Saturday, 11 May 2024
พิธา

‘อุ๊ หฤทัย’ ปัดหนุน ‘พิธา’ เป็นนายกฯ หลังเกิดกระแสคนเข้าใจผิด ชี้ แค่ยอมรับเสียงข้างมาก ย้ำ!! แต่อย่าจุดประเด็นความขัดแย้ง

(17 พ.ค. 66) จากกรณีอดีตนักร้องดัง ‘อุ๊’ หฤทัย ม่วงบุญศรี แฟนคลับและผู้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงความคิดเห็นหลังทราบผลการเลือกตั้งในรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง สรุปว่า “ส.ว.ต้องจบได้แล้ว เพราะจริง ๆ ถ้าจะขับเคลื่อนประเทศ ต้องพอกันทีกับความขัดแย้ง การที่ฝ่ายเพื่อไทย ก้าวไกล เป็นรัฐบาลก็ดี มันจะสนุก เพราะเห็นสิ่งที่เขาอภิปรายไว้ ก็ให้เขาโชว์ฝีมือบ้าง ถ้าขับเคลื่อนประเทศให้ประชาชนได้ประโยชน์ก็ดีทั้งนั้น ไม่อยากเดินถนน ยังไง เราควรให้ฝ่ายชนะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นรัฐบาล ใจอยากให้ท่านเป็นนายกฯ (พล.อ.ประยุทธ์) แต่ฝ่ายลุงตู่แพ้ เราก็ต้องยอมรับกติกาเสียงข้างมาก เราหวังว่าหลังการเลือกตั้งจะไม่มีความขัดแย้งแล้ว ลุงตู่ควรพอ ให้ประเทศเป็นไปตามกลไกเสียงข้างมาก” และมีการเผยแพร่ในโลกโซเชียลนั้น

ล่าสุด ‘อุ๊ หฤทัย’ โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘หฤทัย ม่วงบุญศรี’ ดังนี้..

นักข่าวโทรมาถามอุ๊เยอะมาก ว่า พี่อุ๊สนับสนุนให้พิธาเป็นนายกฯ? และให้ ส.ว.หยุดสกัดพิธา?

‘พิธา’ ประกาศตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย ของประชาชน ตั้งทีมเจรจารายละเอียด พร้อมเปิดเอ็มโอยู ร่วมรัฐบาล 22 พ.ค.นี้

วันนี้ (18 พ.ค. 66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ, สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย, พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย, วสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง, ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม, และ เชาวฤทธิ์ ขจรพงศกีรติ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ แถลงข่าวประกาศตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน ซึ่งจากผลการเลือกตั้งที่ไม่เป็นทางการ มีจำนวนผู้แทนราษฏรรวมกันทั้งสิ้น 313 คน

นายพิธากล่าวว่า พวกเราทุกพรรคขอขอบคุณทุกเสียงที่ประชาชนมอบให้ เสียงของประชาชนทุกเสียงคือเสียงแห่งความหวัง คือเสียงแห่งการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลชุดใหม่จะทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ต่ออำนาจของประชาชน และเราจะเป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคน

ทุกพรรคขอประกาศจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชนร่วมกัน ด้วยความเคารพในฉันทามติของประชาชน ดังนี้

1. ทุกพรรคเห็นชอบที่จะสนับสนุนหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ตามเสียงข้างมากจากผลการเลือกตั้งของประชาชน

2. ทุกพรรคจะร่วมกันจัดทำข้อตกลงร่วม (MOU) ในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแสดงถึงแนวทางการทำงานร่วมกัน และวาระร่วมของทุกพรรค และจะแถลงต่อสาธารณะในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ เพื่อแก้ไขวิกฤตการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ

3. ทุกพรรคจะจัดตั้งคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถบริหารราชการแผ่นดินต่อจากรัฐบาลเดิมได้แบบไร้รอยต่อ

หลังจากนั้นเปิดให้สื่อมวลชนถามคำถาม โดยนายพิธาให้ความเชื่อมั่นว่าการจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชนจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนและโดยราบรื่น จำนวน 313 เสียง มีความเพียงพอและเป็นความปกติของระบอบประชาธิปไตย

ขณะนี้ คณะทำงานทั้ง 2 ทีม ได้แก่ คณะเจรจาและคณะเปลี่ยนผ่านอำนาจ ได้เตรียมการวางแผนในหลายรูปแบบว่าจะมีฉากทัศน์ใดเกิดขึ้นบ้าง แต่ละฉากทัศน์จะบริหารจัดการอย่างไร เพื่อลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงพิจารณาว่าจุดยืนและนโยบายของทุกพรรคการเมือง จะทำงานร่วมกันอย่างไรโดยยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง กระบวนการทั้งหมดจะคำนึงถึงเสถียรภาพของรัฐบาลและการมีส่วนร่วมของทุกพรรคการเมือง เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จลุล่วง ทุกพรรคการเมืองสามารถสานต่อนโยบายที่ได้สัญญาไว้กับประชาชน

สำหรับความเห็นของ ส.ว. หลายคนที่ออกมาแสดงจุดยืนว่าจะโหวตนายกฯ ตามเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายพิธากล่าวว่าขอขอบคุณ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใคร แต่เป็นเรื่องของระบบ ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด

 

‘พิธา’ สร้างตำนานใหม่!! ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์มาแถลงข่าว ด้านแกนนำ 8 พรรค ตบเท้าเข้าร่วมงานแถลงจัดตั้งรัฐบาล

(18 พ.ค. 66) แถลงข่าวพรรคร่วมรัฐบาลก้าวไกลทั้ง 8 พรรค ที่โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพ โดยประกอบไปด้วย พรรคก้าวไกล, พรรคเพื่อไทย, พรรคไทยสร้างไทย, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคสังคมใหม่, พรรคเพื่อไทยรวมพลัง, พรรคประชาชาติ และพรรคเป็นธรรม

โดยช่วงเวลาประมาณ 09.30 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ได้นั่งวินจักรยานยนต์รับจ้างมาที่โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เพื่อทำการแถลงข่าวการหารือจัดตั้งรัฐบาลของทั้ง 8 พรรค ถือเป็นการสร้างตำนานบทใหม่กับชาวด้อมส้ม

‘หมอพรทิพย์’ ประกาศไม่ขัดขวาง ‘พิธา’ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ขอยืนหยัดปกป้องสถาบันฯ ไม่ปล่อยภัยคุกคามให้ทำร้ายสังคม

(18 พ.ค. 66) แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ทวีตข้อความพร้อมรูปบูรพกษัตริย์ระบุว่า…

ความปั่นป่วนทางการเมือง มาจากความกลัวที่จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี หากตำแหน่งนั้นจะเป็นของเรามันก็จะได้เป็น เชื่อสิ

ประเด็นอยู่ที่ว่า ผู้นำตั้งใจจะมาสร้างอะไรให้กับคนไทย สังคมไทย ก่อนเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง สิ่งที่สื่อสารออกมามีแต่เรื่องตั้งใจจะทำลาย กำจัดทิ้ง โดยเฉพาะสถาบันหลักของไทย นโยบายที่ตั้งใจสร้างสิ่งดีๆ ให้สังคมอาจจะไปต่อไม่ได้ เพราะวางลำดับความสำคัญผิด สะดุดขาตัวเอง ล้มเอง ถ้าล้มแรงก็กลับมาเหมือนเดิมได้ยาก

คนที่เกิดมาก่อน คนที่เห็นต่างก็เป็นคนไทย เมื่ออ้างประชาธิปไตยต้องรับฟัง ระบบประชาธิปไตยไม่ใช่การใช้อารมณ์ การไล่ล่า การกดดัน การทำร้าย ทำลายฝ่ายตรงข้าม

หมอต้องการความชัดเจน ว่าเมื่อเป็นรัฐบาล คุณจะทำอะไรอย่างไรกับนโยบายของสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะนโยบายตอนหาเสียง สมาชิกพรรคพูดและแสดงออก คือ ‘การทำลาย’ ต้องไม่ลืมหลักธรรมะแห่งพุทธ การกระทำของเราเกิดจากตัวเรา เสียดายที่การเรียนวิชาประวัติศาสตร์หายไป แถมเรียนในสภาพแวดล้อมที่ที่เน้นวัตถุพัฒนากิเลส บางคนไปเรียนแต่เมืองนอก จึงไม่เคยทราบความจริงที่ไม่มีในสังคมโซเชียล

ปฐมกษัตริย์ของประเทศไทย พ่อขุนผาเมืองทรงรบเพื่อสร้างสุโขทัย ยกบัลลังก์ให้เพื่อนขึ้นปกครองก็เพื่อให้เป็นไทย และปลีกวิเวกไปปฏิบัติธรรม กษัตริย์ทุกพระองค์ทรงใช้ธรรมะปกครองแผ่นดิน จนทำให้ไทยเป็นไทยมาจนทุกวันนี้ ที่สำคัญเป็นแผ่นดินพุทธศาสนาหลังจากถูกทำลายที่อินเดียเมื่อครั้งพุทธกาล ปัญหาใหญ่ของสังคมไทยคือ ความเหลื่อมล้ำ ความยากจน ความไม่ยุติธรรม ทำไมไม่มุ่งแก้ปัญหาเรื่องนี้ที่พรรคการเมืองที่ผ่านมาไม่ได้ตั้งใจทำให้สำเร็จ หรือเพราะมีนายทุนทางความคิดกดดันชี้นำอยู่

ใครที่อ่านแล้วขัดใจก็ข้ามไปเสีย หมอตั้งใจกระตุ้นเตือนคนไทยที่รักแผ่นดิน รักสถาบัน ถึงเวลาที่ต้องไม่ปล่อยให้ภัยคุกคามแบบนี้ทำร้ายสังคม ไม่ต้องรอใครทำก่อน พลังความดีจะปกป้องเรา เราไม่ได้ขัดขวางที่คุณจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศ แต่เราจะขัดขวางและร่วมปกป้องสถาบันแน่นอน สิ่งนี้ไม่ใช้เรื่องที่ต้องมีมติหรือเสียงส่วนใหญ่

นักรบแห่งแผ่นดิน จักต้องปกป้องรักษาไว้ด้วยชีวิต

(หมายเหตุ คนที่ขัดใจข้ามไป เลิก Follow ไม่ต้องแชร์ความเห็นใดๆ มาให้ทุกช่องทาง หมอชัดเจนเรื่องนี้ เดี๋ยวกลับไทยวันเสาร์นี้จะติดต่อได้)

'ก้าวไกล' ไม่เฟด 112 ดูท่า 'พิธา' จะอดเป็นนายกฯ แวะบ้าน ปชป.ส่อเละ!! เมื่อซุ้มเฉลิมชัยหนุน 'เดชอิศม์' คุมพรรค

'เลียบการเมือง' วันนี้...ส่งท้ายปลายสัปดาห์ ต้องบอกว่าเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลให้จับตาการแถลงบันทึกความเข้าใจ บันทึกความตกลงของ 8 พรรคการเมือง 313 เสียงที่จะเปิดไพ่กันในในวันจันทร์ที่ 22 พ.ค. - วันที่ครบรอบ 9 ปีการรัฐประหารเมื่อปี 2557...แน่ะ...เข้าใจเลือกวัน 

แต่ 'เล็ก เลียบด่วน' สังหรณ์ใจว่าจะไม่ใช่วันมงคลซักเท่าไหร่นะ...

ได้ฟันธงไปเมื่อกลางสัปดาห์ว่า รัฐบาลสูตรก้าวไกลจะไปไม่ถึงดวงดาว วันนี้ก็ยังเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ในส่วนลึกของหัวใจ 'เล็ก เลียบด่วน' ก็อยากเห็นสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงกับเขา เหมือนกัน...แต่เมื่อดูกระบวนท่าขบวนทัพของพรรคก้าวไกลแล้ว ต้องบอกว่าถ้ายังดำเนินไปด้วยเนื้อหาและท่วงทำนองข่มขู่กดดันชาวบ้าน โดยเฉพาะสมาชิกวุฒิสภา ไม่ใช้คาถาท่านสุนทรภู่ที่ว่า “ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดั่งใจจง” ที่ดร.วิษณุ เครืองาม ยกมาพูดถึงสองครั้งสองคราก็อย่าหมายว่าจะไปถึงดวงดาว...

ปัจจัยชี้ชะตานายกฯ คนที่ 30 ของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์และพรรคก้าวไกลนาทีนี้อยู่ที่...ปมประเด็นจุดยืนการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ที่พรรคก้าวไกลหาเสียงและเคยยื่นต่อสภา ซึ่งถ้ายังยืนยันที่จะแก้ไขหรือยกเลิก หรือแถลงแบบอึมครึมแบบเมื่อวันก่อนก็เหนื่อยหนัก...แต่ถ้าประกาศชัด ว่าจะไม่แตะต้องไม่แก้ไข ก็คงทำให้ได้เสียง ส.ว.หรือแม้กระทั่งส.ส.ที่จะโหวตฟรีจำนวนไม่น้อย...แน่นอนการประกาศอย่างนี้จะมีปฏิกิริยาจากแฟนคลับอื้ออึง...ก็เป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกล ต้องชี้แจงเอาเอง เช่นบอกว่ารัฐบาลจะอำนวยความยุติธรรมให้กับคนที่โดนคดี 112 หรือคดีการเมือง...ประมาณนั้น

พูดไปทำไมมี...นาทีนี้ใครที่ตามลุ้นการจัดตั้งรัฐบาลก็ต้องใจร่มๆ ใจเย็นๆ ให้เหมือนพรรคเพื่อไทยที่เดินเกมเนียนสุดๆ ในการรอส้มหล่น...

สรุปว่า อีกประมาณ 60 วันเราถึงจะได้รู้ว่าใครจะเป็นประธานสภา และหลังจากนั้นอีกครึ่งเดือนจะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี...สิริรวมต้นเดือน ส.ค.เป็นอย่างเร็วถึงจะได้นายกรัฐมนตรี ถึงวันนั้นหวยนายกฯอาจพลิกเป็นอุ้งอิ๊งหรือลุงป้อมไปแล้วก็ได้…!!??

แว้บ!! ไปที่พรรคประชาธิปัตย์กันหน่อย ประการแรกก็ต้องบอกว่า...เลือกตั้งหนนี้ได้ให้บทเรียนกับพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดอย่างเจ็บปวด จาก 52 ที่นั่งเมื่อปี 2562 เหลือ 25 ที่นั่ง  ส.ส.เขต 23 คน ปาร์ตี้ลิสต์ 2 คน คือ คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ และ คุณชวน หลีกภัย...

วันนี้คุณจุรินทร์ได้แสดงสปิริตลาออกจากหัวหน้าพรรคแล้ว ไม่แปลกที่หลายคนถามหาสปิริต เฉลิมชัย ศรีอ่อน  เลขาธิการพรรคที่ประกาศว่าถ้าได้ ส.ส.น้อยกว่าเดิมจะวางมือทางการเมือง...ตรงข้ามตอนนี้มีข่าวลือสะพัดว่ากลุ่มเฉลิมชัย อันมีสองขุนพลภาคใต้ขนาบซ้ายขวา คือเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคและชัยชนะ เดชเดโช รักษาการรองเลขาธิการพรรค ได้ทอดไมตรีส่งสัญญาณยินดีเข้าร่วมรัฐบาลก้าวไกล

ว่ากันว่าช่วงกลางสัปดาห์ที่ อลงกรณ์ พลบุตร โพสต์เฟซบุ๊กเสนอให้พรรคประชาธิปัตย์ยกมือโหวตสนับสนุนรัฐบาลก้าวไกลนั้น..เป็นเรื่องเดียวกันกับที่กำลังเป็นข่าว...อย่างไรก็ตาม...ถ้าให้คาดเดาตอนนี้กลุ่มเฉลิมชัยน่าจะลุ้นหนักให้ส้มหล่น คือ ก้าวไกลไปไม่ถึงดวงดาว  และพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แล้วพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาลด้วยความสบายใจกว่า...

ครับ!! ก็ต้องจับตามองว่าจากนี้ไปใครจะเป็นผู้กอบกู้พรรคพระแม่ธรณี...บางกระแสลือกันว่า เฉลิมชัย ศรีอ่อน จะเป็นผู้ทรงอิทธิพลใช้ 17 ส.ส.ใต้ชุดใหม่หนุนให้ 'เดชอิศม์' ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค  ซึ่งถ้าเป็นจริงก็ดูไม่จืด...ส่วนอีกกระแสบอกว่ามวลสมาชิกจะอัญเชิญอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ-ชัยวุฒิ บรรณวัตน์ ให้คัมแบ็ก...ซึ่งนาทีนี้ก็ยากที่จะคาดหมายได้ว่า...เพราะมิรู้เลือดสีฟ้าของอภิสิทธิ์ยังเข้มข้นแค่ไหน? อย่างไร?


 

‘พงศ์พรหม’ โพสต์เตือน ก้าวไกล กับประเทศไทย ในเวทีโลก อย่าสร้างศัตรู ต้องวางตัวให้ดี เป็นกลาง อย่าอิงข้างแต่อเมริกา

นายพงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับแนวทางในการบริหารประเทศของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางในการดำเนินความสัมพันธ์กับต่างประเทศ มีใจความว่า

อย่างที่บอก ผมยอมรับกติกานะ แพ้เป็นแพ้

ให้พวกก้าวไกลบริหารประเทศไป อย่าไปขวาง

แต่เรื่องของเรื่องคือ ยังไม่ทันเป็นรัฐบาลเลย

ขู่ไปทั่ว ขู่ทหาร ขู่ สว. ที่อันตรายมากคือขู่จีน อย่างหยาบคาย

ตอนที่สถานะเป็นผู้สมัครนี่เรื่องนึงนะ จะด่าสีจิ้นผิงอย่างไรก็เป็นเสียงชาวบ้าน

แต่พอเป็นรัฐบาลปุ๊บ ด่าสีจิ้นผิง คือเท่ากับประเทศไทยด่าประเทศจีน

ยังไม่ทันไร สร้างศัตรูแล้ว โดยเฉพาะกับจีน

ลองหาข้อมูลนะ เจ้าพ่อเจ้าแม่อินเตอร์เน็ททั้งหลาย มันเป็นวิทยาศาสตร์มาก

จีนกับรัสเซียทำพันธะสัญญาบ้านพี่เมืองน้องไปแล้ว พวกเธอคงไม่รู้

รบกับจีน จึงเท่ากับรบกับรัสเซียด้วย

ไปดูเรือรบที่วิ่งในแปซิฟิคตอนนี้ เห็นกองเรือจีนและกองเรือรัสเซียไหม?

เทียบกับกองเรือตะวันตกที่เข้ามากวนประสาทแถวไต้หวันแล้วมันฟ้ากับเหว

ถ้าไม่เห็น ต้องถ่างตากว้างๆ นะ ไม่งั้นเสียชื่อคนรุ่นใหม่ที่คุยกว่าเก่งทางเทคโนโลยี

 

คราวนี้ซูมเอ้าท์ออกมาดูภาพกว้างขึ้น จะเปรียบเทียบให้ฟัง

 

ยูเครนปกครองโดยเซเลนสกี้ที่เป็นคนของยิวอิสราเอล (เอาตรงๆ)

เป้าหมายมันคือเปลี่ยนยูเครนตะวันตกให้เป็นอิสราเอลสอง

เพราะอิสราเอลหนึ่ง เริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง (เปอร์เซียรวมตัวกันแล้ว)

แล้วมันก็จะทำให้แนวตะเข็บตะวันออกเป็นแนวป้องกันไว้ทิ่มแทงรัสเซีย

ดังนั้นจึงตะกายจะเข้านาโต้ เพราะล่อเป้าอย่างนี้

ถูกโจมตีเมื่อไหร่เท่ากับโจมตีนาโต้ทั้งหมด

อเมริกานั้นเจ้าเล่ห์ ไม่รบเองแต่จะผลักยุโรปทั้งทวีปให้ลุยแทน

แต่ไม่ทัน

รัสเซียทุบเลยทันที และยังไม่มีแนวโน้มจะเลิกทุบจนวันนี้

 

ถามว่า อเมริกาและยุโรปช่วยอะไรได้?

ไปถ่างตาดูหาข้อมูลจริงๆ ซะ อย่า 'เฮใน' แต่สื่อตะวันตก

ความเป็นจริงคือ จนบัดนี้ยังทำอะไรไม่ได้

ยูเครนพินาศย่อยยับไปทั่ว ทั้งที่เขายังยั้งมือไม่ลุยเต็มที่

ตะวันตกส่งอาวุธโบราณเหลือใช้ไปให้ ไม่โดนถล่มทิ้ง ทหารยูเครนก็เอาไปขาย

พวกแองโกลแซกซอนนั้นไม่กล้ารบ และใช้การบอยคอตทางเศรษฐกิจแทน

ตามด้วยแอนตี้พลังงานรัสเซีย

ผลออกมาคือ ยุโรปทั้งทวีปวุ่นวาย เกิดวิกฤติพลังงาน เศรษฐกิจปั่นป่วน

แต่รัสเซียไม่เดือดร้อนเลย เงินรูเบิ้ลสูงค่าที่สุดในประวัติศาสตร์

 

ผ่านไปไม่นาน อะราเบี้ยนโอเปคทั้งหมดไม่เว้นแม้ซาอุฯ หันไปจับมือรัสเซีย-จีน

โอเปคใหม่ ไม่มีอเมริกามาเอี่ยวอีกต่อไป

ไม่รับอเมริกันดอลล่าร์ และใช้เงินสกุลใดก็ได้ที่มีทองคำสำรองมาซื้อน้ำมัน

ผลคือ จบยุคของเปโตรดอลล่าร์

 

วันนี้ ทั้งอ่าวเปอร์เซียผนึกกันเป็นหนึ่ง สงครามตัวแทนทั้งหมดหยุด

แม้แต่ซาอุที่จับมือ UAE รังแกเยเมนมาตลอดหลายสิบปี หยุดรบกันแล้ว

ที่น่าตะลึงกว่านั้นคือ

อิหร่านที่โดนอเมริกาและตะวันตกแบนมาหลายสิบปี แข็งแกร่งกว่าเดิม

และอย่างที่รู้ เขามีอาวุธนิวเคลียร์

เลยกลายเป็นเหมือนตัวแทนผู้นำในเปอร์เซียไปโดยปริยาย

แม้แต่กษัตริย์ซาอุเองยังไปพูดคุยจับมือกับผู้นำอิหร่าน มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ตามด้วยบริจาคเงินให้เยเมนฟื้นฟูประเทศ (* เรื่องที่เธอไม่รู้ยังมีอีกเยอะ)

แม้แต่ซีเรียที่โดนอเมริกาทำลายวินาศไปแล้ว ยังฟื้นลุกขึ้นมาได้

นี่เป็นส่งที่เกิดขึ้นจริงเป็นที่รับรู้ไปทั่วโลก

ผมแปลกใจที่มีคนไทยมากมายหูหนวกตาบอดไม่รู้เรื่องพวกนี้ไปได้

คิดว่าคงดูแต่ CNN BBC ABC NBC CBS Fox Rueter..

สื่อพวกนี้อยู่ใต้ทุนตะวันตกเดียวกันทั้งหมด

หรือไม่ก็ดูแต่เว็บโป๊เว็บพนัน

 

สำนักข่าวทางเลือกที่จะหาอ่านได้ มันไม่ได้ซ่อนตัวเป็นเว็บลับนะ

ลองเลือกอ่านดูบ้าง ตัวอย่างเช่น

https://www.rt.com/

https://www.aljazeera.com/

https://www.scmp.com/

 

คงต้องไปหาข้อมูลจริงๆ มาศึกษาแล้ว ในฐานะเป็นรัฐบาล

จะมาอ่านข่าวเอาใจเชียร์ใน ไม่ได้อีกต่อไป

จะไปหวังอินเทลจากอเมริกาที่ป้อนข่าวปลอมให้ตลอดไม่ได้

คุณต้องมีอินเทลของคุณเอง.. ก็ไอ้ กอรมน ที่คุณจะยุบนั่นแหละ

ไอ้ที่คิดหวังว่าจะยืนข้างอเมริกา

ก็ดูเอาว่า การแทรกแซงฮ่องกงเป็นอย่างไร พม่าเป็นอย่างไร

และที่ฉิบหายวายป่วงที่สุดคือยูเครนเป็นอย่างไร

ในสัปดาห์ข้างหน้าคอยดูตุรกีและปากีสถาน

สมเด็จแยงกี้ไม่ขลังอีกต่อไปแล้ว

 

ผมคิดแล้วไม่เข้าใจว่าพวกเขาฉลาดจริงหรือ

จู่ๆ จะยอมให้เอาขีปนาวุธมาตั้งบนหลังคาแล้วคิดว่าบ้านจะนอนหลับสบาย

 

ที่นี้ลองจินตนาการดูว่า ถ้ามันเลยเถิดไปกว่าสงครามม็อบฟันน้ำนม

ต่อให้นองสีหรือนองเลือด ตีรันฟันแทงกันก็คงไม่น่าจะหายนะนัก

แต่ถ้ามันจะขยับไปขนาดสมดุลย์อำนาจจะพังทลาย

และบ้านเมืองจะเข้าสู่สงครามความขัดแย้งระดับโลก

ผมไม่เชื่อว่า พวกทหารระดับบัญชาการจะปล่อยให้เกิด

นักการเมืองพวกนี้ได้ขู่คำรามอย่างไม่ไตร่ตรองออกมา

ว่าจะกวาดล้างอำนาจทหารของพวกเขาให้สิ้น

ผมไม่ต้องแทงหวยเลยก็รู้ว่า ถ้าบีบขนาดนั้นจะมีรัฐประหารแน่นอน

แต่คราวนี้ จะไม่ได้แค่ออกมาจัดแถวเหมือนครั้งก่อนๆ อีกแล้ว

แต่จะเป็นเผด็จการจริงๆ เจ็บจริง ตายจริง

และอาจไม่ลังเลที่จะใช้กำลังพลเข้าปราบปรามรุนแรง

เชื่อได้ว่าการล้างบางครั้งใหญ่จะเกิดขึ้น เพราะได้รับบทเรียนต้อนติดมุมแล้ว

ดีไม่ดีก็ฟันมันให้หมดทั้งการเมืองสองฝ่ายที่สร้างปัญหามาหลายสิบปี

แบบไม่สนน้ำหน้ายูเอ็นหรือยุโรปอเมริกันตะวันตกอีกต่อไป….

 

ถามว่า แบบนี้อาจเกิดขึ้นได้ไหม?

ไม่ได้เพ้อ.. ผมว่าเป็นไปได้? มันมีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า

ไม่สนตะวันตก อเมริกา ยูเอ็น ก็ไม่ทำให้ตกที่นั่งลำบากหรือโดนรุมอีกแล้ว

ต้องเข้าใจด้วยว่าสายบังคับบัญชาและอำนาจกองทัพเหมือนกันทั้งโลก

แม้แต่อเมริกาที่แสนสวยของคุณ รัฐบาลก็ไม่ได้มีอำนาจคุมกองทัพจริงๆ

มันเป็นไปโดยหน้าฉาก

เมื่อไหร่ที่มันเกิดงัดกัน ประธานาธิบดีก็โดนเก็บได้ … JFK เป็นต้น

คุณอาจแฟนตาซีถึงเทียนอันเหมิน พร่ำเพ้อจิตวิญญาณหาญกล้า

วีรชนผู้งดงามยืนหยัดเพื่อความดี ได้ปรากฏบนทวิตเตอร์ไปทั่วอย่างทรนง

เหมือนกับที่หลอนหลอกด้วย 14 ตุลา 6 ตุลา วนเวียนอยู่ไม่จบ

แต่ความเป็นจริงคือ เทียนอันเหมินผ่านไปแล้วและจีนยังคงเป็นคอมมิวนิสท์

หนำซ้ำยังแข็งแกร่งเกินต้าน เจริญแซงหน้าอเมริกาไปแล้ว

ใครจะหลับหูหลับตาไม่ยอมรับความจริงข้อนี้ก็เชิญตามสบาย

แต่ถ้าอยากจะพิสูจน์ ลองเสิร์ชดูภาพสถานีอวกาศนานาชาติเทียบกับสถานีอวกาศจีน ตะวันตกตั้งกี่ชาติรวมกันเพื่อสถานีอวกาศโบราณอันหนึ่ง แถมต้องอาศัยจรวดรัสเซียขึ้นไป มาตลอดหลายปี แต่จีนชาติเดียวบินเดี่ยวไปมีสถานีอวกาศของตัวเอง แถมตอนนี้กำลังสำรวจ dark side of the moon

หรือจะดูสินค้าจีนอย่างเช่นจักรยานไฟฟ้าใน Alibaba เทียบกับ Amazon ก็ยังเห็นภาพรวม

 

ถามว่า ก็ถ้าเกิดกองทัพทหารไทยออกมาบ้าเลือดอย่างนั้นบ้าง

พวกเธอจะออกมายืนขวางรถถังแบบเทียนอันเหมินแล้วคิดว่าจะหยุดได้ไหม

ผมก็ไม่ชอบหรอกนะ แต่พอถึงระดับนั้นแล้ว พวกคุณ พวกผม พวกไหนก็หยุดไม่ได้

(คนที่หยุดได้อยู่บนสวรรค์)

คุณจะด่าว่าชั่วร้ายหยาบคายสาดสีอย่างไร

ก็ไม่อาจเปลี่ยนเชนออฟคอมมานด์มาอยู่ในมือคุณด้วยน้ำลาย

ต่อให้คุณไปตามนายกในอดีตมาอีกสิบคนขี่คอกันออกมาต้าน

ก็หยุดไม่ได้หรอก

ก็ดูสิว่า ระดับรัฐบาลอเมริกันและยุโรปพ่นกันน้ำลายฟ่อด

ก็ไม่เห็นจะหยุดกองทัพปูตินได้สักนิด ฉันใดฉันนั้น

 

ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าด้วยภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบัน

การเลือกมหาอำนาจหลายขั้วคือทางเลือกใหม่โดยแท้

ถ้าคุณเป็นคนรุ่นใหม่จริง จะเปลี่ยนโลกสู่ยุคใหม่จริง

คุณควรเลือก มหาอำนาจหลายขั้วสิ ไม่ใช่ขั้วเดียวแบบเจ็ดสิบปีที่ผ่านไป

 

ถามว่า หากกองทัพไทยที่อาจออกมาปฏิวัติรอบนี้ จะทำตัวเหมือนอิหร่าน

และแตะเป็นแนวร่วมกับจีนรัสเซียแทน ผมถามว่า อเมริกาจะทำอะไรได้?

 

แน่นอนว่า ไม่มีใครอยากเห็นบ้านเมืองไปถึงจุดนั้น

เพราะฉนั้นอย่าสุดโต่ง เมาน้ำลาย หลงไหลยอดไล๊ค์

จะก้าวหน้าไปสู่ยุคใหม่แล้วทำไมไม่ฉลาดหน่อยที่จะรู้จักสร้างมิตร

มันไม่แปลก ที่จะสู้กับพลเอกประยุทธ์หรือพลเอกประวิตรหรอกนะ

แต่มันโง่บัดซบ ที่จะพัฒนาประเทศไปพร้อมกับการสู้กับกองทัพประชาชนจีน

ในรัศมีที่จรวดไฮเปอร์โซนิควิ่งมาถึงบ้านเราในเวลาไม่ถึงสามสิบวินาที

อเมริกายังไม่กล้าเลย

เพราะมันใช้เวลาวิ่งไปดีซีแค่เจ็ดนาที

แต่ถ้าวิ่งมาลงแถวนี้ พวกมันไม่เดือดร้อนอะไรเลยไง

ก็ลองไตร่ตรองกันดูเถิด

เกมการเมืองอาจมีพลิก ‘เพื่อไทย’ อาจกลายเป็นพระเอก

เปลว สีเงิน สื่อมวลชนอาวุโส นักเขียนคอลัมนิสต์ชื่อดัง ได้เขียนบทความลงใน Thaipost เกี่ยวกับการจะเป็นนายกฯ คนที่ 30 ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย ว่ายังมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะแนวคิดที่จะแก้ไขกฎหมาย มาตรา 112 อาจจะทำให้พรรคอื่นๆที่จะเข้าร่วมรัฐบาลนั้น มีความลำบากใจ และ MOU ที่จะเป็นข้อตกลงร่วมกันนั้น ก็ยังมีความกำกวม โดยเปลว สีเงิน ได้เขียนไว้มีใจความว่า

กลับลำยากซะแล้วละ...พิธา!

เมื่อ เงื่อนไขสำคัญเรื่อง "มาตรา ๑๑๒" กำกวมอยู่ใน MOU คือไม่ชัดเจนว่า "จะเลิก" หรือ "จะแก้ไข"?

ทำให้ "อย่างน้อย" ๒ พรรคใน ๘ เริ่มคิดหนัก!

ว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมตั้งรัฐบาลกับก้าวไกล?

เห็น "พรรคเพื่อไทย" ๑๔๑ เสียง ออกอาการขมวดคิ้ว บ่งบอกความอึดอัด

คุณหญิงสุดารัตน์ "ไทยสร้างไทย" ๖ เสียงเปรยเบาๆ

ดิฉันได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)

และ "เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ ๔ จตุตถจุลจอมเกล้า (จ.จ.)

อันเป็นเครื่องหมายของขุนน้ำ-ขุนนาง-ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความจงรักภักดี

ดังนั้น เมื่อมีเรื่องเกี่ยวกับสถาบันและความมั่นคง ดิฉันต้องขอพิจารณาดูก่อนค่ะ"

เห็นมั้ยพิธา..........

ผมอาบน้ำเย็นมาก่อน บอกแล้วไม่เชื่อ ว่าอย่าเพิ่งโก่งคอขัน "แต่หัววันว่าผมคือนายกฯ คนที่ ๓๐ ของคนไทยทั้งประเทศ"

เกิด "ผิดล็อก-ผิดร่อง" ขึ้นมา มันจะอายเค้า!

เพราะก้าวไกล จะตั้งรัฐบาลได้หรือไม่นั้น มันไม่ได้อยู่ที่ ๑๕๒ เสียงก้าวไกลหรอก

แต่มันอยู่ที่ ๑๔๑ เสียงของ "เพื่อไทย" ตะหาก!

แค่เพื่อไทยส่ายหน้า บอก.........

พรรคผม "ไม่แตะ" เรื่องสถาบัน ๑๕๒ เสียงจบเลย

และคำว่า "พรรคผม" ไม่แตะเรื่องสถาบัน" นั้น

มันจะสร้าง "ความชอบธรรม" ให้ "เพื่อไทย" เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล พร้อมกับเป็นการ "สลายทุกเงื่อนไข" ในการที่ใครจะไม่สนับสนุน

รวมทั้ง ส.ว. "ชัวร์ ๑๐๐%!"

เพราะการแสดงความเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันและกองทัพสุดขั้วของก้าวไกล ถึงขั้นจะเข้าไปล้างบางกองทัพ

แถมหยามราชนาวีไทย ถึงขั้น จะเอาเรือประมงมาแทนเรือรบ นั้น

มันร้ายที่สุดของเลวร้าย

จนทำให้ "เพื่อไทย" กลายเป็นพระเอกที่ประชาชนยอมรับได้จากซีกผู้ร้ายขึ้นมาทันที!

ผมถึงบอก พิธาน่ะ คุณมัน yesterday boy

ยิ่งเมื่อเทียบกับทักษิณ เขา "แพลมตาหนู" ก่อนพิธาจะเกิดด้วยซ้ำ

ฉะนั้น มีแค่ ๑๕๒ เสียง ใน ๕๐๐ เสียง แถมยังต้องพึ่งเสียง ส.ว.อีกเกือบ ๑๐๐ เสียง แล้วโก่งคอขัน นั่นน่ะ

ทักษิณขำกลิ้ง......

เห็นสั่งเด็กต้มน้ำร้อนไว้รอ เด็กมันถาม นาย..นาย จะอาบน้ำร้อนหรือไง ทักษิณเบิ๊ดกระบาล แล้วบอก

"ไอ้โง่....ต้มไว้ กูจะลวก "ถลกหนัง" ไก่อ่อนโว้ย!"

และไม่ได้ยินหรือพิธา....

ที่หลวงพี่โทนี่ วิสัชนาหน้าคลับเฮาส์ถี่ๆ ๒ วันติด....

"จุดยืนของพรรคเพื่อไทยและครอบครัวชินวัตร คือเราเคารพรักสถาบัน ใครจะว่าอย่างไงผมช่วยไม่ได้

ผมเป็นของผมอย่างงี้ และยินดีต้อนรับว่า คนจะวิจารณ์ว่า เพราะผมไม่ได้สู้เพื่อไปทำอะไรไม่ดีกับสถาบัน ไม่มี ผมสู้เพื่อเอาชนะทางการเมืองเท่านั้นเอง

สถาบันนี่ ผมถือว่าผมจงรักภักดี ครอบครัวผมเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

รู้มั้ยว่า ผมกับคุณหญิงนี่ สมรสพระราชทานนะครับ ผมอาจจะไม่ได้มีพิธีเหมือนสมัยนี้ แต่พิธีของผมคือสมรสพระราชทาน ฉะนั้นเรื่องความสำนึกอะไรพวกนี้ มันมีอยู่นะครับ มันมีอยู่ จะให้ผมไม่มีมันเป็นไปไม่ได้เลย นะครับ"

จบมั้้ย...

เมื่อ พรรคอันดับ ๑ "ก้าวไกล" ท้าทายสังคม ด้วยการทุบสถาบันลงไปเหยียบ

ขณะเดียวกัน พรรคอันดับ ๒ "เพื่อไทย" ด้วยเสียงไล่เลี่ย เจ็บปวดร่วมสังคม แล้วยกสถาบันที่คุณเหยียบขึ้นไปเทิด

ตื่นจากฝัน "นายกฯ คนที่ ๓๐" เถอะ

หรือจะรอให้เพื่อไทยหลอกเอาตำแหน่ง "ประธานสภา" ไปซะก่อน ถึงจะตื่น?

รู้มั้ย...พิธา ตำแหน่งนายกฯ น่ะ มัน "น้ำบ่อหน้า"

ถ้าพรรคคุณไม่ได้ตำแหน่งประธานสภา เท่ากับว่า "น้ำบ่อหน้า....บ่มี" สำหรับคุณ

พิมพ์ MOU ของก้าวไกล ที่จะให้ ๘ พรรคเขาเซ็นน่ะ

ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่อง "แก้..เลิก, เลิก-แก้ ๑๑๒" ที่คนพรรคคุณ ตวัดลิ้นพันกันไปมา

เอาแค่ระบุ จะเข้าไป "ล้างกองทัพ" กับ "เลือกตั้งผู้ว่าฯ"

แค่นั้น มันก็ฉิบ....แล้ว!

๗ พรรค เขาอาจยอม แต่อภิมหาประชาชนเขาไม่ยอมหรอก ผมจะบอกให้

เพราะอะไรน่ะหรือ?

เพราะ แค่อ้าปากก็เห็นทะลุถึงดากไงล่ะ

เรื่องกองทัพ กับเรื่องเลือกผู้ว่าฯ มันคือ "เสาเข็ม" ของโครงสร้างสังคมชาติ เป็นเรื่อง "ความมั่นคง" โดยตรง

"รื้อกองทัพ" จุดมุ่งหมายคืออะไร ก็ แถไถ อ้างไปร้อยแปด

แต่ไส้ในของเจตนา ก็อยู่ที่ "สถาบันพระมหากษัตริย์"

กองทัพคือ "ด่านหน้า"

ก้าวไกลทลายด่านหน้าสำเร็จ

เท่ากับ "ล้มสถาบัน" สำเร็จ!

แล้วยกอำนาจประเทศไปบรรณาการ "ขบวนการอำนาจเดียวครองโลก = CFR" ให้เข้ามาใช้ประเทศเป็นสมรภูมิได้เลย

ในเวลาเดียว เมื่อยึดกองทัพ-ล้มสถาบันได้แล้ว

แผน "ครองประเทศ-ครองโลก" ก็จะไปบรรจบกับ "ด่านสุดท้าย" คือเปลี่ยนประเทศไทย จากราชอาณาจักรไทย ไปเป็น "สาธารณรัฐไทย" แทน

แทนยังไง?

ก็ที่ก้าวไกลจะไปนั่งมหาดไทย เพื่อปฏิรูประบบปกครองนั่นแหละ

การ "เลือกตั้งผู้ว่าฯ" คือกลวิธี "ยึดประเทศ" ทั้ง ๗๗ จังหวัด แล้วจัดหมวดหมู่ "แยกเป็นรัฐๆ" แบ่งกันไปปกครอง ในรูปแบบสาธารณรัฐ

แค่นี้ ก็เท่ากับแอบอิงคำว่าปฏิรูปใต้นิยาม "ขุดรากถอนโคน" ยึดประเทศไทยได้ทั้งประเทศแบบเนียนๆ

จาก "ราชอาณาจักรไทยอันแบ่งแยกมิได้"

กลายเป็น "สาธารณรัฐไทย" ซอยแผ่นดินประเทศแบ่งกันไปครอง แล้วให้คุณพ่อ "ยุโรป-สหรัฐ" เข้ามาชี้นิ้วสั่ง

ตั้งฐานทัพเสร็จสรรพ!

นี่คือการใช้คำ "ปฏิรูปกองทัพ" เป็นผ้าขาวห่อศพ

และคำว่า "ปฏิรูปการปกครอง"

เป็นมีดตัดเค้กคือแผ่นดินไทยแบ่งใส่จานแจกกัน!

ผมพูดนี่ หัวเราะ ว่านิยายตลกใช่มั้ย?

คุณอย่าจำคำผม แต่อยากให้จำคำทักษิณ ตอนตั้งพรรคไทยรักไทย เลือกตั้ง ปี ๒๕๔๔ ทักษิณบอกเสนาะ

คนไทยน่ะพวก "ตาบอดไม่กลัวเสือ"!

นั่นคืออะไร....

หมายถึง คนโง่ คนโลภ คนเห็นแก่ผลได้เฉพาะหน้ามันมีเยอะ ด้วยนิยามนี้

ให้ผู้ว่าฯ มาจากเลือกตั้งเหมือนเลือก ส.ส.น่ะเรอะ

ใช้จังหวัดละ ๒,๐๐๐ ล้าน-๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ยึด = ซื้อประเทศได้เบ็ดเสร็จ!

พวกตู้ห่าว พวกหลงจู๊ พวกบ่อน พวกซ่อง พวกพนันออนไลน์ พวกค้ายา-ค้าของเถื่อน พวกโกงกิน

"พรึ่บ.....ดำกินแดง, กินส้ม, กินหมดทุกสี เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ ขึ้นเป็นเสนาบดีครองทุกจังหวัด ครบทั้งประเทศ!

นี่แหละ มันเป็นอย่างนี้แหละ พี่น้องเอ๋ย

ปลา ไม่รู้จักบุญคุณน้ำ, นก ไม่รู้จักบุญคุณอากาศ

นั่นเพราะเป็นสัตว์

แต่พวกเรา "เป็นคน-เป็นมนุษย์" มนุษย์แปลว่าผู้มีใจฝึกแล้วประเสริฐ แล้วเราจะไม่สำนึกคุณในชาติ ในแผ่นดิน

คือ "ชาติ, ศาสน์, สถาบันพระมหากษัตริย์" เลยเชียวหรือ?

ส่วนมาตรา ๑๑๒ นั้น...........

จะแก้-จะเลิก หรือไม่แตะต้องเลย เห็นกลิ้งเป็นลิงปอกกล้วย แผล็บไป-แผล็บมา

แต่ที่ได้ยินคาหู จาก "ช่อ-พรรณิการ์" เขาหาเสียง ว่า

"ใครอยากเลิก ม.๑๑๒ มากองกันตรงนี้ค่ะ"

"หากคนอยู่ต่างจังหวัดไปม็อบไม่ได้ ไม่ต้องกังวลค่ะ

เพราะคณะก้าวหน้าและคณะราษฎร์เพจจัดให้

คุณสามารถลงชื่อยกเลิก ม.๑๑๒ ผ่านทางออนไลน์ได้ ทุกคนทำได้ ใครเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ก็มาร่วมลงชื่อได้หมด"

นี่คือ ช่อ.........

มาดูพิธาบ้าง บนเวทีปราศรัยหาเสียง แบม-ตะวัน เขียนป้ายทำโพล "คุณคิดว่ายกเลิกม.๑๑๒ หรือ สมควรแก้ไข ให้ติดสติกเกอร์ในช่องนั้นๆ

แล้วพิธา-ว่าที่นายกฯ คนที่ ๓๐ ก็หยิบสติกเกอร์สีแดง ติดหมับลงไปที่ช่อง "ยกเลิก ม.๑๑๒"

"นัตถิ อการิยัง ปาปัง มุสาวาทิสสะ ชันตุโน"

คนมักโกหก ที่จะไม่ทำชั่ว นั้นไม่มี

‘จตุพร’ แนะ ‘พิธา’ คิดทบทวน  ‘เรืองไกร’ ได้ข้อมูลหุ้นไอทีวี มาจากไหน ระวัง พรรคใกล้ตัว

20 พ.ค. 2566 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "ไม่น่าไว้ใจ?" ช่วงหนึ่งว่า เบื้องต้นต้องยอมรับความจริงก่อนว่า นักการเมืองและประชาชนมีความมุ่งหวังต่างกัน โดยการเมืองในครั้งหนึ่ง พล.ต.ประมาณ อดิเรกสาร อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ชนะเลือกตั้งปี 2526 (ได้ 110 เสียงจากทั้งหมด 324) ต้องได้เป็นนายกฯ แต่เจอข้อมูลใหม่จึงกลายเป็นฝ่ายค้านแทน

ถัดมา การเลือกตั้งปี 2562 พรรคเพื่อไทยได้รับเลือกมาเป็นอันดับหนึ่ง เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นับคะแนนปัดเศษ จึงกลายเป็นฝ่ายค้าน อีกทั้งในช่วงนั้น พรรคเพื่อไทยเล่นการเมืองสองหน้า ไปเลือกนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่) เป็นแคนดิเดตนายกฯ ชิงกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอเป็นนายกฯ

นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนั้น นายธนาธร ถูกคดีถือครองหุ้นสื่อมวลชน และพรรคเพื่อไทยรู้ว่า จะพบจุดจบทางการเมืองอยู่แล้ว จึงเชิดชูคนรุ่นใหม่เพื่อได้สร้างลักษณ์ที่ดีทางการเมือง แต่ขณะเดียวกันยังเป็นการหักหน้าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย (ขณะนั้น)

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนั้น พปชร. ไปรวบรวมพรรคมาตั้งรัฐบาล โดยพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เสนอให้นายชวน หลีกภัย เป็นประธานสภาผู้แทนฯ และกำหนดเงื่อนไขแก้ รธน. 2560 ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ยอม จึงเท่ากับแต่งตัวให้ ปชป. เข้าไปร่วมรัฐบาลทั้งที่หัวหน้าพรรคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศหาเสียงไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกจากหัวหน้าพรรค

ส่วนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในปี 2562 ได้ประกาศไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยเช่นกัน แต่ยอมเข้าร่วมรัฐบาล เมื่อรับแบ่งให้ดูแลกระทรวงเกรดเอ ดังนั้น การโหวตเลือกนายกฯ ปี 2562 จึงผ่านฉลุยด้วยเสียง สว.เลือก พล.อ.ประยุทธ์ ถึง 249 เสียงจาก 500 เสียง เท่ากับเป็นเอกฉันท์ร้อยเปอร์เซ็นต์

เมื่อมาถึงการเลือกตั้งปี 2566 นายจตุพร กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองหลังเลือกตั้งไม่แตกต่างจากปี 2562 โดยวันนี้ไม่มีรู้ว่าใคร พรรคใดเหน็บมีดไว้ข้างหลัง โดยระหว่างการหาเสียงพรรคเพื่อไทยให้เลือกตัวเองเป็นยุทธศาสตร์โค่น 3 ป. เลือกอย่างไม่มีพี่ ไม่มีน้อง แต่ผลต้องแพ้พรรคก้าวไกลที่ผู้สมัครมีแต่คนรุ่นใหม่ ดังนั้น ยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยจึงม่ใช่ยุทธศาสตร์ของประชาชน....

นายจตุพร ย้ำว่า สถานการณ์ของพรรคก้าวไกลในขณะนี้ มีความรู้สึกไม่แตกต่างจากนายธนาธรโดนคดีหุ้นสื่อมวลชน ถัดจากนั้นนำไปสู่การยุบพรรค (อนาคตใหม่) ดังนั้น วันนี้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกฯ ควรคิดกันให้ดี ๆ ด้วย

“นายพิธา ควรคิดทบทวน ว่า ไอทีวีเป็นของใคร รายละเอียดของหุ้นไอทีวีหลุดมาจากไหน ผมไม่เชื่อว่านายเรืองไกร (นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ออกจากเพื่อไทยไปเป็นปาร์ตี้ลิสต์ พปชร.) จะล้วงไปได้ง่ายๆ แต่หลุดไปถึงมือเรืองไกรได้อย่างไร ถ้านายพิธา ตีโจทย์นี้แตกจะเข้าใจว่า มีดดาบมาจากไหน เหมือนกับกรณีจูเลียส ซีซาร์ถูกบรูตัสคนใกล้ชิดชักมีดแทงจนตาย ดังนั้น กระดานการเมืองจึงมีมีดดาบซ่อนไว้มากมายในทุกพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคใกล้ตัว”

นายจตุพร เชื่อว่า ในความเป็นจริงตามกระดานการเมืองขณะนี้ การจับมือ 310 เสียงตั้ง รัฐบาลไม่ได้แล้ว เนื่องจากพรรคอีกฝ่ายหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ร่วมใน 310 เสียงนั้นมีท่าทีไม่โหวตให้ ต้องการขึงพืดพรรคก้าวไกล อีกอย่างการปิดสวิตซ์ ส.ว. ก็เกิดขึ้นแล้ว โดย ส.ว.ปิดตัวเอง ประกาศไม่โหวตเลือกนายกฯ สิ่งนี้จึงเป็นสถานการณ์ที่ยากมากในการตั้งรัฐบาลสำเร็จ

“ถ้านายพิธา มีอันเป็นไป (ในคดีถูกร้องถือหุ้นสื่อสารมวลชน) พรรคก้าวไกลก็เสนอแคนดิเดตนายกฯ คนเดียว ดังนั้นแคนดิเดตนายกฯ จะไปถึงอันดับรองถัดไปในพรรค 310 เสียง ซึ่งเห็นชัดเจนอยู่แล้ว ยิ่งคนที่แสดงสปิริตยกให้นายพิธา เป็นนายกฯ ให้พรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาล นั่นละตัวดี เพราะทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าไม่ง่าย นายพิธา ไม่รอดอยู่แล้ว เป็นกลเกมซ้ำรอยนายธนาธรถูกกระทำมาแล้ว”

อย่างไรก็ตาม นายจตุพร มั่นใจว่า ถ้าแคนดิเดตนายกฯ ลำดับถัดไปก็จัดตั้งรัฐบาลไม่ง่ายอยู่ดี แม้จะมีพรรคก้าวไกลร่วมด้วยหรือไม่ร่วมกลุ่มเดิม 310 เสียงก็ตาม แต่ยกเว้นเกิดการข้ามขั้วไปอีกฝ่าย ดังนั้น คนคิดเรื่องนี้เป้นเกมต้องหน้าด้านที่สุดชนิดเลิกมองกระจกไปเลย อาจอายหน้าตัวเอง

“แล้วสูตรที่คนสงสัยมาแต่ต้นจะเกิดขึ้นหรือไม่ แม้วันนี้จะยังไม่เกิด แต่มีร่องรอยจะเกิดขึ้น ดังนั้น กระดานการเมืองขณะนี้ จึงต้องดูกันนานๆ ดูกันอย่างมีความอดทนจะได้พบการเมืองแบบเขี้ยว เสือ สิงห์ กระทิง แรด ผสมปนเปเป็นพันธุ์การเมืองที่ดำรงอยู่มาต่อเนื่องมา 90 ปีและเด่นชัดหลัง 14 ตุลาคมถึงปัจจุบัน”

นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้พรรคก้าวไกล เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย ดังนั้น 310 เสียงจึงอยู่ผิดที่จน ส.ว. 250 ไม่โหวตเลือกนายกฯให้ ดังนั้นการจัดตั้งรัฐบาลของนายพิธา จึงยากจะเกิดขึ้นได้เลย เพราะเข้าสู่สภาวะ “เด็ดล็อก” แล้ว ยกเว้นมีบางพรรคที่จะงดใช้กระจกส่องหน้าตัวเองชั่วคราว แล้วแหกข้ามมาอีกขั้วหนึ่ง แม้วันนี้ยังไม่เกิดก็ตาม แต่ต้องอดทนรอดูกัน

คำคม จาก ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของไทย

“ห้ามทำตัวกร่าง ห้ามเจ้ายศเจ้าอย่าง และท่องจำประโยคเหล่านี้ไว้ให้ดีๆ

ใหญ่กว่าเรา คือพรรค ใหญ่กว่าพรรค คือความคาดหวังประชาชน”

 

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  หัวหน้าพรรคก้าวไกล

กล่าวในการจัดประชุม ส.ส. (19 พ.ค. 2566)

ประชาชนต้องปรับตัว ประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยน คนรุ่นใหม่ คนรุ่นเก่า ต้องอยู่กันต่อไป ชาติสำคัญที่สุด

ผู้ใช้ facebook ที่ชื่อว่า Napha Wong ได้โพสต์คลิปชายหนุ่มพูดถึงพรรคส้ม โดยมีใจความว่า

มันเป็นไปตามที่คิดและอยากให้เป็นกับการเลือกตั้งที่พรรคส้มได้ชัยชนะ แต่กลับไม่รู้สึกยินดีที่ไทยนั้นถูกครอบงำโดยชาติตะวันตก และความทันสมัย เห็นดีเห็นงานกับระบอบทุนนิยม มีงาน มีบ้าน มีรถ 

ซีเกมส์ที่ผ่านมาเราเป็นประเทศที่ทุกคนอิจฉา อยากจะเป็นอย่างเรามาก แต่ไม่สามารถเป็นอย่างเราได้เพราะ เราเป็นประเทศที่มีเอกราช และมีคนเก่ง แต่สิ่งเหล่านี้ เราจะสูญเสียไปในทันที ที่เราตกเป็นเมืองขึ้นทางความคิดของทางชาติตะวันตก 

หากเราตกเป็นทาสเขาเมื่อไหร่ เราจะไม่สามารถกำหนดอะไรได้เองเลย ก็หวังว่าสิ่งที่กังวลจะไม่เป็นจริง 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top