 อันดับนายกฯ ในใจ ยัน เดินหน้าต่อ

(19 มี.ค.66) เมื่อเวลา 17.35 น. ที่อาคารยิมเนเซียม สนามกีฬาสมโภชน์ 700 ปี จ.เชียงใหม่  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางถึงเวทีปราศรัย ภาคเหนือ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือตอนบน 6 จ. จำนวน 23 คน 

โดยบรรยากาศก่อนการปราศรัย พปชร. มีชาวบ้านเดินทางมารับฟังยิมเนเซียมตั้งแต่ช่วงเวลา 13.00 น. ขณะที่ตามกำหนดการเดิม พล.อ.ประวิตร จะขึ้นปราศรัย 17.15น.แต่ปรากฏว่า ในช่วงที่ พล.อ.ประวิตร ยังไม่มาถึง ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับ เนื่องจากมีลมแรง และเสียงฟ้าร้องดังต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงมรสุมพายุฤดูร้อน ทำให้ประชาชนบางส่วนขอเดินทางกลับก่อน จนยิมเนเซียมดูโล่ง 

ก่อนหน้านั้นร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พปชร.ในฐานะกำกับดูแลการเลือกตั้งพื้นที่ภาคเหนือ กล่าวปราศรัยบนเวที ว่า ทราบว่ามีพี่น้องชาวเชียงใหม่มานั่งรอพรรคพปชร.อย่างคับคั่งเหมือนเช่นปี 62 เพื่อมารอฟังการปราศรัยของผู้บริหารพรรค ตนตั้งใจมาหาชาวเชียงใหม่ แต่วันนี้ก็มีพายุโซนร้อนเข้าที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็เข้าใจได้ที่อาจจะไม่ได้เจอกันครบทุกคน ล่าสุดตนไปปราศรัยกับพี่น้องชาวจังหวัดเชียงราย ท่ามกลางอากาศที่ร้อนมาก แต่พี่น้องยังมีใจมาให้การต้อนรับและสนับสนุนพวกเรา

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ทุกพรรคการเมืองมีนโยบายดีทุกพรรค หากว่าเกิดประโยชน์กับประชาชน แต่ พปชร.ได้พูดเสมอว่า เราเป็นพรรคของประชาชน ชื่อพรรคบอกชัดเจนอยู่แล้วว่า เป็นการรวมกันของพลังของคน 2 กลุ่ม คือ การร่วมพลังของประชาชนทั้งแผ่นดินทั้ง 77 จังหวัด ภายใต้การดูแลของรัฐ ก็คือรัฐบาล

"ประเทศไทยของเรามีโครงสร้างเป็นฐานพีระมิด เริ่มจากฐานรากหญ้า ก็คือ พี่น้องประชาชน นโยบายที่พรรคพลังประชารัฐ นำเสนอออกมา คือต้องการทำให้คนฐานรากมีความเข้มแข็ง อย่างเช่น บัตรประชารัฐ  ที่จะมีการเพิ่มเงินจากมูลค่า 300 เป็น 700 บาท ทันทีเมื่อพรรคพลังประชารัฐได้บริหารประเทศ"

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายดูแลผู้สูงอายุ ที่ทุกวันนี้ผู้สู่งอายุได้รับอยู่ที่ 600 ถึง 1000 บาท แต่หลังการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมดูแลผู้สูงอายุ 60 ปี เอาไปเลย 3000 บาท 70 ปี 4000 บาท และ 80 ปีขึ้นไป 5000 บาท การสร้างความเข้มแข็งให้กับคนฐานรากต่อสิ่งสำคัญที่สุดที่พรรคพลังประชารัฐตั้งใจทำ เพราะเราต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเปราะบาง 

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวทิ้งท้ายว่า พรรคพลังประชารัฐ เราจะดูแลราคาพืชผลทางการเกษตรสำคัญของชาวภาคเหนือ นั่นก็คือ ราคาลำไย คือสิ่งที่ผมต่อสู้อย่างต่อเนื่อง โดยมีคนที่สนับสนุนพวกเรามาตลอดก็คือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ของเรา 

ต่อมาเวลา 17.45 น. พล.อ.ประวิตร และคณะที่ในช่วงบ่ายเดินทางไปเวทีปราศรัยและเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของ พปชร.ที่ จ.เชียงรายก่อนหน้านั้น ได้เดินทางมาถึงอาคารยิมเนเซียม ทันทีที่มาถึงประชาชนที่รอฟังการปราศรัยได้ตะโกนร้องต้อนรับเสียงดังกึกก้อง

จากนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวปราศรัย ว่า รู้สึกอบอุ่นใจเป็นอย่างยิ่งท่ามกลางพี่น้องชาวเชียงใหม่ซึ่งเป็นจังหวัดเมืองใหญ่ของไทย มีการท่องเที่ยวก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง ตนมาในวันนี้พร้อมกับผู้บริหารพรรคอีกหลายคน รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และสมาชิก ฝาก พปชร.ไว้กับประชาชนทุกคนด้วย เราพร้อมจะทำงานรับใช้ชาวเชียงใหม่ทุกคน ฝากทุกคนไว้ว่า ให้เลือกผู้สมัคร ส.ส.ของ พปชร.ทุกคน พปชร.ได้คัดสรรคนดี คนเก่ง คนที่ตั้งใจจริงมาเป็นผู้แทน มุ่งมั่น ร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อพัฒนาแก้ไขปัญหาทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์กับคนเชียงใหม่ เราต้องดการแก้ปัญหาทุกเรื่องให้คนเชียงใหม่ให้อยู่ดีกินดี ผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ให้กับทุกคน

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สำหรับนโยบายของพรรคพปชร. ได้แก่ บัตรประชารัฐ 700 บาท จะทำทันทีเมื่อได้เป็นรัฐบาล ลดค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ค่าแก๊ส อยู่ในความคิดของ พปชร.ที่จะทำทันทีเช่นเดียวกัน การดูแลคนทุกช่วงวัย เบี้ยผู้สูงอายุ แม่และเด็ก ให้เท่าเทียมกัน ลดปัญหาความเลื่อมล้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง เป็นภารกิจของตนที่จะทำให้ทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ว่าจะน้ำอุปโภค อุปโภค น้ำเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะน้ำประปา ต้องมีความสะอาด ตนจะต้องดำเนินงานให้ทุกคนได้ใช้น้ำที่ดี นอกจากนี้ จะลด PM 2.5 ซึ่งสำคัญสำหรับคนเชียงใหม่ โดยจะแก้ทันทีเมื่อเราเข้ามาเป็นรัฐบาล ขณะเดียวกัน เราจะปราบปรามยาเสพติด 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ในเรื่องการใช้ที่ดินของรัฐ ซึ่งมีปัญหาซ้อน ตนกำลังทำอยู่ โดยจะให้คนที่ถือที่ดิน ส.ป.ก. ที่ดินของรัฐ และในป่าสงวน เราพยายามให้ทุกคนมีโอกาสมาเป็นเจ้าของที่ดิน โดยการออกโฉนดให้ ฝากทุกคนว่าให้เลือก พปชร. ทุกอย่างที่ตนพูด เราจะทำให้ท่านทันที ส่วนปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมออนไลน์ ที่เป็นอันตรายต่อประเทศ ต้องแก้ปัญหาได้ทันที ซึ่งเราทำมาแล้วและจะทำต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่เรื่องการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของ จ.เชียงใหม่ ยืนยันว่าจะมาต่อยอด ดำเนินการให้ จ.เชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างแท้จริง
 

‘เพชรรัตน์ ก้าวไกล’ รุดช่วยชาวเชียงใหม่ประสบภัยพายุลูกเห็บ ย้ำ!! บทบาทท้องถิ่นสำคัญ สามารถช่วยปชช. ได้ทันท่วงที

‘พลอย เพชรรัตน์’ ก้าวไกลเชียงใหม่ เขต 1 เร่งประสานช่วยเหลือประชาชน หลังพายุลูกเห็บถล่ม พบ ต.ฟ้าฮ่าม เสียหายกว่า 6,000 หลังคาเรือน ชี้โดมความร้อนเป็นเหตุ ในอนาคตมีโอกาสเกิดซ้ำ ระยะยาวต้องสร้างระบบแจ้งเตือนล่วงหน้า ย้ำนโยบาย ‘ก้าวไกล’ หนุนกระจายอำนาจ เพิ่มงบท้องถิ่นรับมือสถานการณ์

(20 มี.ค.66) เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีเกิดวาตภัยสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงใหม่ ว่าจากการลงพื้นที่ร่วมกับเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center) พบว่าความเสียหายเกิดขึ้นใน 2 ส่วนหลัก คือบ้านเรือนของประชาชน และเสาไฟฟ้าหักโค่น โดย ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมือง เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เกิดความเสียหายมากที่สุด หมู่บ้านที่ประสบปัญหาหนัก ประกอบด้วยหมู่ 1,2,3, และ 5 บ้านเรือนเสียหายจนแทบอาศัยอยู่ในบ้านไม่ได้ และทั้งหมด 7 หมู่บ้านใน ต.ฟ้าฮ่าม เกิดความเสียหายกว่า 6,000 หลังคาเรือน

เพชรรัตน์ กล่าวถึงการช่วยเหลือประชาชนของหน่วยงานในท้องถิ่นว่า ตอนนี้ทางเทศบาลตำบลฟ้าฮ่ามได้ตั้งศูนย์ประสานงานชั่วคราว ยังคงรับบริจาคกระเบื้องมุงหลังคาเพื่อมอบให้พี่น้องในชุมชน รวมถึงน้ำดื่มสะอาด อาหารพร้อมทาน และเครื่องปั่นไฟชั่วคราวตามหมู่บ้าน เพื่อช่วยเหลือประชาชนเป็นการเฉพาะ ขณะที่พรรคก้าวไกลได้เร่งประสานงานระหว่างบุคคลทั่วไปที่ต้องการช่วยเหลือคนในพื้นที่ ระดมอาหาร เครื่องปั่นไฟ จัดส่งให้เทศบาลฯ

‘ชัยวุฒิ’ มั่น!! ส.ส.พปชร.ปักธงเชียงใหม่ หลังผลงานโดนใจ ยัน!! ตั้งใจพาบ้านเมืองเดินหน้า ไม่แบ่งฝ่าย ไม่แบ่งสี

(25 มี.ค.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังจากการลงพื้นที่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า...

“วันนี้มาลงพื้นที่ที่ตลาดอําเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ มาช่วยผู้สมัคร ส.ส.ต้น นรพล ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน ประชาชนก็ตอบรับดี เพราะว่าเราก็มีโครงการหลายอย่างดีๆ ที่มาช่วยพี่น้องที่จังหวัดเชียงใหม่ แล้วก็มีการพัฒนาบ้านเมืองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผมเชื่อว่าที่นี่ก็เป็นพื้นที่เป้าหมายที่เราน่าจะชนะการเลือกตั้ง และได้ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชารัฐแน่นอน”

เมื่อถามถึงนโยบายของพรรค นายชัยุวุฒิ กล่าวว่า “ลุงป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็เน้นอยากให้สมาชิกพรรคทุกคนชี้แจงประชาชนเข้าใจนโยบายสําคัญของพรรค คือ การก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่แบ่งสี ไม่ทะเลาะกัน เราต้องช่วยกันทํางาน”

เมื่อถามถึงคำพูดคำว่าปฏิวัติรัฐประการในมุมพลเอกประวิตร ชัยวุฒิ กล่าวว่า “ความสามัคคี ทําให้บ้านเมืองสงบสุข และจะไม่มีการปฏิวัติรัฐประหารแน่นอน เพราะถ้าเราทะเลาะกันไม่สามัคคีกัน บ้านเมืองเดินหน้าไม่ได้ ไม่ทําตามกติกาประชาธิปไตย มันก็อาจจะเกิดการปฏิวัติได้ เราถึงเน้น ให้ทุกคนช่วยกัน ทําความเข้าใจกับประชาชน ให้เราก็ต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง ต้องรักกันสามัคคีกัน ต้องทําให้ได้ นี่คือนโยบายสําคัญของพรรคพลังประชารัฐ ก้าวข้ามความขัดแย้ง”

เมื่อถามถึงเรื่องรัฐธรรมนูญ ชัยวุฒิ กล่าวว่า “ก็เป็นเรื่องสําคัญที่ประชาชนถามกันมากเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ผมว่าอย่ามาใช้ในการหาเสียง เพราะมันเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้ถึงเวลา เราอยากให้การเลือกตั้งเสร็จ มีสภามีตัวแทนพี่น้องประชาชน และให้สภา ให้ ส.ส. มาคุยกันด้วยเหตุด้วยผล มาหาทางออกให้ประเทศไทย ว่าเราควรแก้รัฐธรรมนูญแบบไหนอย่างไร? อย่าใช้อารมณ์ ใช้เหตุผล ให้ ส.ส.ซึ่งเป็นตัวแทนของท่านไปทําหน้าที่ในสภาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไปในอนาคต”

ทีเส็บ จัดโรดโชว์โครงการ ‘ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย’

เปิดประตูสู่ภาคเหนือ เยือนเชียงใหม่สร้างความมั่นใจ จัดกิจกรรมไมซ์ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย
 

‘ทีเส็บ’ เปิดตัวโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” ให้งบสนับสนุนองค์กร จัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลภายในประเทศจำนวน 1,000 กลุ่ม หวังสร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท จัดโรดโชว์ปลายทางเมืองไมซ์ซิตี้ทั่วประเทศ กระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศ ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย ณ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว จังหวัดเชียงใหม่

คุณสุวัชชัย นิมมานเทวินทร์ ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคกลาง กล่าวว่า “ทีเส็บได้ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศขององค์กรต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 และในปี 2566 นี้ ทีเส็บได้เดินหน้าให้การสนับสนุนต่อภายใต้ชื่อโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” เพื่อเร่งกระตุ้นนักเดินทางไมซ์และสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยใช้กลไกการสนับสนุนเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการจัดงานไมซ์ทั่วประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ทุกภูมิภาคอีกด้วย พร้อมกันนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไมซ์ ชุมชน รวมถึงธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ได้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ ก่อเกิดเป็นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยจัดกิจกรรมโรดโชว์ประชาสัมพันธ์โครงการทั่วประเทศ

สำหรับกิจกรรมโรดโชว์ในภาคเหนือตอนบนจัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เมืองไมซ์ซิตี้ชั้นนำระดับประเทศ และได้รับยกย่องให้เป็นเมืองเทศกาลโลก World Festival and Event City ประจำปี 2022 ซึ่งเป็นการยืนยันความมีเสน่ห์ของเชียงใหม่ในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว การประชุม และงานเทศกาลในระดับนานาชาติ เชียงใหม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และแหล่งท่องเที่ยวชุมชน มีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมล้านนา ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากในแต่ละปี และยังเป็นเมืองแห่งศูนย์กลางของการประชุมระดับภูมิภาคด้วย เชียงใหม่จึงมีศักยภาพและความพร้อมในทุกด้านที่ผู้ประกอบการสามารถเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานไมซ์ได้อย่างดีเยี่ยม” คุณสุวัชชัยกล่าว

ภายในงานโรดโชว์ได้รับเกียรติจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานเปิดงาน และมีกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การเสวนาในหัวข้อ “กระตุ้นเศรษฐกิจไทย ด้วยกิจกรรมประชุมไมซ์ในประเทศ” ทำความรู้จักโครงการประชุมเมืองไทยฯ และแพลตฟอร์ม Thai MICE Connect โดย คุณศุภาดา ชัยวงษ์  ผู้แทนการตลาด

สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคเหนือ และ คุณนราศักดิ์ ม่วงแก้ว ผู้จัดการส่วนงาน MICE Innovation นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “เพิ่มโอกาสการขายลูกค้ากลุ่มธุรกิจบนโลกการตลาดออนไลน์ (B2B Digital Marketing Talk)”  โดย คุณชวัลวิทย์ รักษพล ผู้ก่อตั้ง M Creation Agency และมี Thai MICE Connect: Exclusive Clinic คลินิกให้คำปรึกษาการใช้งาน Thai MICE Connect แบบตัวต่อตัวอีกด้วย

โครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” เป็นโครงการสนับสนุนด้านงบประมาณการ   จัดงานไมซ์ให้แก่ผู้ประกอบการและนิติบุคคลตามกฎหมายที่มีแผนการจัดกิจกรรมไมซ์อย่างใดอย่างหนึ่งใน 7 ประเภท ได้แก่ กิจกรรมการประชุม (Meetings) กิจกรรมการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) กิจกรรมสัมมนา (Seminars) กิจกรรมการอบรม (Training) กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) กิจกรรมพนักงานสัมพันธ์ (Outing) และกิจกรรมศึกษาดูงาน (Field trip) โดยมีเงื่อนไขการสนับสนุน 2 รูปแบบ คือ 1.งบสนับสนุน     ไม่เกิน 15,000 บาท สำหรับการจัดกิจกรรมเป็นระยะเวลา 1 วัน (ไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง) และ 2. งบสนับสนุนไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับการจัดกิจกรรมอย่างน้อย 2 วัน 1 คืน โดยขอรับการสนับสนุนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 22 สิงหาคม 2566

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ผนึกกำลัง มช. สร้างความร่วมมือ “พัฒนาระบบกล้องวงจรปิดแบบบูรณาการ

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ผนึกกำลัง มช. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ“การศึกษาพัฒนาระบบกล้องวงจรปิดแบบบูรณาการ เสริมการทำงานตำรวจท่องเที่ยว เพื่อความปลอดภัยนักท่องเที่ยว”

รองศาสตราจารย์ประเสริฐ ฤกษ์เกรียงไกร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ พลตำรวจโท สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย อาจารย์ ดร.ดนัยธัญ พงษ์พัชราธรเทพ รองคณบดีวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ พลตำรวจตรี อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การศึกษาพัฒนาระบบกล้องวงจรปิดแบบบูรณาการเพื่อความปลอดภัยนักท่องเที่ยว” ร่วมกัน เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 เวลา  13.30 น. ณ ห้องประชุมพระยาศรีวิสารวาจา สำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนความร่วมมือด้านการวิจัย เน้นการพัฒนาต้นแบบกล้องวงจรปิด AI ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  เพื่อช่วยการทำงานของตำรวจท่องเที่ยว ให้มีความรวดเร็วเห็นผลและได้คุณภาพมากยิ่งขึ้นโดยได้กำหนดขอบเขตของความร่วมมือด้านการวิจัย  ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล  จำนวนนักท่องเที่ยว รวมทั้งการตรวจจับการจำกัดเขตหวงห้ามในจุดเสี่ยงและเวลาที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม

รองศาสตราจารย์ประเสริฐ ฤกษ์เกรียงไกร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กล่าวว่า “ความร่วมมือกับกองบัญชาการตํารวจท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันนี้ จะเป็นอีกก้าวหนึ่งของความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกันในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนาระบบกล้องวงจรปิดแบบบูรณาการ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้ว และยังนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ซึ่งมีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำที่รับผิดชอบต่อสังคม และการพัฒนาที่ยั่งยืนดังค่านิยมด้าน Community Engagement  การเชิดชูรับใช้สังคม โดยมุ่งเน้นท้องถิ่นและมีความรับผิดชอบต่อสังคม”

ด้านพลตำรวจโท สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวถึงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในครั้งนี้ว่า “สืบเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เห็นว่าความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยในการทำงานของตำรวจท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลการทำงานของตำรวจท่องเที่ยวที่มีกำลังพลอยู่อย่างจำกัด กอปรกับนโยบายของรัฐบาลที่มีแนวคิดพัฒนาในการพัฒนางานด้านนิติวิทยาศาสตร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และที่ผ่านมาผมได้ตระหนักมาตลอดว่างานด้านนิติวิทยาศาสตร์ของเรา มีทั้งองค์ความรู้ทางวิชาการ และประสบการณ์ในการทำงานที่จะนำมาแลกเปลี่ยนเพื่อประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้าและวิจัย และมีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่ปฎิบัติหน้าที่จริงและสถาบันการศึกษา เพื่อการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ความสามารถ และต่อยอดงานด้านวิชาการเกี่ยวกับงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ไปในอีกมิติหนึ่ง การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการดำเนินงานนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลการทำงานของตำรวจท่องเที่ยวที่มีกำลังพลอยู่อย่างจำกัด

เทศบาลนครเชียงใหม่ ชวนเที่ยวเทศกาล “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ประจำปี 2566” 

เทศบาลนครเชียงใหม่ ชวนเที่ยวเทศกาลงานประเพณีสงกรานต์เชียงใหม่ “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ประจำปี 2566” ตั้งแต่วันที่ 12-16 เมษายน 2566

อีกหนึ่งเทศกาลที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ รอคอยกับ “เทศกาลงานประเพณีสงกรานต์เชียงใหม่” ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีของเดือนเมษายน โดยปีนี้ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้มีการจัดเตรียมกิจกรรม “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ประจำปี 2566” เพื่อร่วมส่งเสริมศิลปะวัฒนธรรม และฟื้นฟูประเพณีล้านนาดั้งเดิม ผ่าน 14 กิจกรรม ทั่วเขตเทศบาลฯ ตั้งแต่วันที่ 12-16 เมษายน 2566

นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เชิญชวนพี่น้องในจังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดใกล้เคียง, นักท่องเที่ยวจากทั่วเมืองไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เตรียมตัววางแผนการเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร และเส้นทางต่างๆ ที่จะนำทุกท่านร่วมสืบสานประเพณีล้านนากว่า 727 ปี และทำบุญไปพร้อมๆ กัน ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่จะอิ่มใจไปกับพี่น้องชาวเชียงใหม่ 

คดีคนต่างด้าวถือครองที่ดินโดยผิดกฎหมาย ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

สืบเนื่องจากปรากฏข้อมูลบนสื่อออนไลน์ว่า มีบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในประเทศไทย ซื้ออสังหาริมทรัพย์และถือครองที่ดิน ใน จ.เชียงใหม่ เป็นจำนวนมาก 


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. , พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ บก.ตม.5 ร่วมกับ ภ.จว.เชียงใหม่ ตรวจสอบบริษัทที่เข้าข่ายต้องสงสัยที่ใช้ช่องว่างของกฎหมายในการถือครองตรวจสอบการถือครองที่ดินอสังหาริมทรัพย์และประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พบว่า มีบริษัทแห่งหนึ่งเข้าข่ายลักษณะดังกล่าว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พงส.สภ.สันกำแพง 


ภ.จว.เชียงใหม่ จึงเร่งรัดให้รวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการขอหมายจับต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ จนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 8 หมาย ได้แก่ นิติบุคคล 1 หมาย คนจีน จำนวน 3 หมาย และคนไทย จำนวน 4 หมาย 


ต่อมาวันที่ 28 มี.ค.66  ภ.จว.เชียงใหม่ , บก.ตม.5 ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการปิดล้อมและติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 5 ราย ดังนี้

1.บริษัท ฟ้าหลวงการเกษตร จำกัด แจ้งข้อกล่าวหา Mrs.Qingfang Li (นางชิ่งฟาง หลี่) ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต”


2.Mrs.Qingfang Li (นางชิ่งฟาง หลี่) สัญชาติจีน เป็นผู้ที่ใช้ชื่อ นางปาริชาติฯ ถือหุ้นแทนตนและเป็นกรรมการ(Nominee)  ข้อหา “เป็นคนต่างด้าว ยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าว ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิดนั้นหรือมิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น และร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย”


3.นางปาริชาติ  เป็นผู้ที่ถูก Mrs.Qingfang Li (นางชิ่งฟาง หลี่)   ใช้ชื่อถือหุ้นแทนตนและเป็นกรรมการ(Nominee)ข้อหา “เป็นผู้ช่วยเหลือ หรือสนับสนุน ให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายอสังหาริมทรัพย์ โดยการถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ซึ่งการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายอสังหาริมทรัพย์นี้เป็นธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษ ตามบัญชีท้าย บัญชีหนึ่ง ลำดับที่ 9 การค้าที่ดิน , เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิดนั้นหรือมิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น และร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย”

เชียงใหม่-ระดม!! อากาศยานทุกรูปแบบ ปฏิบัติภารกิจเข้าควบคุมไฟป่า

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 เวลา 13.00 น. ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ภาค 3 บูรณาการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน ภาคเหนือ

พล.ต.วีรวัฒน์ วิวัฒน์วานิช เลขาธิการ กอ.รมน.ภาค 3 /รองผู้อำนวย การศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ภาค 3 กล่าวว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ คงทราบกันดีว่า สภาพอากาศมีคุณภาพที่ตกต่ำลงอย่างรวดเร็วแล้วก็ค่อนข้างแย่ นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใย พี่น้องประชาชนประกอบกับ เราทำงานปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อควบคุมไฟป่า ภาคเหนืออยู่ทุกวันแล้ว แต่ว่า ประชาชนไม่ค่อยจะทราบเลยว่าเราทำอะไร  

ถือโอกาสที่วันนี้ มีจุดความร้อนค่อนข้างเยอะแล้วก็ชัดเจนว่าจะต้องมาร่วมกันดับไฟป่า โดยใช้อากาศยานเข้าไปช่วยหน่วยภาคพื้น ถือโอกาสรวมอากาศยาน ที่ปกติจอดกระจายอยู่ ในที่ต่างๆ เอามารวมกัน แล้วเชิญสื่อมวลชนมา ให้เห็นว่าจริงๆเรามียุทโธปกรณ์มากขนาดไหน พร้อมทั้งสื่อมวลชนขึ้น เฮลิคอปเตอร์ MI-17 เพื่อติดตามทำการใช้เฮลิคอปเตอร์ KA-32 กรม ปภ. ดับไฟป่า อ.เชียงดาว 

ในขณะเดียวกันวันนี้ ยังได้เชิญภาคประชาชนมาร่วมดูข้อเท็จจริงที่การทำงานของเราด้วย มีทั้งผู้นำชุมชน และภาคส่วนที่กำลังทำเรื่องการจัดการเชื้อเพลิง ที่จะช่วยเราทในำโครงการแก้ปัญหาระยะยาว ในการเก็บรวบรวมเชื้อเพลิง ต้นเหตุ  ไฟป่า หมอกควัน ออกจากป่า ออกมาใช้ประโยชน์ในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ก็เลยเป็นที่มาของการรวมอากาศยานในวันนี้ 

เทศบาลนครเชียงใหม่ ห่วงใยประชาชน แจกหน้ากาก N95 ป้องกันฝุ่นละออง PM2.5

ในวันที่ 30 มีนาคม 2566 เวลา 11.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา ตรงข้ามอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เทศบาลนครเชียงใหม่ นำโดย นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ห่วงใยประชาชน แจกหน้ากาก N95 ป้องกันฝุ่นละออง PM2.5 จำนวน 100,000 ชิ้น ไปยัง 99 ชุมชน

นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ หรือ PM2.5 ในจังหวัดเชียงใหม่เกินค่ามาตรการ อย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน แม้ว่าในพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่ 40.216 ตร.กม. จะไม่มีจุดความร้อน หรือ Hot Spot เกิดขึ้น เนื่องจากเทศบาลนครเชียงใหม่ได้มีการเก็บ ขยะประเภทกิ่งไม้ ใบไม้ ซึ่งเป็นตันตอของปัญหาการเผา เพื่อนำไปทำปุ้ยอินทรีย์อย่างต่อเนื่องแต่ในพื้นที่ก็ยังคงได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแอ่งกระทะ มีภูเขาล้อมรอบ ทำให้มีฝุ่นละอองจากนอกพื้นที่สะสมอยู่ในเขดเทศบาลนครเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก

ททท.เชียงใหม่ จัดกิจกรรม“น้ำทิพย์ปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ประจำปี 2566” ฟื้นฟูพิธีกรรมล้านนาโบราณ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ จัดกิจกรรม “น้ำทิพย์ปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ประจำปี 2566” ฟื้นฟูพิธีโบราณล้านนาอัญเชิญน้ำทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ 9 แหล่งน้ำสำคัญ แจกในงาน "ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่”วันที่ 12-16 เมษายน 2566 จำนวน 9 จุด จำนวน 10,727 ขวด เพื่อเฉลิมฉลองเชียงใหม่ครบรอบ 727 ปี 

นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า ททท. สำนักงานเชียงใหม่ ได้มีการจัดกิจกรรม “น้ำทิพย์ปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ประจำปี 2566” เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่เมือง และร่วมเฉลิมฉลองเมืองเชียงใหม่อายุครบ 727 ปี  ในระหว่างวันที่ 31 มีนาคม -16 เมษายน 2566 โดยกิจกรรมดังกล่าวได้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 เพื่อเป็นการร่วมฟื้นฟูพิธีกรรมล้านนาโบราณในการทำน้ำทิพย์ที่ได้สูญหายไปจากเมืองเชียงใหม่ ให้กลับมาเป็นที่รู้จักในเยาวชนคนรุ่นหลัง ที่จะได้เป็นการหวนรำลึกถึงประเพณีโบราณนี้ และเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมเปิดประสบการณ์ ในพิธีกรรมอันล้ำค่าที่สัมผัสที่ไหนไม่ได้นอกจากเมืองเชียงใหม่
 
โดยได้จัดให้มีพิธีตามประเพณีแบบโบราณ อาทิ
• พิธีอัญเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์จากบ่อศักดิ์สิทธิ์ ทั้ง 9 แห่ง ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม - 9 เมษายน 2566
• พิธีหุงน้ำทิพย์ปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ วันจันทร์ ที่ 10 เมษายน 2566 เวลา 09.09 น. พระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
• พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ในวันจันทร์ ที่ 10 เมษายน 2566 เวลา 19.19 น. ณ พระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
• ขบวนแห่ “ไหว้สาจุมสะหรีน้ำทิพย์ปี๋ใหม่เมือง” ในวันพุธ ที่ 12 เมษายน 2566 เวลา 16.00 - 17.00 น.  เส้นทางข่วงอนุเสาวรีย์สามกษัตริย์ - วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
• และ ระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน 2566  นำน้ำทิพย์ปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ จำนวน 10,727 ขวด แจกให้กับประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยว สามารถรับได้ ณ จุดแจกน้ำทิพย์ จำนวน 9 จุด ในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้แก่ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร / วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร / วัดโลกโมฬี / วัดบุพพาราม / วัดป่าแดด / วัดดับภัย / ศูนย์การค้าเมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ / ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ / ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต


 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top