Thursday, 2 May 2024
พรรคพลังประชารัฐ

‘ธรรมนัส’ ชูสานต่อบัตรประชารัฐ 700 บาท-แก้ปัญหาที่ดินทำกิน ลั่น!! ‘พปชร.’ ขออาสาพัฒนาสร้างบ้านแปงเมืองพะเยาให้ดียิ่งขึ้น

(5 เม.ย.66) ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้นำคณะลงพื้นที่ไปพบปะประชาชนเพื่อขอคะแนนเสียงตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงค่ำ โดยเริ่มจากไปพบปะทักทายพ่อค้า แม่ค้าและประชาชนทั่วไปในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ที่ตลาดเช้าแม่นาเรือ ก่อนจะขึ้นรถแห่ทักทายประชาชนรอบตลาดแม่นาเรืออีกครั้ง จากนั้นไปพบชาวบ้านในพื้นที่บ้านแม่ต๋ำบุญโยง, ตลาดแม่กาเยื้องวัดแม่กาห้วยเคียน แล้วไปต่อที่วัดบ้านดาวเรือง (จำป่าหวาย) ตลาดเครือวัลย์ (จำป่าหวาย) และตลาดท่าวังทอง และตลาดสุวรรณเภรี เป็นต้น โดยมีพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนทั่วไปที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า ให้การต้อนรับและมอบดอกไม้ ตลอดจนพวงมาลัยดอกดาวเรือง พวงมาลัยดอกมะลิ เพื่อเป็นกำลังใจให้ ร.อ.ธรรมนัสเป็นจำนวนมาก โดยหลายคนได้เข้ามาสวมกอด และขอถ่ายภาพเซลฟี่อีกด้วย ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัสก็ได้ร่วมถ่ายภาพอย่างเป็นกันเอง

โดย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวกับประชาชนที่มาคอยให้กำลังใจช่วงหนึ่งว่า รู้สึกดีใจที่วันนี้ได้มาพบกับพ่อแม่พี่น้องทุกคน ถึงแม้อากาศจะร้อนแต่ก็ยังเห็นทุกคนมาคอยให้กำลังใจไม่ยอมถอย จึงรู้สึกซาบซึ้งใจและขอบคุณทุกท่านอย่างยิ่ง วันนี้จึงมาขอฝากเรื่องราวดีๆ ที่เป็นนโยบายของพรรคพลังประชารัฐเพื่อประโยชน์ของพ่อแม่พี่น้องประชาชน ทั้งเรื่องการสานต่อบัตรประชารัฐ 700 บาท เรื่องการดูแลผู้สูงอายุหรือเบี้ยยังชีพเดือนละ 3,000 บาท 4,000 บาท และ 5,000 บาท ตามช่วงอายุ 60-80 ปี นอกจากนี้เราจะดูแลทุกช่วงวัยทั้ง “แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ” รวมไปถึงแก้ปัญหาที่ดินทำกิน “มีเรา ไม่มีแล้ง มีน้ำ ไม่มีจน” เปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนด และ คทช.เปลี่ยนเป็น ส.ป.ก.

“ช่วง 4 ปีที่ผ่านมาที่ผมเคยหาเสียงตั้งแต่ปี 2562 และได้พูดกับพี่น้องประชาชนว่า ผมจะมาทำงานรับใช้พ่อแม่พี่น้องอย่างเต็มที่หากได้เลือกผมมาเป็น ส.ส.ของพวกท่าน และผลงานของผมที่ผ่านมาก็ได้เห็นชัดเจนว่า ผมได้ทำงานพัฒนาสร้างบ้านแปงเมืองและช่วยแก้ปัญหาในทุกเรื่องอย่างเต็มที่และมีทิศทางดีขึ้น ยกตัวอย่างเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ถนนสายหลักทุกสายมีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน จาก 2 เลน เป็น 4 เลน ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ กรรมสิทธิ์ที่ดินทำกิน และราคาพืชผลการเกษตรต่าง ๆ มาวันนี้จึงมาขอโอกาสและความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนทุกท่านเพื่อเข้าไปทำงานสานต่อและดูแลรับใช้ทุกท่าน เพื่อพัฒนาสร้างบ้านแปงเมืองของเราต่อไป อย่าลืมวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เข้าคูหาเลือกผมเป็น ส.ส.กาเบอร์ 6 และกาเบอร์ 37 เลือกพรรคพลังประชารัฐ” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

'ชัยวุฒิ' ชู 'พล.อ.ประวิตร' ทำหน้าที่ผู้นำประเทศ ดูแล ปชช. วอนคนไทยมั่นใจ หลัง 4 ปีมานี้ เพื่อนบ้านยกไทย 'พี่ใหญ่อาเซียน'

(7 เม.ย.66) ที่อุทยานเบญจศิริ เขตคลองเตย พรรคพลังประชารัฐ จัดเวทีปราศรัยย่อยโซนกรุงเทพฯ ใต้ "พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ" นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า พปชร.พร้อมที่เข้าไปดูแลประชาชนในทุกกลุ่ม ภายใต้การนำของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ถือเป็นเสาหลัก ในการจัดตั้งรัฐบาล ที่ทำงานหนักมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความกินดีอยู่ดี ให้กับประชาชน พร้อมประสานทุกหน่วยทั้ง 10 ทิศ แก้ปัญหาให้กับทุกคน ประสานงานกับทุกคน ทำให้วันนี้รัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี แล้วเราจะทำต่อไป เด็กเยาวชนทุกวันนี้สามารถจับเงิน 1,000,000 ได้ ก็เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ที่ส่งเสริมให้เกิดการขายของออนไลน์ในระบบดิจิทัล

 

ประเทศไทยเป็นเมืองที่มีความสุขอันดับ 6 ของโลก มีแต่ชาวต่างชาติชื่นชมในการมาอยู่เมืองไทย แต่มีพรรคการเมืองไปสร้างเรื่องว่า ประเทศไทยมีปัญหา อยากไปอยู่เมืองนอก ประเทศในแถบยุโรป วันนี้ฝรั่งเศสประท้วงกันเป็นแสนเป็นล้านคน ประเทศเยอรมันที่เจริญที่สุดในยุโรปตอนนี้ก็ประท้วงกัน การขนส่งมวลชนหยุดหมด เดือดร้อนกันทั้งประเทศ ประเทศไทยเราสงบสุขดีที่สุดแล้ว เพียงแค่อย่าทะเลาะ อยากให้ทุกคน มาช่วยกันดูแลประเทศไทยให้สงบสุข

‘ชัยวุฒิ’ ปราศรัยปทุมเดือด ชี้!! ‘อุ๊งอิ๊ง’ ตัวหลอก ฟันธง!! เลือก ‘พท.’ ได้เศรษฐาเป็นนายกฯ แน่นอน

‘ชัยวุฒิ’ ปราศรัยปทุมเดือด ให้ 2 ทางเลือก ‘เศรษฐา’ อยากเป็นนายกฯถ้าไม่ทำตามคำสั่งนายใหญ่ต้องไปเป็นน้องเขย โชว์ข้อมูล ‘อุ๊งอิ๊ง’ ยังถือหุ้นบริษัท เลือก ‘เพื่อไทย’ ได้เศรษฐาเป็นนายกฯแน่นอน

(9 เม.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาทิ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. , นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์พรรคภาคเหนือ ลงพื้นที่ช่วย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดปทุมธานี ของพรรค ทั้ง 7 เขต ปราศรัย ที่บริเวณลานสามแยกสวนเกษตร คลอง 3

นายวิรัช กล่าวปราศรัยว่า ตนเป็น ส.ส.นครราชสีมา 10 สมัย ซึ่งเก้าอี้ ส.ส.โคราชในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนจะเอา 12 ที่นั่ง จาก 16 ส่วนบัตรประชารัฐถ้าได้รับการเลือกตั้ง มิ.ย.นี้ บัตรประชารัฐจะได้ 700 บาทแน่นอนต่อไปอีก 4 ปี ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาปทุมฯ ไม่มีผู้แทนจากพลังประชารัฐเลย แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ก็เดินทางมาตรวจสถานการณ์ป้องกันน้ำท่วมอยู่ตลอด พร้อมยืนยันว่าถ้ามีพล.อ.ประวิตร จังหวัดปทุมธานีจะไม่แล้งและน้ำก็จะไม่ท่วมแน่

ขณะที่ นายชัยวุฒิ กล่าวปราศรัยว่า เห็นบรรยากาศแล้วเชื่อว่าเราจะสามารถปักธงในพื้นที่ปทุมได้แน่นอน พร้อมยืนยันว่า ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเป็นคนดีมีคุณภาพที่สุด และย้ำว่าวันนี้ประเทศชาติมันคงภายใต้การนำของรัฐบาลที่มีพรรคพลังประชารัฐ เป็นแกนนำมา 4 ปี โดยมี พล.อ.ประวิตร เป็นเสาหลัก และขอให้ชาวปทุมเลือก พปชร.ทั้ง 7 เขต ทั้งนี้ เราไม่ได้มองพื้นที่ เราต้องทำให้การเมืองนิ่ง รัฐบาลมีเสถียรภาพ ประเทศชาติเข้มแข็ง ซึ่งวางนโยบายส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ เราเสนอนโยบายเอาใจพี่น้องประชาชน ถูกใจคนไม่ถูกต้องเราก็ไม่ทำ พร้อมยอมรับว่า เสียใจกับมันนโยบายของบางพรรค เช่น ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ซึ่งตนเสียใจและรับไม่ได้ ซึ่งการเมืองมาถึงตรงนี้ได้อย่างไร และมีบางพรรคไม่คำนึงถึงความมั่นคงของประเทศชาติ ตอนนี้เรามีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน รู้หรือไม่ เราใช้ทหารกี่หมื่นกี่แสนคน แล้ววันนี้ประเทศเพื่อนบ้านเขารบกันดูข่าวบ้างหรือไม่ ขณะที่ในยุโรปก็มีสงคราม

ทั้งนี้ เราเป็นประเทศพี่ใหญ่ในอาเซียน ซึ่งอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง เราจึงต้องมีกองทัพที่เข้มแข็งและต้องมีทหาร เพื่อเข้าไปทำงานให้ประเทศชาติและประชาชน พร้อมยกตัวอย่างว่า สถานการณ์น้ำท่วมปี 54 ตอนสมัยนั้นแก้ปัญหาได้หรือไม่ นายกฯ บอกว่าเอาอยู่ ๆ แต่คนที่มาช่วยคือทหาร เราอย่างมาสร้างความเกลียดชังทหาร อย่ามาพูดให้คนเกียจกัน อย่ามาสร้างค่านิยมตามใจวัยรุ่น คุณไม่ต้องรักชาติก็ได้ แล้วใครจะมาปกป้องประเทศแทนทหาร ซึ่งเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ประเทศชาติจะอยู่อย่างงั้นได้อย่างไรฉะนั้นมันต้องมีทหาร และ พปชร. ยืนหยัดเราต้องให้ประเทศชาติมั่นคงแข็งแรง

นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรคประชารัฐ ซึ่งลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อเบอร์ 1 และเป็นแคนดิเดตนายกฯ ด้วยตัวเองชัดเจน แต่พรรคเพื่อไทย แคนดิเดตนายกฯ ไม่ลงสมัคร ส.ส.แล้วไม่เข้าสภา ผมก็ตกใจว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งเป็นพรรคเดียว แต่แคนดิเดคนายกฯ คือหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย คือ อุ๊งอิง แพทองธาร ชินวัตร แต่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เป็นแคนดิเดตฯ พร้อมยืนยันว่า ผมไม่ได้ขัดแย้ง แค่เปรียบเทียบให้ฟัง เพราะเขาอาจจะให้ความสำคัญกับครอบครัวมากกว่าพรรคการเมือง

‘ธรรมนัส’ นำทัพ ‘พปชร.’ เปิดเวทีปราศรัยนครปฐม ลั่น!! ก้าวข้ามขัดแย้ง มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มเปราะบาง

‘ธรรมนัส-วิรัช’ นำผู้สมัคร ส.ส.นครปฐม เปิดเวทีปราศรัย ลั่น พร้อมก้าวข้ามความขัดแย้ง มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มเปราะบาง

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 10 เมษายน ที่ลานสนามหน้า อ.ดอนตูม จ.นครปฐม พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้จัดเวทีปราศรัย นำโดย นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ ร่วมขึ้นปราศรัยนโยบายพรรค พร้อมผู้สมัคร ส.ส.นครปฐมประกอบด้วย เขต 1 นายมารุต บุญมี เบอร์ 8,เขต 2. นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ เบอร์ 9,เขต 3. นายศิรวริศ สวนแก้ว เบอร์ 6,เขต 4. นายณัฐวัฒน์ ชั้นอินทร์งาม เบอร์ 8,เขต 5. นายจักรพงษ์ ทิมมณี เบอร์5 และเขต 6. นายมนตรี บุญประคอง เบอร์ 5

โดยนายวิรัช กล่าวปราศรัยบนเวทีว่า พรรคพลังประชารัฐอยากได้ ส.ส.ของจังหวัดนครปฐมที่เราจะไปอยู่เป็นรัฐบาลด้วยกัน เมื่อการเลือกตั้งปี 62 ที่ผ่านมา ผู้แทนของชาวนครปฐมมีแต่ฝ่ายค้านมากกว่ารัฐบาล วันนี้ตนไม่โกรธเลยที่หลายคนย้ายไปอยู่พรรคการเมืองต่าง ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเป็นฝ่ายรัฐบาล เพราะฉะนั้นครั้งนี้ ขอให้ทุกคนเลือกพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37 ถ้าถามว่าทำไมต้องเลือก ก็เพราะว่านโยบายของเราในครั้งนี้ดีขึ้นกว่าเดิม อย่างเช่น บัตรประชารัฐครั้งที่แล้วให้ประชาชน 300 บาท แต่ครั้งนี้จะเพิ่มเป็น 700 บาท ซึ่งโครงการบัตรประชารัฐ ถูกตั้งคำถามอย่างมาก เมื่อตอนเปิดตัวออกมาว่าจะใช้ได้นานหรือไม่ แต่วันนี้พิสูจน์แล้วว่า เราสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมาได้ถึง 4 ปี

“ถ้าพี่น้องติดใจ ถูกใจบัตรประชารัฐ หลายคนบอกว่าขาดบัตรนี่ไม่ได้แล้ว ช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาได้อยู่ได้กินก็ขอบัตรนี้ โดยวันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกว่า 300 บาทไม่พอ ขอเพิ่มให้เป็น 700 บาท ในพื้นที่จังหวัดนครปฐมมีผู้ได้รับสิทธิบัตรประชารัฐ 300,000 คน ถ้าพี่น้องช่วยกันเลือกภายใน 6 เขต พรรคพลังประชารัฐจะได้ ส.ส.ยกจังหวัด และจะเข้ามาสานต่อโครงการเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี” นายวิรัช กล่าว

นายวิรัช กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น พรรคพลังประชารัฐยังมีนโยบายดูแลผู้สูงอายุ โดยการเพิ่มเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันได ตั้งแต่อายุ 60 ปี เพิ่มเป็นจำนวน 3,000 บาทต่อเดือน อายุ 70 ปี ขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 4,000 บาทต่อเดือน และอายุ 80 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 5,000 บาทต่อเดือน หรือเรียกว่า‘เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 3 4 5 และ 6 7 8’ ซึ่งเราเห็นความสำคัญ และมีความจำเป็นที่จะต้องผลักดันนโยบายเพิ่มเติมเพื่อดูแลสวัสดิการผู้สูงอายุ ที่เป็นบุคคลที่มีคุณค่า และเป็นผู้ที่ทำประโยชน์ต่อบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวปราศรัยบนเวทีว่า ได้มาเยี่ยมเยียนพี่น้องชาวนครปฐมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายก สมาชิกต่าง ๆ เรามีความผูกพันมานาน ดังนั้น วันนี้ผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐติดภารกิจสำคัญ ติดประชุมยุทธศาสตร์ของพรรค ทำให้เหลือตนกับท่านวิรัชที่สามารถมาพบปะกับพี่น้อง จังหวัดนครปฐมเป็น 1 ใน 5 จังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อกับกรุงเทพมหานคร ซึ่งนครปฐมถือว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ แต่ทำไมถึงยังน้อยหน้ากว่าอีก 4 จังหวัดรอบข้าง ดังนั้น พรรคพลังประชารัฐจะพัฒนาจังหวัดนครปฐมให้มีความเจริญเทียบเท่า และไม่น้อยหน้าจังหวัดอื่น

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐ ยึดหลักสำคัญก็คือ เราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง เพราะคนไทยเราพูดภาษาเดียวกัน มีศิลปะและวัฒนธรรมเหมือนกัน เรามีเสาหลักของบ้านของเมืองที่อยู่คู่กับประเทศไทยมานาน นั่นคือ สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เราจะเชิญชวนลูกลานของเรามาเดินด้วยกัน สิ่งไหนที่มันไม่ถูกต้อง ไม่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนเราจะนำไปพูดกันในสภาผู้แทนราษฎร กฎหมายที่ล้าหลัง ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เราก็จะไปแก้ไขให้ดีขึ้น

“พรรคพลังประชารัฐประกาศนโยบายชัดเจนว่าเราจะเยียวยากลุ่มเปราะบางให้มีความเข้มแข็ง ก่อนที่เราจะมอบเบ็ดให้เขาไปทำมาหากิน ถ้าคนยังป่วยอยู่ นอนอยู่บนเตียง ถึงเราจะมอบเบ็ดให้เขา เขาจะมีปัญญาไปตกปลาหรือไม่ เพราะฉะนั้น ก่อนอื่นเราต้องรักษาให้เขาแข็งแรง เราจึงกำหนดนโยบายเหล่านี้ขึ้น เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐดูแลผู้มีรายได้น้อย ซึ่งในบัตรยังมีการบรรจุเรื่องการประกันชีวิต ทันทีที่ท่านหมดลมหายใจ รัฐจะมีเงินประกันให้ 200,000 บาท เพื่อไม่ให้เป็นภาระลูกหลานในการจัดงานขาวดำ ซึ่งสามารถไปเบิกออกมาใช้ได้ทันที รวมไปถึงนโยบายดูแลผู้สูงอายุ ที่เป็นเรื่องอนาคตของพวกเราทุกคน เราต้องใส่ใจในฐานะที่เราเป็นเจ้าของประเทศ”ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

‘วิโรจน์’ ชี้!! ‘พปชร.-รทสช.’ กลับลำ พร้อมดีลทุกพรรค สะท้อนการเมืองแบบเก่า ลั่น!! ‘ก้าวไกล’ ไม่เอาระบบแบบนี้

‘วิโรจน์’ ชี้ ‘พปชร.-รทสช.’ กลับลำแทงกั๊ก พร้อมดีลทุกพรรค สะท้อนการเมืองเก่า-ไร้จุดยืน

เมื่อวันที่ 12 เมษายน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประกาศไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรค ก.ก. แต่ภายหลังนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค พปชร. กลับบอกว่าพร้อมดีลทุกพรรค ว่า ตอนนี้ประชาชนต้องแยกให้ออกว่า นี่คือความเห็นส่วนบุคคล หรือเป็นความเห็นของพรรค เท่าที่ตามข่าวพบว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา และประธานภาคเหนือ พรรค พปชร. ก็บอกว่าเป็นความเห็นของนายไพบูลย์ คนเดียว เช่นเดียวกับนายสันติ ตอนนี้น่าจะมีแต่พรรค ก.ก. พรรคเดียวที่ยืนยันเป็นมติพรรคว่า จะไม่ร่วมกับรัฐบาลทหารจำแลง คำพูดของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. หรือคำพูดของผู้สมัคร ส.ส.เขต และผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อคนใด ก็พูดตรงกัน เพราะเป็นมติของพรรคก.ก. ที่จะไม่ร่วมงานกับพรรค พปชร. และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า การประกาศว่าเราไม่ร่วมกับพรรคทหารจำแลง ไม่ใช่แค่การประกาศเชิงสัญลักษณ์หรือเอาเท่ห์อย่างเดียว แต่มีเหตุผลคือพรรค ก.ก. มีนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 รวมทั้งการปฏิรูปองค์กรอิสระที่เป็นนั่งร้านให้กับเครือข่ายรัฐประหาร และการจัดการยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่เป็นพิมพ์เขียวของการแบ่งปันผลประโยชน์ของเครือข่ายอุปถัมภ์ของผู้ก่อรัฐประหาร ดังนั้นถ้าเรามีจุดยืนที่จะแก้ไขบ้านเมืองแบบนี้ แต่กลับไปเอาพรรคที่เป็นสารตั้งต้นของปัญหาเหล่านี้มาร่วมรัฐบาลด้วย เราจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร

‘บิ๊กป้อม’ อวยพรคนไทย ให้สำเร็จทุกความปรารถนา พร้อมชูความสำคัญ ‘วันผู้สูงอายุ–วันครอบครัว’ ผ่านนโยบาย ‘พปชร.’

‘บิ๊กป้อม’ อวยพรสงกรานต์ ให้ปชช. มีความสุข-พ้นทุกข์ รับปีใหม่ไทย เดินทางปลอดภัย  ชู นโยบายพปชร.เอาใจผู้สูงอายุ – วันครอบครัว” 

(13 เม.ย.66) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวอวยพรเนื่องในวันสงกรานต์ 2566 ว่า ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ไทย เทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 ขอส่งความปรารถนาดีไปยังพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน ให้มีความสุข พ้นทุกข์ รับปีใหม่ไทย ขอให้ร่วมกันทำสิ่งดีๆ เพื่อเป็นมงคลต่อชีวิต และเป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ดูแลรักษาสุขภาพ และเดินทางกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ดลบันดาลให้ประชาชนชาวไทยประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ มีกำลังใจและกำลังสติปัญญาที่เข้มแข็ง มีความเจริญรุ่งเรืองทั้งในชีวิต หน้าที่การงานและในครอบครัว ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ตลอดจนประสบความสำเร็จตามความปรารถนาทุกประการตลอดไป  

ม.112 ไม่แก้ ไม่แตะ ถ้าใครนโยบายไม่ตรงกันในเรื่องนี้ ก็ไม่ควรมาร่วมกัน

เมื่อวานนี้ (12. เม.ย.66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และแคนดิเดตนายกฯ ได้เปิดใจคุย ‘กรรมกรข่าวเปิดอกคุย’ ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง

โดยนายสรยุทธ ได้ถามพล.อ.ประวิตร ถึงแนวทางของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า “พรรคพลังประชารัฐ จะไม่ร่วมกันพรรคเพื่อไทย และก้าวไกล ซึ่งพรรคก้าวไกลนั้นชัดเจนอยู่แล้วว่าพรรคพลังประชารัฐนั้นไม่อยากร่วม ซึ่งประกาศอย่างเป็นทางการโดยบอกว่าถามพรรคแล้วให้แถลงอย่างนี้”

ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้ตอบกลับถึงประเด็นที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ได้ประกาศว่าขอไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทย และก้าวไกล ว่า “ไม่ได้ถามหัวหน้าพรรคแต่พูดกับผู้ใหญ่ในพรรค” โดยนายสรยุทธได้ย้ำ “เขาขอแล้ว”

พล.อ.ประวิตร ได้เสริมว่า “เขาได้ถามตนแล้วว่าถ้านโยบายไม่ตรงกันก็ไม่ร่วมกัน ซึ่งตนก็ได้เห็นด้วย ถ้านโยบายไม่ตรงกัน หรือมีการตกลงกันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มันก็จะทำให้เกิดความขัดแย้ง” พร้อมยังย้ำ “ถ้านโยบายไม่ตรงขอไม่ร่วม”

ฟิล์ม' แจง 'บัตรลุงป้อม700' ช่วยตรงเป้าไม่หว่านมั่ว ชี้!! มีที่มาของเงินชัดเจน แตะงบไม่ถึง 2 แสนล้านต่อปี

(13 เม.ย.66) จากการที่นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวพาดพิงถึงนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาท หรือบัตรลุงป้อม ของพรรคพลังประชารัฐ ที่นายเศรษฐา กล่าวว่าใช้เงินงบประมาณมากถึง 8 แสนล้านบาทนั้น นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์มผู้สมัคร ส.ส. เบอร์ 1 เขต 22 สวนหลวง ประเวศ ของพรรคพลังประชารัฐก็ได้ออกมาตอบโต้โดยระบุว่า ไม่น่าเชื่อว่าคนระดับนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยนั้นจะออกมาให้ข้อมูลที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้อย่างสิ้นเชิง 

โดยประการแรกบัตรประชารัฐนั้น จะเป็นสวัสดิการที่ดูแลคนไทยผู้เข้าหลักเกณฑ์ประมาณจำนวน 14 ล้านคน ไม่ใช่ 20 ล้านคน โดยตัวเลข 20 ล้านคนนั้นคือตัวเลขของผู้ที่ลงทะเบียนทั้งหมด แต่หลังจากที่หน่วยงานราชการได้ทำการคัดกรองแล้วพบว่ามีผู้ที่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นเพียงประมาณ 14 ล้านคนเท่านั้น จากการวางหลักเกณฑ์ที่รัดกุม ยกตัวอย่างเช่นจะไม่ได้ดูเฉพาะตัวผู้ที่มาลงทะเบียนเท่านั้น แต่จะต้องดูรายได้รวมของคนในครอบครัวด้วย และผู้ที่จะมีสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือนั้นก็จะต้อง เป็นผู้ที่อยู่ใต้เส้นความยากจน หรือก็คือจะต้องมีรายได้ต่ำกว่า 1 แสนบาทต่อปี แตกต่างกับทางพรรคเพื่อไทยที่แจกทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ไม่วาจะมีรายได้น้อยหรือคนรวยก็ได้หมด 

ซึ่งทางพรรคพลังประชารัฐก็ได้คำนวณมาแล้ว การดูแลในส่วนนี้ จะใช้งบประมาณอยู่ที่ 9,800 ล้านบาทต่อเดือน หรือไม่ถึง 2 แสนล้านบาทต่อปี และเป็นการใช้เงินแบบทยอยใช้ มิใช่จ่ายหมดในครั้งเดียวจึงไม่มีปัญหาในเรื่องของการตั้งงบประมาณ โดยงบประมาที่ใช้นั้นก็จะนำมาจาก กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม

'ชัยวุฒิ' ร่วม 'สงกรานต์-สวัสดีปีใหม่ไทย' ชาวสิงห์บุรี ปลื้ม!! ประชาชน 'ร่วมเล่นน้ำ-ส่งคำอวยพร' หนาแน่น

(13 เม.ย.66) ที่จังหวัดสิงห์บุรี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมเล่นได้สงกรานต์ที่สิงห์บุรี โดยกล่าวด้วยว่า...

วันนี้ได้มาร่วมเล่นสงกรานต์ที่จังหวัดสิงห์บุรี บรรยากาศอบอุ่นมากครับ ผมดีใจที่ได้พบพี่ป้าน้าอาชาวสิงห์บุรี พร้อมทั้งคำอวยพร รอยยิ้มและกำลังใจจากทุกคน...สวัสดีปีใหม่ครับ
 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top