Saturday, 18 May 2024
เชียงใหม่

เชียงใหม่- ผบช.ภ.5 ออกตรวจเยี่ยม และมอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ ช่วงเทศกาลสงกรานต์

วันที่ 15 เมษายน 2566 เวลา 22.30 น. พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม จุดตรวจ ของ สภ.แม่ปิง พบ พ.ต.อ.ญาณพล พัฒนชัย ผกก.สภ.แม่ปิง พร้อมข้าราชการตำรวจ สภ.แม่ปิง พร้อมกันนี้ได้มอบสิ่งของให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ และได้มอบนโยบายและข้อสั่งการของผู้บังคับบัญชา ดังนี้ 

1.การให้บริการประชาชนในสถานีให้เน้นการทำ one stop service เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชน
2.ให้ ผกก. รอง ผกก. และสารวัตร อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ติดต่อได้ตลอดเวลา คอยติดตามสถานการณ์ , แก้ไขปัญหา และรายงานเหตุกรณีเร่งด่วนให้ผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องทราบ
3.จัดตำรวจออกตรวจรักษาความสงบเรียบร้อยและบริการประชาชนให้ทั่วถึง เน้นตามแหล่งชุมชน สถานที่จัดงานเทศกาลสงกรานต์
4.ประชาสัมพันธ์ และบังคับใช้กฎหมายจราจร 10 ข้อหาหลักอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะข้อหา ขับรถในขณะเมาสุรา เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของประชาชน
5.เนื่องด้วยช่วงเทศกาลสงกรานต์มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน ขบวนการหรือเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดมักแฝงตัวในช่วงหยุดยาวมาในลักษณะนักท่องเที่ยวหรือบุคคลที่เดินทางข้ามจังหวัด  ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดในการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด พร้อมกันนี้ให้อำนวยความสะดวกการจราจรและความปลอดภัยนักท่องเที่ยวไปในคราวเดียวกัน 
6.ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่ตามหลักยุทธวิธี ด้วยความรอบคอบ รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต เอื้อเฟื้อต่อประชาชน ดูแลอำนวยความยุติธรรมและให้บริการประชาชนด้วยจิตวิญญาณของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
7.ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ไทย พ.ศ.2566  ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ได้โปรดประทานพรให้ ข้าราชการตำรวจและครอบครัว ประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพร่างกาย แข็งแรง ปลอดภัยและแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง ปฏิบัติหน้าที่ ผู้พิทักษ์สันติราฎร์ เพื่อความสงบสุขของประชาชนต่อไป

นภาพร/เชียงใหม่

เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. เชียงใหม่ ใครได้หมายเลขไหน? อย่าจำผิด!!

สำหรับ 10 เขตของจังหวัดเชียงใหม่ ตามการแบ่งเขตของ กกต. มีดังนี้ 

>> เขต 1 อำเภอเมืองเชียงใหม่ (เฉพาะตำบลช้างเผือก, ตำบลสันผีเสื้อ, ตำบลป่าตัน, ตำบลป่าแดด, ตำบลสุเทพ, ตำบลช้างคลาน, ตำบลช้างม่อย, ตำบลหายยา, ตำบลพระสิงห์, ตำบลศรีภูมิ, ตำบลแม่เหียะ และตำบลฟ้าฮ่าม)
>> เขต 2 อำเภอสารภี อำเภอเมืองเชียงใหม่ (เฉพาะตำบลหนองหอย, ตำบลท่าศาลา, ตำบลหนองป่าครั่ง และตำบลวัดเกต) อำเภอสันกำแพง (เฉพาะตำบลบวกค้าง, ตำบลสันกลาง และตำบลแช่ช้าง)
>> เขต 3 อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอแม่ออน อำเภอสันกำแพง (เฉพาะตำบลสันกำแพง, ตำบลร้องวัวแดง, ตำบลออนใต้, ตำบลแม่ปูคา, ตำบลห้วยทราย, ตำบลทรายมูล และตำบลต้นเปา)
>> เขต 4 อำเภอสันทราย อำเภอแม่ริม (เฉพาะตำบลดอนแก้ว, ตำบลเหมืองแก้ว และตำบลแม่สา)
>> เขต 5 อำเภอแม่แตง อำเภอสะเมิง อำเภอกัลยาณิวัฒนา อำเภอแม่ริม (เฉพาะตำบลริมเหนือ, ตำบลสันโป่ง, ตำบลขี้เหล็ก, ตำบลสะลวง, ตำบลห้วยทราย, ตำบลแม่แรม, ตำบลโป้งแยง และตำบลริมใต้)                                     

เชียงใหม่-กสศ.จัดกิจกรรม​“Thank You Teacher ขอบคุณครูทุนเสมอภาค” ครั้งที่ 1 พร้อมแลกเปลี่ยนบทเรียนการทำงาน

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 เวลา 10.30 น. ที่โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่ กสศ.จัดกิจกรรม​ “Thank You Teacher ขอบคุณครูทุนเสมอภาค” กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้โครงการจัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข สัญจรใน 4 ภูมิภาค เพื่อสร้างสัมพันธ์เครือข่ายการทำงานระหว่างครูทุนเสมอภาคในระดับภูมิภาคจากทุกหน่วยงานต้นสังกัดใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคใต้ และเพื่อขอบคุณครูทุนเสมอภาค พร้อม​ร่วมแลกเปลี่ยนบทเรียนการทำงาน ตลอดจนเสริมศักยภาพ ในการดำเนินงานภายใต้โครงการจัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไขผ่านกระบวนการจัดกิจกรรมโดยมีทีมงานวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ พร้อมสตาร์ทโค้ช กสศ. เข้าร่วมจัดกิจกรรมในครั้งนี้

นางสาวสุชาดา จัตุรภุชพิทักษ์ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ) เผยว่า กสศ. จัดกิจกรรม​ “Thank You Teacher ขอบคุณครูทุนเสมอภาค” กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้โครงการจัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข สัญจร ครั้งที่ 1  ระหว่าง​วันที่ 21 - 22 เมษายน 2566 ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีครูในพื้นที่ ภาคเหนือเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 114 คน จาก จังหวัดเชียงราย น่าน พะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ และพิจิตร 

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณคุณครูที่ร่วมสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียนผ่าน “โครงการจัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข” หรือ “ทุนเสมอภาค” เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และร่วมสร้างเครือข่ายครูทุนเสมอภาคระดับภูมิภาค อีกทั้งเป็นการทบทวนและถอดบทเรียนการดำเนินงานโครงการทุนเสมอภาค และเพื่อเป็นการสื่อสารและรับรู้ถึงสถานการณ์และผลลัพธ์สำคัญของโครงการทุนเสมอภาค และในครั้งต่อไป ครั้งที่ 2 จัดที่ ภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา  ที่โรงแรม หรรษา เจ บี ระหว่างวันที่ 28 - 29 เมษายน 2566, ครั้งที่ 3 จัดที่ ภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี ที่โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ ระหว่างวันที่ 19 - 20 พฤษภาคม 2566 และ ครั้งที่ 4 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น ที่ โรงแรม le cassia ระหว่างวันที่ 26 - 29 พฤษภาคม 2566

นางสาวสุชาดา กล่าวอีกว่า กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ)เป็นกองทุนที่มีภารกิจหลักคือสร้างความเสมอภาคให้การศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา มีการทำงานใน 3 ลักษณะ เป็นเรื่องของการให้ความช่วยเหลือโดยตรง ของทุนเสมอภาคจะเป็นกิจกรรมที่ได้ทำร่วมกับคุณครูทั่วประเทศเพื่อคัดกรองช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่อยู่ในภาวะยากจนพิเศษ ซึ่งตรงนี้เด็กนักเรียนจะได้รับทุนเสมอภาคเมื่อผ่านการคัดกรองจะได้รับทุนต่อเนื่อง 3 ปี เพื่อให้นักเรียนอยู่ในระบบการศึกษาภาคบังคับให้ได้นานที่สุดตามศักยภาพของตัวเด็กนักเรียนเอง 

ส่วนในเรื่องของการทำงานเรื่องของคุณภาพการศึกษาร่วมกับโรงเรียนพัฒนาครูโรงเรียนต่างๆทั่วประเทศ อันนี้มีการทำงานกับโรงเรียนขนาดกลาง 700 โรงเรียนทั่วประเทศ แล้วในส่วนของการวิจัยพัฒนาเพื่อที่จะทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย กสศ.อยู่ในฐานะที่เป็นตัวเร่งให้กับทางระบบทั้งภาครัฐและภาคเอกชนและภาคประชาสังคมเองด้วยได้มาร่วมมือกันเพื่อที่จะสร้างความสัมพันธ์ทางการศึกษาให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง

พัฒนชัย/เชียงใหม่

เชียงใหม่-ร่วมใจ๋ไหว้สา สักการะครูบาอาจ๋านพยาบาล มช. สืบสานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง 2566

คณะกรรมการทำนุบำรุงศิลปะ วัฒนธรรม และ ภูมิปัญญาไทย ร่วมกับ สโมสรนักศึกษา คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดพิธีสักการะสระเกล้าดำหัวแด่คณบดี อดีตคณบดี อาจารย์และบุคลากรอาวุโส "ร่วมใจ๋ไหว้สา สักการะ ครูบาอาจ๋าน สืบสานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง 2566" (DUM HUA CEREMONY) โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธานี แก้วธรรมานุกูล คณบดี เป็นประธานในพิธี นายจีระศักดิ์ หุ่นเก่า นายกสโมสรนักศึกษาของคณะฯ กล่าววัตถุประสงค์การจัดงานและกล่าวสูมาคารวะ พิธีดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้คณาจารย์ บุคลากร นักศึกษาทุกหลักสูตรทุกชั้นปี ตลอดจนศิษย์เก่าของคณะฯ ได้แสดงความกตัญญูกตเวที กราบขอขมาลาโทษที่อาจเคยล่วงเกินผู้ใหญ่ พร้อมทั้งขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวในวันเริ่มต้นปีใหม่แบบไทย เนื่องในวันสงกรานต์เป็นการร่วมสืบทอดประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามให้คงอยู่สืบไป ณ ลานดอกปีบ อาคาร 1 คณะพยาบาลศาสตร์ เมื่อวันจันทร์ที่ 24 เมษายน 2566

วิภาดา/เชียงใหม่

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งการชุด TICAC เข้าจับกุมผับพื้นที่เชียงใหม่ พบแสวงหาผลโยชน์ทางเพศเด็กและใช้แรงงานต่างด้าว

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ OUR ได้ให้เบาะแสสถานบริการในพื้นที่ สภ.ช้างเผือก ภ.จว.เชียงใหม่ พบมีการนำเอาเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาทำงานเป็นพนักงานบริการภายในร้าน ซึ่งมีลักษณะเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศต่อเด็ก จึงได้แจ้งเบาะแสให้กับชุดปฏิบัติการ TICAC ทราบ จึงได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น


จากเบาะแสดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง (ศพดส.ตร.) จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ TICAC ร่วมกับ ภ.จว.เชียงใหม่, บก.ตม.5 และ สภ.ช้างเผือก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่องค์กร OUR ให้เข้าตรวจสอบและวางแผนจับกุมสถานบริการดังกล่าว จากการตรวจสอบช้อมูลเบื้องต้นพบว่า ร้านดังกล่าวคือ ร้านมังกี้ ทอยซ์ คลับ หรือ มังกี้ ทีซี เชียงใหม่ บริเวณทางคู่ขนานถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ลักษณะเป็นร้านแบบบาร์โฮส มีพนักงานทำงานภายในร้านมากกว่า 100 คน โดยจะสลับกันมาทำงานวันละ 30-50 คน โดยให้พนักงานบริการเครื่องดื่มโดยลูกค้าสามารถเรียกมานั่งบริการได้ คิดราคา 259 บาทต่อ 1 ดริ๊งค์ ต่อเวลานั่ง 1 ชั่วโมง ภายในร้านยังมีเวทีโดยให้พนักงานขึ้นไปเต้นโชว์ชั่วโมงละ 1 รอบ และมีชั้นใต้ดินเป็นห้องคาราโอเกะไว้ให้บริการ


ต่อมาเมื่อวันที่ 24 เม.ย.66 เวลา 01.00 น. หลังจากตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว เจ้าหน้าที่ชุด TICAC พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จึงได้บูรณาการร่วมกันเข้าตรวจสอบที่ร้านมังกี้ ทอยซ์ คลับ พบพนักงานร้านเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 3 ราย และยังพบว่ามีการนำเอาบุคคลต่างด้าวเข้ามาทำงานที่ร้านโดยผิดกฎหมายอีกจำนวน 15 ราย จึงได้จับกุมเจ้าของร้านและผู้ดูแลร้านจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย
1. น.ส.วรษา (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี (เจ้าของร้าน)
2. นายเกริก (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี (ผู้ดูแลพนักงาน)
3. นายธวัชชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี (ผู้ดูแลพนักงาน)

‘จุรินทร์’ นำทัพปราศรัยใหญ่ ปลุกพลังเงียบ ที่สนาม 700 ปี เชียงใหม่  ปชช.แห่ต้อนรับ พร้อมบอกยังไงก็เลือก ‘ปชป.’ มั่นใจ!! ปักธงได้แน่

(27 เม.ย. 66) ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วยนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคฯ ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อพบปะกับพี่น้องประชาชนใน 4 เขต เพื่อหาเสียงรณรงค์หาเสียงให้กับพรรคประชาธิปัตย์เบอร์ 26 และช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ ประกอบด้วย

เขต 1 นายจักรวาลธวัฒน์ วรรณาวงค์ เบอร์ 7
เขต 2 นายกัมปนาท ธิสา เบอร์ 7
เขต 3 นายวิชิต กลิ่นทอง เบอร์ 7
เขต 4 นางสาวจิตพลอย จิตจักรวาลทอง เบอร์ 7
เขต 5 ว่าที่ร้อยโทวิศธร เถาตระกูล เบอร์ 9
เขต 6 นายวิศิษฎ์ วัชรินทร์ เบอร์ 6
เขต 7 นายนิคม เชาว์กิตติโสภณ เบอร์ 5
เขต 8 นางพชรพร สุใจคำ เบอร์ 6
เขต 9 นายคูณธนา เบี้ยวบรรจง เบอร์ 7
เขต 10 ว่าที่ร้อยตรีธีรพงศ์ สุขสันต์นิรันดร์ เบอร์ 2

โดยนายจุรินทร์ ได้ร่วมเดินหาเสียงกับผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ใน 4 ตลาด ตั้งแต่กาดแม่ คือ อ.ดอยสะเก็ด ตลาดสามแยก กาดสันป่าข่อย ที่ อ.สันทราย และกาดหลวง ตลาดต้นลำไย อ.เมือง พร้อมกับได้เดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลกวนอู และศาลเจ้าปุงเถ่ากง ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งบรรรยากาศเดินพบปะทักทายพี่น้องประชาชนทั้ง 4 ตลาด เป็นไปอย่างอบอุ่น มีชาวเชียงใหม่มารอต้อนรับ พร้อมโบกมือทักทาย ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและมอบดอกไม้อย่างใกล้ชิด

จากนั้น นายจุรินทร์ และคณะได้เดินทางถึงสนามกีฬา 700 ปี ที่ อ.แม่ริม โดยมีพี่น้องประชาชนและแฟนคลับของพรรค เดินทางมารอฟังการปราศรัยจำนวนมาก พร้อมกับส่งเสียงเชียร์ “ประชาธิปัตย์สู้ ประชาธิปัตย์ ซาวหก (26)”

โดยนายจุรินทร์ ได้กล่าวแนะนำผู้สมัครทั้ง 10 เขต และปราศรัยช่วงว่า จากการที่ตนได้ตระเวนหาเสียงมาทั่วประเทศจนถึงวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้รับเสียงตอบรับจากทั่วประเทศดีขึ้นเป็นลำดับ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร ที่คราวที่แล้วไม่ได้ ส.ส.เลย แต่คราวนี้เชื่อว่าประชาธิปัตย์ปักธงในกรุงเทพฯ ได้อย่างแน่นอน ภาคเหนือคราวที่แล้วเราได้ 1 คน จาก 16 จังหวัด แต่เที่ยวนี้ไม่ใช่คนเดียว จะต้องได้มากกว่านี้เยอะ อย่างน้อยที่ จ.เชียงใหม่ ตนจึงต้องมาขอแรงสนับสนุนจากพี่น้องช่วยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้ได้มีโอกาสปักธงในเชียงใหม่ และภาคเหนือ ด้วยการเลือกส.ส. ของพรรคทั้ง 10 คน และเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ ‘ซาวหก’ หรือ ‘เบอร์ 26’ ส่วนภาคอีสาน ภาคกลาง คราวนี้ก็เชื่อว่าจะได้อีกเยอะ ปักษ์ใต้คราวที่แล้วมี ส.ส. 50 คน เราได้ 22 คน เที่ยวนี้เราต้องได้ไม่ต่ำกว่า 40 คนบวก

นายจุรินทร์ ได้ย้ำจุดยืน ‘4 ทำ’ ‘3 ไม่’ พร้อมกล่าวว่า ที่พูดทั้งหมดนี้ ไม่ได้พูดจากความฝัน ไม่ได้พูดหลอกเอาคะแนนจากประชาชน แต่พูดจากความจริงที่เราทำ ถ้าเราเป็นแกนตั้งรัฐบาลอีก ทำไมเราจะทำไม่ได้

นายจุรินทร์ กล่าวถึงนโยบายที่เกี่ยวกับชาติพันธุ์ ว่า ประชาธิปัตย์มีเจตจำนงที่ต้องการสนับสนุนให้ชาติพันธุ์ที่เกิดเมืองไทยและมาอย่างถูกกฎหมาย ให้มีโอกาสได้สัญชาติไทย สำหรับพี่น้องชาวเชียงใหม่ ประชาธิปัตย์จะขับเคลื่อนให้ไปสู่ความร่ำรวยด้วยนโยบายเหนือเชื่อมโลก และเชียงใหม่เชื่อมโลก ด้วยการคมนาคม ด้วยการท่องเที่ยว ด้วยการค้าชายแดน และด้วยซอฟต์พาวเวอร์ อัตลักษณ์ วัฒนธรรมชาวเหนือที่จะทำรายได้ให้ประเทศ และภาคเหนือ

โซเชียลยกย่อง!! หนุ่มวิ่งบนถนน ตากแดดร้อนๆ เปิดทางให้รถมูลนิธิ นำส่งผู้ป่วยเคสฉุกเฉิน

(12 พ.ค. 66) ‘มูลนิธิสว่างสำเร็จเชียงใหม่’ แชร์คลิปผ่าน TikTok ซึ่งภายในคลิปเป็นภาพหนุ่มคนหนึ่ง วิ่งกลางถนน เพื่อเปิดทางให้รถกู้ภัยนำส่งผู้ป่วย ท่ามแดดช่วงกลางวัน และอากาศร้อนสุดๆ 

โดยโพสต์ข้อความระบุว่า “คนมีน้ำใจที่มีให้รถกู้ภัยครับ#จิตอาสา #มูลนิธิสว่างสว่างสำเร็จเชียงใหม่ #กู้ภัยสว่าง #เชียงใหม่ #ดันขึ้นฟีดที #กู้ชีพกู้ภัย #กู้ภัยสว่าง”

นอกจากนี้ในคลิปยังมีข้อความระบุด้วยว่า “น้ำใจบนท้องถนน พี่ชายใจดี วิ่งเปิดทางรถกู้ภัย เคส ICU แดดร้อนเรื่องเล็ก นับถือหัวใจ”

หลังจากโพสต์คลิปได้ไม่นาน มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น

“กราบหัวใจ ที่มีจิตอาสา ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ขอให้พี่เจอแต่สิ่งที่ดี ๆ ๆ เจริญ ๆ”

“ฮีโร่ไม่ต้องมีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นมากหรอกครับมีแค่จิตสำนึกที่ดีงามมันก็มีค่ามากพอเสมอมา”

“สิ่งเล็กๆ❤️ที่เขาเรียกว่าน้ำใจ”

“ใจพี่เขายิ่งใหญ่ หมดคำพูด”

“หัวใจหล่อมากน้องชายสุดยอด” เป็นต้น

“ขอชื่นชมน้ำใจที่มีให้กันครับ สังคมไทยจะน่าอยู่มากขึ้นถ้ามีคนแบบนี้เยอะๆๆ🥰🥰🥰”

กาแฟไทยสูตรโบราณ ร้านตำนาน จากเชียงใหม่  สูตรเข้มข้นครึ่งศตวรรษ ฟินได้แล้วที่ไอคอนสยาม

(10 ก.ค. 66) ‘ลุงเงินกาแฟหม้อดิน’ ร้านกาแฟโบราณในตำนานจากเมืองเชียงใหม่ ที่เสิร์ฟความฟินมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 มีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ก็คือ กรรมวิธีดั้งเดิมที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น อาทิ การคั่วเมล็ดกาแฟในหม้อดิน ตำด้วยครก และการชงเครื่องดื่มต่างๆ ด้วยน้ำใบเตย เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ สายหวานคนไหนอยากลองจิบ ก็สามารถไปชิมกันได้ที่ไอคอนสยาม โซนสุขสยาม บริเวณชั้น G 

โดยเมนูที่อยากให้ลองแบบไม่ควรพลาดเลยก็คือ กาแฟหม้อดิน หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ ‘กาแฟโบราณ’ กาแฟสูตรเฉพาะของทางร้าน ที่ผสมผสานกับน้ำต้มใบเตยหอมๆ และนมสดสูตรลับความอร่อยมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ สู่รุ่นคุณลูก

แล้วก็มาต่อกันด้วย ชานมหม้อดิน เครื่องดื่มที่กำลังเป็นที่นิยม ชาไทยรสเข้มกำลังดี ผสมกับน้ำต้มใบเตย และนมสดสูตรเฉพาะ รวมแล้วเป็นรสหวานมันกลมกล่อมกำลังดี

ตามด้วย นมอัญชัน เครื่องดื่มอีกเมนูที่มีสีสันสวยงามน่าลิ้มลอง ที่เกิดจากการรวมตัวของน้ำอัญชันสีน้ำเงิน และนมสด รสชาติดีมาก ลงตัวด้วยความหวานมัน และความหอมแบบสุดๆ

ร้านนี้เปิดทุกวันตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม แต่แนะนำให้รีบไปตั้งแต่ตอนเช้าเลย เพราะถ้าสายลูกค้าจะเยอะมาก อาจจะต้องรอต่อคิวกันนาน

บ้านลันได ความลงตัวของวัตถุดิบท้องถิ่น บรรยากาศเรียบหรู แต่ดูอบอุ่น มีความละมุนในทุกเมนู

วันนี้ THE STATES TIMES จะขอพาทุกท่านไปทานอาหารไทยที่เชียงใหม่ ที่นี่คือ บ้านลันได BAAN Landai Fine Thai Cuisine ร้านนี้เสิร์ฟอาหารไทยที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมพื้นบ้านและรสชาติของวัตถุดิบท้องถิ่น ตามแบบฉบับของครอบครัวนันทิแสง ที่เชฟใหญ่ประจำร้านอย่าง ต้อม–นพดล นันทิแสง ที่พยายามถ่ายทอดออกมาให้ทุกคนได้ลิ้มรส

ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ถนนพระปกเกล้า ใกล้ประตูช้างเผือก หน้าร้านเป็นตึกแถวสีขาวที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีเขียวของต้นไม้ ภายในร้านออกแบบตกแต่งสไตล์โคโลเนียล มีมวลความคลาสสิคผสานกลิ่นอายล้านนาแบบพื้นถิ่น ดูเรียบหรูแต่อบอุ่น สมคอนเซปต์ของร้านที่ต้องการให้เรารู้สึกอบอุ่นเป็นกันเองเหมือนทานอาหารอยู่ที่บ้าน ตกแต่งออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ ผสมผสานของประดับต่างๆ อย่างลงตัว ด้วยดอกไม้นานาชนิด ทั้งกล้วยไม้ ดอกบัว พวงมาลัยดอกพุด รวมทั้งไม้ใบสีเขียว ขนนกยูง และตะเกียง ท่ามกลางบรรยากาศโทนสีขาว

อาหารจานเด็ดของร้านนี้ขอแนะนำ ผัดปลาแห้งแตงอุลิด หรือ แตงโมปลาแห้ง ผัดหมี่โบราณกุ้งทอดคลุกซอสมะขาม ซึ่งอาหารจานนี้ได้ถูกดัดแปลงมาจากอาหารถิ่นเหนือ รสชาติอร่อยถึงเครื่องมาก อีกเมนูที่มาร้านนี้แล้งต้องลองก็คือ เมี่ยงกลีบบัว สีสันน่าทานมากขอบอกเลย

นอกจากนี้ บนโต๊ะอาหารทุกโต๊ะ ก็จะมีผงโรยข้าว ซึ่งทางร้านผัดเอง วางไว้ให้เรานำมาโรยข้าว หรือเนื้อสัตว์ เพื่อเพิ่มรสชาติของอาหาร มีหลายแบบให้เลือก ทั้งรสลาบเหนือ รสลาบอีสาน รวมถึงปลาแห้งสำหรับโรยแตงโม ถ้าใครติดใจในรสชาติก็สามารถซื้อกลับบ้านได้อีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม
บ้านลันได (BAAN Landai Fine Thai Cuisine)
ถนนพระปกเกล้า ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
เปิดทุกวันอังคาร– อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์)
เวลา 11.00 - 22.00 น.
โทร. 065-848-4464 

เรื่อง : กันย์ ฉันทภิญญา Content Manager

โซเชียลชม!! ‘ครูหนุ่ม’ จ.เชียงใหม่ ขี่รถส่ง นร.หญิงกลับบ้าน ฝ่าดินโคลนขึ้น-ลงเขา คาดใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง

เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 66 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ชื่อ ‘Kan mail’ ซึ่งเป็นคุณครูจากโรงเรียนบ้านห้วยไม้หก ตำบลม่อนจอง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมกับคลิปวิดีโอ เผยให้เห็น ‘ครู’ และ ‘นักเรียน’ กำลังขี่รถ จูงรถ ท่ามกลางถนนที่เป็นดินโคลน พร้อมด้วยข้อความว่า…

“ขี่รถ 4 ชั่วโมง เดินเท้า 4 ชั่วโมง คิดถึงบ้านเหรอ ‘ครู’ ไปส่งเอง ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน”

ทั้งนี้ การเดินทางของนักเรียนหญิงรายนี้ค่อนข้างลำบาก ต้องเดินขึ้นเขา ประกอบกับอยู่ในช่วงหน้าฝนการเดินทางจึงยิ่งลำบากมากขึ้น คาดว่าการเดินทางแต่ละครั้งคงต้องใช้เวลาในการเดินทางหลายชั่วโมง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top