Saturday, 4 May 2024
สีจิ้นผิง

‘ทูตจีน’ เผยสัมพันธ์ ‘จีน-รัสเซีย’ แข็งแกร่ง ท่ามกลางปั่นป่วนบนโลก ยิ่งต้องแน่นแฟ้น

มอสโก, 18 มี.ค. (ซินหัว) — จางฮั่นฮุย เอกอัครราชทูตจีนประจำรัสเซีย กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อจีนเมื่อไม่นานนี้ว่า ยิ่งโลกเผชิญความปั่นป่วนมากเท่าใด ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียก็ยิ่งจำเป็นต้องก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

จางระบุว่าไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร สถานะหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านแห่งความร่วมมือในยุคใหม่จีน-รัสเซียจะยังคงเดินหน้าต่อไปในระดับสูงขึ้น ภายใต้การชี้แนะเชิงกลยุทธ์ของผู้นำทั้งสอง

เมื่อวันศุกร์ (17 มี.ค.) ฮว่าชุนอิ๋ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ประกาศว่าสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จะเดินทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 20-22 มี.ค. ตามคำเชิญของวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย

จางกล่าวว่าผู้นำจีนและรัสเซียยังคงรักษาการติดต่อสื่อสารอย่างใกล้ชิด และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคีและประเด็นระหว่างประเทศที่สำคัญ ซึ่งเปรียบเสมือนเข็มทิศและหลักยึดในการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี

จางเผยว่าสีจิ้นผิงและปูตินได้บรรลุฉันทามติเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญหลายประการในการส่งเสริมการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี การรักษาความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค และการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ

ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ โดยความร่วมมือทวิภาคีบรรลุผลลัพธ์ใหม่ ขณะการประสานงานเชิงกลยุทธ์ก้าวสู่ระดับใหม่

จางเน้นย้ำว่าความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าจีน-รัสเซียได้ยืนหยัดต่อแรงกดดันและก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง แม้เผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น การระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อันยืดเยื้อ วิวัฒนาการของสถานการณ์ระหว่างประเทศที่สลับซับซ้อน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ

จางกล่าวว่าปี 2022 การค้าทวิภาคีระหว่างจีนและรัสเซียพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1.90 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.44 ล้านล้านบาท) พร้อมเสริมว่าการค้าพลังงานมีบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้นในการค้าทวิภาคี ขณะที่การส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องกลและไฟฟ้า ยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ของจีนไปยังรัสเซียล้วนมีการเติบโตอย่างมาก

จางเผยว่าสัดส่วนการชำระเงินในสกุลเงินท้องถิ่นเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มธนาคารรัสเซียดำเนินธุรกิจโดยใช้สกุลเงินหยวนอย่างกว้างขวาง

จางกล่าวถึงความร่วมมือระดับท้องถิ่นระหว่างจีนและรัสเซียที่ลึกซึ้งกว่าที่เคยเป็นมา โดยชี้ว่าสถาบันและผู้ประกอบการท้องถิ่นจากสองประเทศ มีส่วนร่วมแข็งขันในงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) งานกว่างโจวแฟร์ (Canton Fair) การประชุมเศรษฐกิจภูมิภาคตะวันออก (EEF) และการประชุมเศรษฐกิจนานาชาติเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (SPIEF) ซึ่งช่วยประสานความต้องการความร่วมมือและปลดปล่อยศักยภาพความร่วมมืออย่างเต็มที่

จางเปิดเผยว่าสะพานทางหลวงข้ามพรมแดนเฮยเหอ-บลาโกเวชเชนสค์ สะพานทางรถไฟข้ามพรมแดนถงเจียง-เนซเนียลีนินสกอย และสะพานข้ามแม่น้ำบริเวณพรมแดนแห่งอื่นๆ ต่างทยอยเปิดให้สัญจร ส่วนช่องทางขนส่งและโลจิสติกส์ข้ามพรมแดนมีการขยับขยายเพิ่มเติมเช่นกัน

หลังจากจีนเพิ่มประสิทธิภาพและปรับเปลี่ยนมาตรการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) พิธีการทางศุลกากรที่ท่าเรือของจีนและรัสเซียได้ทยอยกลับสู่รูปแบบเดียวกับก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่ ซึ่งช่วยรับรองการแลกเปลี่ยนของทั้งบุคลากรและสินค้าระหว่างสองฝ่ายว่าจะเป็นไปอย่างราบรื่น

“การค้าทวิภาคีเติบโตอย่างแข็งแกร่งช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ปีนี้ โดยมูลค่าสูงถึง 3.36 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.14 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.9 เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นที่ดี” จางกล่าว “ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่ารากฐานความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคียังคงแข็งแกร่ง”

ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน จีนและรัสเซียมีความไว้เนื้อเชื่อใจกันทางการเมืองอย่างแน่นแฟ้น มีความเกื้อกูลกันทางเศรษฐกิจในระดับสูง และมีศักยภาพในการร่วมมือที่ดีเยี่ยม ทำให้บริษัทรัสเซียจำนวนมากขึ้นแสดงความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะร่วมมือกับฝ่ายจีน

จางเชื่อมั่นว่าการค้าจีน-รัสเซียจะพุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ในปี 2023 พร้อมมุ่งมั่นบรรลุเป้าหมายทางการค้าที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าไว้ที่ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.81 ล้านล้านบาท) ภายในสิ้นปีนี้

จางเสริมว่าความร่วมมือระหว่างประชาชนมีบทบาทสำคัญมาตลอดประวัติศาสตร์แห่งการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย

การเยือน ‘รัสเซีย’ ของ ‘สี จิ้นผิง’ นำมาซึ่งความแน่นแฟ้น พร้อมจับมือสร้าง ‘มิตรภาพ-ความร่วมมือ-สันติภาพ’

การเยือนรัสเซียของสีจิ้นผิง นำทางสัมพันธ์ทวิภาคี และส่งเสริมเสถียรภาพโลก

ปักกิ่ง/มอสโก, 19 มี.ค. (ซินหัว) - การเยือนรัสเซียของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงที่กำลังจะเกิดขึ้น อันเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกของเขานับตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีจีนอีกครั้ง จะเป็นการเดินทางแห่งมิตรภาพ ความร่วมมือ และสันติภาพ

การเยือนครั้งนี้ กำหนดจัดระหว่างวันที่ 20-22 มี.ค. มีเป้าหมายเพื่อวางแผนแม่บทสำหรับการพัฒนาความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างจีน-รัสเซียในยุคใหม่ ขณะเดียวกันก็เป็นการผลักดันความร่วมมือเชิงปฏิบัติระหว่างสองประเทศ และสร้างแรงขับเคลื่อนอันแข็งแกร่งให้แก่การรักษาสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง เพื่อร่วมสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ

ในห้วงยามนี้ สีจิ้นผิงกำลังจะก้าวเข้าสู่แผ่นดินรัสเซียเป็นครั้งที่เก้าในฐานะประธานาธิบดีจีน ผู้นำของทั้งสองประเทศมีโอกาสได้พบปะกันประมาณ 40 ครั้งตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยการแลกเปลี่ยนอย่างมีคุณภาพสูงและสม่ำเสมอของผู้นำทั้งสองประเทศ ได้ให้แนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-รัสเซียมาโดยตลอด

ในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งที่ไม่เคยปรากฏในรอบศตวรรษ และโรคระบาดที่ไม่เคยพบเจอ สีจิ้นผิงและปูตินได้รักษาการติดต่อกันอย่างใกล้ชิดผ่านหลากหลายวิธีการ ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ระหว่างจีน-รัสเซียนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่เผชิญหน้า และไม่มุ่งเป้าไปที่ฝ่ายที่สามใด ๆ ความสัมพันธ์นี้ทั้งมิได้เป็นภัยคุกคามต่อประเทศอื่นใดในโลก และจะไม่ถูกแทรกแซงหรือยั่วยุโดยฝ่ายที่สามเช่นกัน

โลกกำลังมาถึงทางแยกแห่งประวัติศาสตร์อีกครั้ง เราเลือกที่จะย้อนกลับสู่ความคิดแบบสงครามเย็น ยุยงให้เกิดความแตกแยกและเป็นปรปักษ์ ปลุกปั่นให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มก้อน หรือเลือกที่จะทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของมนุษยชาติ ส่งเสริมความเสมอภาค การเคารพซึ่งกันและกัน และความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ร่วมกัน การยื้อยุดไปมาระหว่างสองแนวโน้มนี้ กำลังทดสอบภูมิปัญญาของเหล่านักการเมืองในประเทศใหญ่ทั้งหลาย เฉกเช่นเดียวกับการใช้เหตุผลของมวลมนุษย์ ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์ให้เห็นอยู่เป็นนิจว่าการกดขี่ข่มเหงไม่สามารถชนะใจผู้คน รวมถึงการคว่ำบาตรและการแทรกแซงย่อมล้มเหลว

‘สีจิ้นผิง’ เดินทางถึงกรุงมอสโกแล้ว ภารกิจเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ

มอสโก, 20 มี.ค. (ซินหัว) -- สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เดินทางถึงกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ในช่วงบ่ายวันจันทร์ (20 มี.ค.) เพื่อเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการจนถึงวันพุธ (22 มี.ค.) หลังมีคำเชิญจากวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย โดยทางรัสเซียได้จัดพิธีต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่

ระหว่างการเยือนครั้งนี้ สีจิ้นผิงจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงลึกกับวลาดิเมียร์ ปูติน เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคี รวมถึงประเด็นสำคัญระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติที่เป็นข้อกังวลร่วมกัน

อนึ่ง การเยือนครั้งนี้มุ่งส่งเสริมการประสานงานเชิงกลยุทธ์และความร่วมมือเชิงปฏิบัติระหว่างสองประเทศ ตลอดจนสร้างแรงกระตุ้นใหม่ๆ ให้กับการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี

ที่มา : ซินหัว
 

‘สี จิ้นผิง’ เดินทางถึง ‘มอสโก’ แล้ว ‘จนท.ระดับสูงรัสเซีย’ ให้การต้อนรับอบอุ่น

(21 มี.ค.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ‘สีจิ้นผิง’ ประธานาธิบดีจีน เดินทางถึงกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ในช่วงบ่ายวันจันทร์ (20 มี.ค.) ที่ผ่านมา เพื่อเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ หลังมีคำเชิญจากวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย

เครื่องบินของสีจิ้นผิงลงจอดที่ท่าอากาศยานนูโคโวเมื่อราว 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยเมื่อก้าวออกจากเครื่องบิน สีจิ้นผิงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากรองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ดมิตรี เชอร์นีเชนโก และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ ของรัสเซีย ณ ลานจอดเครื่องบิน

‘สี จิ้นผิง’ เผยพร้อมขยายความร่วมมือกับ ‘รัสเซีย’ มุ่งผลักดันให้บรรลุเป้าหมายแบบรอบด้าน

(22 มี.ค.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า... เมื่อวันอังคาร (21 มี.ค.) สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวว่าจีนพร้อมขยายความร่วมมือกับรัสเซียในด้านการค้า การลงทุน ห่วงโซ่อุปทาน โครงการขนาดใหญ่ พลังงาน และเทคโนโลยีระดับสูง

'สี จิ้นผิง' กล่าวถึงประเด็นข้างต้นขณะพบปะกับมิคาอิล มิชูสติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย

'สี จิ้นผิง' กล่าวว่าจีนและรัสเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใหญ่ที่สุดของกันและกันและหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านแห่งความร่วมมือ พร้อมกล่าวว่าการรักษาการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-รัสเซียที่แข็งแรงและมั่นคงนั้น สอดคล้องกับตรรกะทางประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศและผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานของประชาชนทั้งสองประเทศ

‘ไบเดน’ เชื่อ จีนยังไม่ส่งอาวุธให้รัสเซีย แต่ยังวางใจไม่ได้ จับตาความสัมพันธ์พิเศษ หลัง ‘สี จิ้นผิง’ เยือนกรุงมอสโก

(26 มี.ค. 66) สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โจ ไบเดน เชื่อว่า จีนยังไม่ได้ส่งอาวุธให้รัสเซียเพื่อใช้ทำสงครามในยูเครน ด้านผู้แทนสหประชาชาติ หรือ ‘ยูเอ็น’ ยอมรับมีความกังวลอย่างยิ่งที่กองกำลังรัสเซียและยูเครนในสนามรบ ได้ทำการประหารชีวิตเชลยสงครามอย่างรวบรัด

ประธานาธิบดีไบเดน แถลงข่าวระหว่างเยือนแคนาดาเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาได้ยินตลอด 3 เดือนมานี้ว่า จีนกำลังจะจัดส่งอาวุธสำคัญให้แก่รัสเซีย ซึ่งยังไม่มีการส่งแต่อย่างใด แต่ไม่ได้หมายความว่าจีนจะไม่ส่ง เขาไม่ได้ดูเบาจีนและรัสเซีย แต่รายงานข่าวในเรื่องนี้อาจมีความเกินจริงไปบ้าง อย่างไรก็ตาม หากมีสิ่งใดเกิดขึ้น ชาติตะวันตกก็จะยิ่งรวมตัวกันมากยิ่งขึ้น เพราะสหรัฐฯ มีพันธมิตรด้านความมั่นคงในภูมิภาคแปซิฟิกอย่าง ‘ควอด’ (Quad) ที่ประกอบด้วย สหรัฐฯ, ออสเตรเลีย, อินเดีย, ญี่ปุ่น และออคัส (AUKUS) ที่ประกอบด้วย สหรัฐฯ, ออสเตรเลีย และอังกฤษ

‘ปูติน’ กร้าว!! ‘รัสเซีย-จีน’ จับมือกันแบบโปร่งใส ย้อน ‘มะกัน-นาโต้’ ส่อแววรวมก๊ก เหมือน WW II

รัสเซียและจีนไม่ได้กำลังจัดตั้งพันธมิตรทหาร และความร่วมมือระหว่างกองทัพทั้ง 2 ชาตินั้น ‘มีความโปร่งใส’ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ให้ความเห็นที่มีการออกอากาศในวันอาทิตย์ (26 มี.ค.) ไม่กี่วันหลังเป็นเจ้าภาพต้อนรับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในเครมลิน พร้อมกล่าวหาย้อนกลับไปว่า เป็นสหรัฐฯ และนาโต้เองที่กำลังแสวงหาฝ่าย ‘อักษะใหม่’ คล้ายคลึงกับการจับมือกับระหว่างนาซี เยอรมนี ฟาสซิสต์ อิตาลีและจักรวรรดิญี่ปุ่น ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ปูติน และสี ประกาศตัวเป็นพันธมิตร พร้อมสัญญาสานสัมพันธ์ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ในนั้นรวมถึงในขอบเขตด้านการทหาร ระหว่างการประชุมซัมมิตเมื่อวันที่ 20-21 มีนาคมที่ผ่านมา ในขณะที่รัสเซียกำลังประสบปัญหาในการรุกคืบในสมรภูมิรบ ในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าเป็น ‘ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร’ ในยูเครน

"เราไม่ได้กำลังสร้างพันธมิตรทหารใหม่กับจีน" ปูตินกับผ่านสื่อมวลชนแห่งรัฐ "ใช่แล้ว เรามีความร่วมมือกันในขอบเขตการทำงานร่วมกันทางเทคนิคด้านการทหาร เราไม่ได้ปิดบังในเรื่องนี้ ทุกอย่างมีความโปร่งใส มันไม่ได้เป็นความลับใดๆ"

จีนและรัสเซียลงนามในข้อตกลงเป็นหุ้นส่วนแบบไร้ขีดจำกัด เมื่อช่วงต้นปี 2022 ไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า ปูติน ส่งทหารหลายหมื่นนายบุกเข้าไปในยูเครน ปักกิ่งระงับไว้ซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของปูติน และนำเสนอแผนสันติภาพสำหรับยูเครน อย่างไรก็ตาม ตะวันตกปฏิเสธข้อเสนอแผนสันติภาพดังกล่าว โดยบอกว่ามันเป็นอุบายซื้อเวลาช่วยปูติน สำหรับคืนชีพกองกำลังของเขาในยูเครน

เมื่อเร็วๆ นี้ วอชิงตันแสดงความกังวลว่าปักกิ่งอาจมอบอาวุธให้รัสเซียบางอย่างที่จีนปฏิเสธ

ระหว่างแสดงความคิดเห็นผ่านสถานีโทรทัศน์ ปูติน ปฏิเสธข้อสันนิษฐานที่ว่า การยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับปักกิ่งในขอบเขตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านพลังงานและการเงิน อาจหมายความว่ารัสเซียกำลังพึ่งพิงจีนมากจนเกินไป โดยเขาบอกว่ามันเป็นมุมมองของคนขี้ระแวง "นานหลายทศวรรษแล้ว ที่มีความปรารถนาหันจีนให้อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับสหภาพโซเวียตและรัสเซีย" เขากล่าว "และในทางกลับกัน เราเข้าใจในโลกที่เราอาศัยอยู่ดี เราเล็งเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ร่วมระหว่างเรา และระดับของความสัมพันธ์พุ่งถึงจุดสูงสุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา"

นอกจากนี้ ปูตินยังกล่าวหาสหรัฐฯ และนาโต้ ว่ากำลังหาทางสร้าง "ฝ่ายอักษะ' ระดับโลกใหม่ ที่เขาบอกว่ามีส่วนคล้ายคลึงกับการจับมือเป็นพันธมิตรในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่าง นาซี เยอรมนี ฟาสซิสต์ อิตาลี และจักรวรรดิญี่ปุ่น

ปูติน เอ่ยชื่อออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้ ว่ากำลังต่อแถวเข้าร่วม 'นาโต้โลก' และพาดพิงถึงข้อตกลงด้านกลาโหมที่ลงนามโดยสหราชอาณาจักรและญี่ปุ่นเมื่อช่วงต้นปี "นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกนักวิเคราะห์ตะวันตกกำลังพูดถึงเกี่ยวกับการที่ตะวันตกกำลังสร้างอักษะใหม่ แบบเดียวกับที่เคยจัดตั้งขึ้นในช่วงยุคทศวรรษ 1930 โดยรัฐบาลฟาสซิสต์เยอรมนี และอิตาลี และลัทธิทหารนิยมญี่ปุ่น" เขากล่าว

‘เซเลนสกี’ เอ่ยปากเชิญ ‘สี จิ้นผิง’ ผู้นำจีน เยือนยูเครน เย้ย ‘ปูติน’ ไร้พันธมิตร - สูญเสียทุกอย่างเพราะสิ่งที่ตัวเองก่อ

(29 มี.ค. 66) ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ออกปากเชื้อเชิญประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนไปเยือนกรุงเคียฟเพื่อร่วมหาทางออกให้กับสงครามรัสเซีย-ยูเครน หลังจากที่ผู้นำจีนเพิ่งจะเดินทางไปเยือนมอสโกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ระหว่างให้สัมภาษณ์พิเศษกับผู้สื่อข่าว AP บนขบวนรถไฟจากเมืองซูมี (Sumy) ‘เซเลนสกี’ ผู้นำยูเครน ได้เอ่ยย้ำคำเชิญไปยัง ‘สี จิ้นผิง’ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำชาติมหาอำนาจที่ยังไม่เคยไปเยือนกรุงเคียฟ นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานเมื่อเดือน ก.พ. ปีที่แล้ว

“เราพร้อมที่จะพบกับท่านที่นี่” เซเลนสกี กล่าว

“ผมอยากจะพูดคุยกับท่าน ผมเคยติดต่อท่านก่อนที่สงครามจะปะทุอย่างเต็มรูปแบบ แต่ตลอดช่วง 1 ปีเศษที่ผ่านมา ผมยังไม่มีโอกาสเช่นนั้นเลย”

จีนมีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับรัสเซีย ทั้งในทางเศรษฐกิจการเมืองมานานหลายสิบปี และแม้รัฐบาล สี จิ้นผิง จะประกาศจุดยืน ‘เป็นกลาง’ ในสงครามครั้งนี้ ทว่าในทางปฏิบัติก็ยังคงให้การสนับสนุนทางการทูตต่อประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำของรัสเซีย

การเยือนมอสโกของ สี จิ้นผิง ระหว่างวันที่ 20-22 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น ทำให้ชาติตะวันตกหวาดระแวง ว่าจีนอาจตัดสินใจส่งอาวุธและเครื่องกระสุนไปช่วยเติมเต็มคลังแสงของรัสเซีย ที่ร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ ทว่าสุดท้ายแล้วการเยือนก็จบลงแบบไม่มีคำแถลงใด ๆ ที่มีนัยสำคัญ

หลายวันต่อมา ปูติน ประกาศจะส่งขีปนาวุธทางยุทธวิธีไปประจำการที่เบลารุส ซึ่งเท่ากับว่า ‘คลังแสงนิวเคลียร์’ ของรัสเซียกำลังจะถูกลำเลียงเข้าใกล้แผ่นดิน ‘นาโต’ มากขึ้นอีก

เซเลนสกี มองว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ ปูติน น่าจะเป็นความพยายาม ‘แก้เก้อ’ จากการที่ผู้นำจีนไม่ได้รับปากมอบความช่วยเหลือทางทหารอย่างเป็นรูปธรรม และอาจเป็นการตอบโต้ที่อังกฤษจะส่งกระสุนยูเรเนียมด้อยสมรรถนะ (depleted uranium ammunition) ให้กับยูเครนด้วย

คุณธรรม 3 ประการ จากมารดาที่ชื่อ ‘ฉี ซิน’ เบื้องหลัง ‘สี จิ้นผิง’ สู่ผู้นำจีนที่ทั่วโลกรู้จัก

ครอบครัว เป็นพื้นฐานของเด็ก โดยมี พ่อ-แม่ เป็นครูคนแรกของลูก หากผู้ปกครองให้ความสำคัญในการปลูกฝังคุณธรรมที่ดีให้กับลูกของตน เด็กๆ ก็จะเติบโตขึ้นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจสมบูรณ์ และยังสามารถดูแลผู้คนในสังคม หรือแม้แต่แบกรับความรับผิดชอบต่อประเทศชาติได้

นั่นคือความคิดของนางฉี ซิน คุณแม่ชาวจีนท่านหนึ่ง ที่พยายามสอนให้ลูก ๆ 4 คนของเธอเป็นผู้รู้ รักคุณธรรมตั้งแต่เล็ก และต่อมาลูกชายคนโตของเธอก็เติบใหญ่ กลายเป็นผู้นำจีนที่โลกรู้จักมากที่สุดคนหนึ่ง นามว่า ‘สี จิ้นผิง’ 

สี จิ้นผิง เคยเล่าว่า เมื่อสมัยที่เขายังเป็นเด็กเล็ก ๆ นางฉี ซิน แม่ของเขาชอบพาเขาขี่หลังพาไปเที่ยวที่ร้านหนังสือ และเคยซื้อหนังสืออัตชีวประวัติของ งักฮุย แม่ทัพผู้เกรียงไกรในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ มาอ่านให้เขาฟัง เขาจำได้ว่า แม่เน้นย้ำตัวอักษร 4 ตัวที่มารดาของแม่ทัพงักฮุยสักไว้บนแผ่นหลังให้งักฮุยตั้งแต่เด็กด้วยคำว่า จินจงเป้ากั๋ว (尽忠报国) ซึ่งแปลว่า “ขอรับใช้ชาติด้วยความจงรักภักดี”

เขาเคยถามแม่ว่า การสักตัวอักษรบนแผ่นหลังจะต้องเจ็บปวดมากแน่ ๆ แต่ทำไมแม่ของงักฮุยจึงทำเช่นนั้น นางฉี ซิน ได้ตอบลูกชายว่า แม้จะเจ็บ แต่ต้องการให้คุณธรรม 4 คำนี้จำฝังอยู่ในใจตลอดไป ซึ่ง สี จิ้นผิง ก็ได้จำคุณธรรม 4 ตัวอักษรนี้ เป็นเป้าหมายในการดำเนินชีวิตนับแต่นั้น

แต่นอกเหนือจากคุณธรรม 4 อักษร ของแม่ทัพงักฮุยแล้ว นางฉี ซิน ยังสอนให้ สี จิ้นผิง รู้จักคุณธรรมเพื่อชีวิตอีก 3 ประการ ไว้ว่า...

1. จงอุทิศตนเพื่อประเทศชาติด้วยความบริสุทธิ์ใจ
2. จงมีความซื่อสัตย์ และหัดเป็นคนมีวินัยในตนเอง 
3. จงมีความมุ่งมั่นที่จะยอมเสียสละความสุขส่วนตนเพื่อส่วนรวม 

แม่ของเขาย้ำด้วยว่า “เมื่อใดก็ตามที่คนเราขาดความซื่อตรง และ วินัยในตนเอง ก็จะกลายเป็นคนไร้ซึ่งความกล้าหาญ จงระลึกเสมอว่า ความซื่อสัตย์คือพรอันประเสริฐ แต่ความละโมบ ไม่ต่างจากคำสาป เมื่อคนเราได้พบเจอกับอำนาจ ลาภยศ และ ผลประโยชน์”

นางฉี ซิน มารดาของ สี จิ้นผิง เป็นบุตรสาวจากครอบครัวนักกฎหมายในคณะรัฐบาลพรรคชาตินิยมจีนมาก่อน ได้รับการศึกษาเป็นอย่างดีแต่วัยเยาว์ เคยเข้าร่วมกองกำลังเยาวชนต่อต้านกองทัพญี่ปุ่น ในสมัยสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่  2 ก่อนที่จะมาพบรักและแต่งงานกับ สี จ้งซุน หนึ่งในผู้นำนักปฏิวัติจีนรุ่น 1 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเวลาต่อมา 

แม้จะเกิดในครอบครัวชั้นปกครอง แต่ก็เคยพบเจอกับความยากลำบาก ต้องใช้แรงงานในชนบท และการต่อสู้เพื่อประเทศชาติ และอุดมการณ์มาก่อน แม้ว่าลูกชายคนโต สี จิ้นผิง จะมีตำแหน่งก้าวหน้าในรัฐบาลจีน แต่นางฉี ซิน ชอบที่จะใช้ชีวิตเรียบง่าย ทำงานเขียนหนังสือ และเดินทางเยี่ยมเยียน สถานที่ที่เคยเป็นฐานของคณะปฏิวัติเก่าๆ ในเมือง ซานซี หนิงเซีย กานซู และอื่นๆ อย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลา 40 ปี และมักบริจาคเงินส่วนตัวเพื่อใช้พัฒนาโรงเรียนยากไร้ในชนบท

นางฉี ซิน มักบอกกับลูกชายเสมอ เมื่อเขาไม่สามารถกลับมาเยี่ยมได้แม้ในวันหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีนว่า ขอให้อุทิศตนทำงานอย่างเต็มที่ ก็คือว่าได้แสดงความกตัญญูตอบแทนพ่อแม่เพียงพอแล้ว 

คำสอนของนางฉี ซิน ผู้เป็นมารดา เป็นส่วนหนึ่งในแรงบันดาลใจในการทำงานเพื่อสังคมของสี จิ้นผิง ด้วยความมุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนจีน 

เห็นได้ว่า จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ จากสถาบันครอบครัวที่เข้มแข็ง ในการสร้างคุณธรรม และ ความคิดที่ดีให้ลูก ๆ ตั้งแต่ยังเล็ก สามารถทำให้เด็กคนหนึ่งเติบโตขึ้นเพื่อทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไม่รู้จบ 

เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

อ้างอิง : China Daily / Chinese Thought  / Wikipedia

‘สีจิ้นผิง’ ประธานาธิบดีจีน พบปะกับ ‘แอนโทนี บลิงเคน’ รมว. ต่างประเทศของสหรัฐฯ ณ อาคารมหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง

(ซินหัว) -- วันจันทร์ (19 มิ.ย.) สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน พบปะกับแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ณ อาคารมหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน

สีจิ้นผิงชี้ว่าโลกต้องการความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ที่มีเสถียรภาพในภาพรวม และการที่ทั้งสองประเทศแสวงหาหนทางอันถูกต้องเพื่ออยู่ร่วมกันได้นั้นจะส่งผลต่ออนาคตของมนุษยชาติ พร้อมเสริมว่าชาวจีนเป็นผู้มีเกียรติศักดิ์ศรี ความมั่นใจ และพึ่งพาตนเองได้เช่นเดียวกับชาวอเมริกัน โดยประชาชนทั้งสองประเทศมีสิทธิแสวงหาชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

ทั้งสองประเทศควรปฏิบัติตนด้วยสำนึกของการรับผิดชอบต่อประวัติศาสตร์ ประชาชน และโลก รวมถึงจัดการความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งควรให้คุณค่ากับผลประโยชน์ร่วมของทั้งสองประเทศ และความสำเร็จของอีกฝ่ายถือเป็นโอกาสมากกว่าภัยคุกคามต่อกัน โดยวิธีนี้ จีนและสหรัฐฯ อาจมีส่วนส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงและปั่นป่วนให้มีเสถียรภาพ ความแน่นอน และความสร้างสรรค์มากขึ้น

สีจิ้นผิงเน้นย้ำว่าการแข่งขันของประเทศขนาดใหญ่ไม่สะท้อนกระแสธารแห่งยุคสมัย และยังคงไม่สามารถแก้ปัญหาของอเมริกาเองหรือความท้าทายต่างๆ ที่โลกกำลังเผชิญได้ โดยจีนเคารพผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และไม่ได้แสวงหาการท้าทายหรือแทนที่สหรัฐฯ

ทำนองเดียวกัน สหรัฐฯ จำเป็นต้องเคารพจีน และต้องไม่ละเมิดสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของจีน โดยทั้งสองฝ่ายไม่ควรมุ่งกดดันอีกฝ่ายตามความประสงค์ของตัวเอง หรือลิดรอนสิทธิอันชอบธรรมในการพัฒนาของอีกฝ่าย

สีจิ้นผิงกล่าวว่าจีนหวังเห็นความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ที่แข็งแรงและมั่นคงมาโดยตลอด และเชื่อว่าประเทศขนาดใหญ่ทั้งสองสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ และแสวงหาหนทางอันถูกต้องเพื่ออยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทุกฝ่าย พร้อมเรียกร้องฝ่ายสหรัฐฯ ใช้ท่าทีที่มีเหตุผลและปฏิบัติได้จริง รวมถึงทำงานกับจีนในทิศทางเดียวกัน

ทั้งนี้ สีจิ้นผิงชี้ว่าทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องยึดมั่นความเข้าใจร่วมกันที่เขาและประธานาธิบดีโจ ไบเดน บรรลุในจังหวัดบาหลีของอินโดนีเซีย และปฏิบัติตามแถลงการณ์เชิงบวกเพื่อสร้างเสถียรภาพและปรับปรุงความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ต่อไปด้วย
 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top