Thursday, 2 May 2024
พรรคพลังประชารัฐ

เส้นทางการเมือง ดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง | TIME TO LISTENING EP.12

จากลูกชายกำนัน สู่นักการเมืองระดับชาติ ‘ดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง’ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี พรรคพลังประชารัฐ มาเล่าประวัติเส้นทางการเมืองของตนที่มาพร้อมความตั้งใจ เข้าใจปัญหา ดูแลทุกข์สุขให้กับชาวลำลูกกา ปทุมธานี กับน้ำตาของลูกผู้ชายที่กลั่นออกมาจากความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างแท้จริง เพื่อขอโอกาสให้กับ ‘คนทำงาน’ อย่างตนเองเข้าสภา ติดตามรายละเอียดได้ในคลิปนี้…

ดำเนินรายการโดย ไอยรา อัลราวีย์
Content Manager

แขกรับเชิญ คุณดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง 
ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี พรรคพลังประชารัฐ

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES PODCAST
และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ :https://youtube.com/playlist?list=PL60bae1syuyLBnnkZJ5-QgtyID5DqrnG4

🎥 ช่องทางรับชม
Facebook: THE STATES TIMES PODCAST
YouTube: THE STATES TIMES PODCAST
TikTok: THE STATES TIME PODCAST

'พปชร.' เตรียมลุยปราศรัย ‘พิจิตร-กำแพงเพชร’ 25-26 มี.ค. พร้อมวางแผนเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครฯ ครบ 400 เขต 30 มี.ค.นี้

(21 มี.ค. 66) นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการประชุมสัมมนา เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 400 เขต ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครขณะนี้กำลังพิจารณาสถานที่อยู่ 
.
นายวิรัช กล่าวว่า ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค จะพิจารณาในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค แต่สิ่งที่ยืนยันได้ ผู้ที่สมัครอันดับ 1 ในบัญชีรายชื่อ ก็จะเป็นแคนดิเดตนายกฯอยู่แล้ว ในส่วนของการจัดทำไพรมารีโหวต คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 25 มี.ค. ขณะที่ตารางการเดินสายปราศรัยหาเสียงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรค ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 -26 มี.ค.ที่จังหวัดพิจิตร และกำแพงเพชร  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการวางตัวผู้สมัครส.ส.ของพรรค โดยในส่วนของ จ.นครราชสีมา วางตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้ง 16 เขต ประกอบด้วย นายเกษม ศุภรานนท์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา เขต 1, นายประพิศ นวมโคกสูง เขต 2, นายวีรวัฒน์ มิตรสูงเนิน เขต 3, นายสุธรรม พรสันเทียะ เขต 4, นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส.นครราชสีมา เขต 5, นางอรทัย พลวิเศษ เขต 6, นางทัศนียา รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส.นครราชสีมา เขต 7, นางอรัชมน รัตนเศรษฐ เขต 8, นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ อดีต ส.ส.นครราชสีมา เขต 9,  นายณัฐพล ชวนกระโทก เขต 10, พ.ต.อ.ปริวัฒน์ นาคำ เขต 11, น.ส.กาญจนา เปรมพิรักษา เขต 12, นายสุกฤษณ์ วัชรมาลีกุล เขต 13, นายวิรัตน์ วาริชอลังการ เขต 14, นายพจน์ เจริญสันเทียะ เขต 15 และนายตติรัฐ รัตนเศรษฐ เขต 16 ขณะที่นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม และอดีต ส.ส.นครราชสีมา จะขยับไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ นอกจากนี้ ยังพบว่า นางอรทัย พลวิเศษ ที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 6 เป็นมารดาของนายนวพล พลวิเศษ ที่ไปลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.นครราชสีมา กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ทั้งนี้ นายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า พปชร.ตั้งความหวังในพื้นที่ จ.นครราชสีมาไว้ทุกเขต โดย พปชร.จะมีการปราศรัยใหญ่ที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 22 เม.ย. 

‘วิรัช’ ยันวงกินข้าว ยก!! ‘บิ๊กป้อม’ ต้องเป็นนายกฯเท่านั้น เผย ทักษิน ยังบอกยอม ไม่แคร์ 'เสี่ยหนู' สอนมารยาท

(25 มี.ค.66) เมื่อเวลา 15.10 น. ที่ จ.พิจิตร นายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินตัวเลข ส.ส. หลังเลือกตั้งว่า พรรคพลังประชารัฐจะได้ ส.ส.เขต 120 เสียง ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ต้องพูดถึง ซึ่งการเลือกตั้งปี 62 พรรคพลังประชารัฐ เคยถูกปรามาสว่าจะได้ 10-11 % แต่พอคะแนนโหวตเตอร์ออกมา 8.4 ล้านเสียง เขาเรียกว่าหักปากกาเซียน พรรคอันดับ 2 ได้ 8.2 ล้านเสียง โหวตเตอร์โคราชได้อันดับ 1 ทุกเขต คราวนี้ก็ขึ้นช้าๆ แต่ว่ามั่นคง ไปที่ไหนไม่เห็นหรือว่า มีแต่ป้อม 700 เต็มไปหมด ฉะนั้นวันนี้เรามายืนยันว่าต้องมาขอบคุณพี่น้องชาวพิจิตรที่เทคะแนนให้ทั้ง 3 เขต กว่า 1 แสนเสียง มาเป็นอันดับ 1 ส่วนอดีต ส.ส.ใครจะไปไหนไม่รู้ แต่วันนี้ พปชร.จะเอาคืนทั้ง 3 เขต

ผู้สื่อข่าวถามถึงคู่แข่งเจ้าถิ่นเดิมอย่างตระกูลภัทรประสิทธิ์ ที่ย้ายไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย นายวิรัชกล่าวว่า บางทีคลื่นลูกเก่าก็ค่อยๆ หายไป คลื่นลูกใหม่ก็เข้ามา ถามตนก็ต้องพูดแบบนนี้

‘ธรรมนัส’ โว!! มั่นใจ พปชร. กวาดยก จ.พิจิตร ปมจับมือพรรคอื่นหลังเลือกตั้ง ชี้เป็นเรื่องอีกไกล ขอมุ่งหาเสียง

(25 มี.ค.66) ที่วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร อ.เมือง จ.พิจิตร ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานภาคเหนือ ให้สัมภาษณ์ก่อนปราศรัย ช่วยผู้สมัครหาเสียงถึงความคาดหวังที่นั่งส.ส.พปชร. ในภาคเหนือ ว่าเมื่อปี 2562 จ.พิจิตร เราได้ยกจังหวัด โดยตนดูแล จ.พิจิตร โดยตรง ฉะนั้นครั้งนี้คงไม่ต่างกัน มั่นใจว่าจะได้ยกจังหวัดทั้ง 3 เขต 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะป้องกันแชมป์และการแลนด์สไลด์ของพรรคอื่นอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า แชมป์ของพรรค คือ นายพรชัย อินทร์สุข ส่วนอีก 2 คนย้ายไปอยู่พรรคอื่นไม่ต้องพูดถึง ส่วนคนใหม่ที่หามาแทนมีคุณภาพ มั่นใจว่าครั้งนี้จะได้ยกจังหวัดเช่นเดิม ส่วนการป้องกันแลนสไลด์นั้นต้องบอกว่า จ.พิจิตร เป็นการแข่งกันระหว่างพรรค พปชร. พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และเพื่อไทย (พท.) ที่ขับเคี่ยวกันอยู่ 

เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อประเทศญี่ปุ่น ว่ายินดีที่จะกลับมารับโทษที่ประเทศไทย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ได้ยินเรื่องนี้มานานพอสมควร หากนายทักษิณกลับมาแล้วเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฏหมาย เป็นเรื่องที่ดี บ้านเมืองจะได้เดินหน้าต่อไปตามนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. ที่ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง

เมื่อถามย้ำว่าก่อนหน้านี้นายทักษิณ เคยพูดว่ากลับมาอย่างเท่ แต่ตอนนี้เปลี่ยนที่จะยอมกลับมารับโทษแล้ว ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คิดว่าเป็นคำพูดที่จะพูดให้ดูดีหรือไม่ดูดีมากกว่า การ
กลับมาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เลี่ยงไม่ได้ ตนไม่เข้าใจเจตนารมณ์ของนายทักษิณ แต่โดยกฎหมายแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

เมื่อถามว่า การพูดของนายทักษิณ จะช่วยเพิ่มคะแนนเสียงเสริมแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องของกฎหมายกับการหาเสียงคนละประเด็นกัน และมองว่าคนไทยมีความรู้ทางด้านกฎหมาย แม้จะพูดให้ดูดีอย่างไร แต่คนไทยก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจนของการจับมือกับพรรคเพื่อไทย หลังการเลือกตั้ง ยังมีความเป็นไปได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ได้คุยกับหัวหน้าพรรคนานพอสมควร และมองว่ายังเร็วเกินไปที่จะคุยในเรื่องดังกล่าว ตอนนี้ขอมุ่งเรื่องการหาเสียงก่อน เพื่อให้ลูกพรรคมีชัยชนะให้มากที่สุด เรื่องการจับมือตนว่าเป็นเรื่องอีกไกล

‘บิ๊กป้อม’ ยํ้า!! ‘ตอบไปแล้ว’ หลังโดนจี้ถาม ปม ‘ทักษิณ’ ลั่นเพื่อไทยไม่โง่พอ ยกเก้าอี้นายกฯให้

(28 มี.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังจบประชุมครม. ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามพล.อ.ประวิตร วงษ์​สุวรรณ​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตอบโต้นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพปชร. ที่ออกมาพูดเรื่องมอบตำแหน่งนายกฯให้พล.อ.ประวิตร ว่า พรรคเพื่อไทย ไม่โง่จะมอบตำแหน่งนี้ให้ โดยพล.อ.ประวิตร หันมาตอบสั้นๆว่า ‘ตอบไปแล้ว’

‘ชัยวุฒิ’ ขอไม่โต้ ‘โทนี่’ ยึดสโลแกนก้าวข้ามความขัดแย้ง  ยัน พปชร. ไม่ขัดแย้งกับใคร ชี้ทำงานบางเรื่องก็ต้องตัดสินใจร่วมกัน

(28 มี.ค.66) พรรคพลังประชารัฐ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกมาตอบโต้นายวิรัช รัตนเศรษฐ ผ่านทวิตเตอร์ว่า พรรคเพื่อไทยไม่โง่พอที่จะยกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้กับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า พปชร.มีนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง และไม่ขัดแย้งกับทุกพรรค จึงไม่อยากตอบโต้เรื่องนี้ ซึ่งการทำงานในทางการเมืองมันก็ทำงานตามสถานการณ์ บางครั้งไม่ได้ฉลาดทุกครั้ง ต้องมีบางเรื่องที่ต้องตัดสินใจร่วมกัน 

เมื่อถามว่า มองว่าการปรามาสครั้งนี้ ให้รอวันที่ผลการเลือกตั้งออกเลยใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นเรื่องของประชาชน ยืนยันว่า แต่ละพรรคต่อสู้กันเต็มที่ เสนอนโยบายและลงพื้นที่เข้าหาพี่น้องประชาชน ผู้สมัครแต่ละเขต แข่งกันเต็มที่ไม่มีการจับมือกัน หรือ ตกลงกันว่า ใครจะเป็นรัฐบาลหรือเป็นนายกรัฐมนตรี ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบประชาธิปไตย 

เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่ปฏิเสธที่จะจับมือร่วมรัฐบาลกับใครใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐก้าวข้ามความขัดแย้ง ฉะนั้นไม่มีเงื่อนไขที่จะต้องขัดแย้งกัน อะไรที่เป็นประโยชน์หรือประชาชนยอมรับเราเราก็ทำงานร่วมกันได้ อะไรที่เป็นความขัดแย้งหรือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ก้าวข้ามไป 

การเปลี่ยนประเทศของพรรคก้าวไกล คือเวลาเป็นฝ่ายค้านมักจะพูดปัญหา แต่ไม่มีโซลูชัน

การเปลี่ยนประเทศของพรรคก้าวไกล คือเวลาเป็นฝ่ายค้านมักจะพูดปัญหา แต่ไม่มีโซลูชัน แต่สิ่งที่คนทำอยู่เขากำลังพยายามแก้ทำให้มันดีขึ้นตลอด ไม่ใช่อยู่ ๆ ก็เปิดประเด็นจะเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดทั่วประเทศเอย หรือพรรคนี้เขาบอกว่าเขาไม่ได้เปลี่ยนรัฐบาลนะเขาจะเปลี่ยนประเทศ คิดอะไรที่ไกลเกินไปคนไทยรับไม่ได้ 

ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ 
รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
กล่าวในรายการ เลือกตั้ง 66 'เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ' 
ตอน "ตัวตึง!"

28 มี.ค.66 เวลา 22:30 น.- 23:30 น.
•ดำเนินรายการโดย นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา 

•ผู้ร่วมรายการ
1.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พรรคเพื่อไทย
2.นายธนกร วังบุญคงชนะ พรรครวมไทยสร้างชาติ
3.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ พรรคพลังประชารัฐ
4.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล
5.นายศุภชัย ใจสมุทร พรรคภูมิใจไทย

https://fb.watch/jyN6eyr2Sx/?mibextid=v7YzmG

‘สันติ-ชัยวุฒิ’ ชูนโยบาย พปชร.เข้าถึงทุกกลุ่ม วอนเลือกทั้งคนทั้งพรรค ดัน ‘บิ๊กป้อม’ นั่งนายกฯ

สันติ-ชัยวุฒิ เยือนกรุงเก่าพบปชช.ต่อเนื่อง ย้ำนโยบาย พปชร.เข้าถึงทุกกลุ่ม วอนเลือก ‘พล.อ.ประวิตร’ เป็นนายกฯผลักดันพัฒนาเศรษฐกิจทุกระดับเข้มแข็ง

(31 มี.ค. 66) เวลา 17.30 น.นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อม ด้วยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมเวทีปราศรัย วัดลาดทราย อ.วังน้อย จ.อยุธยา โดยมีนายพิตติพรรธน์ พรรณธนะ เขต 4 นายภูมินทร์ มงคล เขต 5 นายชณทัต ปัมะภูวดล เขต 3 แนะนำตัวให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยเสนอนโยบายที่มุ่งช่วยปากท้อง พี่น้องชาวอยุธยา โดยมีประชาชน มาร่วมฟังปราศรัยกว่า 3,000 คน 

นายสันติ กล่าวว่า ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 3 เขต มีความตั้งใจที่จะเสนอตัวในการรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างจริงใจและจริงจัง และขอมั่นใจได้ว่า ทั้งสามคนเป็นพลังของพรรคพลังประชารัฐ เป็นพื้นที่ความหวัง และความตั้งใจของพรรค ที่ทุกคนจะสามารถได้รับการตอบรับจากประชาชน เลือกมาเป็นตัวแทนที่สามารถผลักดันนโยบายต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน   พร้อมกับนำความเจริญและเดินหน้าพัฒนาจังหวัด ทั้งในด้านการส่งเสริมอาชีพ สร้างความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องผ่านกลไกของพรรค และรัฐบาล 

นอกจากบัตรสวัสดิการประชารัฐ ที่จะเพิ่มเงินเป็น 700 บาทต่อเดือน มีนโยบายบุตร ธิดา ประชารัฐ เพื่อส่งเสริมด้านสุขอนามัย และลดภาระการเลี้ยงดูบุตร ให้กับสตรีผู้เป็นเพศแม่ ซึ่งถือเป็นผู้สร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ในการเพิ่มจำนวนประชากร เพราะมีส่วนสำคัญในการสร้างบุคลากรเพื่อการพัฒนาประเทศต่อไป แต่ต้องยอมรับประเทศประสบปัญหา ผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น ทำให้พรรค ออกนโยบายดูแลผู้สูงอายุ เพิ่มเงินเบี้ยสวัสดิการประชารัฐ 345 678 ที่พร้อมดูแลผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไปได้ 3,000 บาท 70 ปี 4,000 บาท และ 80 ปีขึ้นไป 5,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายที่จะสร้างแหล่งเงินให้เข้าถึงประชาชนได้มากยิ่งขึ้น ผ่านนโยบายการเงินการคลัง ซึ่งจะดำเนินการให้เป็นจริง แต่ต้องอาศัยเสียงพี่น้องประชาชน มอบความไว้วางใจให้กับ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีและว่าที่ผู้สมัคร พปชร.เป็นรัฐบาล เพื่อนำนโยบายต่าง ๆ ออกมาช่วยเหลือ รวมถึงการแก้ไขระเบียบการปล่อยกู้ของสถาบันการเงิน โดยให้นำเงินฝากที่อยู่ในระบบ 19-20 ล้านล้านบาท ต้องกำหนดให้แบ่งสัดส่วนการปล่อยกู้อย่างทั่วถึง แบ่งเป็นการจัดสรรเงินฝากในสัดส่วน 50% เพื่อนำมาปล่อยกู้ให้กับประชาชนทั้งคนชั้นกลาง ผู้มีรายได้น้อย โดยให้พี่น้องประชาชน ที่มีความต้องการวงเงินไม่เกิน ระดับ 100,000-500,000 บาท นำไปพัฒนาอาชีพ ไม่ใช่กระจุกไวปล่อยสินเชื่อเพียงระดับบนเพียงอย่างเดียว เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถลืมตาอ้าปากได้

‘ชัยวุฒิ’ เตือน ป่วนเวทีหาเสียงผิด กม.เลือกตั้ง วอนเคารพกติกา ชี้ ไม่ใช่เวลาคุยเรื่องขัดแย้ง

‘ชัยวุฒิ’ เตือน ป่วนเวทีหาเสียงผิดกฎหมายเลือกตั้ง ขอร้องเวทีใครเวทีมัน ชี้ ไม่ใช่เวลาคุยเรื่องขัดแย้ง บอก เตรียมเพิ่มการ์ดผู้หญิง 

(2 เม.ย. 66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณี ‘ตะวัน’ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ ‘แบม’ อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมอิสระ พร้อมพวกที่มาทำกิจกรรม เวทีปราศรัยย่อยพลังประชารัฐ ที่สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า มีน้อง ๆ บางกลุ่มเข้ามาแจกใบปลิว และจะเข้ามาป่วนเวทีพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งทำไม่ได้ เพราะนี่เป็นเวทีหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเราขออนุญาตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ตามกฎหมาย ที่เป็นกระบวนการตามประชาธิปไตย ซึ่งไม่ควรมาร่วมเวที และเท่าที่ตนทราบก็สุ่มเสี่ยงที่จะผิดกฎหมาย อย่าไปทำเลย ประชาธิปไตยก็ต่างคนต่างหาเสียง เวทีใครเวทีมัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเวทีอื่นอีกหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ก็น่าเป็นห่วง ถ้าสมมุติว่าฝ่ายนี้มาโจมตีเวทีพรรคนี้ เดี๋ยวฝั่งนี้ไปโจมตีเวทีพรรคอื่นบ้างก็ไม่จบ ประชาธิปไตยก็เดินหน้าไม่ได้ เราถึงบอกว่า อยากให้ทุกคนก้าวข้ามความขัดแย้ง เราหาเสียงกันตรงไปตรงมา ไม่มีใครเอาเปรียบกันหรอก ทำตามกฎหมายตรงๆ ทุกคน ก็อย่ามาป่วนกัน ทำแบบนี้ถือว่าเขาเอาเปรียบเรา เพราะเขามาป่วนเวทีเรา ถ้าฝั่งเราแค้นเคืองไปเอาคืนก็วุ่นวายไปอีก ขอว่าอย่าไปทำเลย เวทีใครเวทีมัน ถ้าเขาอยากแสดงออกในเรื่องที่เขาข้องใจ เขาก็ไปจัดเวทีของเขา ซึ่งก็จัดกันตลอดอยู่แล้ว เห็นออกสื่อตลอด มีโซเชียลมีเดียก็ไปทำของตัวเอง ไม่ต้องมายุ่งกับเราหรอก แต่เลือกตั้งเสร็จแล้วค่อยมาคุยกัน ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคุยกันเรื่องความขัดแย้งของเขามันไม่เหมาะ

'พรรคพลังประชารัฐ' พัฒนาปทุมธานีมาสมัคร ส.ส.แบ่งเขตปทุมธานีวันแรกพร้อมกองเชียร์ คึกคัก

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2566 เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานที่วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี (วกศ.ปทุมธานี) ถนนรังสิต-ปทุม อ.เมือง จ.ปทุมธานี ดร.ปรีชา ชื่นชนพิบูล ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาสมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตวันแรก พร้อมว่าที่ผู้สมัคร เขต 1-7 สังกัดพรรคพลังประชารัฐ และพรรคต่าง ๆ เดินทางมายืนใบสมัครกันอย่างคึกคักในวันแรกของการเปิดรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ทั้ง 7 เขตเลือกตั้ง จังหวัดปทุมธานี ตามที่ กกต. ประกาศรับสมัครตั้งแต่วันที่ 3-7 เม.ย. 

โดยมีกลุ่มกองเชียร์ของแต่ละพรรคเดินทางมาให้กำลังใจกับผู้สมัคร เช่น พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรครวมแผ่นดิน เป็นต้น บรรยากาศเริ่มคึกคักตั้งแต่เช้ามีผู้สมัครและผู้สนับสนุนต่างทยอยเดินทางมาก่อนเวลา ยังสถานที่รับสมัครโดยทั้งหมดต่างสวมเสื้อแสดงสัญลักษณ์ของพรรคหรือผู้สมัครที่ตนเองสนับสนุน มีการเตรียม ดอกกุหลาบ พวงมาลัยดอกดาวเรือง ป้ายข้อความให้กำลังใจโดยมุ่งหวังให้ผู้สมัครที่ตนสนับสนุนได้รับหมายเลขประจำตัวที่เป็นเลขมงคลและง่ายต่อการหาเสียง ทุกคนก็อยู่ในกฎระเบียบของกฎหมายเลือกตั้งในภาพรวมสงบเรียบร้อย โดยผู้สมัครแต่ละคนต่างก็มีความมั่นใจที่จะลง ต่อสู้แข่งขันการเมืองในครั้งนี้ อย่างสร้างสรรค์เมื่อสมัครเสร็จสิ้นก็จะขึ้นรถและเริ่มออกหาเสียงสำหรับผู้สมัครบางส่วนทั้ง 7 เขตอย่างไม่เป็นทางการ นายป้องปราการ โสธรเทวาพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า วันนี้กกต.ได้รับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตของจังหวัดปทุมธานี มีด้วยกัน 7 เขตเลือกตั้ง 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top